บทที่ 23 - ทางเลือกของโลก
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
[เนื่องจากความถูกต้อง ขอเปลี่ยนจากโงกุนเป็นโกคูนะคะ]
บทที่ 23 - ทางเลือกของโลก
"ผู้เป็นอมตะงั้นเหรอ?"
บูลม่าตกตะลึงอยู่พักหนึ่ง จากนั้นนางก็กระโจนใส่คาริน เพราะอยากแตะต้องเจ้าแมวขาวตัวใหญ่
แต่คารินจะปล่อยให้นางทำตามที่นางต้องการได้อย่างไร เขากำลังจะกระโดดหนีไป แต่ทันใดนั้นก็มีออร่าห่อหุ้มมันไว้ทำให้มันไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
คารินมองไปที่หลินเฉิน ที่กำลังมองเขาด้วยแขนที่ไขว้กันอยู่ในระยะไกล เหงื่อเย็นเหยียบได้หยดลงมาจากหน้าผากของเขา
“แมวอ้วน เจ้าเป็นผู้อมตะหรือ?”
บูลม่าลูบขนของคารินและบีบหน้าอ้วนๆ ของมัน
“พี่หลินเฉิน พี่โกหก มันเป็นแค่แมวไม่ใช่เหรอ?”
เมื่อเป็นเช่นนั้น หลินเฉินจึงเอาออร่าที่กักขังโครินไว้กลับคืนมา
ราวกับว่าเขาได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง คารินหายใจหอบทันทีในขณะที่ตะโกนว่า “ข้าเป็นผู้อมตะ! ไม่ใช่แมว!”
“ว้าว มันพูดได้จริงๆ ด้วย!”
“เอาล่ะ บูลม่า ข้ามีเรื่องจะคุยกับมันสักหน่อย”
หลินเฉินเดินไปหาคาริน ออร่าที่เป็นอันตรายของเขาทำให้เส้นผมบนร่างกายของคารินลุกขึ้นยืนอย่างควบคุมไม่ได้
“จ…เจ้าไม่ใช่มนุษย์ต่างดาวหรือ? ทำไมเจ้าถึงรู้เรื่องสถานที่แห่งนี้ได้?” คารินถามด้วยความประหลาดใจ
“ไม่เพียงแค่ข้าจะรู้เกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้ แต่ข้ายังรู้ด้วยว่าเจ้ามีถั่วเซียน เอาถั่วเซียนของเจ้ามาให้ข้า” หลินเฉินกล่าว
ก่อนที่เครื่องเยียวยาจะเสร็จสิ้น เขาก็คงสามารถใช้ถั่วเซียนของหอคอยคารินเป็นการผ่อนปรนไปก่อนได้
แม้ว่ามันจะสิ้นเปลืองเล็กน้อยที่จะใช้พวกมันแบบนี้ แต่เมื่อเทียบกับการถูกระบบขจัดทิ้ง การสิ้นเปลืองสักหน่อยก็ดีกว่าอยู่แล้ว
"ไม่ได้! เจ้ามาจากไหนก็ไม่รู้ แถมถั่วเซียนไม่สามารถที่จะ…”
ก่อนที่คารินจะพูดจบ หลินเฉินก็โบกมือและปลาตัวใหญ่ที่ไม่เหมือนตัวใดบนโลกก็ปรากฏตัวต่อหน้าคาริน
“นี่คือปลาของดาวเคราะห์เบจิต้า เอาถั่วเซียนมาให้ข้า ข้ามีอีกร้อยตัวที่เก็บไว้อยู่”
"เหมียว! ข้าจะให้ก็ได้!”
ทันทีที่หลินเฉินพูดจบ คารินก็เปลี่ยนสิ่งที่เขาจะพูดทันที
ไม่มีแมวตัวใดสามารถต้านทานเสน่ห์ของปลาได้ แม้แต่ผู้อมตะก็ไม่สามารถทนได้
“คาริน ในอนาคตข้าสามารถนำปลาหลายชนิดจากทั่วจักรวาลมาให้เจ้าได้!”
