ตอนที่แล้ว1051 - ราชากระทิง 
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป1053 - คัมภีร์ครึ่งหน้า 

1052 - ตัดเย็บชุดวิวาห์


1052 - ตัดเย็บชุดวิวาห์

ในเวลานี้หัวใจของเขาเต้นแรง ทุกอย่างน่าเหลือเชื่อมาก เมื่อสองพันห้าร้อยปีที่แล้วในตอนที่ไท่ซ่างเหล่าจวินเดินทางไปทิศตะวันตก ปราณสีม่วงได้ติดตามเขาไปเป็นระยะทางกว่าสามหมื่นลี้ หลังจากนั้นเขาก็หายไปจากหน้าประวัติศาสตร์จีนจนมาถึงปัจจุบัน

เป็นไปได้ไหมว่าสิ่งที่เรียกว่าด่านหานกู่ที่ไท่ซ่างเหล่าจวินพบเจอในตอนนั้นคือถนนสู่ทุ่งดวงดาวอันยิ่งใหญ่

“การเดินทางไปตะวันตก” อาจเป็นระยะทางที่เย่ฟ่านคาดไม่ถึง

ราชากระทิงสูงตระหง่านราวกับภูเขาอันยิ่งใหญ่ และเสียงของมันเหมือนเสียงลั่นกลองที่ดังก้องไปทั่วโลก

“ตั้งแต่ออกจากช่องเขาฮั่งกู่ไปทางทิศตะวันตก มีใครรู้หรือไม่ว่าเราผู้เฒ่านอนหลับไหลไปกี่ปีแล้ว” เสียงราชากระทิงเหมือนฟ้าร้อง ดวงตากลมโตของมันกวาดมองไปรอบๆ

ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ตกตะลึงเป็นอย่างมาก รัศมีพลังของกระทิงตัวนี้แข็งแกร่งยิ่งกว่าพวกเขาที่เป็นราชาผู้ยิ่งใหญ่หลายเท่า บางทีมันอาจจะเป็นสิ่งมีชีวิตอมตะก็ได้

หยินเทียนเต๋อยังอยู่ในความงุนงง เห็นได้ชัดว่าเขาครอบครองหม้อดินเผานี้มานานแล้ว แต่ไม่คาดคิดว่าจะปลดปล่อยสัตว์ประหลาดแบบนี้ออกมา

ราชามนุษย์และราชาอีกาทองหยุดการต่อสู้ไปแล้ว ท้ายที่สุดราชากระทิงที่อยู่ตรงหน้าอาจเป็นถึงสิ่งมีชีวิตอมตะ การต่อสู้ของพวกเขาดูเหมือนจะไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง

ในระยะไกล การต่อสู้ระหว่างนักพรตชิงกู่และราชาแห่งแสงยังคงดำเนินต่อไป ทั้งสองไม่ได้รับผลกระทบใดๆ พวกเขายังคงมุ่งมั่นที่จะคว้าคัมภีร์ครึ่งหน้านั้นไว้ให้ได้

“ผู้อาวุโส…”

เย่ฟ่านส่งเสียงเรียก แต่สุดท้ายเขาก็ไม่สามารถพูดอะไรได้ ต้องเข้าใจว่านั่นคือสิ่งมีชีวิตที่มาจากโลกเดียวกันกับเขา และมันทำให้เขาอดที่จะเกิดความสนิทสนมกับฝ่ายตรงข้ามไม่ได้

อย่างไรก็ตาม ในบรรดาผู้คนทั้งหมดที่นี่ไม่มีใครรู้จักสิ่งมีชีวิตอมตะเท่ากับเย่ฟ่านอีกแล้ว และรัศมีพลังของราชากระทิงที่อยู่ตรงหน้าเห็นได้ชัดว่ายังอยู่ห่างจากขอบเขตแห่งความเป็นอมตะเล็กน้อย

ที่สำคัญที่สุดคือมันถูกเรียกออกมาโดยหยินเทียนเต๋อ บางทีมันอาจจะถูกเขาควบคุมโดยไม่สามารถต้านทานได้

“เจ้าเป็นใคร?”

ราชาอีกาทองถามอย่างเฉยเมย แม้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังแต่เขาซึ่งเกือบจะเป็นสิ่งมีชีวิตอมตะไม่ได้เกิดความหวั่นเกรงแต่อย่างใด

“ราชากระทิง ข้าไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน เจ้ามาจากทวีปใด เป็นผู้บ่มเพาะจากดาวดวงใดในทุ่งดวงดาวแห่งนี้?”

