ตอนที่ 35
“หืมอัคคีเป็นไรอ้อทำไมทำท่าทางแบบนั้น”แพรกล่าวทักขึ้นมาเพราะเห็นอัคคีคิ้วขมวดจนชนกัน
“อ้อเปล่าหรอกไม่มีไรเราไปกันเลยปะ”อัคคีบอกปัดไป
.
.
“ไอ้อัคคีแกแน่ใจนะวะว่าเรือยอร์ชลำนี้อะ”น้ำหันมากล่าวถามอัคคีอย่าง งงๆ หลังจากที่เดินมาถึงที่จอดเทียบท่าเรือแล้วเห็นขนาดของเรือที่เปลี่ยนไป
“เรือแกนี้โตวันโตคืนดีนะ”เนกล่าวออกมาอย่างสนอกสนใจ
“อย่าว่าเหอะว่าพวกฉันแซวแค่ว่ามันเล็กไปแกเลยเปลี่ยนเลยอะ”ไฟท์กล่าวถามอัคคีออกมาอย่างปลงๆพวกเค้าก็แค่แซวเล่นๆเองแล้วเอ็งจะคิดเป็นจริงเป็นจริงเป็นจรังทำไมวะ
“แหงแหละใครบอกให้พวกแกกล่าวแซวแบบนั้นออกมากันเปล่าหรอกฉันเห็นว่าคนมันเยอะขึ้นนะเรือลำนั้นมันเล็กไปเลยเปลี่ยนมาเป็นลำนี้แทน”ประโยคแรกอัคคีพรึมพรำกับตัวเองส่วนปประโยคหลังอัคคีกล่าวกับเพื่อนของตนแบบแถสีข้างถลอกไป
“นี้แพรอัคคีรวยแค่ไหนกันเนี่ย”ฟ้ากล่าวถามเพื่อนสาวตน
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันฉันรู้แค่ว่ารวยมากตอนนี้น่าจะติดท็อป 10 รวยที่สุดในประเทศแล้วละมั้ง”แพรกล่าวออกมาถ้านับรวมทรัพย์สินทั้งหมดของอัคคี
“เหขนาดนั้นเลยหรอ”นุ่นอุทานออกมา
“โอววคุณอัคคีมาแล้วหรอครับทุกอย่างเตรียมไว้พร้อมหมดแล้ว”เดวิดกล่าวออกมาเพราะเค้าจะเดินออกมาเช็กว่าใครมาป่วนเปี้ยนแถวนี้อีกเพราะได้ยินเสียงคุยกันแว่วๆมาเมื่อเช้าเค้าก็พึ่งไล่ไปเพราะนักท่องเที่ยวนึกว่าเรือยอร์ชลำนี้เช่าได้เพราะส่วนใหญ่ที่จอดอยู่นี้ก็ปล่อยเช่าทั้งนั้นเค้าจึงต้องรับหน้าแล้วบอกไปว่านี้เป็นเรือส่วนตัว ส่วนสิ่งที่เดวิดเตรียมให้คือ อุปกรณ์ตกปลา ประกอบไปด้วย คันเบ็ดตกปลา รอกตกปลา โยกุ้งสำหรับตกหมึก Snapหรือกิ๊บ สำหรับตกหมึกและปลา สายเอ็น และไฟล่อหมึก (สำหรับล่อหมึกตอนกลางคืน) เพื่อพวกเค้าเบื่อๆไม่มีไรทำเลยเตรียมไว้เพื่อให้แล้วพลางกล่าวขึ้นมาอีก
“เออแต่ผมต้องรบกวนคุณอัคคีหาคนงานบนเรือเพิ่มแล้วละครับด้วยขนาดของเรือที่เพิ่มขึ้นจากAzimut 77S motor yachtsเป็น Azimut Grande 27 METRI เพราะผมเองก็ขับแต่เรือเป็นแต่ทำอย่างอื่นไ่ได้หรอกพวกดูแลอุปกรณ์ต่างๆให้คนที่เชี่ยวชาญทำดีกว่ามันปลอดภัยกว่าเยอะ”เดวิดยิ้มแห้งๆกล่าวออกมา
“เออแหะๆผมลืมคิดเรื่องนี้ไปเหมือนกัน”อัคคียิ้มแหหยๆกล่าวออกมาพลางกล่าวกับระบบว่าทำไมนายไม่ใจดีแถมลูกเรือให้เดวิดบ้างละ
[ติ๊ง ชิชะได้คืบจะเอาศอก]
“โอววถ้างั้นก็ฝากคุณจัดจารเลยละกันยังไงพวกเค้าก็ต้องเค้ามาเป็นลูกน้องของคุณอีกทอดหนึ่งผมคิดว่าให้คุณที่อยู่แวดวงนี้เป็นคนหาจะดีกว่านะ”อัคคีกล่าวบอกเดวิดพลางทำท่าเมินข้อความที่เด้งขึ้นมาอยู่ข้างหน้าตน
[…..]
