บทที่ 33 - การซุ่มโจมตีและการแก้แค้นของฟรีเซอร์
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 33 - การซุ่มโจมตีและการแก้แค้นของฟรีเซอร์
“ฮานาเซีย…ตายแล้วเหรอ?”
หลินเฉินชะงักไป
ฮานาเซีย ภรรยาของเขาที่สามารถแปลงร่างเป็นซูเปอร์ไซย่าได้ถูกฟรีเซอร์ฆ่าตายแล้วงั้นหรือ?
ในเวลานี้ เมื่อรู้ว่าหลินเฉินรีบมาบาร์ดัคและพารากัสต่างก็รีบตามมาด้วย
พารากัสพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น: “อย่าเพิ่งด่วนเสียใจไป ฝ่าบาท นี่เป็นเพียงการคาดเดาจากหน่วยสายตรวจอวกาศ สถานการณ์จริงยังไม่ได้รับการยืนยัน อาจเป็นไปได้ว่าเครื่องมือสื่อสารของพวกเขาทำงานผิดปกติ…..”
หลินเฉินขมวดคิ้ว ตัวเขาไม่ได้มีความหวังมากนัก
เพราะระดับพลังของฮานาเซียอยู่ที่ประมาณ 10 ล้านเท่านั้น ซึ่งยังห่างไกลจากสิ่งที่เขารู้มาถึงระดับของฟรีเซอร์
ในโลกดราก้อนบอลที่เขารู้จัก แม้ว่าฟรีเซอร์จะไม่เคยถูกพูดถึงระดับพลังของเขา แต่ในร่างสุดท้าย ร่างที่ฟรีเซอร์ใช้พลังของเขา 100% ระดับพลังของเขาอยู่ที่ประมาณ 120 ล้าน
ถ้าระดับพลังของฟรีซ่าในโลกนี้เหมือนกัน ฮานาเซียคงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา
แม้แต่หลินเฉินในตอนนี้ก็อาจไม่สามารถเอาชนะฟรีเซอร์ได้ เพราะด้วยความแข็งแกร่งอย่างเต็มที่ของหลินเฉินหลังจากเปลี่ยนร่างเป็นซูเปอร์ไซย่า เขาสามารถไปถึงระดับพลังได้เพียงประมาณ 20 ล้านเท่านั้น
20 ล้านกับ 120 ล้าน
นี่เป็นการต่อสู้ที่ต้องแพ้อย่างแน่นอน!
อย่างไรก็ตาม หลินเฉินได้ตัดสินใจแล้วว่าเขาจะไปหาฮานาเซีย
หากพวกเขายังมีชีวิตอยู่ ก็ต้องรีบพาตัวกลับมาที่ดาวเคราะห์เบจิต้าทันที
ถ้าฮานาเซียและคนอื่นๆ ตาย เขาจะต้องแก้แค้นให้พวกเขา
แม้ว่าเขาจะรู้ดีว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฟรีเซอร์ แต่เขาก็ยังจะทำมันอยู่ดี
ในงานเขียนฉบับดั้งเดิม โกคูมีระดับพลังเพียงไม่กี่ล้านและเขากล้าที่จะต่อสู้กับฟรีเซอร์ ทรราชผู้ยิ่งใหญ่ ส่วนทางหลินเฉินผู้มีสายเลือดของซูเปอร์ไซย่าในตำนานจะแพ้ได้ยังไงกันล่ะ?
การต่อสู้จนตัวตายเป็นรูปแบบของสายเลือดซูเปอร์ไซย่าในตำนาน!
“ฮานาเซียและคนอื่นๆ ไปดาวดวงไหนกัน? บอกพิกัดมา”
"ฝ่าบาท!"
บาร์ดัคคว้าตัวหลินเฉินไว้: “ฝ่าบาทโปรดคิดให้รอบคอบ! ท่านเป็นราชาแห่งชาวไซย่า ท่านต้องไม่ทำตัวหุนหันพลันแล่น!”
