นักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 23
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 23
อึ้ก
จูเดียลกลืนน้ำลายลงอย่างแรง
'ทำไม? ทำไมเด็กคนนั้นถึงอยู่ที่นี่…?'
เธอไม่เข้าใจว่าทำไม ราอน ซีกฮาร์ท ซึ่งควรจะนอนหลับอยู่ ถึงยืนอยู่ข้างหลังเธอพร้อมถือดาบชี้มาทางเธอ
'เอ่อ…'
เธอพยายามทำความเข้าใจสถานการณ์ แต่เธอไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ นับประสาอะไรกับการพยายามคิดหนีออกจากสถานการณ์นี้ เมื่อเธอเห็นนัยน์ตาสีแดงที่สะท้อนอยู่ในทะเลสาบ
เธอรู้สึกเหมือนหัวใจของเธอถูกบดขยี้ ราวกับว่าเธอกำลังพบกับสายตาของฆาตกรที่คร่าชีวิตคนนับร้อยนับพัน
“ฉันรู้ตัวว่ามีคนเฝ้าดูทุกวันฉันตั้งแต่วันที่ฉันกลับมา”
“ฮึก…”
ตั้งแต่วันที่เขากลับมา… หมายความว่าเขาสังเกตเห็นเธอตั้งแต่ต้น
' ไม่ ไม่มีทางอะ'
เธอได้รับการฝึกฝนให้เป็นสายลับตั้งแต่เด็ก นั่นเป็นเหตุผลที่เธอมั่นใจในความสามารถในการซ่อนตัวของเธอ
ไม่มีทางที่เด็กคนเดียวจะค้นพบตัวตนของเธอและเข้าหาเธอแบบไม่ทันตั้งตัว
“อ้าปาก”
“อ่า…”
คำพูดของราอนไม่ใช่คำขอร้องแต่เป็นคำสั่ง จูเดียลตัวสั่นและอ้าปาก
“อุก…”
นิ้วของเขาดันเข้าไปตามลิ้นของเธอและบังคับให้เธอกลืนบางอย่างลงไป
“กรี๊ด!”
เธอกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด เหมือนมีเหล็กแหลมทิ่มแทงหลอดอาหารและกระเพาะของเธอ
เธอสูดหายใจ ภายในช่องท้องของเธอเหมือนกับถูกไฟลวก ถึงขนาดที่เธอรู้สึกอยากจะลอกท้องออกมา
ตู้ม!
ราอนปล่อยจูเดียลให้ดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวด เขาลงไปในทะเลสาบและหยิบกระดาษสีน้ำเงินเข้มขึ้นมา
สีหน้าของราอนมืดลงในขณะที่เขาคลี่กระดาษออก
“ไม่ใช่กระดาษธรรมดานี่”
“อึก…”
จูเดลปิดปากของเธอไว้ แม้จะเจ็บปวดแสนสาหัสแต่เธอก็ไม่ยอมพูดออกมา เธอจะไม่ยอมเสียศักดิ์ศรีในฐานะสายลับไปเด็ดขาด
“…”
ราอน ซีกฮาร์ท พยักหน้าหลังจากจ้องตาเธอสักพัก
“ดิน... น้ำ... ลม... ไฟ...”
ทันใดนั้นเขาก็เริ่มพูดชื่อธาตุต่างๆ ดูเหมือนเขาจะกำลังหาวิธีตรวจสอบเนื้อหาในกระดาษอยู่
“… แสงแดด แสงจันทร์”
“…”
คำตอบนั้นคือแสงจันทร์ แต่จูเดียลไม่ยอมตอบสนอง เธอกัดลิ้นของเธอและอดทนกับความเจ็บปวดภายในร่างกาย
“เป็นแสงจันทร์สินะ...”
“ฮะ…?”
เหมือนใจเธอหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม ราอน ซีกฮาร์ท พูดคำตอบที่ถูกต้องได้ทันทีหลังจากสบตาเธอ
'ด...รู้ได้ยังไง?'
