บทที่ 29 - การต่อสู้ของซูเปอร์ไซย่าและการมอบความหวังให้กับชาวไซย่า
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 29 - การต่อสู้ของซูเปอร์ไซย่าและการมอบความหวังให้กับชาวไซย่า
"ว้าว! ฝ่าบาท ท่านให้อะไรข้าเนี่ย? เกิดอะไรขึ้นกับข้ากัน?”
ฮานาเซียได้สติและเมื่อนางรู้สึกถึงพลังที่พุ่งพล่านภายในร่างกายของนาง นางก็อดไม่ได้ที่จะอยากรู้อยากเห็น แต่ก็รู้สึกสับสนเล็กน้อย
วู้บบ!
หลินเฉินก้าวไปข้างหน้าและปรากฏตัวขึ้นบนท้องฟ้า
“ฮันนาห์ เจ้าเป็นซูเปอร์ไซย่าแล้ว”
“ซูเปอร์ไซย่า? นั่นมันคืออะไรเหรอ?”
จริงๆ แล้วเรื่องตำนานของซูเปอร์ไซย่า แม้แต่ชาวไซย่าเองก็จำอะไรไม่ได้มากนัก มีเพียงไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้
หลินเฉินสูดหายใจเข้าลึกๆ และจงใจใช้เสียงที่สามารถได้ยินไปทั่วทั้งเมืองหลวงเพื่ออธิบายให้ทุกคนรวมถึงฮานาเซียฟัง: “ซูเปอร์ไซย่าเป็นตัวตนระดับสูงในตำนานที่ปรากฏตัวเพียงครั้งเดียวในรอบพันปี แต่ในความเป็นจริง มันเป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงพิเศษของชาวไซย่า เช่นเดียวกับการกลายร่างเป็นมหาวานร การแปลงร่างเป็นซูเปอร์ไซย่าสามารถเพิ่มระดับพลังของเจ้าได้หลายสิบเท่า”
“ยังไงก็เถอะฮันนาห์ ตอนนี้ระดับพลังของเจ้าอยู่ที่ 11 ล้านแล้ว”
"11 ล้าน? ข้าน่ะหรือ?”
ฮานาเซียมองไปที่ตัวเองอย่างไม่เชื่อ จากนั้นนางก็มองไปที่ภูเขาที่แห้งแล้งที่อยู่ห่างไกลจากเมืองหลวง
กระสุนพลังงานที่ไม่ได้ใช้พละกำลังมากนักพุ่งเข้าหาภูเขาที่แห้งแล้ง
หลังจากนั้นไม่นาน เมฆเห็ดก็ลอยขึ้นมาในระยะไกล
คลื่นกระแทกจากการระเบิดทำให้ทุกคนในเมืองหลวงแทบจะเสียการทรงตัว
เมื่อคลื่นกระแทกหายไป ภูเขาก็ได้หายไปตาม
เสียงของสายลมพัดมาไกลจนถึงเมืองหลวง
“ใจเย็นฮันนาห์ นี่คือบ้านของเรานะ อย่าทำลายมันสิ หากเจ้าต้องการเรียนรู้เรื่องความแข็งแกร่งของเจ้า ข้าจะปะมือกับเจ้าเอง…”
“ฝ่าบาท ท่าน…”
เมื่อฮันนาห์ได้ยินคำพูดของเขา นางก็คิดอะไรบางอย่างทันทีและมองไปทางหลินเฉิน
หลังจากนั้นนางก็เห็นม่านตาของหลินเฉินเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินและผมของเขาได้พุ่งขึ้นด้านบน
ออร่าที่น่าสะพรึงกลัวกว่าฮานาเซียปะทุออกมาในทุกทิศทางราวกับพายุ โดยมีหลินเฉินเป็นจุดศูนย์กลาง
เมื่อออร่าของหลินเฉินระเบิดออกมา พวกไซย่าที่หวาดกลัวออร่าของฮานาเซียในที่สุดก็ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป
หลายคนได้ทรุดตัวลงคุกเข่า พยายามต่อต้านพลังออร่าที่น่าสะพรึงกลัวนี้
ตู้ม!
ทันใดนั้นสายฟ้าก็ส่องสว่างไปทั่วท้องฟ้า
หลังจากสายฟ้าได้หายไป ผมของหลินเฉินก็เปลี่ยนเป็นสีทอง
“ซ-ซูเปอร์ไซย่า? ฝ่าบาท ท่านก็สามารถแปลงร่างเป็นซูเปอร์ไซย่าได้ด้วยเหรอ?”
