ตอนที่ 482 บ่อน้ำสีดำ
ตอนที่ 482 บ่อน้ำสีดำ
บ่อน้ำสีดำลอยขึ้นไปบนฟ้านับสิบเมตรและมีฟองอากาศเป็นจำนวนมากผุดขึ้นมาจากผิวน้ำ คล้ายกับขวดโค้กที่ถูกเปิดออกอย่างฉับพลันหลังจากที่มีคนเข้าไปเขย่าขวดนั้นอย่างรุนแรง
ฟุบ!
เซี่ยเฟยเคลื่อนที่เข้าใกล้บ่อน้ำอย่างรวดเร็ว และถึงแม้ว่าระหว่างทางจะมีเครื่องตรวจจับชนิดต่าง ๆ ติดตั้งเอาไว้อย่างมากมาย แต่ชายหนุ่มได้ใช้วิชาพรางจิตและเคลื่อนที่ไปตามเงามืด มันจึงทำให้เครื่องมือตรวจจับเหล่านั้นไม่สามารถที่จะตรวจจับตัวตนของเขาได้
หลังจากเคลื่อนที่ผ่านเครื่องตรวจจับไปประมาณ 8 เครื่อง เซี่ยเฟยก็หยุดเท้าคุกเข่าลงกับพื้นพร้อมกับขมวดคิ้ว
“ดูเหมือนคุณตาหยูจื่อเทาจะคิดผิดแล้ว เครื่องตรวจจับพวกนี้ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้คนอื่นบุกรุก แต่มันมีไว้เพื่อจุดประสงค์อื่นต่างหาก”
“ถ้าพวกมันไม่ได้มีไว้ป้องกันผู้บุกรุกแล้วพวกมันมีไว้ทำไม?” อันธถามอย่างสงสัย
เซี่ยเฟยชี้นิ้วไปที่เครื่องตรวจจับที่ติดตั้งอยู่บนพื้น โดยเครื่องตรวจจับนี้มีรูปร่างคล้ายไฟฉายที่หดสั้นและมันก็กำลังชี้ตรงลงไปยังบ่อน้ำสีดำ
“เครื่องตรวจจับทุกชิ้นต่างก็ล้วนแล้วแต่ชี้ไปในตำแหน่งของบ่อน้ำ นี่แสดงให้เห็นว่าพวกมันถูกติดตั้งเอาไว้เพื่อตรวจสอบความเคลื่อนไหวจากบ่อน้ำต่างหาก”
“มันมีสิ่งมีชีวิตในบ่อน้ำนี้งั้นเหรอ?” อันธอุทานขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ
“ดูเหมือนสัตว์ในบ่อจะไม่ใช่สิ่งมีชีวิตธรรมดาแต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังจนทำให้ผู้บุกรุกรู้สึกกลัวมาก พวกเขาจึงได้ติดตั้งเครื่องตรวจจับเอาไว้ทั่วทั้งบริเวณแบบนี้” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
“แล้วทำไมพวกเราถึงตรวจจับอะไรไม่ได้เลย?”
“ภายในบ่อมีคลื่นรบกวนอยู่เป็นจำนวนมาก และไม่ว่าจะเป็นการสัมผัสพลังงานของนายหรือการรับรู้ของฉันก็ไม่มีทางเจาะลึกลงไปยังสัตว์ที่ซ่อนตัวอยู่ในบ่อน้ำนี้ได้เลย แน่นอนว่าพวกผู้บุกรุกก็ไม่สามารถตรวจจับสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในน้ำได้ด้วยเหมือนกัน พวกเขาเลยใช้เครื่องตรวจจับติดตั้งเอาไว้รอบ ๆ บ่อน้ำแบบนี้”
“ที่แท้พวกเขาก็มีเป้าหมายอยู่ที่สิ่งมีชีวิตในบ่อน้ำนี้นี่เอง” อันธกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
เซี่ยเฟยยังคงเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วไปตามเงาของป่าโดยไม่พูดอะไร แต่ในครั้งนี้เป้าหมายของเขาไม่ใช่ค่ายของผู้บุกรุกอีกแล้ว แต่เขามุ่งหน้าตรงไปยังเนินเขาที่อยู่ห่างออกไปเพื่อจะคอยสังเกตพฤติกรรมของผู้บุกรุกจากบนที่สูง
“พวกเราจะไม่ไปช่วยพวกตระกูลซุนงั้นเหรอ?”
