ตอนที่ 1271 คําถามนี้.. ควรที่จะเป็นผมถามคุณมากกว่า
หยุนเหมิน…
เซียวเฟย ที่ถูกแขวนอยู่บนคาน ได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เขาลงใต้มาเพื่อล่าสมบัติให้กับ หยุน จงเจิ้ง ได้ฟัง ที่แท้เขาบังเอิญรู้ว่า หยุนเหมิน มีสมบัติจึงตามหามาถึงที่นี่
“ผู้นำหยุน นี่หมายความว่าอย่างไร ข้าไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีกแล้ว ..ใช่ไหม?” เซียวเฟย ได้พูดออกมาพร้อมกับหัวเราะเบาๆ และดูเหมือนเขาจะยินดีในความโชคร้ายของคนอื่น
เมื่อได้ยินเรื่องราวทั้งหมด ใบหน้าของ หยุน จงเจิ้ง ก็ได้เปลี่ยนไปแล้ว และเขาก็เข้าใจว่า เซียวเฟย กำลังหมายถึงอะไร ..แน่นอนซึ่งมันหมายความว่ายังมีคนที่ต้องการสมบัติของ หยุนเหมิน ของเขาอยู่อีก และแน่นอนว่ายังมีศัตรูอีกจำนวนมากที่ต้องการมัน!
“แต่.. ผู้นำหยุน น่าจะวางใจได้ คนกลุ่มนั้นน่าจะเป็นแค่ กลุ่มโจรตัวเล็กๆ เท่านั้น และการที่พวกมันมาที่หยุนเหมิน ก็แค่มาเรียกร้องหาความตายให้ตัวเอง.. อย่างไรเสียพวกท่านก็มี หลินฟาน อยู่” เซียวเฟย ได้สังเกต หยุน จงเจิ้ง อยู่ : “ผู้นำหยุน ทําไมท่านถึงได้มีสีหน้าเช่นนี้ ..ไม่หรอกมั้ง หรือว่า หลินฟาน ไปแล้ว?”
แม้ว่า หยุน จงเจิ้ง ไม่ได้พูด แต่เมื่อดูจากสีหน้าที่เคร่งเคลียดจริงจังของเขา ก็จะรู้ได้ทันทีว่า หลินฟาน อาจจะจากไปแล้วจริงๆ
“ฮ่าฮ่า…” เซียวเฟย ได้หัวเราะเสียงดังออกมา : “ข้าชักเห็นใจหยุนเหมินของพวกท่านจริงๆ ท้ายที่สุดแล้วมันยากที่จะหลีกเลี่ยงจากการถูกทําลายไปได้!”
หยุน จงเจิ้ง ได้เย้ยหยันกลับไปว่า : “เจ้าคิดว่าหยุนเหมินของข้าจะกลัวหรือ? หยุนเหมินเราจะทำทุกอย่างเพื่อรักษาสมบัติ ไม่ว่าจะต้องใช้จ่ายออกไปทั้งหมดก็ตาม และไม่ว่าใครจะมา สิ่งนี้มันก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง!”
เซียวเฟย ยิ้ม และพูดว่า : “ถึงกระนั้น พวกท่านก็หลีกเลี่ยงข้าได้ ..เช่นนั้นพวกท่านก็ควรมีความสุข แต่มาตอนนี้.. มันคงจะกลับกลายเป็นโศกนาฏกรรมสำหรับพวกท่าน ไปอีกครั้ง ..แล้ว ฮ่าฮ่าๆ”
หยุน จงเจิ้ง ได้ฮึ่มเสียงออกมา แล้วกล่าวไปว่า : “เจ้ากำลังหัวเราะเยาะหยุนเหมิน ..ของข้า ทําไมไม่มองไปที่ตัวเจ้าเอง ในตอนนี้ใครกันที่มันเป็นคนไร้ประโยชน์!?”
เซียวเฟย กล่าวว่า : “ชีวิตนี้ของข้าก็อยู่เพื่อแสวงหาเส้นทางการต่อสู้เท่านั้น ..ในเวลานี้ข้าก็ตั้งใจจะตาย คําพูดของท่านมันไม่มีประโยชน์ต่อคนที่หมดหวังอย่างข้า ตรงกันข้าม มันกลับเป็นหยุนเหมินของท่าน ซึ่งมีสาวๆ สวยๆ มากมาย ที่กําลังจะประสบกับความหายนะ! ท่านคิดว่าคนกลุ่มนั้นมันจะเป็นเหมือนข้าเหรอไงที่ต้องการจะแย่งชิงสมบัติแล้วจบหรือ? ข้ากลับเกรงว่าศิษย์สาวกหญิงของท่าน ในไม่ช้า…”
ผัวะ!
