ตอนที่แล้วนักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 24
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 26

นักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 25


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 25

มาร์ธา ซีกฮาร์ท เชิดคางของเธอขึ้นแล้วท้าวเอวมองราอน ดวงตาที่เย่อหยิ่งของเธอไม่เข้ากับรูปลักษณ์ที่สง่างามของเธอเลย

'มีปัญหาทุกทีสิน่า'

ราอนเตะพื้นสนามเบาๆ สองสามครั้ง ดอเรียนเตือนเขาแล้วแต่เขาไม่คิดว่าเธอจะหาเรื่องกันตั้งแต่วันแรก รอบตัวเขาไม่มีคนปกติเลยรึไง

ข้าไม่อยากเชื่อว่าจะมีใครอวดดีไปกว่าไอ้หูแหลมนั่นแล้ว มอบร่างกายเจ้ามาให้ข้าสักทีเถอะแล้วข้าจะจัดการมันเอง

'หยุดพล่ามทีเหอะน่า'

ราธเริ่มสติแตกหลังจากเขาถูกมาร์ธาเย้ยหยัน ความโกรธที่มันปล่อยออกมานั้นรุนแรงกว่าปกติมาก

"อ่า..."

"มาร์ธา ซีกฮาร์ท"

ในขณะที่ราอนกำลังครุ่นคิดว่าจะตอบกลับมาร์ธาว่าอย่างไรดี ก็มีเสียงเย็นๆเรียกชื่อเธอขึ้นมา

“เธอกำลังแสดงกิริยาไร้มารยาทอะไรอยู่”

เบอร์เรน ซีกฮาร์ทนั่นเอง เขาจ้องมองมาที่มาร์ธาอย่างเย็นชา

"หา!?"

มาร์ธาทำหน้าบูดบึ้ง ซึ่งนั่นไม่ใช่ใบหน้าที่คนที่มาจากตระกูลอันมีเกียรติควรจะทำเลย มองอย่างไรก็เป็นการแสดงออกของอันธพาลข้างถนน

"นายพูดแบบนั้นกับรุ่นพี่เหรอ?"

เธอเข้าหาเบอร์เรนด้วยรอยยิ้ม

"ถ้าเธอเอาแต่พูดจาหยาบคายระวังจะได้ตายได้ง่ายๆ เลือกใช้คำพูดอย่างระมัดระวังด้วย"

"นั่นมันเรื่องของฉัน! ส่วนเรื่องนี้...ราอน ซีกฮาร์ท ได้เป็นอันดับที่หนึ่งต่อหน้าท่านเจ้าตระกูลและผู้ฝึกสอนทุกๆคน นายไม่อยากต่อต้านมันบ้างรึไง?"

เบอร์เรนพยายามหยุดมาร์ธา ราวกับว่ามันเป็นเรื่องของเขาเช่นกัน

"ฉันรู้น่าว่านายก็ต่อต้านมันจะตายในตอนแรก"

มุมปากของมาร์ธายกขึ้น  มันเป็นรอยยิ้มเหยียดหยาม เธอรู้อยู่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นในระหว่างการทดสอบ เธอแค่แกล้งถามว่าใครเป็นอันดับหนึ่งเท่านั้น

"เพราะอย่างนั้นไง..."

เบอร์เรนพนักหน้าอย่างใจเย็น

"ฉันไม่อยากเห็นพฤติกรรมที่หน้าขายหน้าแบบในตอนนั้น ฉันถึงพยายามหยุดเธอ"

"ห้ะ!?"

"อย่าทำให้ซีกฮาร์ทเสื่อมเสียเลยมาร์ธา"

ราอนหรี่ตาสังเกตแผ่นหลังของเบอร์เรน

'คนๆนั้น...'

ดวงตาของเบอร์เรนแสดงออกชัดเจนอย่างที่เขาพูด เขาพยายามไม่ให้มีสถานการณ์เลวร้ายเกิดขึ้นเพียงเท่านั้น

ดูเหมือนที่เขาเข้ามาก้มหัวขอโทษราอนจะมาจากใจเขาจริงๆ

ฟึ่บ!