ราชามนุษย์เป็นผู้ที่มีอายุมากที่สุด และการที่เขาไม่รู้จักราชากระทิงก็แสดงว่าอีกฝ่ายไม่ได้มาจากดาวดวงนี้อย่างแน่นอน

ในที่สุดราชากระทิงก็หายจากความสับสน เขากวาดสายตาไปรอบๆก่อนจะหยุดอยู่ที่หยินเทียนเต๋อ

“ใครเรียกราชาคนนี้ออกมา โอ้ กลายเป็นเจ้า บอกมาสิเจ้าต้องการให้ข้าทำอะไร เราผู้เฒ่าไม่ใช่ร่างจริงและมีเวลาเพียงชั่วยามเดียวเท่านั้น หากมีอะไรก็รีบบอกมา”

“ราชากระทิงผู้ยิ่งใหญ่โปรดแย่งชิงครึ่งหน้าของคัมภีร์ส่วนนั้นมาให้ข้าด้วย”

เสียงของหยินเทียนเต๋อต่ำและแหบแห้ง เขาพยายามสงบจิตใจของตัวเองลงแม้ว่าภาพที่เห็นจะค่อนข้างแปลกประหลาดก็ตาม

“เอาล่ะ! วัวตัวนี้มีพลังการต่อสู้เพียงหนึ่งชั่วยามแต่ก็สามารถจัดการคนเหล่านี้ได้อย่างเหลือเฟือ” ราชากระทิงกล่าว

จากนั้นเขาก็คำรามทำให้ทะเลสีเงินเกิดความปั่นป่วนอย่างที่สุด

“คุยโตโอ้อวด” ราชาอีกาทองไม่แยแสสีหน้าของเขายังคงสงบนิ่ง

“พูดจาใหญ่โต เจ้าคงไม่รู้สินะว่าคำว่าตายสะกดอย่างไร” ราชามนุษย์แค่นเสียงอย่างเย็นชาเช่นกัน

“ข้าไม่ได้ปรากฏตัวมาหลายพันปีแล้ว ในตอนที่ข้ายังท่องเที่ยวอยู่ในโลกพวกเจ้าเป็นเพียงเด็กทารกเท่านั้น” ราชากระทิงคำรามด้วยความโกรธ

“มออออ!”

ดวงดาวทั่วท้องฟ้าเริ่มสั่นไหว ความผันผวนแห่งพลังที่ปะทุออกมาจากร่างของเขาทำให้สีหน้าของราชาทั้งสี่คนเปลี่ยนไปเล็กน้อย

ราชากระทิงสะบัดร่างกายไปมาและทำให้ตัวเห็บนับหมื่นตกลงบนพื้น เห็ดเหล่านี้เปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นกระทิงสีเขียวร่างกายแข็งแกร่ง ฐานการบ่มเพาะของพวกมันล้วนอยู่ในระดับปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิ้น

จิตใจของเย่ฟ่านกระวนกระวายมาก นั่นคือหนึ่งในเทพโบราณที่แข็งแกร่งที่สุดของจีน แต่อีกฝ่ายกลับทำตามคำบัญชาของหยินเทียนเต๋อ

“เชี้ยง…”

ราชาอีกาทองเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ขนอีกาทองนับหมื่นเส้นของเขาระดมยิงเข้าหาวัวสีเขียวระดับปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้น

ปัง!

ราชากระทิงพ่นลมหายใจสีเขียว เสียงคำรามของเขากลายเป็นคลื่นทำลายล้างที่ปะทะกับเส้นขนสีทองกลางท้องฟ้า พลังที่เกิดจากการปะทะกวาดออกไปรอบทิศทางทำให้ทะเลสีเงินเกิดความปั่นป่วนมากยิ่งขึ้น

“ลูกหลานกระทิงของข้า บดขยี้คนเหล่านี้ให้บิดาเจ้า!”

ราชากระทิงกระแทกตรีศูลลงพื้น จากนั้นฝูงวัวกระทิงสีเขียวก็พุ่งเข้าหาราชาทั้งสี่โดยปราศจากความกลัว

ครืน!

ราชาอีกาทองขยับปีกสีดำและกวาดพลังศักดิ์สิทธิ์ลงสู่เบื้องล่าง

กระทิงสีเขียวนับร้อยนับพันกรีดร้อง แม้กระทั่งสีหน้าของราชากระทิงก็ยังบิดเบี้ยวอย่างรุนแรง

“ไอ้หนูมอบอาวุธศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าให้ข้า ข้าไม่ใช่เซียน ข้าต้องมีอาวุธถึงจะต่อต้านเขาได้ อย่ากังวลไปเลยข้ามีเวลาเพียงชั่วยามเดียวเท่านั้น เมื่อร่างของข้าหายไปอาวุธศักดิ์สิทธิ์จะกลับคืนสู่เจ้าเหมือนเดิม”

ปีกสีดำของราชาอีกาทองน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง ราชากระทิงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องร้องขออาวุธศักดิ์สิทธิ์จากหยินเทียนเต๋อ

หยินเทียนเต๋อก็ไม่มีทางเลือกเช่นกัน เขาลังเลเล็กน้อยก่อนจะโยนหม้อดินเผาเข้าหาราชากระทิงที่ยืนตระหง่านค้ำสวรรค์

หลังจากได้รับหม้อวิเศษแล้วราชากระทิงก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ไม่ต้องกังวล ด้วยอาวุธศักดิ์สิทธิ์ในมือนี้ ข้าจะเอาคัมภีร์โบราณครึ่งหน้าทั้งสองส่วนมาให้เจ้าอย่างแน่นอน” ราชากระทิงแสดงพลังอันยิ่งใหญ่ของหม้อโบราณออกมา