“โอเคครับไม่มีปัญหาแม้แต่มิลเดียวงั้นขึ้นเรือกันเถอะพวกอุปกรณ์ผมจัดเตียมไว้ตรงด้านหน้าเรือแล้วเชิญเลยครับ”เดวิกล่าวออกมาพลางเดินนำขึ้นเรือไปเพราะเค้ามีหน้าที่ต้องขับเจ้านี้ไปไกลๆหน่อยจะได้ตกหมึกตกปลาได้สะดวก
“ปะ”อัคคีกล่าวขวนพลางเดินนำหน้ากลุ่มเพื่อนขึ้นไป
.
.
“อัคคีมาแข่งกันไหมวะใครตกได้เยอะกว่ากัน”น้ำกล่าวท้าทายออกมา
“เหอะๆแกในใจอ้อวะไอ้น้ำที่กล่าวท้าทายมหาเทพตกปลาอย่างฉัน”อัคคีกล่าวเกทับออกไป
“ของแบบนี้ไม่ลองไม่รู้หรอกโว๊ย”น้ำตะโกนออกมาพลางเหวี่ยงคันเบ็ดของตนออกไป
ส่วนของอัคคีนั้นใจเย็นกว่าน้ำมากเค้าได้เดินหนาทีเหมาะๆในการตกปลาก่อนเหวี่ยงคันเบ็ดออกไปยกคันเบ็ดไว้ประมาณ60-70องศากำลังพอดีเพื่อให้มีแอคชั่นหรือพลังในการสู้กับปลาเมื่อปลาติดเบ็ดจะไม่ได้ออกแรงหรือเสียแรงจนมากเกินไป
“แกคิดว่าไงวะไอ้ไฟท์”เนหันมากล่าวถามไฟท์ที่ยืนรับลมชิวๆอยู่ข้างตน
“ฉันว่าพวกมันไม่หยักกะได้สักตัวแน่นอนไอ้น้ำอะมือใหม่แน่นอนส่วนไอ้อัคคีคงเคยตกปลามาบ้างแต่ตอนนี้เรือมันพึ่งจอดได้ไม่นานอะไรจะมากินให้มันวะเรือก้ไม่ได้ลำเล็กๆน้ำสาดกระจายขนาดนี้ปลากับหมึกคงแตกกระเจิงไปหมดแล้วมั้ง”ไฟท์กล่าวไปพลางหาวไปพลาง
“แต่ว่าก็ว่าเถอะบรรยากาศดีชะมัดยากเลยแหะลมทะเลพัดอ่อนๆไม่ร้อนไม่หนาวอากาศกำลังพอดีเหมาะแก่การนอนหลับจริง”ไฟท์กล่าวออกมา
หลังจากนั้น2ชั่วโมงต่อมาก็เป็นอย่างที่ไฟท์กล่าวว่าน้ำกับอัคคีคงตกไม่ได้สักตัวจนพวกเค้ายอมแพ้ไปในที่สุดเพราะยืนอยู่ในท่านั้นมา2ชั่วโมงแล้วสุดท้ายต้องให้เดวิดลงมือถึงตกหมึกมาได้5ตัวเป็นตัวใหญ่1ตัวขนาดกลางอีกหนึ่งตัว
“เห็นไหมฉันบอกแล้ว”ไฟท์กล่าวออกมา
“เห้ๆแล้วทำไมพวกแกสองคนถึงไม่มาช่วยพวกฉันตกกันวะ”น้ำกล่าวถามออกมา
“ใครบอกละ เราตกได้คนละตัวตั้งแต่ชั่วโมงก่อนแล้วต่างหาก”เนกล่าวออกมาพลางโชว์ถังที่มีหมึกอยู่ในถังสองตัวให้อัคคีกับน้ำดู
“แล้วพวกเอ็งไปตกมาไงวะ”อัคคีกล่าวถามออกมา
เนกับไฟท์หันหน้ามองกันกะพริบตาปริบๆแล้วพูดออกมาพร้อมกันว่า
“คนมันมีฝีมืออะดิไม่เหมือนพวกไก่อ่อน”เนกับกับไฟท์กล่าวออกมาพร้อมกันพลางสงสายตายียวนกวนประสาทไปที่น้ำกับอัคคีทั้งคู่
อัคคีกับน้ำมุมปากกระตุกทันที