เบอร์เรนไม่ใช่คนเดียวที่พยายามหยุดมาร์ธา รูนันก้าวขึ้นมาข้างหน้าราอนด้วย เธอกำลังปกป้องเขา

"เธอก็ด้วยเหรอ?"

มาร์ธาแสยะยิ้มมองรูนันและเบอร์เรน

"ถอยไป"

รูนันพูดคำๆเดียวด้วยสายตาที่ว่างปล่า

"ถอยไปซะ มาร์ธา"

"ฉันบอกไปแล้วนี่"

ดวงตาของมาร์ธาเป็นประกาย

"ฉันไม่ฟังคำของพวกอ่อนแอหรอก"

หมัดของเธอพุ่งผ่านอากาศเข้าหาเบอร์เรนทันที

ซูม!

ก่อนที่หมัดเสริมออร่าจะมาถึงเบอร์เรน ลมสีเขียวก็เข้ามาหยุดไว้ทัน

ฟึ่บ!

เป็นฝีมือของริมเมอร์ เขาปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งและขัดขวางการกระทำของมาร์ธา

"เธอลืมฉันไปรึเปล่า คิดว่าฉันจะปล่อยเธอไปง่ายๆงั้นเหรอ น่าเสียใจนะเนี่ย"

เขาผลักกำปั้นของมาร์ธาออกด้วยรอยยิ้มที่ร่าเริง

"มาร์ธา ฉันได้ยินว่าเธอโดนคัดออกเพราะเธอควบคุมอารมณ์ไม่ค่อยได้  ดูเหมือนเธอก็ยังไม่เปลี่ยนเลยนะเนี่ย"

"นั่นก็เพราะพวกมัน...!"

"เธอก็รู้ว่าราอนยังไม่ได้เรียนรู้ออร่าเลย ใจเย็นๆก่อนสิ แน่ใจนะว่าจะสู้กับเขา?"

"งั้นหนูก็จะไม่ใช่ออร่าเหมือนกัน"

"นั่นไม่ได้เท่าเทียมกันเท่าไหร่ อืม...  เดี๋ยวอนาคตเธอก็มีโอกาสอีกน่า อดทนไปก่อนเนอะ"

"ชิ..."

มาร์ธาทำหน้ามุ่ยแล้วถอยหลัง เธอยังคงจ้องไปที่เบอร์เรนโดยไม่ละสายตา

"เบอร์เรน ซีกฮาร์ท"

"อะไรอีกล่ะ?"

"นายรู้ว่าพี่ชายของนายถูกกักขังและทุบตีเป็นเดือนๆใช่มั้ย  มาทำแบบนี้คืออยากเป็นเหมือนพี่ชายนายรึไง"

"...ฉันไม่เหมือนพี่ของฉัน"

"หึ... เดี๋ยวก็รู้"

มาร์ธาหันไปด้วยรอยยิ้มบางๆ รูนันและเบอร์เรนเห็นเช่นนั้นก็ผ่อนคลายและก้าวถอยไป

ในขณะนั้นเอง มาร์ธาหันกลับมาด้วยความคับข้องใจและพุ่งตัวออกจากจุดที่ยืนอยู่

“ฉันเกลียดคนขี้ขลาดที่ซ่อนตัวอยู่ข้างหลังคนอื่นยิ่งกว่าไอ้พวกอวดดีอีก!”

ไม่ทันกะพริบตา เธอกระโจนเข้าไปและเหวี่ยงกำปั้นของเธอใส่ราอนทันที

“เฮ้ย!”

"อ๊ะ!"

เบอร์เรนและรูนันไม่สามารถเข้าไปขวางได้ทัน ส่วนริมเมอร์ก็ยังยืนเฉยแม้เขาจะคาดถึงเหตุการณ์นี้ไว้แล้ว

'ฉันว่าแล้ว'

สีหน้าของราอนยังคงสงบนิ่ง เขารู้อยุ่แล้วว่าเธอจะโจมตีเขาทันทีที่เธอหันกลับมา

ปึก!

เขาใช้หลังมือปัดกำปั้นของมาร์ธาซึ่งเล็งไปที่อกของเขาไว้ได้ทัน

"หือ?"

"เธอพร้อมโดนเอาคืนหรือยัง?"