หลังจากกวาดเมล็ดถั่วเซียนที่เหลือออกจากคารินอย่างหมดจดจนเหลือเพียงเมล็ด หลินเฉินก็พาบูลม่าและบินไปยังที่ที่สูงขึ้นอีกครั้ง
สวรรค์อยู่ด้านบน
หลินเฉินเจาะผ่านสิ่งกีดขวางของสวรรค์ได้อย่างง่ายดายและนำบูลม่าลงที่สวรรค์อย่างนุ่มนวล
เด็กสาวตัวน้อยตื่นเต้นมาก แต่ก็ชะงักไปชั่วขณะในทันที
เพราะไม่ไกลนัก มีพระเจ้าสีเขียวและมิสเตอร์โปโป้สีดำที่กำลังรออยู่
หลินเฉินเหลือบมองพวกเขาทั้งสองคน
พระเจ้า เดิมทีมีตัวตนที่แท้จริงคือชาวดาวนาเม็ก เขายังพอมีอารมณ์แสดงออกมาทางใบหน้า แต่ใบหน้าของมิสเตอร์โปโป้ไร้ความรู้สึกไปแล้ว
“ยินดีต้อนรับแขกผู้มีเกียรติจากดาวต่างดาว” พระเจ้าเริ่มที่จะเป็นฝ่ายทักทายก่อน
“สวัสดี พระเจ้า ข้าชื่อหลินเฉิน” หลินเฉินทักทายพวกเขาทั้งสอง
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเฉิน บูลม่าก็ดูประหลาดใจมาก: “พี่หลินเฉิน พวกเขาเป็นพระเจ้าหรือ?”
“เขาเป็นพระเจ้า ส่วนข้าชื่อโปโป้ เป็นข้ารับใช้ของพระเจ้า” มิสเตอร์โปโป้กล่าว
“ใช่ เขาเป็นพระเจ้า เจ้าผิดหวังงั้นเหรอ?” หลินเฉินกล่าวถาม
“ใช่” บูลมาพยักหน้า เพราะจินตนาการเรื่องราวในตำนานในใจของนางได้แตกสลายไปในทันที
“หลินเฉิน เจ้ามาที่นี่ทำไมกัน?” พระเจ้าถามออกมาด้วยความระมัดระวัง
หลินเฉินจึงกล่าวตอบไปว่า: “ข้าอยากถามว่าเจ้าเรียก เทพเจ้ามังกร มาให้ข้าได้เลยไหม?”
“ในการเรียกเทพเจ้ามังกร เจ้าต้องหาลูกแก้วมังกรทั้งเจ็ด แม้แต่ข้าเองก็ไม่ได้ที่จะรู้ที่อยู่ของลูกแก้วมังกร” พระเจ้าพึมพำ
เมื่อได้ยินเช่นนี้ บูลม่าจึงถามด้วยความสงสัย: “พี่หลินเฉิน ลูกแก้วมังกรคืออะไรเหรอ?”
“พวกมันเป็นลูกแก้วขอพรที่สามารถทำให้คำอธิษฐานเป็นจริงได้…”
หลังจากอธิบายเล็กน้อย หลินเฉินก็กล่าวอีกว่า “ในเมื่อเจ้าเรียกเทพเจ้ามังกรไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร จุดประสงค์หลักของการมาครั้งนี้ของข้าคือพาบูลม่า เด็กคนนี้มาเที่ยวเล่นและเอาถั่วเซียนระหว่างทางเท่านั้น”
พระเจ้าตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เจ้าอยากจะให้ข้าพาเที่ยวชมที่นี่ไหม?”