“บาร์ด็อกถอยไป!” หลินเฉินตะโกนออกมาเสียงดัง
แต่ไม่เพียงแค่บาร์ด็อคจะไม่ยอมถอย แม้แต่ราชาเบจิต้าก็ยังพยายามเกลี้ยกล่อมเขา: “ฝ่าบาท ตอนนี้สถานการณ์ยังไม่ชัดเจน ท่านควรรอให้หน่วยสายตรวจอวกาศตรวจสอบก่อนตัดสินใจ”
หลินเฉินเหลือบมองไปทางพวกเขาและพูดว่า “ราชาเบจิต้า อย่าลืมว่านอกจากฟรีเซอร์แล้ว พวกเราชาวไซย่ายังมีศัตรูที่ทรงพลังกว่านี้อีก! ถ้าเราก้มหน้าแม้แต่ต่อหน้าฟรีเซอร์ เราจะต่อสู้กับมันยังไงกันในอนาคต? ส่งพิกัดมาให้ข้า!”
ราชาเบจิต้าตกตะลึง แน่นอน เขารู้ว่าศัตรูที่หลินเฉินกำลังพูดถึงย่อมเป็นเทพแห่งการทำลายล้างอย่างแน่นอน
ฟรีเซอร์จะสามารถเทียบกับบีรุสได้ยังไงกัน?
เมื่อคิดได้เช่นนั้น ในที่สุดราชาเบจิต้าก็ก้มศีรษะลงและพูดว่า “ข้าเข้าใจแล้วฝ่าบาท”
ในไม่ช้า ราชาเบจิต้าก็ส่งพิกัดของดาวเคราะห์ที่ฮานาเซียและคนอื่นๆ ไป
ภารกิจที่ฮานาเซียและคนอื่นๆ กำลังทำอยู่ในครั้งนี้คือการไปยังดาวเคราะห์ที่มีชื่อเรียกว่า ติ๋ว
อารยธรรมบนดาวดวงนี้มีความดั้งเดิมและล้าหลังกว่าโลก แต่ดาวเคราะห์แห่งนี้ผลิตโลหะพิเศษที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเป็นวัสดุสำหรับยานอวกาศ
ตามข้อมูลที่ได้รับจากหน่วยสายตรวจอวกาศก่อนหน้านี้ มีกลุ่มโจรสลัดอวกาศกลุ่มหนึ่งที่ต้องการโลหะนี้และตั้งใจจะทำลายอารยธรรมบนดาว จากนั้นก็จะเอาโลหะเหล่านั้นมาเป็นของตัวเอง
เนื่องจากสมาชิกของโจรสลัดพวกนี้มาจากเผ่าพันธุ์ที่ทรงพลัง หน่วยสายตรวจอวกาศจึงไม่สามารถจัดการกับพวกเขาได้ ดังนั้นพวกเขาจึงเรียกหาชาวไซย่าเพื่อขอกำลังเสริม
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นไม่นาน สายตรวจอวกาศก็ได้รับการแจ้งเตือน ปรากฎว่ามีการวางแผนการโจมตีเอาไว้ โจรสลัดอวกาศพวกนั้นเป็นเพียงเหยื่อล่อ ไม่ไกลจากดาวเคราะห์ติ๋ว กองกำลังฟรีเซอร์กำลังรออยู่ในที่ซ่อนแล้ว
หลังจากได้พิกัดของดาวเคราะห์ติ๋ว หลินเฉินก็ล็อคที่ตั้งของมันทันที จากนั้นก็เคลื่อนย้ายไป
ในเวลานั้น ณ ดาวเคราะห์ติ๋ว...
หรือพูดได้ว่าในพื้นที่ว่างในอวกาศ ที่แต่เดิมควรมีดาวเคราะห์ติ๋วอยู่
ดาวเคราะห์ที่ชื่อดาวเคราะห์ติ๋วได้หายไปแล้ว สิ่งที่สามารถมองเห็นได้ในที่นี่คือเศษหินขนาดใหญ่ ราวกับอุกกาบาตที่ลอยอยู่อย่างไร้จุดหมายในความมืดอันแสนว่างเปล่า
ร่างอันใหญ่ยักษ์แต่น่าเกลียดกำลังหัวเราะอย่างปิติต่อหน้าเศษหินเบื้องหน้า
"ฮ่าฮ่าฮ่า! ช่างเป็นดอกไม้ไฟที่สวยงามอะไรอย่างนี้! เจ้าพวกลิงไซย่าโง่! เจ้าได้ตายไปด้วยดอกไม้ไฟที่สวยงามเช่นนี้ พอถึงนรกก็อย่าลืมขอบคุณข้าล่ะ! ฮ่าฮ่าฮ่า!"