เขาเหวี่ยงหมัดสวนกลับ หมัดพยัคฆ์แห่งความว่างเปล่าของราอนพุ่งออกไปที่หน้าท้องของมาร์ธา เธอไม่ทันได้ระวังตัวเลย

"อั่ก!"

ความตื่นตกใจออกมาทางสีหน้าของเธอทันที เธอกัดฟันแล้วรีบรวบรวมพลังงานสีน้ำตาลไว้ที่มือซ้ายของเธอ

ปึ่ก!

หมัดและท่อนแขนที่เคลือบออร่าปะทะกัน แล้วราอนและมาร์ธาก็กระโดดออกจากกันหลังจากนั้น

"ไหนว่าเธอจะไม่ใช้ออร่าไง?"

ราอนปัดฝุ่นบนตัวของเขา

"แก...แกเป็นใครกัน?"

ดวงตาของมาร์ธาแดงก่ำ เธอถึงกับพูดติดอ่าง ทั้งๆ ที่เธอมั่นใจมาโดยตลอด

"ว้าว!"

"เขาป้องกันหมัดของเธอได้เหรอ!?"

ริมเมอร์หัวเราะคิกคัก ส่วนเบอร์เรนกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก

"อึก..."

มาร์ธาเรียกออร่าสีน้ำตาลมาห่อหุ้มทั่วร่างกายของเธอ

"แกก็มาได้แค่นี้แหละน่า!"

ขณะที่เธอกำลังจะพุ่งเข้ามาอีกครั้ง ริมเมอร์ก็ตื่นตัวและก้าวเข้ามาข้างหน้าเธอ

“ฉันปล่อยให้เธอทำมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว”

แม้จะยิ้มแต่เขาก็ปล่อยแรงกดดันออกมาอย่างรุนแรง คราวนี้เขาไม่ได้พูดเล่น

"ต...แต่!"

"ตอนนี้เรื่องมันคงจะจบไม่สวยแน่ ค่อยมาต่อสู้กับเขาทีหลังนะ หลังจากที่ราอนใช้ออร่าได้พอสมควรแล้วน่ะ ถ้าเป็นตอนนั้นฉันจะไม่ขวางเธอเลย"

"เชอะ..."

มาร์ธาจ้องไปที่ราอน เธอกัดฟันแน่นก่อนที่จะหันหน้าเดินหนี คราวนี้เธอไม่หันกลับมาอีก เธอเดินตึงตังออกไปพร้อมกับปิดประตูเสียงดังโครมคราม

"ราอน"

ริมเมอร์เข้ามาใกล้และจับไหล่ของเขา

"เธอป้องกันการโจมตีของมาร์ธาได้ยังไง? เธอรู้อยู่แล้วงั้นเหรอ?"

"เพราะจุดศูนย์ถ่วงของเธอครับ"

ราอนตอบเหมือนมันไม่ใช่เรื่องใหญ่

"จุดศูนย์ถ่วง?"

เบอร์เรนขมวดคิ้วให้กับคำตอบ รูนันเองก็ดูอยากรู้อย่างเห็นเช่นกัน เธอแอบฟังอย่างใจจดใจจ่อ

“ตอนที่เธอหันกลับมาเธอก็เปลี่ยนจุดศูนย์ถ่วงมาที่ด้านหลังแทนครับ ผมเลยคิดว่าเธอต้องพุ่งมาหาผมแน่ๆ”

"แค่นั้นเองเหรอ..."

รูนันเองก็ครุ่นคิดตามเขา ในขณะที่สีหน้าของเธอดูว่างเปล่า

"อึ้ม! อย่างนี้นี่เอง!"

ริมเมอร์อุทานออกมา

'ความช่างสังเกตของเขาสุดยอดเหมือนเดิมเลย'

เขาโต้กลับได้ทันทีหลังจากสังเกตการเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม  พรสวรรค์ของเขาไม่ธรรมดาจริงๆ

“…”

เบอร์เรนสำรวจบริเวณที่ราอนและมาร์ธาปะทะกัน จากนั้นเขาก็กัดริมฝีปากแน่นและเดินออกไป

"ฉันดุมาร์ธาไปแล้ว ก็คงไม่รบกวนเธอไปสักพักแหละนะ แต่เธอคงเลี่ยงอีกไม่ได้หลังจากที่ใช้ออร่าเป็นแล้ว"