ด้วยความโกรธ หยุน จงเจิ้ง ก็ได้ตบหน้า เซียวเฟย จนทำให้ เซียวเฟย หมดสติลงไปทันที
ทันที หยุน จงเจิ้ง ก็ได้หันหลังเดินออกไป
ตอนนี้เขารู้แล้ว มีศัตรูที่แข็งแกร่งจำนวนมากกำลังมาที่หยุนเหมิน!
แม้จะยังไม่รู้ถึงความแข็งแกร่งของอีกฝ่าย แต่อีกฝ่ายที่กล้าเข้ามาหาสำนักนิกายซ่อนเร้น เกรงว่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะรับมือได้, หลินฟาน ก็จากไปแล้ว หยุนเหมิน ก็หวังที่จะพึ่ง หลินฟาน ไม่ได้ ได้แต่ต้องสู้กับศัตรู ..ด้วยตัวเอง
หยุน จงเจิ้ง เดินไปด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง เขากําลังคิดว่าจะเผชิญหน้ากับศัตรู ..อย่างไร แต่แล้วก็เห็น ท่านยาย และหยุน ชิงเย้า เดินเข้ามา
หยุน จงเจิ้ง ก็เดินขึ้นไป และพูดว่า : “ชิงเย้า ข้าต้องการให้เจ้าออกเดินทางทันที และไปที่เมืองคุนเฉิง เพื่อจัดการเรื่องของบริษัท”
หยุน ชิงเย้า กล่าวว่า : “ท่านอาจารย์ ตอนนี้มันสายแล้ว พรุ่งนี้ข้าค่อยออกไปได้ไหม?”
หยุน จงเจิ้ง กล่าวว่า : “ไม่ได้ ข้าส่ง หยุนจั้น ออกไปตอนเช้า แต่ หยุนจั้น กลับออกไปไม่สําเร็จ บริษัทในเมืองคุนเฉิงจะต้องวุ่นวายมากแน่ ข้าไม่อยากให้มีข้อผิดพลาด ดังนั้นเจ้าควรออกเดินทางทันที!”
หยุน ชิงเย้า ได้แต่พูดว่า : “ได้ ท่านอาจารย์..”
หยุน จงเจิ้ง กล่าวว่า : “เจ้าอย่าได้ใช้เส้นทางของหมู่บ้านชิงหนิว ให้เจ้าไปใช้เส้นทางลับอีกเส้นหนึ่ง”
หยุน ชิงเย้า สงสัย และถามว่า : “ทําไม? ..ท่านอาจารย์ เกิดอะไรขึ้น?”
หยุน จงเจิ้ง กล่าวว่า : “เจ้าอย่าได้ถามมากนัก จงฟังอาจารย์พูด จงรีบออกเดินทางไปเดี๋ยวนี้!”
เขาบอกให้ หยุน ชิงเย้า ไปใช้เส้นทางลับ เพราะกลัวว่า หยุน ชิงเย้า จะประสบเหมือนกับ หยุนจั้น ที่ได้ไปพบกับศัตรูเข้ากลางทาง หากเป็นเช่นนั้น …ความพยายามทั้งหมดจากในก่อนหน้านี้ ก็จะสูญเปล่าไปทั้งหมด
แม้ว่า หยุน ชิงเย้า จะรู้สึกแปลกๆ ไปบ้าง แต่อาจารย์ของเธอที่มีสีหน้าไม่ค่อยดีนัก เธอเองก็ไม่กล้าที่จะถามมาก คิดว่าอาจารย์คงกําลังรีบร้อนเรื่องของกิจการในเมืองคุนเฉิง เธอจึงต้องตอบตกลง ตอนนี้เธอเองก็ได้รีบกลับไปที่ห้องหยิบของที่จำเป็นอย่างเรียบง่าย แล้วก็ออกเดินทางไปยังเมืองคุนเฉิง
เมื่อ หยุน ชิงเย้า จากไปแล้ว หยุน จงเจิ้ง ก็เล่าข่าวที่ เซียวเฟย นํามา ให้กับ ท่านยาย ได้ฟัง
ได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของ ท่านยาย ก็เปลี่ยนไปเช่นกัน : “ผู้นำ ท่านวางแผนจะทําเช่นไร?”