“ฉันว่าเรารอดูสถานการณ์ไปก่อนดีกว่า ฉันว่าเรื่องนี้มันแปลก ๆ”
เมื่อเซี่ยเฟยขึ้นไปจนถึงเนินเขา เขาก็ได้พบว่าผู้บุกรุกซ่อนตัวอยู่ในป่าอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ จากนั้นพวกเขาก็แบกห่อผ้าออกมาริมบ่อน้ำ โดยคนที่คอยสั่งการคือชายชราหัวโล้นที่เซี่ยเฟยเดาว่าเขาน่าจะเป็นอดีตศิษย์พี่พ่อของซุนซาน
“ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม! น้องห้าโยนเหยื่อออกไปได้!!” ชายหัวโล้นสั่งการอย่างกระวนกระวาย
ระหว่างนั้นผู้บุกรุกทุกคนที่ได้กระจายอยู่ริมชายฝั่งก็หยิบสิ่งที่เหมือนกับเครื่องยิงจรวด RPG ออกมาประทับบ่าของพวกเขาเอาไว้ โดยเล็งเป้าหมายไปที่สิ่งที่อาจจะโผล่ขึ้นมาจากน้ำ
“หือ? นั่นมันอะไร? คนพวกนั้นกำลังต้องการจะจัดการกับสัตว์ตัวใหญ่งั้นเหรอ?” อันธอุทานขึ้นมาด้วยความสงสัย
“อุปกรณ์ที่พวกเขาถืออยู่คืออุปกรณ์ยิงคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เมื่อพวกเขาเปิดใช้งานอุปกรณ์มันจะทำการปล่อยลำแสงแม่เหล็กไฟฟ้าออกไปควบคุมวัตถุที่เป็นเป้าหมายเอาไว้ ปกติมักจะใช้ในการเคลื่อนย้ายวัตถุที่มีน้ำหนักมาก” เซี่ยเฟยกล่าวอธิบาย
“มันเป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่เหมือนระบบแทรคชั่นคอนโทรลเลอร์ของยานรบใช่ไหม?”
“จะว่าแบบนั้นก็ไม่ผิด แต่มันก็มักจะเป็นอุปกรณ์ที่เอาไว้ใช้จับสัตว์อสูรหายากอยู่เหมือนกัน”
ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครพูดอะไรออกมามากกว่านั้น แต่ทั้งอันธและเซี่ยเฟยก็สามารถทำความเข้าใจสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว เพราะการที่คนพวกนั้นหยิบอุปกรณ์ยิงคลื่นแม่เหล็กออกมาถึงเจ็ดกระบอก มันก็หมายความว่าพวกเขาต้องการที่จะจัดการกับเป้าหมายที่มีขนาดใหญ่
ต่อมาชายคนหนึ่งก็ลากคน 3 คนออกมาจากป่า ซึ่งคนที่ถูกลากออกมานั้นคือคู่สามีภรรยาวัยกลางคนกับหญิงสาววัย 20 ต้น ๆ ที่ถูกเชือกมัดเอาไว้อย่างแน่นหนา และมันก็ดูเหมือนกับว่าคนพวกนี้จะเป็นครอบครัวของซุนซาน
“พี่ฉางผมเอาเหยื่อมาแล้ว” ชายผิวเหลืองตะโกนหลังจากที่ลากเชลยทั้งสามมาริมบ่อน้ำ
“หลี่ฉางหลง นี่แกต้องการที่จะจับอสูรผู้พิทักษ์ของสมาพันธ์งั้นเหรอ!” ซุนกวงส่งเสียงตะโกนใส่อดีตศิษย์พี่ของตัวเองอย่างดุเดือด
“อสูรผู้พิทักษ์บ้าบออะไร? ถ้ามันเป็นอสูรผู้พิทักษ์สมาพันธ์จริง ๆ แล้วขาของฉันจะเป็นแบบนี้ไหม?! แกลืมไปแล้วหรือไงว่าตัวอะไรเป็นคนกัดแขนซ้ายของแกไป” หลี่ฉางหลงกล่าวพร้อมกับหัวเราะเสียงดัง
“ถ้าไม่ใช่เพราะความโลภของแกอ สูรผู้พิทักษ์ก็คงจะไม่โกรธจนทำให้ทั้งแกและฉันกลายเป็นคนพิการ อย่าลืมว่าวันนั้นฉันยอมเสียแขนเพื่อช่วยแกเอาไว้ ไม่อย่างนั้นแกก็คงจะตายในบ่อน้ำนี้ตั้งนานแล้ว!” ซุนกวงตะโกนพร้อมกับขมวดคิ้ว