"ผมทราบแล้วครับ"

"แล้วก็...ดูเหมือนว่าหมัดพยัคฆ์แห่งความว่างเปล่าของเธอจะสมบูรณ์แล้วล่ะนะ"

การโจมตีของเขาน่าทึ่งมาก มันน่าทึ่งกว่าตอนที่เขาป้องกันการโจมตีไว้ได้

"ไม่ขนาดนั้นหรอกนะครับ"

ราอนส่ายหัว

เจ้าทำอะไรของเจ้าอีก? ปล่อยมันไปได้ยังไง มันกล้าโจมตีร่างในอนาคตของข้า! เจ้าต้องตัดแขนขาของเธออกแล้วแช่แข็งเธอไว้ชั่วนิรันดร์...

'ฉันต่อยเธอไปแล้วไง'

นั่นมันไม่พอ! มันสมควรโดนข้าทุบให้แหลก!

'แล้วทำไมต้องทำขนาดนั้นเล่า'

ในตอนนี้หากต่อสู้กับเธอต่อไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา

มันคงจะดีกับเขามากกว่าถ้าเขารอคอย และได้ตำแหน่งอันดับหนึ่งอีกครั้ง

หึ! สักวันนังนั่นจะต้องแหลกเป็นชิ้นๆแน่

'รอฉันก่อนเถอะ เดี๋ยวแกจะได้เห็นอะไรเด็ดๆ'

ราอนแสยะยิ้มแล้วเดินออกจากสนามฝึก

* * *

* * *

ราอนมาถึงสนามซ้อมก่อนที่ดวงอาทิตย์จะขึ้น เขาอยากฝึกออร่าคนเดียวเงียบๆ แต่เขาไม่มีทางเลือกนอกจากทำตามคำสั่ง

เนื่องจากเด็กฝึกหัดส่วนใหญ่ได้เรียนรู้ออร่าแล้ว จึงมีเด็กเพียงแปดคนที่มารวมตัวกันในตอนนี้ พวกเขาทุกคนล้วนมาจากครอบครัวธรรมดา

"ค-คุณชาย"

ดอเรียนเดินเข้ามาแตะไหล่เขาเบาๆ

"ผมได้ยินมาว่าการเรียนรู้ออร่าทำให้เสียชีวิตได้เลย... คือว่ามันจริงมั้ยครับ? ผมได้ยินมาอีกว่ามันเจ็บมากเหมือนร่างกายจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ..."

นั่นเป็นเรื่องจริง มีคนที่บาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิตจากการพยายามเรียนรู้ออร่าที่ไม่ค่อยเสถียร

แน่นอนว่าเทคนิคที่พวกเขาจะเรียนรู้นั้นเป็นเทคนิคที่ค่อนข้างเสถียร และพวกเขายังมีผู้ฝึกสอนคอยดูแลอยู่ตลอด นั่นคงจะไม่มีปัญหาอะไร

"ไม่มีอะไรแบบนั้นหรอกน่า"

เขาได้แต่พูดประโยคแบบเดิมซ้ำๆเวลาเจอหน้าดอเรียน

"จ-จริงเหรอครับ? ถ้าคุณชายพูดแบบนั้นผมก็โล่งใจไปนิดนึง..."

ดอเรียนค่อยๆยิ้มออกมา แต่ทันใดนั้น...

"...ค-คือ มันโอเคจริงๆใช่มั้ยครับ? ถึงมันจะเสถียรแต่ก็ยังมีคนเคยบาดเจ็บ ถ้า...ถ้าคนๆนั้นเป็นผมล่ะ ฮือๆ ทำยังไงดีครับ !?"