หยุน จงเจิ้ง พูดว่า : “เราต้องทําทุกอย่างเพื่อปกป้องสมบัติ!”
หยุน จงเจิ้ง ไม่ได้ปิดบังข่าวนี้ เขาต้องการให้ทุกคนในหยุนเหมินรู้ และเตรียมพร้อมรับมือกับศัตรู..
เมื่อรู้ว่ายังมีศัตรูที่แข็งแกร่งกําลังจะมาถึง สมาชิกในหยุนเหมินทั้งหมด ต่างก็ตกไปอยู่ในอารมณ์ตื่นตระหนกทันที
พวกเขาไม่คาดคิดว่า ..ความสุขจากชัยชนะมันจะสั้นได้ขนาดนี้ มาตอนนี้พวกเขาก็จะต้องเผชิญหน้ากับบททดสอบชีวิต และความตายอีกครั้ง
ชั่วขณะหนึ่ง หยุนเหมินทั้งหมดก็ได้ระดมพลเตรียมพร้อม บรรยากาศที่ตึงเครียดก็ได้เข้าปกคลุม หยุนเหมิน…
พวกเขาไม่รู้ว่าศัตรูจะมาถึงเมื่อไหร่ และพวกเขาก็ไม่รู้ว่าศัตรูมีกำลังแค่ไหน แต่ความกลัวที่ เซียวเฟย มอบให้กับพวกเขา ..มันกลับห่อหุ้มหัวใจของทุกคนอีกครั้ง ทุกคนในหยุนเหมินกำลังคิดจะต่อสู้จนตัวตายเพื่อปกป้องสมบัติ แต่แล้วใครกันที่จะไม่กลัวตาย!
ด้านหนึ่ง หยุนเหมิน กำลังเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ที่ราวกับกำลังเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจ อีกด้านหนึ่ง หลินฟาน ก็ถูกโจมตีเช่นกัน
ในที่สุดชายร่างผอม ก็ชักมีดออกมา และฟันไปที่ หลินฟาน
ชายที่มีตาสามเหลี่ยม เมื่อเห็น ชายร่างผอม กำลังลงมือฆ่า ก็อดไม่ได้ที่จะส่งเสียงเตือนไปว่า : “พี่รอง ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งฆ่าเขา เราต้องใช้เขานําทาง!”
ด้วยความโกรธของ ชายร่างผอม จึงไม่คิดจะฟังอะไรแล้ว มีดในมือพร้อมกับพลังชี่ที่ระเบิดออกมา มันเหมือนมีพลังพอที่จะแยกร่างของ หลินฟาน ออกเป็นสองส่วนได้โดยง่ายดาย
เมื่อ ชายที่มีตาสามเหลี่ยม เห็น.. เขาก็ได้เหงื่อตกทันที เขาพร้อมที่จะลงมือช่วยเหลือ หลินฟาน แล้ว ในบรรดาพวกเขาสามคน มีเพียงเขาเท่านั้นที่ยังคงมีสติ ชายร่างผอม และผู้หญิงคนนั้นก็ถูก หลินฟาน ปั่นจนโกรธจนแทบอยากที่จะฆ่า หลินฟาน จนกระทั่งลืมจุดประสงค์ที่แท้จริงของพวกเขาที่มาที่นี่
อย่างไรก็ตาม ชายที่มีตาสามเหลี่ยม กลับกังวลมากเกินไป
มีดในมือของ ชายร่างผอม ไม่สามารถฟัน หรือแทง หลินฟาน ได้เลย
เมื่อ!
มีดเล่มนั้นได้ฟาดลงไปบนก้อนหินใหญ่ที่ หลินฟาน นั่งอยู่ ประกายไฟก็กระเด็นไปทั่ว หลินฟาน เพียงแค่เอนตัวหลบออกไปเล็กน้อย ก็สามารถหลบมีดเล่มนี้ได้..