เธอไม่ได้แสดงปฏิกิริยาใดๆนอกจากความเจ็บปวด แล้วเขาจะรู้ความลับของกระดาษได้อย่างไร
เขาพลิกกระดาษและวางไว้ใต้แสงจากดวงจันทร์ชั่วครู่ จากนั้นจึงเริ่มอ่าน
“เธอส่งสิ่งนี้ไปให้ใคร”
“…”
ราอนถามคำถามของเขาด้วยสีหน้าเย็นชา ตอนนี้จูเดียลรู้สึกกลัวมากกว่าเจ็บปวดเสียอีก
“...อาเรียส ซีกฮาร์ท”
เธอพูดชื่อลูกสาวคนโตของ เกล็น ซีกฮาร์ท ออกมา นั่นทำให้ราอนมองเธออย่างกดดันอีกครั้ง
“คารุน ซีกฮาร์ท หรือว่าเดเนีย… อ๋า เป็น คารุน ซีกฮาร์ทนี่เอง”
“อ๊ากก!”
จูเดียลเริ่มตะโกน เธอไม่สามารถอดกลั้นได้อีกต่อไป
“ใคร… เธอเป็นใครกันแน่!”
เธอสั่นด้วยความกลัวกับการเผชิญหน้าเขา
' เด็กคนนี้เป็นตัวอะไรกันแน่?!'
การแสดงออกและความอดทนเป็นสิ่งแรกๆที่เหล่าสายลับต้องเรียนรู้
เป็นไปไม่ได้ที่เด็กคนนี้คนเดียวจะจับผิดเธอได้โดยการมองตาเพียงอย่างเดียว
“…”
ราอน ซีกฮาร์ท เอาแต่จ้องมองเธอโดยไม่พูดอะไร จูเดียลก้มลงพยายามหลบสายตาที่จ้องเขม็งของเขา และเธอก็คิดอะไรบางอย่างได้
'หรือว่าเขาไม่ได้อ่านจากการแสดงออกของฉัน?'
สายตาของเขาไม่ได้กำลังตรวจสอบเธอ เขาแค่มองเธออย่างใจเย็น
'ไม่มีทางหรอกน่า…'
ความเจ็บปวดรวดร้าวแล่นผ่านช่องท้องของเธอ… วิธีที่ราอนอ่านความคิดของเธองั้นเหรอ… หรือว่า...
“ธ… เธอเอาหนอนคลั่งให้ฉันกินใช่มั้ย!?”
“เธอรู้จักหนอนคลั่งด้วยเหรอ?”
สีหน้าของราอนเปลี่ยนไปเป็นครั้งแรก เขาหัวเราะ เธอเป็นแค่สายลับธรรมดาแต่ก็รู้จักหนอนคลั่ง
“อุ่ก!”
เธอรู้สึกเหมือนกำลังจะอ้วก
'ไม่มีทาง… หนอนคลั่งเหรอ?!'
หนอนคลั่งเป็นหนึ่งในคำสาปที่เลวร้ายที่สุดในโลก โดยการทำให้มันเข้าไปในร่างกายของเป้าหมาย ผู้ใช้จะสามารถแยกแยะตำแหน่งของเป้าหมายรวมถึงรู้ความคิดของพวกเขาได้ด้วย
ส่วนที่แย่ที่สุดก็คือ ไม่ว่าเป้าหมายจะอยู่ไกลแค่ไหน ผู้ใช้ก็สามารถสั่งฆ่าเป้าหมายได้ทุกเมื่อที่ต้องการ—ฆ่าพร้อมกับให้ความเจ็บปวดที่แสนทรมาน
'มีแค่สิ่งเดียวที่เป็นไปได้ มันคือหนอนคลั่งแน่นอน!'
“ยังไง… นายใช้ หนอนคลั่ง... ได้ยังไง…?”