ฟรีเซอร์ที่เหลือร่างกายเพียงครึ่งหนึ่งและครึ่งหนึ่งเป็นเครื่องจักรกำลังหัวเราะออกมาด้วยใบหน้าอันเลวทราม
แม้ว่าการต่อสู้ในครั้งนี้แทบจะทำให้เขาหมดแรงและเกิดบาดแผลบนร่างกายจนทำให้เขาต้องเจ็บปวด แต่ในท้ายที่สุดเขาก็ยังเป็นฝ่ายที่ได้หัวเราะอยู่ดี!
แม้แต่ซูเปอร์ไซย่าที่ทรงพลังมากก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา!
“ตอนนี้พวกเจ้าลิงป่าควรเข้าใจกันได้แล้ว! ข้า ฟรีเซอร์เป็นคนที่ทรงพลังที่สุดในจักรวาล! ฮ่าฮ่าฮ่า!”
ในอวกาศที่ห่างไกลจากฟรีเซอร์ ยานแม่รูปแผ่นดิสก์ของกองกำลังฟรีเซอร์กำลังลอยอยู่
มนุษย์ต่างดาวบนยานอวกาศยังตื่นตะลึงไม่หายกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ไม่มีใครคิดเลยว่าสิ่งที่ควรจะเป็นการซุ่มโจมตีที่วางแผนไว้อย่างพิถีพิถัน เกือบจะทำให้กองกำลังฟรีเซอร์ต้องย่อยยับไปแล้ว
ยังดีที่พวกเขามีท่านผู้นำฟรีเซอร์ผู้แสนแข็งแกร่ง
“ข้าไม่คิดเลยว่าจะมีซูเปอร์ไซย่าจากตำนานในหมู่ชาวไซย่าพวกนั้นด้วย!”
“ใช่เลย ไม่น่าแปลกใจเลยที่ราชาฟรีเซอร์เกือบถูกชาวไซย่าฆ่าตายในตอนนั้น ชาวไซย่าพวกนั้นช่างน่ากลัวจริงๆ”
“โชคดีที่ชาวไซย่าหญิงนั่นไม่น่ารอดแล้ว ดีที่ซูเปอร์ไซย่าผู้นั้นประมาทเกินไป มิเช่นนั้นท่านฟรีเซอร์อาจต้องตายอีกครั้งแล้ว!”
“ช่างน่าเสียดายที่นักรบทั้งหมดบนดาวดวงนี้ถูกฝังอยู่กับชาวไซย่าพวกนั้น”
“อืม....”
"หุบปาก!"
บนยานอวกาศ เอเลี่ยนผิวสีม่วงที่มีเขาสีดำสองเขาบนหน้าผากตะโกน
เสียงของเขาทำให้คนอื่นๆ หุบปากทันที
เอเลี่ยนตัวนี้ หากไม่นับท่านฟรีเซอร์ เขาคืออันดับหนึ่งของกองกำลังฟรีเซอร์ หัวหน้ากินิวแห่งหน่วยกินิว!
หัวหน้ากินิวมองคนอื่นๆ ด้วยสีหน้าเย็นชาอย่างไม่มีความสุขนัก “เจ้าไม่รู้หรือว่าอารมณ์ของท่านฟรีเซอร์ตอนนี้เป็นอย่างไร? ถ้าเขาได้ยินสิ่งที่พวกเจ้าเพิ่งพูดมา เราทุกคนจะตายที่นี่แน่! ข้ารอดมาได้ด้วยความยากลำบาก หากใครต้องการลากข้าลงนรกไปด้วยกัน ข้าจะฆ่ามันก่อน!”
หัวหน้ากินิวกัดฟันแน่นและกำหมัด
เมื่อพวกเขาซุ่มโจมตีชาวไซย่า ทุกคนคิดว่ามันคงจะเป็นภารกิจที่ปลอดภัยอย่างสมบูรณ์
ราชาฟรีเซอร์ได้เกิดใหม่โดยใช้เทคโนโลยีชั้นสูง ซึ่งยังคงความทรงจำดั้งเดิมของเขาไว้ เขาจำได้อย่างชัดเจนว่าในเวลานั้น ชาวไซย่าเอาชนะเขาได้ด้วยการอาศัยแปลงร่างเป็นวานรยักษ์และลอบโจมตี
คราวนี้ฟรีเซอร์จึงมั่นใจในแผนการแก้แค้นของเขามาก
แต่ไม่คาดคิดเลยว่าชาวไซย่าเองก็จะมีพลังพัฒนารุดหน้าไปไกลขนาดนี้ ด้วยเวลาเพียงไม่กี่ปี!
.