“…”

ราอนหันหน้าหนีทันที ความขี้กลัวของดอเรียนไม่เคยหายไปเลย ต่อให้เขาพูดไปยังไงก็เหมือนเดิม และไม่มีเหตุผลอะไรที่ราอนจะต้องคอยกระตุ้นเขาตลอดเวลา

“วันนี้ฉันไม่ได้มาสายใช่ไหมเนี่ย?  ทันเวลาพอดีเลย”

ริมเมอร์กระโดดข้ามกำแพงเข้ามาเช่นเคย เขาแสยะยิ้มมองไปยังท้องฟ้าที่ยังคงมืดครึ้ม

“พระอาทิตย์ใกล้จะขึ้นแล้ว เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า”

"ครับ/ค่ะ"

เสียงของเด็กๆ ดังกว่าปกติ เต็มไปด้วยความคาดหวังในการเรียนรู้ออร่า

“ไม่ต้องกังวลว่าจะตามไม่ทันเด็กคนอื่นๆ ที่ได้เรียนรู้ออร่ามาก่อน พวกเขาแค่นำหน้าพวกเธอไปก่อนก้าวเดียว”

"ครับ/ค่ะ"

“ถ้าอย่างนั้นก็เข้าไปในห้องฝึกฝนส่วนตัวกับอาจารย์ฝึกสอนข้างๆเธอนะ อาจารย์จะคอยช่วยจนกว่าการปลูกฝังออร่าของพวกเธอจะคงที่ ถ้าติดปัญหาตรงไหนก็บอกพวกเขาได้เลย”

ริมเมอร์ปรบมือหนึ่งครั้ง อาจารย์ที่อยู่ข้างหลังเขาก็ไปพาเด็กๆ เข้าไปที่ห้องฝึกฝนส่วนตัว

"เอ่อ..."

ราอนมองไปรอบๆ เพราะไม่มีอาจารย์คนไหนเข้ามาหาเขา

"เธอจะต้องไปฝึกคนเดียว"

"...แล้วคุณเรียกผมมาทำไมครับ"

“เพราะบางครั้งก็มีปัญหาเกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว ฉันจะรอเธออยู่ข้างนอก เธอจะได้มีสมาธิฝึกฝน”

“…”

'เขาดูไม่น่าไว้ใจเลยสักนิด'

ริมเมอร์ที่เขารู้จักไม่ใช่คนที่ฝากความไว้วางใจไว้ได้ ถ้าเขานอนหลับอยู่ข้างนอกในตอนที่ราอนกำลังจะตายในห้องฝึกฝนก็คงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่

“สายตาคู่นั้นคืออะไร? เธอไม่ไว้ใจฉันเหรอ?”

"ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกนะครับ..."

เขาส่ายหัวและเข้าไปในห้องฝึกฝนเพียงลำพัง เขาไม่ได้คาดหวังว่าจะมีใครมาช่วย แต่การมีคนคอยระวังให้ก็ดีกว่าไม่มี

"เฮ้อ...”

ราอนหลับตาลงและเริ่มการฝึกฝน 'หมื่นเปลวเพลิง' เปลวไฟสีแดงก็ปรากฏขึ้นบนไหล่ของเขา

'เอาล่ะนะ...'

***

ทันทีที่ราอนเข้าไปในห้องฝึก ริมเมอร์ก็ยืนหลังตรง เขาขยายประสาทสัมผัสของเขาอย่างเงียบๆ เพื่อไม่ให้รบกวนใคร

'มาดูกันว่าเธอได้เทคนิคอะไรไป'

เขาเริ่มอ่านคลื่นมานาที่เกิดขึ้นรอบๆ ห้องฝึกของราอนโดยใช้ประสาทสัมผัสที่แผ่ขยายออกไป

'เป็นธาตุไฟงั้นเหรอ?'

พลังงานและมานาที่ร้อนระอุกำลังพลุ่งพล่านรอบๆ ตัวราอน

'นี่ไม่ใช่เทคนิคการปลูกฝังธรรมดาๆนี่?!'

ปริมาณพลังงานที่เขาสัมผัสได้จากวงจรมานาของราอนนั้นทรงพลังกว่าปกติมาก มันเป็นพลังงานที่ปะทุออกมา เป็นเหมือนลาวาที่พุ่งออกมาจากภูเขาไฟที่ระเบิด เทคนิคการปลูกฝังอันนี้ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

'นั่นไม่ใช่สิ่งที่สามารถแลกเปลี่ยนด้วยแผ่นทองแดงได้  แม้แต่แผ่นทองคำก็ยังไม่เพียงพอเลย'

เขาบอกเด็กๆ ว่าเทคนิคการปลูกฝังของรินเดนนั้นก็ไม่ใช่เทคนิคที่หาได้ทั่วไป แต่ของราอนนั้นต่างออกไปอีก