พอ ชายร่างผอม ดึงมีดกลับ และกวาดมีดในมือออกไปเป็นแนวนอน เขาคิดพยายามที่ฟันตัดเอวของ หลินฟาน ออกเป็นสองส่วน
หลินฟาน ก็ได้ล้มตัวลงนอนลงไป มีดที่สองของ ชายร่างผอม ก็พลาดไปเช่นกัน
ชายร่างผอม ก็ได้ชักมีดกลับมา เขาระเบิดพลังชี่ทั้งหมดออกมา และกําลังจะฟันมีดที่สามออกไปอีกครั้ง แต่ หลินฟาน กลับไม่ให้โอกาสเขาอีกต่อไป เขาได้กระโดดขึ้น และเตะเข้าที่ข้อมือของ ชายร่างผอม
“อั่ก!”
ชายร่างผอม ได้ร้องลั่นออกมา มีดในมือก็ได้ร่วงลงไปกับพื้น
หลินฟาน ได้ก้มตัว เอื้อมมือไปจับมือของ ชายร่างผอม และดึงเขาให้ลุกขึ้นมาต่อหน้าเขา จากนั้นก็ต่อยเข้าไปที่ท้องของ ชายร่างผอม
ชายร่างผอม ถึงกลับเบิกตากว้าง เขารู้สึกเจ็บปวดจนลูกตาแทบถลนออกมา จากนั้นเขาก็ได้กระอักเลือดออกมาจากปาก
ตุบ..
ชายร่างผอม ได้คุกเข่าลงไปกับพื้นต่อหน้า หลินฟาน..
หลินฟาน จึงคว้าผมของเขา และจับหัวของเขาเข้าไปกระแทกกับก้อนหินใหญ่ ตุ้บตุ้บ หน้าผากของ ชายร่างผอม ที่เข้าชนกระแทกกับก้อนหินใหญ่ ก็ได้ทิ้งรอยเลือดที่น่าตกใจเอาไว้บนก้อนหิน
หน้าผากของเขาแตกมีเลือดไหลออกมา ทั้งตัวเขาก็เหมือนกับไก่ที่ถูกเชือดคอ เขาดูเหมือนคนไม่ได้สติ และร่างกายของเขาก็ดูโงนเงนไปมา
เมื่อพอ หลินฟาน ปล่อยมือ เขาก็ได้ล้มลงไปกับพื้น ...เหมือนกับสุนัขที่ตาย
หลินฟาน ยังคงกลับไปนั่งสบายๆ บนก้อนหินใหญ่ ยกเท้าขึ้น เหยียบศีรษะของ ชายร่างผอม แล้วเงยหน้าขึ้นไปมอง ชายที่มีตาสามเหลี่ยม อย่างเฉยเมย
ชายที่มีตาสามเหลี่ยม ซึ่งเดิมทีต้องการอยากจะเข้าไปช่วย หลินฟาน แต่มือข้างที่จับอยู่บนด้ามมีดที่เอวของเขา.. มันกลับแข็งทื่อไปแล้ว เขาตอนนี้ตกตะลึงไปอย่างสมบูรณ์
มันดูเป็นเรื่องยาว แต่กระบวนการของ หลินฟาน ในการปราบ ชายร่างผอม กลับเป็นเพียง.. แค่ชั่วพริบตาเท่านั้น การเคลื่อนไหวของเขานั้นต้องบอกว่า รวดเร็ว ตรงไปตรงมา และรุนแรง!
ผู้เชี่ยวชาญ!
หลังจากที่ผู้หญิง และชายร่างผอม กินแห้วกันไปที่ละคน ในที่สุด.. ชายที่มีตาสามเหลี่ยม ก็ตระหนักได้ว่า หลินฟาน เป็นระดับผู้เชี่ยวชาญ!
เหงื่อเย็นๆ หยดหนึ่งปรากฏขึ้นบนหน้าผากของเขา ความดูถูก หลินฟาน นั้นมันได้หายไปแล้ว และแม้กระทั่งเขาตอนนี้ก็ตื่นตัวขึ้นทันที
“คุณ.. เป็นใครกันแน่?” ชายที่มีตาสามเหลี่ยม ได้ถาม
หลินฟาน ยิ้ม และพูดว่า : “คําถามนี้.. ควรที่จะเป็นผมถามคุณมากกว่า ตอนนี้คุณสามารถบอกผมได้หรือยังว่าพวกคุณเป็นใคร และทําไมถึงมองหา หยุนเหมิน?”