“หยินเทียนเต๋อคนนี้เจ้าเล่ห์จริงๆ เขาสามารถควบคุมราชากระทิงให้ต่อสู้แทนได้!” หลี่เทียนไม่พอใจเล็กน้อย

เอี๋ยนอี้ซีและคนอื่นๆ ก็ไม่สามารถพูดอะไรได้ วัวสีน้ำเงินตัวนี้คู่ควรกับอาการเป็นราชาผู้ยิ่งใหญ่ หากฝ่ายตรงข้ามไม่มีอาวุธศักดิ์สิทธิ์รับรองว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาอย่างแน่นอน

“เหล่าจื๊อและศากยมุนีอยู่ที่ไหน เหตุใดราชากระทิงจึงมาอยู่ที่นี่?” เย่ฟ่านเกิดความสงสัยเป็นอย่างมาก

“เจ้าของดั้งเดิมของวังไป๋จิงเป็นใคร นี่คือวัวของเขาหรือ?” หลี่เทียนถาม เพียงจากฟังคำรำพึงของเย่ฟ่านเขาก็พอจะจับสาระสำคัญได้

“เขามาจากอีกฟากหนึ่งของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว เขาเป็นคนโบราณจากบ้านเกิดของข้า มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นซึ่งทำให้การรับรู้ของข้าเกี่ยวกับคนเหล่านี้เปลี่ยนไป” เย่ฟ่านถอนหายใจเบาๆ

ขณะอยู่เหนือทะเล นักพรตชิงกู่และราชาแห่งแสงถอยห่างจากกัน พวกเขาต่อสู้กันมาหลายหมื่นกระบวนท่าและยังไม่มีท่าทีว่าจะได้รับชัยชนะ ดังนั้นพวกเขาจึงเกิดความเหน็ดเหนื่อยเล็กน้อย

ทันใดนั้น มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในสนามรบ ครึ่งหน้าของคัมภีร์โบราณที่ราชาแห่งแสงคว้าไว้ได้พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมกับการก่อตัวของเมฆสีแดงงดงาม

จากนั้นมีมือที่ใสสะอาดข้างหนึ่งยื่นออกมาคว้าคัมภีร์ก่อนจะควบคุมกลุ่มเมฆสีแดงหลบหนีออกจากที่นี่อย่างรวดเร็ว

“ร่างแยกของหยินเทียนเต๋อลงมือแล้ว!”

เย่ฟ่านสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าเพชรสีแดงในทะเลแห่งความทุกข์ของเขากำลังสั่นไหว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเจ้าของมือที่อยู่ในเมฆสีแดงข้างนั้นจะต้องเป็นหยินเทียนเต๋ออีกคนอย่างแน่นอน

ราชาแห่งแสงตะโกนเสียงดัง ร่างของเขากลายเป็นรุ้งยาวที่ไล่ตามเมฆสีแดงไปด้วยความโกรธเกรี้ยวอย่างถึงที่สุด

นักพรตชิงกู่ก็มีความโกรธแค้นไม่แพ้กัน เขาไล่ตามราชาแห่งแสงออกไปด้วยความเร็ว แต่ในขณะนี้ได้มีสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งสามคนปรากฏตัวออกมาจากเมฆสีแดงเพื่อปิดกั้นความเคลื่อนไหวของเขา

คนแรกเป็นชายชราเส้นผมสีขาวหลังงองุ้ม อีกคนเป็นชายชราเส้นผมสีเทาถือไม้เท้าสีเขียว และอีกคนมีหนวดเคราแข็งทื่อเป็นชายร่างใหญ่ที่เต็มไปด้วยความดุร้าย

รัศมีพลังของคนเหล่านี้เห็นได้ชัดว่าอ่อนแอกว่ายอดฝีมือระดับราชาเล็กน้อย อย่างไรก็ตามพวกเขาลงมือโจมตีนักพรตชิงกู่และราชาแห่งแสงทันทีที่ปรากฏตัวออกมา

“ปัง!”

ชายชราทั้งสามคนไม่สามารถต้านทานการโจมตีของนักพรตชิงกู่และราชาแห่งแสงได้แม้แต่กระบวนท่าเดียว ร่างกายของพวกเขาแหลกละเอียดแม้กระทั่งวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ก็ยังถูกทำลายไปด้วย

อย่างไรก็ตามด้วยการลงมือของพวกเขานั้นทำให้เมฆสีแดงที่อยู่บนฟ้าเคลื่อนตัวจากไปโดยที่ราชาผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองไม่มีโอกาสไล่ตามทัน

เอี๋ยนอี้ซีและคนอื่นๆ รู้สึกตกใจเล็กน้อยพวกเขาเตรียมที่จะขยับเคลื่อนไหวทันที

“ไม่เป็นไร หยินเทียนเต๋อก็แค่ตัดเย็บชุดวิวาห์ให้ข้าเท่านั้น”

เย่ฟ่านกล่าวอย่างเย็นชา ร่างของเขาก็เคลื่อนไหวในทักษะซิงจื่อและไล่ตามเมฆสีแดงไปอย่างรวดเร็ว

………..

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด