ตอนที่ 58 ถ่ายทอดวิชา
"ชิบหาย! การซื้อถูกยกเลิกงั้นรึ ทำไมหน้าร้านค้าถึงยังเปิดอยู่ทั้งๆไม่สามารถซื้อได้?"
"เนื่องจากท่านมีฟังก์ชั่นของขวัญอยู่แล้ว ตราบใดที่ท่านเรียกใช้งานหรือผ่านภารกิจ ระบบจะทำการมอบเป็นของขวัญให้แทน แต่ถึงอย่างนั้นท่านก็ยังสามารถซื้อสินค้าที่ชื่นชอบจากในร้านค้าได้ และสาเหตุที่ตอนนี้ท่านไม่สามารถซื้อได้นั้นคือท่านมีแต้มการเติบโตที่ไม่เพียงพอ”
"เออเรื่องนั้นน่ะข้ารู้อยู่แล้วข้าเองก็ไม่ใช่คนโง่ที่จะรู้ว่าซื้อไม่ได้เพราะแต้มไม่พอ ว่าแต่ไอ้วิชาปีศาจเสือนี่มันอะไรกัน?"
"ไม่มีคำตอบสำหรับคำถามนี้" ระบบตอบกลับมาอย่างนิ่งๆ
“โว้ะ! ระบบนี่นับวันมันยิ่งจะกวรประสาทข้ามาขึ้นจริงๆ หรือว่าข้าควรจะให้ปีศาจเสียน้อยลองดูว่าจะฝึกได้หรือเปล่าได้ไหมนะ?”
เมื่อนึกได้แบบนี้ซู่เฮาเที่ยนจึงคิดได้ว่าวิชาปีศาจเสือที่เขาได้มานั้นไม่น่าจะจำเป็นอีกต่อไปเนื่องจากเขามี9 การเปลี่ยนแปลงของเทพเจ้าและปีศาจ เนื่องจากวิชาปีศาจเสือเป็นวิชาเฉพาะกลุ่มปีศาจมันจึงอาจมีประโยชน์สำหรับปีศาจเสือตัวน้อยตัวนี้
เมื่อคิดได้แบบนี้ ซู่เฮาเที่ยนจึงค่อยๆวางมือลงเบาๆบนหัวของปีศาจเสือตัวน้อยจากนั้นจึงค่อยๆถ่ายทอดวิชาปีศาจเสือให้กับมัน
ปีศาจเสือตัวน้อยที่กำลังเพลิดเพลินกับออร่าพลังอันอบอุ่นของซู่เฮาเที่ยนนั้น มันค่อยๆเอาตัวเข้าไปแนบชิดซู่เฮาเที่ยนมากขึ้นอีก
แต่เมื่อเวลาผ่านไปข้อมูลของวิชาปีศาจเสือจำนวนมากได้เริ่มหลั่งไหลเข้ามาในจิตใจของปีศาจเสือตัวน้อยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมันค่อยๆสร้างความเจ็บปวดมากขึ้นจนกระทั่งมันค่อยๆส่งเสียงร้องออกมา
“นายท่าน ท่านกำลังทำอะไรน่ะ ท่านอย่าทำร้ายปีศาจเสือตัวน้อยผู้น่ารักตัวนี้เลยนะ”
"พี่เฮาเที่ยนนี่ท่านกำลังทำอะไรงั้นรึ?"
“ถ้าพวกเจ้าไม่รู้อะไรก็อย่าพูดได้หรือไม่? ถ้าพวกเจ้ายังคงพูดอะไรที่ไม่เกิดประโยชน์ขึ้นมาอีกข้าจะฆ่ามันด้วยมือของข้าจริงๆให้พวกเจ้าได้เห็นเอง”
ซู่เฮาเที่ยนจ้องมองไปที่หญิงสาวทั้งสองคนอย่างเย็นชา แต่หลังจากนั้นซู่เฮาเที่ยนก็เปลี่ยนการแสดงออกเป็นความใจดีต่อหญิงสามทั้งสองคนนั้น แล้วค่อยๆปฏิบัติต่อ ปีศาจเสือตัวน้อยเหมือนลูกของเขาเอง
“นะ..นายท่านกำลังถ่ายทอดวิชาอยู่งั้นรึ? ท่านทำได้ยังไงกัน?”
ไป๋ซู่เจินที่มองเข้าใกล้ๆนั้นสังเกตว่าปีศาจเสือตัวน้อยกำลังได้รับข้อมูลจำนวนมาก แต่เมื่อนึกถึงคำพูดของซู่เฮาเที่ยนเมื่อครู่นี้มากขึ้นเธอจึงรีบเอามืออุดปากทันที
"พี่ชายเฮาเทียนนั้นมีความลับอยู่มากมายจริงๆ แต่ถึงอย่างนั้นข้าก็ชอบที่ได้รู้แบบนี้"
นอกจากความตกใจแล้ว ดวงตาของจือเสียยังเต็มไปด้วยความตื่นเต้นที่ส่องประกายออกมา
"ว่าอะไรนะ นายน้อยที่สามมีพรรคพวกที่แข็งแกร่งมากที่ปกป้องราชาปีศาจที่จะบุกเข้ามาทำลายเมืองของตระกูลฉิน และยังสามารถทำให้นิกายยอมจำนนเลยงั้นรึ? นี่เจ้าพูดเรื่องจริงงั้นหรือ?"