“ไม่ เราออกมานานพอแล้ว คงได้เวลากลับเสียที”
"นี่? พี่หลินเฉิน แต่ข้าอยากไปดูรอบๆ นะ”
“อืม บูลม่า แต่ดร.บรีฟและคนอื่นๆ จะกังวลเรื่องเราเอาหรอกนะ”
หลินเฉินจับมือบูลม่าและกำลังจะเคลื่อนย้ายออกไป แต่ในขณะนั้นเอง พระเจ้าก็ก้าวมาข้างหน้าสองก้าวและถามว่า “หลินเฉิน! ข้าอยากรู้ว่าเจ้าไม่มีความคิดอะไรเกี่ยวกับโลกบ้างหรือ?”
"ความคิด?" หลินเฉินหันกลับมา
“ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้า มันคงจะง่ายต่อการพิชิตโลกใช่ไหม? แต่เจ้ากลับทำข้อตกลงกับมนุษย์ ข้าไม่เข้าใจเลย”
“ไม่เข้าใจสินะ…” หลินเฉินยิ้มออกมาอย่างเบาบาง ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขา มันเป็นเรื่องง่ายดายมากที่จะพิชิตโลก แต่ทำไมเขาถึงต้องทำเช่นนั้นกันล่ะ?
"ติ้ง! ตรวจพบว่าผู้ใช้กำลังสับสนเรื่องวิธีการจัดการดาวโลก สร้างทางเลือกที่แข็งแกร่งที่สุด”
“ทางเลือกที่ 1: รวมโลกให้เป็นหนึ่งเดียวและเปลี่ยนโลกให้เป็นอาณานิคมชาวไซย่า รางวัล: ปลดล็อกศักยภาพของผู้อาวุโสยิ่งใหญ่แห่งดาวเคราะห์นาเม็ก!”
“ทางเลือกที่สอง: ทำลายโลกและเปลี่ยนเป็นเศษธุลีของจักรวาล รางวัล: วิชา: เคียวพลังงาน!”
“ทางเลือกที่สาม: ไม่เปลี่ยนแปลงอะไร ปล่อยให้เนื้อเรื่องของดราก้อนบอลเกิดขึ้นอย่างราบรื่นบนดาวเคราะห์โลก รางวัล: เพิ่มระดับพลังอีก 100,000!”
หลินเฉินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมื่อเห็นตัวเลือกที่แข็งแกร่งที่สุดปรากฏขึ้นในใจของเขา
ระบบนี้มันอยากจะให้เขาสร้างปัญหาจริงๆ สินะ!
จากสามทางเลือก รางวัลที่ได้รับจากทางเลือกที่สามแทบจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย
ในทางตรงกันข้าม สองทางเลือกแรก ทางเลือกหนึ่งสามารถทำให้หลินเฉินทำภารกิจทั้งสามเสร็จสิ้นได้ในทันที ส่วนอีกทางเลือกหนึ่งสามารถให้หลินเฉินมีวิชาอันทรงพลังมาประดับได้
ไม่ว่าเขาจะมองยังไง พวกมันก็คุ้มค่ากว่าตัวเลือกที่สามมาก
แต่หลินเฉินไม่ได้ถึงทางตันขนาดนั้น เขาจึงเลือกทางเลือกที่สาม
“ระบบ ข้าเลือกสาม!”
ในฐานะผู้ข้ามผ่านมายังต่างโลก ความคุ้นเคยกับเนื้อเรื่องหลักคือข้อได้เปรียบที่สุดของหลินเฉิน หากเกิดเขาเปลี่ยนเนื้อเรื่องอย่างฉับพลัน มันคงเป็นข้อเสียเปรียบสำหรับเขา
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีตัวละครที่เขาชื่นชอบมากมายอยู่บนโลก
"ติ้ง! ยืนยันการเลือกของผู้ใช้ ทำการมอบรางวัลเรียบร้อย!”
ครู่ต่อมา ร่างกายของหลินเฉินก็แข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อย
หลินเฉินหันกลับมาและยิ้มให้กับพระเจ้า: “บางทีอาจเป็นเพราะข้าชอบโลกและผู้คนบนโลกใบนี้กระมัง!”