เธอสงสัยว่าเด็กอ่อนแอวัยสิบสามปีจะใช้หนอนคลั่งได้อย่างไร แม้ว่านั่นเป็นสิ่งเดียวที่เธอนึกขึ้นได้
“นั่นไม่น่าสำคัญเท่าไหร่นะ”
ราอน ซีกฮาร์ท เดินเข้ามาหา แกว่งกระดาษไปมาต่อหน้าเธอ
“…”
เขาพูดถูก หนอนคลั่งเข้าสู่ร่างกายของเธอแล้ว เธอจึงไม่สามารถวิ่งหนีหรือขัดขืนได้
“เธอทำงานให้คารุน ซีกฮาร์ท แสดงว่าเธอต้องเป็นสายลับจากศูนย์บัญชาการทหารและเธอคงเริ่มติดตามฉันมาตั้งแต่เจ็ดเดือนก่อน”
“…!”
ดวงตาของจูเดียลเบิกกว้าง เขาพูดถูกอีกครั้ง เธอมาที่อาคารรองหลังจากพิธีทดสอบเมื่อเจ็ดเดือนก่อน นี่เป็นสิ่งยืนยันอีกครั้งว่าเขากำลังใช้หนอนคลั่งกับเธอ
“เธอสืบข้อมูลทุกอย่างไปแบบละเอียดถี่ถ้วนแล้วสินะ... ไม่ใช่แค่เรื่องของฉัน แต่ยังเกี่ยวกับแม่ของฉัน เฮเลน และสาวใช้คนอื่นๆ ด้วย”
ราอน ซีกฮาร์ท ยิ้มเย็น เขามองไปที่ตัวอักษรที่ส่องแสงภายใต้แสงจันทร์ การแสดงออกของเขาทำให้หลังของจูเดียลเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ
'ฉันไม่น่ารับภารกิจนี้เลย'
เธอคิดว่ามันเป็นภารกิจที่ง่าย
อาคารรองไม่มีนักดาบเลยและมีแต่คนใจดีอาศัยอยู่ สิ่งที่เธอต้องทำแค่เพียงรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเด็กที่ชื่อราอนและซิลเวียที่พิการ เธอคิดว่างานมันน่าจะง่ายแสนง่าย
แต่เธอคิดผิด
มีสัตว์ประหลาดอาศัยอยู่ในอาคารรองนี้ และเป็นสัตว์ประหลาดที่น่ากลัวอย่างยิ่ง การจ้องมองเข้าไปในดวงตาสีแดงของเขาทำให้เธออยากจะชิงฆ่าตัวตาย
“อึก…”
เธอหยิกแขนของเธอ
กลิ่นอายความกระหายเลือดที่มาจากราอนทำให้เธอรู้สึกเหมือนตัวของเธอจะขาดออกจากกัน และกระเพาะอาหารที่มีหนอนคลั่งอาศัยอยู่ก็รู้สึกเหมือนกำลังจะระเบิด
“ด… เดี๋ยวฉันจะเปลี่ยนเนื้อหา ฉันจะส่งกระดาษของปลอมไป…”
“ไม่จำเป็นหรอก”
ราอน ซีกฮาร์ท ลดกระดาษลง ตัวอักษรที่เคยสะท้อนแสงจันทร์ก็หายไป เขาพับกระดาษและวางมันลงในทะเลสาบอีกครั้ง
“ทะ-ทำไมถึง…?”
“เดี๋ยวไม่นานคารุนก็จะรู้อยู่ดี ส่งเนื้อหาปลอมไปก็มีแต่จะทำให้เขารู้ถึงความไร้ความสามารถของเธอแค่นั้น”
“อึก!”
ราอนคุกเข่าและสบตากับเธอ มือและเท้าของเธอสั่นเทาเมื่อเห็นดวงตาสีแดงดั่งเลือดของเขา
“เธอรายงานเขาบ่อยแค่ไหน”
“ฉ-ฉันต้องรายงานทุกๆ สองสัปดาห์...”