“แล้วยังไง? ฉันต้องขอบคุณแกงั้นเหรอ” หลี่ฉางหลงกล่าว จากนั้นเขาก็เชิดหน้าขึ้นไปบนฟ้าพร้อมกับตะโกนขึ้นมาเสียงดังว่า
“พี่น้อง! ในบ่อน้ำนี้มีสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งอาศัยอยู่ ตราบใดก็ตามที่เราสามารถจัดการกับมันได้และได้รับแก่นชีวิตใต้บ่อน้ำมา พวกเราก็จะสามารถเพลิดเพลินไปกับเกียรติยศความมั่งคั่งได้ตลอดชีวิต ทุกคนเตรียมพร้อมจัดการกับเจ้าสัตว์อสูรตัวนี้ได้เลย”
“ไม่มีปัญหา”
“ฉันรอวันนี้มาตั้งนานแล้ว”
ทุกคนต่างก็ส่งเสียงร้องออกมาด้วยความมั่นใจ เพราะพวกเขาได้เตรียมการจัดการกับสัตว์อสูรตัวนี้มาเป็นอย่างดี
“เรื่องนี้มันเป็นเรื่องระหว่างเรา ถ้าอยากจะแก้แค้นก็แก้แค้นฉันคนเดียว ปล่อยลูกเมียของฉันไปซะ!” ซุนกวงกัดฟันส่งเสียงคำรามออกไป
“ถ้าเราอยากจะจัดการกับอะไรสักอย่างเราก็ควรจะต้องถอนรากถอนโคนของมันให้หมด ไม่ต้องห่วงวันนี้ไม่เพียงแต่ลูกเมียของแกจะตายตามแกไปเท่านั้น แต่ฉันจะไปจัดการกับลูกชายไม่รักดีของแกด้วย อีกไม่นานพวกแกทั้งครอบครัวจะได้ไปพบหน้ากันในนรก” หลี่ฉางหลงกล่าวพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาอย่างน่ากลัว
ทันทีที่กล่าวจบเขาก็ส่งสัญญาณให้พี่น้องของเขาโยนครอบครัวตระกูลซุนลงไปในบ่อน้ำเพื่อเป็นเหยื่อล่อ
“พี่ฉางเจ้าสิ่งนั้นมันออกมาแล้ว! จากความเร็วที่เครื่องตรวจจับวัดขึ้นมาได้มันน่าจะขึ้นมาถึงผิวน้ำในเวลาไม่ถึง 1 นาที” ชายร่างใหญ่ที่กำลังตรวจสอบหน้าจอของเครื่องตรวจจับ และแบกหลี่ฉางหลงเอาไว้บนหลังกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
“อนาคตของทุกคนขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ของวันนี้แล้ว ตราบใดก็ตามที่ทุกคนสามารถจับสัตว์อสูรตัวนั้นเอาไว้ได้ ฉันก็จะเป็นคนทำลายมันลงเอง” หลี่ฉางหลงตะโกนเสียงดังอีกครั้ง
“พวกมันกำลังรอตัวอะไรอยู่กันแน่? แล้วแก่นชีวิตก้นบ่อที่พวกมันพูดถึงคืออะไร?” อันธอุทานอย่างไม่เข้าใจ
“แก่นชีวิตที่พวกมันพูดถึงน่าจะเป็นแหล่งพลังงานที่อยู่ในบ่อน้ำนี้ ส่วนสัตว์อสูรที่พวกมันพูดถึงก็น่าจะเป็นสัตว์อสูรที่คอยปกป้องแก่นชีวิตเอาไว้” เซี่ยเฟยกล่าว
“แก่นชีวิตนั่นสามารถปล่อยพลังงานออกมาหล่อเลี้ยงสมุนไพรได้ทั่วทั้งป่า และทำให้มีสมุนไพรล้ำค่าถือกำเนิดขึ้นมาอย่างมากมาย ถ้าหากว่านายได้รับแก่นชีวิตชิ้นนั้นมา มันก็หมายความว่านายจะสามารถปลูกสมุนไพรล้ำค่าที่ไหนก็ได้ตามแต่ใจนายต้องการ” อันธกล่าวอย่างมีความสุข
คำอธิบายของอันธทำให้เซี่ยเฟยชะงักไปเล็กน้อย เพราะถ้าหากว่าเขาเก็บแก่นชีวิตมาได้จริง ๆ เขาก็จะสามารถสร้างสวนสมุนไพรส่วนตัวได้ในพื้นที่ของตัวเขาเอง
“พวกเราควรจะไปช่วยครอบครัวของซุนซานหรือเปล่า?” อันธกล่าว
เซี่ยเฟยยิ้มเล็กน้อยก่อนที่เขาจะหยิบชุดโกลเด้นสปิริตออกมาจากแหวนมิติ