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเฉิน พระเจ้าก็ตกตะลึงไป ในขณะที่มิสเตอร์โปโป้ยังคงไม่แสดงออกเช่นเคย
หลังจากพบกับพระเจ้า หลินเฉินก็พาบูลม่ากลับไปที่เมืองตะวันตก
ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ดร.บรีฟและบูลม่าจะเริ่มทำการคัดลอกเครื่องเยียวยา
หลินเฉินจึงกลับไปที่ดาวเคราะห์เบจิต้าอีกครั้ง ในอีกด้านหนึ่ง มันคือการส่งมอบถั่วเซียนครั้งใหญ่เต็มสามกระปุกให้กับราชาเบจิต้าและคนอื่นๆ เพื่อการฝึกของพวกเขา และในอีกด้านหนึ่ง มันคือการส่งห้องแรงโน้มถ่วง 50 เท่าไปยังโลกเพื่อทำการวิจัยชั่วคราวของดร.บรีฟ
ทุกอย่างดำเนินไปอย่างเรียบร้อย
จนในวันหนึ่ง หลินเฉินก็มาถึงสถานที่ที่เรียกว่าภูเขาเปาซู
เขาลอยอยู่ในอากาศ จ้องมองไปที่พื้นเบื้องล่าง
ในตอนที่คิดเรื่องเก็บโลกไว้ หลินเฉินคิดถึงโกคูเป็นคนแรก
เขาต้องการมาดูว่าตัวเอกของดราก้อนบอลมีชีวิตอยู่อย่างไร
แม้ว่าดาวเคราะห์เบจิต้าจะไม่ถูกทำลาย แต่ก่อนที่หลินเฉินจะเข้าสู่นิทราไป เขาได้ให้บาร์ดัคส่งโกคูไปยังโลก
โกคูจึงมาถึงโลกในเวลาเดียวกับในเนื้อเรื่อง
เมื่อเห็นโกคูที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะกำลังฝึกมวย หลินเฉินก็คิดหวนย้อนคืนกลับไป
เหมือนกับในผลงานต้นฉบับไม่มีผิด ตอนนี้โกคูที่อยู่ตรงหน้าเขามีระดับพลังเพียง 10 เท่านั้น
แม้ว่าเขาจะอยู่ตัวคนเดียว แต่ก็ไม่มีความกังวลเรื่องของอาหารและเสื้อผ้าเลย
ทว่าเขาก็ยังคงฝึกฝนความสามารถของเขาอยู่ดี
ในเรื่องราวดราก้อนบอลทั้งหมด มีเพียงโกคูเท่านั้นที่สามารถถือได้ว่าเป็น“พวกบ้าต่อสู้”
นั่นเป็นเพราะจิตวิญญาณที่ขยันขันแข็งของเขา มันจึงทำให้โกคูน้อยสามารถเปลี่ยนจากนักรบไซย่าระดับต่ำไปเป็นหนึ่งในยอดฝีมือที่เก่งที่สุดในจักรวาลทั้งหมดได้
ส่วนเมื่อเทียบกับตัวหลินเฉินแล้ว แม้ว่าเขาจะดีกว่าโกคูในแง่ของสายเลือด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะอ่อนแอกว่ามากในแง่ของความขยันหมั่นเพียร
เห็นได้ชัดว่าจะยังมีวิกฤตการณ์อีกมากมายในอนาคต
ตัวปัญหาที่ใกล้ที่สุดเลยคือฟรีเซอร์ ซึ่งไม่ทราบที่อยู่และความเป็นความตาย ส่วนคนที่มีปัญหามากที่สุดคงเป็นเทพเจ้าแห่งการทำลายล้าง ซึ่งจะตื่นขึ้นมาในอีกไม่กี่ทศวรรษข้างหน้า
ในอนาคตจะมีความท้าทายมากมายแค่ไหนรออยู่กัน?
เพราะอย่างนั้นข้าจึงไม่สามารถชักช้าได้โดยเด็ดขาด!