“เพราะเรื่องที่ฉันชนะเบอร์เรนในวันนี้ ช่วงเวลาก็น่าจะสั้นลงเป็นหนึ่งสัปดาห์ใช่ไหม”
“ใช่แล้วค่ะ…”
จูเดียลพยักหน้า มันน่าจะเป็นอย่างนั้น
“เธอต้องเป็นสายลับสองหน้าตั้งแต่ตอนนี้ไป ซ่อนข้อมูลที่สำคัญไว้ และรายงานเขาด้วยข้อมูลที่ในไม่ช้าเขาจะรู้เอง ในทางกลับกันให้นำข้อมูลที่มีค่าจากฝั่งเขามาให้ฉัน”
“ข-เข้าใจแล้วค่ะ”
เธอพยักหน้าอย่างหนักแน่น เธอต้องทำทุกอย่างเพื่อให้พ้นจากสถานการณ์ปัจจุบัน
“ฉันหวังว่าฉันจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์นะ”
พูดจบเขาก็เดินหายไปในความมืด
“....…”
เธอทรุดลงกับพื้น
จูเดียลยังคงรู้สึกเหมือนดวงตาสีแดงของเขาจับจ้องเข้าไปในหัวใจของเธอ
“ค… ความเจ็บปวดนี้…”
ความเจ็บปวดหายบรรเทาลงไปส่วนหนึ่ง ดูเหมือนว่าราอน ซีกฮาร์ท จะควบคุมหนอนคลั่งไว้
'ปีศาจ...'
เธอไม่กล้าแม้แต่จะขัดขืนเขา เขาเป็นสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าความตายและเขายังอาศัยอยู่ในอาคารรอง
“ฮึบ!”
จูเดียลกัดริมฝีปากของเธอและวิ่งไปยังที่พัก ความกลัวที่ราอนทิ้งไว้จะฝังลึกอยู่ในใจของเธอไปตลอด
* * *
* * *
เจ้าเรียกใช้หนอนคลั่งตอนไหนกัน?
“มันไม่ใช่หนอนคลั่ง”
ราอนที่กลับมาถึงห้องแล้วส่ายหัว
งั้นอะไร?
“ฉันป้อนยาพิษให้เธอ มันเพียงทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงชั่วคราว”
เขาเคยตกเป็นเหยื่อของหนอนคลั่งในชาติที่แล้ว แต่เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะอัญเชิญมันได้อย่างไร สิ่งที่เขาให้จูเดียลเป็นเพียงยาพิษสำหรับใช้ทรมาน
“ฉันจะไม่ใช้สิ่งที่เหมือนหนอนคลั่งแน่นอน”
เขาไม่ต้องการที่จะใช้คำสาปที่น่ากลัวแบบนั้น ถ้าเขาเจอหนอน เขาคงจะเหยียบมันให้เละทันที
แล้วเจ้าไปเอายาพิษนั้นมาจากไหน?
“ฉันทำมันขึ้นมาเองแหละ”
ก่อนหน้านี้ ที่เจ้าไปที่ห้องครัวกับโกดังเก็บของ...
“ใช่แล้ว..”
สูตรยาพิษนั้นมีอยู่ในความทรงจำของเขาอยู่แล้ว เขาเพียงต้องหาวัตถุดิบที่พอจะทำมันได้
แล้ว... เรื่องที่ก่อนหน้านี้เจ้าอ่านความคิดของเธอได้ล่ะ?
“ใช่ ฉันอ่านความคิดเธอ”
เจ้าทำแบบนั้นได้อย่างไรโดยไม่ใช้หนอนคลั่ง?
“ดูการแสดงออกของเธอ แต่บางอันก็เดาเอาน่ะ”
การแสดงออกของเธอ? แต่เธอรักษาสีหน้าเดิมตลอดไม่ใช่รึไง?