“แน่นอนสิ ไม่เช่นนั้นข้าจะควบคุมภรรยาของข้าได้เช่นไรกัน?” หลินเฉินยิ้มออกมาบางเบา
หลังจากการฝึกฝนที่ขมขื่น ระดับพลังของเขาก็ทะลุ 1 ล้านและเขายังทะลุขีดจำกัดของซูเปอร์ไซย่า 0.25 และได้รับความสามารถในการแปลงร่างเป็นซูเปอร์ไซย่าแล้ว
ทว่าเขาสามารถแปลงร่างเป็นซูเปอร์ไซย่าธรรมดาได้เท่านั้น มันไม่ใช่ซูเปอร์ไซย่าในตำนานที่มีลักษณะเฉพาะของสายเลือดซูเปอร์ไซย่าในตำนานของเขา
เช่นเดียวกับฮานาเซีย ระดับพลังของเขาในร่างนี้เพิ่มขึ้น 20 เท่า ก่อนหน้านี้ เขาคิดว่าการเพิ่มระดับพลังนี้อาจเป็นเพราะสายเลือดของเขาที่เป็นซูเปอร์ไซย่าในตำนาน ไม่ใช่ซูเปอร์ไซย่าปกติ
แต่หลังจากเห็นฮันนาห์ เขาก็ตระหนักว่าตัวคูณระดับพลังของซูเปอร์ไซย่าในโลกนี้เพิ่มขึ้นได้แค่ 20 เท่าและมีขีดจำกัดอยู่
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าเขาจะอยู่ไกลจากขีดจำกัดนี้มาก เพราะระดับพลังของเขามีจำนวนมากถึง 20 ล้าน ซึ่งเกือบจะสองเท่าของฮานาเซีย
“ฮันนาห์ ขึ้นฟ้าไปกันเถอะ หลังจากกลายร่างเป็นซูเปอร์ไซย่าแล้ว ข้ายังไม่ได้ต่อสู้กับใครเลย”
“ตกลงฝ่าบาท ข้าจะสู้กับท่านสักสามร้อยยกเอง!”
ทันทีที่พูดจบ ฮานาเซียก็บินขึ้นไปบนท้องฟ้าราวกับจรวดและหลินเฉินก็ตามมา
ทั้งสองเหมือนจรวดทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า บินไปจนถึงชั้นบรรยากาศของดาวเคราะห์เบจิต้า ก่อนที่จะหยุดลง
ไม่มีสัญญาณเริ่มต้น แต่ทั้งคู่เคลื่อนไหวพร้อมกัน
ครืน!
พวกเขาเพียงปะมือและเท้า แต่เสียงดังเหมือนเสียงฟ้าร้องก็ยังคงดังก้องอยู่บนท้องฟ้า
พลังงานสีทองสองร่างปะทะกันจนทำให้แม้แต่อากาศก็สั่นสะเทือน
ชาวไซย่าที่อยู่บนพื้นต่างตกตะลึงกับการต่อสู้อันดุเดือดบนท้องฟ้า ซึ่งมันเกินกว่าที่พวกเขาจะจินตนาการได้
นี่คือความแข็งแกร่งของซูเปอร์ไซย่าจากตำนานงั้นหรือ?
“ท่านพ่อ....”
ราชาเบจิต้าที่ยืนอยู่ด้วยความสับสนก็ได้ยินเสียงของลูกชายของเขาจากด้านข้าง
เขาหันกลับมาและเห็นว่าเบจิต้า ลูกชายของเขายืนอยู่ข้างๆ มองดูเขาด้วยความหดหู่
“เบจิต้า...”
“ท่านพ่อ เป็นไปไม่ได้หรือที่ข้าจะไปถึงระดับของฝ่าบาทในชีวิตของข้า?”
ใบหน้าอ่อนเยาว์ของเบจิต้าเต็มไปด้วยความผิดหวัง
ราชาเบจิต้าสูดหายใจเข้าลึกๆ เขาไม่รู้ว่าจะพูดอะไรในตอนนี้และทำได้เพียงจับไหล่ของลูกชายเขา
เดิมทีราชาเบจิต้ายังคงมองโลกในแง่ดีเรื่องลูกชายของเขาและรู้สึกว่าเมื่อเวลาผ่านไป แม้ว่าราชาเบจิต้าจะไม่สามารถเปรียบเทียบกับราชาลิงค์ได้ แต่ลูกชายของเขาจะเหนือกว่าตัวราชาเบจิต้าเองอย่างแน่นอน อย่างน้อยเป็นชาวไซย่าที่มีความแข็งแกร่งอันดับสองรองจากลิงค์ก็ไม่เป็นไร
แต่ตอนนี้ เขาตระหนักได้เลยว่าเขาดูจะปรารถนามากจนเกินไป
ดูเหมือนว่าลิงค์และผู้อื่นจะสามารถไปถึงระดับที่พวกเขาไม่สามารถเอื้อมถึงได้แล้ว
ปัง ปัง ปัง…”
บนท้องฟ้า สายฟ้าทั้งสองกำลังปะทะกันเป็นครั้งคราวโดยไม่หยุด หลังจากการปะทะกันแต่ละครั้ง ประกายไฟที่น่าตกใจจะได้กะพริบผ่านและในเวลาเดียวกัน มันสร้างใบมีดลมที่รุนแรงออกมา
หากใบมีดลมเหล่านี้ตกลงบนพื้น บางทีมันอาจจะฆ่าชาวไซย่าที่มีระดับพลังน้อยกว่า 100,000 ทันที!