“เอาละๆเลิกแกล้งกันได้แล้วได้เวลาพวกเราโชว์ฝีมือแล้วละ”พรกล่าวห้ามทั้งสี่คนทันทีพลางเดินมายกถังที่ใส่หมึกของเนกับไฟท์แล้วก็ของเดวิดไปที่ครัวทันที
“ดีนะที่แนนให้ไฟท์กันเหนียวแวะซื้อปลาแซลม่อนที่ร้านที่หาดไว้ก่อนกันเหนียวเพื่อตกไม่ได้แต่ก็ดีแล้วละที่ตกกันได้นะ”แนนกล่าวออกมาส่วนวิธีการทำซาซิมิปลาหมึกนั้นก็ง่ายๆหันเอาส่วนของหนวด ออกจากส่วนหัว จากนั้นก็กีดลำตัวของมัน แล่เอาเครื่องในออก จนเหลือแต่แผ่นเนื้อใส ๆ หั่นใส่จาน กินกับโชยุและวาซาบิ เป็นอาหารที่ขึ้นชื่ออย่างมากของญี่ปุ่น พอสาวๆทำเสร็จก็ยกออกมาเสริฟทันทีส่วนปลาแซวม่อนจะเอาไว้กินกันรอบดึกเป็นปาร์ตี้เล็กๆของพวกเค้าเพราะกะจะเปลี่ยนบรรยากาศการนอนบ้างเพราะว่าเรือลำนี้มี8ห้องนอนพอดีคนพอดีส่วนเดวิดต้องบังขับเรืออยู่ตลลอดเลยกะจะพักสายตาอยู่ที่ห้องบังคับเรือ
“รสชาติใช้ได้จริงแหะๆฉันถึงว่าทำไมมันฮิตหนักฮิตหนา”ฟ้ากล่าวออกมา
“แต่ฉันก็อยากลองหมึกช็อตบ้างนะ”นุ่นเคี้ยวแก้มตุ่ยๆเสร็จแล้วกล่าวออกมาบ้าง
“แต่เห็นมีเชฟออกมาเตือนเรื่องหมึกช็อตนิเพราะฉันเคยเห็นบทความของเค้าอยู่อะนี้”แพรกล่าวออกมาพลางยื่นบทความที่อยู่ในโทรศัพท์ไปให้เพื่อนสาวดู พยาธิและเชื้อโรคส่วนใหญ่ จะอยู่ในส่วนของเครื่องในหมึก การกินหมึกซาชิมิที่ปลอดภัย คือ ต้องรีบเอาเครื่องในออกและชำแหละอย่างถูกวิธีในขณะที่ปลาหมึกยังสด หากไม่รีบทำ พยาธิและเชื้อโรคที่อยู่ในเครื่องใน จะเริ่มกระจายตัวเข้ามาในเนื้อหมึก ทำให้อันตรายเป็นอย่างมากค่ะ นอกจากนี้ ยังมีการหั่นหมึกให้เป็นเส้นๆ แบบในรูป เพื่อเป็นการฆ่าพยาธิเผื่อในอีกขั้นตอนด้ว หมึกช็อต แบบที่กินทั้งตัวนั้น อันตรายมาก ต่อให้หมึกสดก็จริงแต่ เท่ากับคุณกินพยาธิที่อยู่ในหมึกไปทั้งตัวโดยไม่ผ่านการชำแหล่ะใดใดทั้งสิ้น อันตรายมากๆนะคะ เตือนแล้วน้า ช่วยกันแชร์ส่งต่อข้อมูลกันค่ะ
“ไม่ต้องห่วงหรอกพอฉันฟันหัวฉึบแล้วก็รีบผ่าและดึงเอาเครื่องในออกมาทันทีเลยและ”แพรกล่าวออกมาด้วยยิ้มกว้างๆบนริมฝีปาก
“เออแต่ทำไมฉันรู้สึกสยองแปลกวะไอ้น้ำ”อัคคีหันไปกระซิบกล่าวกับน้ำ
“คิดมากน่า”น้ำกระซิบตอบ
“อะไรอะพวกนายซุบซิบไรกัน”แพรกล่าวถามพลางจ้องมาเขม็ง