“ชุดโกลเด้นสปิริต? นั่นมันชุดที่นายตั้งใจจะมอบให้กับแอวริลไม่ใช่เหรอ หรือว่านายจะโยนชุดโกลเด้นสปิริตออกไปให้มันปกป้องครอบครัวของซุนซาน?” อันธกล่าว
“อย่างน้อยฉันก็อยากจะลองใช้งานมันก่อนที่จะมอบให้กับแอวริล และฉันก็คิดว่าการทดลองในครั้งนี้น่าจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมแล้ว” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
อันธพยักหน้าอย่างเห็นด้วย เพราะชุดโกลเด้นสปิริตไม่เพียงแต่จะสามารถปกป้องครอบครัวของซุนซานได้เท่านั้น แต่มันยังเป็นโอกาสที่พวกเขาจะได้ทดสอบประสิทธิภาพของชุดต่อสู้ชุดนี้อีกด้วย ซึ่งมันถือได้ว่าเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
ทันทีที่พูดจบเงาสีดำขนาดใหญ่ก็โผล่ออกมาจากบ่อน้ำพุ่งตรงขึ้นสู่ท้องฟ้าราวกับว่ามันเป็นสัตว์อสูรที่บินได้
“ปลาบิน! สัตว์อสูรนั่นคือปลาบิน” อันธอุทานอย่างตกใจ
เซี่ยเฟยกลั้นหายใจและจับชุดโกลเด้นสปิริตเอาไว้แน่น โดยภายในใจเขาคำนวณเอาไว้แล้วว่าทันทีที่ปลาบินจะจู่โจมเข้าใส่ครอบครัวของซุนซาน เขาจะใช้ความเร็วสูงสุดมุ่งหน้าไปข้างบ่อน้ำและใช้ชุดต่อสู้นี้ปกป้องครอบครัวของซุนซานเอาไว้
ปลาบินขนาดใหญ่ลอยค้างอยู่ในอากาศ จากนั้นมันก็อ้าปากกว้างและจ้องมองไปยังทุกทิศทาง
ร่างกายของมันมีความยาวมากกว่า 2 กิโลเมตร ปากของมันมีความยาวมากและกินพื้นที่ถึง 1 ใน 3 ของร่างกายทั้งหมด ภายในปากเต็มไปด้วยฟันแหลมสีขาวยาวเรียงกันเป็นชั้น ๆ เหมือนกับฟันของฉลาม แล้วมันก็คงจะสามารถบดขยี้ทุกอย่างที่ถูกกัดเข้าไปภายในปากได้ในเวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาที
พวกหลี่ฉางหลงซ่อนตัวอยู่ริมบ่อน้ำขณะที่ปลาบินมองหาพื้นที่บริเวณโดยรอบ ก่อนที่จะได้พบกับครอบครัวของซุนซานในที่สุด
ทันใดนั้นปลาบินก็ส่งเสียงร้องคำรามออกมาด้วยความโกรธ แล้วมันก็สันนิษฐานว่าสิ่งที่ถูกโยนลงไปในน้ำก่อนหน้านี้คือฝีมือของครอบครัวมนุษย์ที่อยู่ตรงหน้ามัน
เมื่อถูกสัตว์อสูรที่น่ากลัวร้องคำรามใส่ในระยะใกล้ พี่สาวของซุนซานก็ส่งเสียงกรีดร้องออกมาอย่างหวาดกลัว ก่อนที่เธอจะหมดสติไปในเวลาเพียงแค่ไม่นาน
ปลาบินสะบัดครีบขนาดใหญ่ข้างลำตัวอย่างรวดเร็วเพื่อทำหน้าที่เป็นเหมือนกับปีกที่ช่วยพัดมันไปในอากาศ แน่นอนว่าปลาบินไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่สามารถลอยอยู่ในอากาศได้นาน แต่มันก็สามารถร่อนอยู่ในอากาศได้นานมากพอจนทำให้มนุษย์เรียกปลาชนิดนี้ว่าปลาบิน
ปลาบินอ้าปากกว้างพร้อมกับเคลื่อนที่เข้าไปหาครอบครัวของซุนซาน
อีกด้านหนึ่งเซี่ยเฟยก็เริ่มเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสุดกำลัง
วินาทีต่อมาร่างของเซี่ยเฟยก็มาปรากฏตัวตรงหน้าครอบครัวของซุนซาน ก่อนที่เขาจะกดปุ่มบนชุดโกลเด้นสปิริตและโยนชุดต่อสู้นี้ไปที่ตัวของซุนกวง
แวบ!