ซู่หยุนผู้นำตระกูลซู่กำลังจ้องมองไปบนข้อความที่ซู่เฉิงเฟิงส่งมาในมือของเขาอยู่ในห้องประชุมของตระกูลซู่ด้วยความตกใจ และนอกจากความตกใจแล้ว เขายังไม่อยากจะเชื่อในเรื่องนี้อีกด้วย
“เป็นไปไม่ได้ เรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องปกติแล้ว ท่านบรรพบุรุษของตระกูลท่านคิดว่าพวกเราควรจะทำอย่างไรต่องั้นหรือ?”
“ฮ่ะๆๆงั้นรึ ถ้าอย่างนั้นก็ให้ผู้นำหน่วยเสือ ผู้นำหน่วยหมาป่าและผู้นำหน่วยอินทรีส่งไปคุ้มครองเมืองหยูโจวอย่างแน่นหนา รวมถึงเข้าไปในเมืองที่อยู่ในระแวกใกล้เคียงซึ่งควรจะต้องตกอยู่ภายใต้อำนาจของตระกูลซู่ด้วย หากมีการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติให้ผู้ปกครองเมืองนั้นลงมือได้ทันที”
หลังจากนั้นไม่นานเสียงที่น่าเกรงขามได้ดังมาจากถ้ำของบรรพบุรุษของตระกูลซู่
"เยี่ยมมาก ท่านบรรพบุรุษตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดจริงๆ ตระกูลฉินของพวกเราเองที่มีความสัมพันธุ์กับตระกูลซู่มาอย่างยาวนานก็อาจได้ขึ้นเป็นใหญ่เคียงข้างตระกูลของท่านได้อย่างแน่นอนในอนาคต"
ในห้องโถงนั้นคำพูดของผู้นำตระกูลฉินในเมืองหยูโจวนั้นดังขึ้นขณะที่เดินไปรอบๆห้องโถงด้วยความตื่นเต้น
……
“นายน้อยที่สาม พวกเรากำลังจะเดินทางผ่านเมืองจูหยานซึ่งเป็นทางผ่านไปสู่เมืองฉูโจวเช่นกัน ซึ่งบังเอิญว่ามีสามคนจากบุตรชายทั้งสิบสามคนของอาณาจักรเที่ยนซวนที่อยู่ในเมืองจูหยานแห่งนี้ด้วย”
ซู่เฉิงเฟิงเดินมาหาซู่เฮาเที่ยนเพื่อแนะนำเมืองที่พวกเขากำลังจะได้ผ่านตามปกติของเขา
"ฉูโจวอีกแล้วรึ? ขอบเขตอิทธิพลของเมืองฉูโจวนั้นกว้างใหญ่จริงๆ ถ้าอย่างนั้นก็รีบเดินทางต่อเลยแล้วเข้าไปพักที่เมืองจูหยานในคืน"
ภารกิจของระบบที่ให้จัดการกับบุตรชายทั้งสิบสามคนแห่งอาณาจักรเที่ยนซวนของเขานั้นยังถือว่าห่างไกลจากความสำเร็จอย่างมาก แต่ในตอนนี้โอกาสที่จะได้จัดการถึงสามคนในหมู่ของบุตรชายทั้งสิบสามคนแห่งอาณาจักรเที่ยนซวนอยู่ที่เมืองจูหยานแล้ว!
ซู่เฮาเที่ยนจ้องมองไปที่เมืองจูหยานที่อยู่ด้านข้างหน้าเขาพร้อมกับ ดวงตาที่เต็มไปด้วยความกระเหี้ยนกระหือรือ
หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาทั้งหมดก็เดินทางมาถึงหน้าประตูเมืองจูหยานซึ่งทำให้ทหารที่เฝ้าประตูเมืองนั้นรู้สึกกระอักกระอ่วนเมื่อสัมผัสได้ถึงพลังที่แข็งแกร่งมากๆบางอย่างได้จากกลุ่มของรถม้าที่เดินทางเข้ามา
"พวกเราคือตระกูลซู่และตระกูลฉิน พวกเราต้องรีบไปที่เมืองหลวงเพื่อเข้าร่วมสุดยอดการประซวนหลง"
ซู่เฉิงเฟิงเดินไปที่ด้านหน้าขวบนของรถม้าแล้วพูดออกไปทันที
"ที่แท้ก็ผู้ที่มาจากตระกูลซู่งั้นรึ อันที่ท่านจริงท่านเจ้าเมืองก็ได้บอกเอาไว้แล้วว่าหากตระกูลซู่และตระกูลฉินมาถึง ให้ปล่อยพวกเขาเข้ามาในเมืองได้เลย ถ้าอย่างขอเชิญพวกท่านเข้าไปในเมืองได้"
เห็นได้ชัดว่ามีทหารเหล่านี้ได้รับคำสั่งมาอยู่แล้วแต่พวกเขาเพียงแค่ถามเพื่อตรวจสอบเท่านั้นก่อนที่จะปล่อยพวกเขาไปด้วยท่าทีที่เป็นมิตร