มันดีกว่าเทคนิคที่ส่งต่อกันในสายตรงเสียอีก

หัวใจของริมเมอร์เต้นแรงด้วยความตื่นเต้น เขาอยากจะรู้มากว่าราอนจะได้ออร่าแบบไหนไปอยู่ในศูนย์พลังงานของเขา หลังจากที่เขาใช้มันได้แล้ว

อย่างไรก็ตาม การไหลของออร่านั้นยากมากที่จะเข้าใจ ดูเหมือนว่ารานจะต้องใช้เวลาและความพยายามอีกมากกว่าเขาจะได้มันมา

'…หืม?'

ริมเมอร์เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ภายในวงจรมานาของราอนที่มีพลังงานร้อนไหลผ่าน แต่ก็มีพลังงานเย็นแผ่ออกมาเช่นกัน

'ไม่มีทาง! เด็กคนนั้น!'

เขาอ้าปากค้างเมื่อสัมผัสได้ถึงกระแสพลังงานของราอน

'เขาไม่ได้เอาน้ำแข็งออกจากวงจรมานาของเขา เขาควบคุมมันไปพร้อมๆกันได้!'

แทนที่จะใช้พลังงานร้อนผลักมันออก ราอนกำลังสะสมน้ำแข็งไว้ในศูนย์พลังงานของเขา

'นี่เขาควบคุมมานาเป็นครั้งแรกๆ จริงๆ เหรอ?'

เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีคนที่พึ่งเคยเรียนรู้การปลูกฝังออร่าได้หนึ่งสัปดาห์สามารถควบคุมมานาได้

'มันไม่ได้เป็นเพราะเทคนิคที่เขาใช้เลย นั่นคือความสามารถของเขาเอง'

ความสามารถในการควบคุมมานาของราอนนั้นน่าทึ่งกว่าเทคนิคที่เขาได้รับมาเสียอีก ต่อให้เขารู้จักการควบคุมมานาตั้งแต่แรกเกิดก็คงไม่เก่งได้ขนาดนั้นแน่

'พรสวรรค์ของเขาไม่ได้มีแค่ร่างกายกับศิลปะการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงมานาด้วย...'

เขาได้ยินมาว่าราอนได้รับการเปิดเผยว่ามีพรสวรรค์ด้านมานาที่แย่ที่สุดในระหว่างพิธีทดสอบ แต่ดูเหมือนว่าไม่เป็นอย่างนั้นเลย เขาทำได้ดีกว่าเบอร์เรนหรือรูนันเสียอีก

'ถ้าเขาเรียนรู้ได้อย่างถูกวิธีล่ะก็...'

ริมเมอร์กำหมัดแน่น ยิ้มอย่างมีความหวัง

'สัตว์ประหลาดตัวใหม่ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว'

***

หนึ่งชั่วโมงต่อมา  ราอน ซีกฮาร์ท ออกมาจากห้องฝึกฝนพร้อมกับไอร้อนในลมหายใจของเขา

“ราอน”

ริมเมอร์กระโดดลงมาจากเวทีและเดินเข้ามาหาเขา

"ตั้งแต่พรุ่งนี้เธอไปฝึกในห้องตัวเองได้"

"ครับ? แต่คุณบอกว่าผมควรมาที่นี่..."

"ไม่ต้องแล้ว เธอไปฝึกในห้องพักตัวเองได้เลย"

การปลูกฝังออร่าในห้องพักจะไม่สามารถตรวจสอบได้จากข้างนอก เพราะผนังของห้องพักถูกปกคลุมไปด้วยเวทมนตร์

หากมีใครสัมผัสได้ถึงเทคนิคของราอนได้ พวกเขาอาจเริ่มใช้ความรุนแรงเพื่อควบคุมเขา นั่นเป็นเหตุผลที่ดีกว่าที่จะให้ราอนฝึกฝนในหอพักซึ่งได้รับการป้องกันไว้ด้วยเวทมนตร์

“ฉันจะไปแอบดูความก้าวหน้าของเธอเรื่อยๆละกัน”

"งั้นเหรอครับ?  เอ่อ…"

“เฮ้! ฉันก็ไม่ได้ขี้เกียจตลอดเวลานะ! งั้นเอาตามนี้นี่แหละ!”