การต่อสู้ระหว่างซูเปอร์ไซย่านั้นน่ากลัวมาก แม้ว่าหลินเฉินและฮานาเซียจะจงใจควบคุมความแข็งแกร่งของพวกเขา แต่พวกเขาก็ยังสามารถทำลายดาวทั้งดวงได้ด้วยการยกมือขึ้นเท่านั้น
พวกเขาทั้งสองต่อสู้กันเป็นเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง จนกระทั่งฮานาเซียเริ่มหอบหายใจแรง ดังนั้นหลินเฉินจึงยุติการต่อสู้
“หยุดพักตรงนี้ก่อนดีกว่า” หลินเฉินเปลี่ยนร่างเป็นปกติและบิดขี้เกียจจนเกิดเสียง “แคร่ก”
เมื่อมองไปทางใบหน้าที่ผ่อนคลายของเขา หัวใจของฮานาเซียก็ตกอยู่ในความตะลึงงัน
นางคิดว่าหลังจากแปลงร่างเป็นซูเปอร์ไซย่าแล้ว นางจะอยู่ยงคงกระพันบนดาวเคราะห์ดวงนี้
แต่ไม่เพียงแค่หลินเฉินเท่านั้นที่สามารถแปลงร่างเป็นซูเปอร์ไซย่าได้ ความแข็งแกร่งของเขาดูเหมือนจะอยู่เหนือกว่านางมาก
แม้ว่ามันจะเป็นเพียงการต่อสู้ด้วยหมัดและการเตะ แต่ฮานาเซียก็รู้สึกได้ว่าหลินเฉินอาจใช้พละกำลังเพียงไม่ถึงครึ่งของเขาด้วยซ้ำ...
สมกับเป็นฝ่าบาท! แม้ว่านางจะสามารถแปลงร่างเป็นซูเปอร์ไซย่าได้ แต่นางก็ยังไม่สามารถเทียบกับเขาได้เลย...
เมื่อคิดเช่นนี้ ฮานาเซียก็เปลี่ยนร่างกลับเป็นปกติ จากนั้นนางก็ลอยไปที่ด้านข้างของหลินเฉิน
เมื่อทั้งสองคนกลับไปที่พื้น พวกเขาเห็นกลุ่มชาวไซย่าซึ่งทั้งหมดกำลังคุกเข่าอยู่
เมื่อเห็นความหวาดกลัวบนใบหน้าของพวกเขาห ลินเฉินก็มีความคิดอีกอย่างในใจและทันใดก็พูดเสียงดังออกมา: “ทุกคน พวกเจ้าเห็นเมื่อครู่ไหม นั่นคือพลังของซูเปอร์ไซย่า!”
“แต่เจ้ารู้หรือไม่? ฮานาเซียกลายเป็นซูเปอร์ไซย่าได้เพราะข้า ข้าช่วยนางกลายร่างเป็นซูเปอร์ไซย่า!”
"อะไรนะ?"
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเฉิน ทุกคนก็ตกใจก่อนที่จะรู้สึกยินดีด้วยซ้ำ
ในเมื่อหลินเฉินสามารถช่วยฮานาเซียแปลงร่างเป็นซูเปอร์ไซย่าได้ นั่นหมายความว่าเขาสามารถช่วยคนอื่นแปลงร่างเป็นซูเปอร์ไซย่าได้ด้วยเหรอ?
เมื่อเห็นใบหน้าของพวกเขา หลินเฉินก็ยิ้มเล็กน้อยพร้อมกับให้ความหวังกับพวกเขา
“อันที่จริงอย่างที่เห็น การแปลงร่างเป็นซูเปอร์ไซย่าไม่ใช่เรื่องยาก ตราบใดที่เจ้ามีความเข้าใจเพียงพอ พวกเจ้าแต่ละคนก็จะมีโอกาสที่จะกลายเป็นตัวตนในตำนานเช่นกัน! แต่ทุกอย่างจะขึ้นอยู่กับพลังของเจ้าเอง”
“เราสามารถแปลงร่างเป็นซูเปอร์ไซย่าได้ด้วยหรือ?”
แน่นอนว่าหลังจากได้ยินคำพูดของหลินเฉินแล้ว สีหน้าของผู้คนจำนวนมากก็เปลี่ยนไป
ไม่ใช่แค่ฮานาเซียเท่านั้น แม้แต่พวกเขายังมีโอกาสงั้นหรือ?
หลินเฉินมองไปที่สีหน้าตกใจของพวกเขาและยิ้มโดยไม่พูดอะไร
ตราบใดที่พวกเขาเชื่อฟังเขาและทำงานให้เขาอย่างขยันขันแข็ง พวกเขาทุกคนก็จะสามารถแปลงร่างเป็นซูเปอร์ไซย่าได้ไม่ยากเลย
ถึงทำไม่ได้ อย่างน้อยเขาก็มีระบบในร่างกายเขาคอยช่วยอยู่