“เปล่าๆไม่มี๊”อัคคีปฎิเสธเป็นพัลวันทันที
“อ้ออัคคีฉันว่ากะจะยืนเรือยอร์ชของนายหน่อยได้ไหม”ฟ้ากล่าวถาม
“หืมทำไมหรอ”อัคคีถามออกมา
“พอดีฉันเป็นนางแบบนะแล้วมันมีฉากหลายๆฉากที่เกี่ยวกับทะเลตอนแรกทางแบรนด์ว่าจะเช่าเรือเอาแต่ไหนๆนายก็มีอยู่ลำหนึ่งแล้วฉันเลยกะว่าจะยืมเพื่อลดต้นทุนในการใช้จ่ายหน่อยนะ”ฟ้ากล่าวถามอัคคีออกมาอย่างอึดอัดเพราะพวกเค้าไม่ได้สนิทกันอะไรขนาดนั้น
“เธอเรียนบริหารธุรกิจและไปโปล่เป็นนางแบบได้ไงนิ”เนกล่าวออกมาอย่างฉงน
“ก็นั่นนะดิ”อัคคีพยักหน้ากล่าวตาม
“ก็นั้นมันแบรนด์ของเธอนะสิเธอเป็นนางแบบให้แบรนด์ตัวเองนะเป็นแบรนด์เสื้อผ้ารู้สึกคอลเลคชั่นนี้จะเป็นชุดว่ายน้ำผู้หญิงใช่ไหม”แพรกล่าวออกมาและหันไปกล่าวถามฟ้า
“ใช่แล้วคอลเลคชั่นใหม่ที่เราจะจับคือชุดว่ายน้ำของผู้หญิงนะ”ฟ้ากล่าวตอบกลับมา
“งั้นได้สิยังไงหลังจากวันนี้คงไม่ได้ใช้มันทำอะไรแล้วละคงได้แต่จอดทิ้งมันไว้ถ้าเธอจะเอาไปใช้ประโยชน์ก็เต็มที”อัคคีไฟเขียวอณุญาติให้ฟ้ายืมไปได้ยังไงสะเค้าก็จอดมันไว้นิ่งอยู่แล้วละหลังจากนี้
“โอ๊สขอบคุณมากนะอัคคี”ฟ้ากล่าวออกมา
“เล็กน้อยๆ”อัคคีกล่าวกลับไป
“เออแล้วทำไมเธอต้องออกไปทำแบรนด์ตัวเองด้วยแหละ”ไฟท์กล่าวถามฟ้า
“ก็ฉันอยากลองเป็นเจ้านายตัวเองดูนะแล้วอีกอย่างฉันไม่อยากใช้ตังของป๊ากับม๊านะสิถึงพวกท่านจะไม่ได้เดือดร้อนอะไรก็เถอะ”ฟ้ากล่าวออกมาพลางกล่าวเสริมอีกว่า
“นุ่นกับแนนก็ลงทุนทำครีมแล้วก็พวกเครื่องสำอางของตัวเองอยู่เหมือนกันนะ”ฟ้ากล่าวออกมา
“เหงั้นหรอพวกเธอนนี้สุดยอดจริงๆแหะว่าแต่พูดถึงธุรกิจของตัวเองแล้วเกมของบริษัทเราเป็นไงมั่งวะอัคคี”น้ำกล่าวชมสาวๆและหันมากล่าวถามเรื่องธุรกิจของพวกเค้ากับอัคคี
“ก้ไปได้สวยไม่มีอะไรติดขัดนะตอนนี้ก็แค่รอยอดคนลงทะเบียนทะลุเป้าเกมก็พร้อมเปิดเลยเพราะไม่ได้มีปัญหาหรือบัคอะไรไหนๆก็ไหนแล้วฉันก็เข้าไปเช็กยอดคนลงทะเบียนหน่อยดีกว่า”อัคคีกล่าวตอบน้ำไปพลางหยิบโทรศัพท์และกดเข้าไปที่เว็ปเพจเกมของบริษัททตนพลางเลื่อนไปดูยอดลงทะเบียน
“เออ”อัคคีกระพริตาปริบๆพลางหันมามองหน้าเพื่อนชายของตนแล้วกล่าวออกมาว่า
“แหะๆดูเหมือนเกมของเราพร้อมเปิดให้บริการแล้ววะ”อัคคีขำแห้งๆกล่าวออกมา