จู่ ๆ ครอบครัวของซุนซานก็หายตัวไปอย่างน่าอัศจรรย์ ขณะที่เซี่ยเฟยก็หลบหนีออกไปอย่างไร้ร่องรอย
ปลาบินชะงักค้างในอากาศโดยไม่เข้าใจว่าจู่ ๆ ทำไมเป้าหมายของมันถึงหายไปอย่างกะทันหัน มันจึงขบขากรรไกรเข้าหากันจนเกิดเสียงฟันกระแทกกันจนทำให้ผู้ฟังรู้สึกไม่สบายใจ
เมื่อเห็นว่าอาหารของมันได้หายไปแล้ว ปลาบินก็ทำได้เพียงแต่หันศีรษะสำรวจพื้นที่บริเวณโดยรอบ ก่อนที่จะเตรียมตัวกลับไปอยู่ในบ่อน้ำของมันเช่นเดิม
“พี่น้องจับมันเอาไว้! อย่าปล่อยให้มันหนีกลับไปได้!!” หลี่ฉางหลงตะโกนสั่งการเสียงดัง
ปลาบินที่ลอยอยู่ในอากาศมีความอันตรายน้อยกว่าตอนที่มันอยู่ในน้ำมาก ซึ่งถ้าหากว่าเขาปล่อยให้ปลาตัวนี้กลับลงไปในน้ำ มันก็คงจะมีเพียงแค่ไม่กี่คนที่จะสามารถปราบปรามมันได้
จิ้ว! จิ้ว! จิ้ว! …
ลำแสงสีขาวทั้งเจ็ดถูกยิงออกไปโอบรัดร่างของปลาบินเอาไว้แน่น แน่นอนว่าสัตว์อสูรตัวนี้ย่อมไม่ยอมให้ใครเข้ามาควบคุมมันไว้ มันจึงพยายามดิ้นรนอย่างบ้าคลั่งเพื่อให้หลุดพ้นจากลำแสงที่พันธนาการร่างของมันเอาไว้
ชายร่างใหญ่ทั้งเจ็ดไม่สามารถที่จะทรงตัวอยู่เฉย ๆ ได้ และทำให้พวกเขาล้มลุกคลุกคลานไปในระหว่างที่ปลาบินกำลังดิ้นอยู่ในอากาศ
ตามแผนเดิมพวกเขาจะรอจนกว่าปลาบินกินครอบครัวของซุนซานเข้าไป ซึ่งในตอนนั้นมันก็จะได้รับผลกระทบจากยาพิษและทำให้พวกเขาจัดการปลาตัวนี้ได้ง่ายดายขึ้นกว่าเดิม
น่าเสียดายที่การเคลื่อนไหวอย่างไม่คาดคิดของเซี่ยเฟยทำให้แผนการของพวกเขาพังทลายลง และเมื่อปลาตัวนี้ไม่ถูกลดความแข็งแกร่งลง ชายร่างใหญ่ทั้งเจ็ดก็ไม่สามารถที่จะสู้แรงดิ้นของมันได้
“พี่ฉางเร็ว ๆ เข้า! พวกเราจะทนไม่ไหวแล้ว”
***************