เปลวไฟสีน้ำเงินของราธสั่นไหว ดูเหมือนมันจะไม่เข้าใจว่าเขาทำได้อย่างไร
“ฉันรู้ละกันน่า”
เขาใช้ชีวิตเป็นนักฆ่ามามากว่ายี่สิบปี เขามีประสบการณ์กับการถูกทรมาน มันจึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะอ่านความคิดของจูเดียล
ราชาแห่งแก่นแท้ไม่เคยเห็นเด็กอายุสิบสามปีที่รู้วิธีที่จะฝังความกลัวลงในจิตใจผู้คน...
มันพูดถูก
ถ้าเขาไม่มีประสบการณ์จากการเป็นนักฆ่ามาก่อน เขาก็คงไม่รู้
เขาตระหนักว่าชาติที่แล้วของเขามีประโยชน์มากทีเดียว
“คารุน ซีกฮาร์ท...”
ราอนทวนชื่อคารุน เขาสามารถเดาเหตุผลที่ส่งจูเดียลมาได้ เขาคงสงสัยการกระทำของเขาในพิธีทดสอบ
เขาคิดผิดแล้ว...
ถ้าแค่จับตาเขาก็ไม่เป็นไร แต่นี่ยังรวมซิลเวีย เฮเลน และสาวใช้ทุกคนในอาคารเสริมด้วย นั่นเป็นเรื่องที่เลวร้ายที่สุดที่เขาสามารถทำได้เลย
แต่ทำไมเจ้าไม่ใช้ข้อมูลปลอม
ราธถามด้วยความสงสัย
เธอเขียนว่าเจ้าควบคุมความเย็นได้มากขึ้นและได้รับเทคนิคการปลูกฝังออร่าที่ยอดเยี่ยม เจ้าแน่ใจนะว่าไม่อยากกลับไปแก้มัน?
“นั่นเป็นแค่ข้อมูลเล็กๆน้อยๆเอง ถ้าอยากหลอกเขาก็ต้องให้ข้อมูลเยอะๆสิ”
ราอนปัดผ้าปูที่นอน เขาพูดต่อ
“เธอจะได้รับความไว้วางใจมากขึ้นถ้าเธอส่งไปแต่ข้อมูลที่เป็นความจริง แล้วถ้าฉันให้ส่งข้อมูลเท็จที่ไร้ประโยชน์ไปหลังจากนั้น... ฉันจะมีโอกาสมากขึ้นในการกำจัดคารุน”
…
ราธหายใจไม่ออก ราอนวางแผนเรื่องนี้ได้อย่างรวดเร็วเกินไป
เห็นได้ชัดว่าเจ้าอายุยังไม่ถึงสิบสามปี เจ้ากินงูเหลือมอายุร้อยปีเข้าไปหรือไง
“แค่งูเหลือมเหรอ?”
ราอนยกยิ้มเย้ยหยันใส่ราธ
'ฉันไม่ใช่งูเหลือม ฉันเป็นนักฆ่าต่างหาก'
ฉันเป็นนักฆ่าที่ยอดเยี่ยมที่สุด
***
รูนัน ซัลเลียน ไม่ได้หยุดฝึกฝน แม้กระทั่งอยู่ในช่วงพักผ่อน
เธอไม่สามารถอยู่เฉยๆได้ เมื่อนึกถึงการเคลื่อนไหวที่ราอน ซีกฮาร์ทแสดงออกมาในวันทดสอบ
อย่างไรก็ตาม …
“ฉันทำแบบนั้นไม่ได้”
เธอฝึกโดยใช้อุปกรณ์ในบ้าน น้ำหนักที่เธอยกได้ลดลงอย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับตอนที่เธออยู่ที่สนามฝึก
ไม่ใช่แค่อุปกรณ์เท่านั้น การวิ่งระยะไกลและการฝึกความแข็งแกร่งอื่นๆ ทำได้ไม่ดีเช่นกัน
“อืม…”
เธอครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่มีเพียงคำตอบเดียวเท่านั้น
“ราอน ซีกฮาร์ท...”
ราอนไม่ได้อยู่ที่นี่ เขาไม่ได้อยู่ข้างๆเธอเหมือนเดิม...