"...ครับ"

ราอนพยักหน้าอย่างเฉยชาเช่นเคย

'ฉันต้องรีบไปรายงานเขาแล้ว!'

ริมเมอร์เริงร่า เขายังคงสัมผัสได้ถึงพลังมานาอุ่นๆที่กระจายออกมาจากราอน

***

หลังจากการฝึกสิ้นสุดลง ริมเมอร์ก็ไปเยี่ยมเยียนห้องโถงของคฤหาสน์หลัก

“ทำไมช่วงนี้แกถึงมาที่นี่บ่อย...”

เกล็น ซีกฮาร์ท ผู้ซึ่งกำลังนั่งอยู่บนบัลลังก์ถามขึ้นมา

"แล้ววันนี้มีเรื่องอะไรอีก?"

"ฉันมีอะไรจะบอกแหละ!"

ริมเมอร์ยิ้มกว้างและเดินไปข้างหน้าบัลลังก์

"มาร์ธามาเข้าร่วมการฝึกแล้ว เธอเลือดร้อนกว่าที่ฉันได้ยินมาอีก"

"เด็กคนนั้นไม่เปลี่ยนไปหรอก... ถ้าไม่ได้เรียนรู้ความพ่ายแพ้จากเด็กวัยเดียวกันน่ะนะ"

เกล็นพยักหน้า นั่นเหมือนกับที่เขาคาดเอาไว้

"แล้วพวกเราจะได้เห็นนั่นเร็วๆนี้ด้วย"

"เห็นอะไร?"

"เธอกับราอนพึ่งปะทะกันไป"

ริมเมอร์เล่าให้เขาฟังเกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อวันก่อนระหว่างราอนกับมาร์ธา ซึ่งรวมถึงเรื่องเบอร์เรนและรูนันด้วย

"เป็นอย่างนั้นนี่เอง? พวกเขาได้เจอกันแล้ว...อืม..."

เกล็นพยักหน้าเบาๆ เขาดูมีความสุขขึ้นเล็กน้อยที่ได้ยิน แม้เขาจะทำเป็นขรึมอยู่ก็ตาม

"อ๊ะ! แต่ว่านั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุดที่ฉันจะบอกนายหรอก นายให้อะไรราอนไปกันเนี่ย?!"

ริมเมอร์ขึ้นเสียงใส่เกล็น

"ฉันพึ่งเคยเห็นเทคนิคแบบนั้นเป็นครั้งแรก  แล้วมันยังเป็นธาตุไฟด้วย"

"มันเป็นเทคนิคการปลูกฝังที่เรียกว่า 'หมื่นเปลวเพลิง'"

เกล็นตอบกลับ

"การปลูกฝังหมื่นเปลวเพลิงเหรอ?"

“มันเป็นเทคนิคของเจ้าตระกูลคนแรก”

“อ้า! ของเจ้าตระกูลคนแรก... ฉันเข้าใจแล้ว นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมมันถึง… ด-เดี๋ยวนะ? เมื่อกี้พูดว่าไงนะ!?”

ดวงตาของริมเมอร์เบิกกว้าง

“ห…หัวหน้าตระกูลคนแรกจริงเหรอ?”

"อืม"

“หา! ฉันคิดว่านายจะให้เทคนิคที่เทียบเท่ากับแผ่นเงินหรือแผ่นทอง แต่นี่ ฉันไม่คิดว่านายจะให้เทคนิคของหัวหน้าตระกูลคนแรกกับเขา  นายคงรักเขามากจริงๆนั่นแหละ”

“'การปลูกฝังหมื่นเปลวเพลิง' เลือกเขาเอง ฉันไม่ได้อยากจะให้เลย...”

"หืม..."

เกล็นไม่ได้อธิบายอะไรต่อ ริมเมอร์เดาว่าเหตุการณ์นั้นคงเกินกว่าที่เกล็นคาดไว้เช่นกัน

"นายมาเพราะเรื่องนี้?"