กลิ่นหอมจากตัวของราอนนั้นหอมมาก เธอจึงเสพติดการสูดกลิ่นเขาโดยไม่รู้ตัว
'ฉันต้องการเขา'
รูนัน ซัลเลียน พยักหน้ากับตัวเองและออกจากสนามฝึก
“รูนัน?”
โรแคน ซัลเลียน หัวหน้าตระกูลซัลเลียน ขมวดคิ้วขณะที่เขาเห็นรูนันเดินออกจากสนามฝึก
“ลูกกำลังจะไปไหน? เราต้องฝึกด้วยกันก่อน”
“ไปหาราอน”
“ราอน? …หมายถึง ราอน ซีกฮาร์ท หรือเปล่า?”
“อืม..”
“ทะ-ทำไมลูกต้องไปหาเขา? แล้วทำไมต้องไปตอนนี้ด้วยล่ะ เราควรจะฝึกด้วยกันก่อนไหม?”
โรแคน ซัลเลียน พูดตะกุกตะกัก เพราะเขากำลังตกใจ มือของเขาสั่นเพราะรูนันบอกว่าเธอต้องการไปหาราอน ทั้งๆที่เขาหาเวลามาเล่นกับลูกสาวคนเล็กได้อย่างยากลำบาก
“เพราะกลิ่น กับการฝึกฝน”
“หา?”
เขาไม่เข้าใจที่เธอพูด
“หนูจะไปแล้ว”
รูนันปัดฝุ่นเสื้อผ้าของเธอและออกจากสนามฝึก
“เดี๋ยวก่อนสิ! ฝึกที่นี่กับพ่อก็ได้นี่!”
“หนูต้องไปฝึกที่นั่น!”
รูนันเดินหนีไปอย่างเด็ดเดี่ยว
“ลูกเอาแต่พูดว่าต้องไป ร-ราอนทำอะไรกับลูกหรือเปล่า ?”
“ทำอะไรงั้นเหรอ?”
เธอก้มหน้าลงอย่างครุ่นคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับราอน
'เขาช่วยเหลือฉัน'
ราอนไม่ได้ช่วยเธอโดยตรง แต่เขาทำให้เธอสามารถฝึกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้นเธอจึงได้รับ ‘ความช่วยเหลือ’ จากเขาอย่างแน่นอน
“ใช่ค่ะ เขาทำ”
“เหอะ! ราอน ไอ้สารเลว!”
โรแคน กัดฟันของเขา
'แกกล้าดียังไงมาขู่ลูกสาวฉัน!'
โรแคนเพิ่มจินตนาการของเขาในคำตอบสั้นๆ ของรูนัน เขาเห็นภาพของลูกสาวผู้น่าสงสารของเขาที่สั่นเทาด้วยความกลัวจากการข่มขู่ของราอน
“โอ้ นายท่านทำไมถึงยังอยู่ที่นี่! นายท่านต้องไปทำงานได้แล้วนะครับ! ตารางงานวันนี้เลื่อนออกไปอีกไม่ได้เด็ดขาดเลย…”
“เอาดาบของฉันมาเดี๋ยวนี้!”
โรแคนตะโกนใส่พ่อบ้านที่มาตามเขา
“เอ๊ะ? ดาบ?
“พ่อจะไปด้วยรูนัน! พ่อจะปล่อยมันไปไม่ได้!”
โรแคนขึงตา ดูเหมือนว่าเขาจะไปทำลายอาคารรองของซีกฮาร์ทอย่างไรอย่างงั้น
“ฮะ????”
พ่อบ้านอ้าปากค้าง เขาปวดหัวอยู่แล้ว นี่จะต้องรับมือกับความยุ่งเหยิงที่นายท่านของเขากำลังจะก่อขึ้นอีก
“ทำอะไรอยู่น่ะ! ฉันบอกให้เอาดาบมาให้ฉัน!”
“ด-เดี๋ยว ขอเวลาสักครู่นะครับ! นายท่าน! ได้โปรดคุยกับผมก่อน…”
“จะต้องพูดอะไรอีก! ฉันต้องการดาบและจะไปลงโทษมันเท่านั้น!”
“อ๊าาา…”
พ่อบ้านหันไปทางรูนันอย่างขอความช่วยเหลือ เธอกำลังจ้องมองที่โรแคนด้วยสีหน้าว่างเปล่าซึ่งทำให้ไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เขาคงคาดหวังให้เธอช่วยไม่ได้เลย
'เหลือคนเดียวที่จะช่วยฉันได้สินะ'
เขารีบหันเข้าไปในคฤหาสน์เพื่อมองหานายหญิง แทนที่จะเป็นดาบของโรแคน
***
“งั้น.. ลูกกำลังจะบอกว่าราอนช่วยเหลือลูกในการฝึกฝน ไม่ใช่ข่มขู่... ใช่ไหม?”
“อืม”
รูนันพยักหน้าให้กับคำถามของคลาร่า
“ที่รัก”
ดวงตาสีม่วงของคลาร่าทิ่มแทงไปทางด้านซ้ายของเธอ
“ไม่ๆๆ ในเหตุการณ์นั้นใครๆก็คงคิดว่าลูกโดนข่มขู่แน่ ลูกเอาแต่บอกฉันว่าต้องไปให้ได้ ใครๆก็เข้าใจผิดได้ ใช่! เป็นใครก็เข้าใจผิดทั้งนั้น!”
โรแคนที่เคยจะพุ่งเข้าใส่โดยไม่คิด ตอนนี้กำลังหมอบคุกเข่าอยู่ที่มุมห้อง
“หยุดพูดแล้วกลับไปทำงานได้แล้ว”
“ไม่ได้! ว-วันนี้ฉันจะเล่นกับรูนัน...”
“เงียบ”
“อ-โอเค”
“เดี๋ยวฉันจะกลับมาดู คุณต้องกลับไปทำงานให้เสร็จ”
“ด-ได้ครับ ไม่มีปัญหาครับ”
โรแคนรีบกลับเข้าไปในห้องของเขาในคฤหาสน์ เขาทรุดตัวลงทันทีอย่างผิดหวัง ผิดกับร่างกายใหญ่โตของเขา
“รูนัน”
“...?”
“หนูพูดขอบคุณคุณชายราอนหรือยัง”
“หนูบอกเขาไปแล้วตอนที่เขาส่งขนมให้”
“แล้วตอนที่เขาช่วยลูกฝึกล่ะ?”
“...หนูยังไม่ได้พูด”
“ฮ่าๆๆ”
คลาร่าระเบิดหัวเราะขณะที่เธอแปรงผมให้รูอัน
“งั้นครั้งต่อไปก็อย่าลืมบอกขอบคุณเขานะจ๊ะ”
“แต่พ่อ...”
“หืม?”
“พ่อบอกหนูว่าห้ามหนูพูดกับเด็กผู้ชายก่อน...”
“ฮะ?...ฮ่าๆๆ!”
คลาร่าหัวเราะ พ่อบ้านที่มองเหตุการณ์อยู่นั้นมั่นใจว่าโรแคนจะต้องถูกดุตลอดทั้งคืนแน่นอน
“ลืมสิ่งที่พ่อพูดไปเถอะ มันเป็นมารยาทที่ต้องขอบคุณเมื่อได้รับความช่วยเหลือนะ ไม่เกี่ยวว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงหรอก ลูกเข้าใจแล้วใช่มั้ยจ๊ะ?”
“อืม...”
“แล้ว...วันนี้ลูกอยากฝึกซ้อมกับแม่แทนไหมจ๊ะ?”
“อืม...”
เธอกลับไปที่สนามฝึกซ้อมพร้อมกับคลาร่า รูนันเก็บเรื่องของราอนเอาไว้ก่อน
'ฉันต้องไปบอกเขาว่าขอบคุณ...'
เธอรู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อยเมื่อคิดว่าจะต้องชวนเขาพูดก่อน