"โอ๊ะ! มีอีกเรื่อง เกี่ยวกับราอนน่ะ พรสวรรค์ของเขาไม่ธรรมดาเลย แม้แต่ความสามารถด้านมานาของเขาก็ยอดเยี่ยมเกินใครๆ"

ริมเมอร์สาธยายทุกสิ่งที่เขาสัมผัสได้เกี่ยวกับการไหลของมานาในตัวราออนในวันนี้

“ฉันได้ยินมาว่าดาบแห่งการพิพากษาที่ใช้ในพิธีทดสอบบอกว่าพรสวรรค์ของเขาต่ำกว่าค่าเฉลี่ย แน่ใจนะว่าตอนนั้นมันไม่ได้พัง?”

“…”

เกล็น ซีกฮาร์ท เอามือออกจากพนักวางแขนและเริ่มถูคางของเขาอย่างครุ่นคิด

'เขามีพรสวรรค์ด้านมานาด้วยเหรอ...'

เหตุผลที่ดาบแห่งการพิพากษาส่องแสงสีทองออกมาหลังจากที่ทุกคนออกไปแล้ว... ดูเหมือนว่านั่นคือความสามารถจริงๆของราอน

“แล้วสภาพร่างกายเขาเป็นอย่างไรบ้าง?”

“เหงื่อของเขายังเย็น และเขายังคงพ่นลมหายใจเย็นยะเยือกออกมา ร่างกายของเขายังมีปัญหาแน่นอน แต่เขาดูไม่เป็นอะไรมากนะพอได้ฝึกซ้อมแล้ว...”

"อืม…"

เกล็นพยักหน้า เหมือนอย่างที่แพทริคเคยบอกไว้ การขยับร่างกายบ่อยๆจะทำให้เขาดีขึ้น

“ราอนมีความสามารถพิเศษทั้งในด้านร่างกายและมานา นอกจากนี้เขายังมีความช่างสังเกต หยั่งรู้ และใจเย็นมากๆ ฉันคิดว่าเขาสามารถขึ้นเป็นผู้สืบทอดตระกูลคนต่อไปได้”

“มันไม่เกี่ยวกับความสามารถ แน่นอนว่าเขามีศักยภาพมากพอ แต่เขาก็ยังเด็กเกินไป”

"ทำไมถึงไม่ได้ล่ะ ...ฉันไม่ชอบลูกคนโตของนายจริงๆนะ"

ริมเมอร์เงยหน้าขึ้นมองเกล็นด้วยสายตาอ้อนวอน

"ฉันมาทำงานให้ซีกฮาร์ทก็เพราะเปลวไฟของนาย ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครที่ฉันอยากให้เป็นผู้สืบทอดต่อจากนายเลย"

"ไม่จริงน่า นี่นาย... นายเข้ามาเป็นอาจารย์ที่นี่เพราะแบบนี้เองเหรอ?"

เกล็นเบิกตามอง แม้ร่างกายเขาจะไม่สมบูรณ์แล้วแต่ริมเมอร์ก็ยังเป็นนักดาบที่เก่งกาจที่สุดคนหนึ่ง เหตุผลที่เขาปฏิเสธข้อเสนอจากทุกสารทิศเพื่อมาเป็นอาจารย์ให้ที่นี่เพราะริมเมอร์ติดตามเขามา

"ราอนมีคุณสมบัติตรงตามกำหนดเลยไม่ใช่รึไงล่ะ ทำไมเขาจะขึ้นสืบทอดต่อไม่ได้?"

"ที่จริงก็ได้แหละ..."

"เยี่ยมเลย!"

ริมเมอร์โค้งให้เขาก่อนจะถอยหลังไปหนึ่งก้าว

"แล้วก็อีกอย่างหนึ่ง... "

"ราอนไม่ได้มีดีแค่พรสวรรค์ นายก็น่าจะรู้ดี..."

เขาทิ้งคำพูดสุดท้ายเอาไว้แล้วเดินออกจากห้องโถงไป

"ใช่ ฉันรู้เรื่องนั้นดี"

เกล็นยิ้มเศร้าสร้อย เขาจ้องมองภายในห้องที่ว่างเปล่า

"ฉันรู้ดีว่าเขาเป็นคนแบบไหน และฉันก็รู้ดีว่าเขาคิดอะไรอยู่..."

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด