บทที่ 24 คู่หูที่ผิดปกติ
คนธรรมดาจะต้องปวดหัวในการรับมือกับหนูดินเหล่านี้อย่างแน่นอน นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขามักจะออกภารกิจให้แก่นักฝึกสัตว์อสูร แม้กับกลุ่มนักฝึกสัตว์อสูรมือใหม่เช่นซืออวี๋และคนอื่น
พลังต่อสู้ของหนูดินโตเต็มวัยเทียบได้กับสุนัขป่า มันแข็งแกร่งมาก กล่าวอีกนัยหนึ่ง คนธรรมดาหวาดกลัวหนูดินแม้ว่าพวกเขาจะมีอาวุธอยู่ในมือของพวกเขาก็ตาม
แต่ด้วยอสูรกินเหล็กน้อยที่มีพลังต่อสู้และสุดยอดการมองเห็น จึงอาจกล่าวได้ว่าหนูดินเหล่านี้นั้นโชคร้ายมาก ถูกสังหารทีละตัว!
หนูดินควรดีใจที่มันไม่ใช่หนูไผ่
มันไม่อร่อยใช่ไหม?
มิฉะนั้น มันก็คงตะสูญพันธ์ุ…
แต่แม้ว่ามันจะเป็นหนูไผ่ อีเลฟเว่นก็ไม่เต็มใจที่จะกินมัน
เนื่องจากการวิวัฒนาการร่างกายของมัน อสูรกินเหล็กในโลกใบนี้จึงไม่ชอบกินเนื้ออีกต่อไป แต่พวกมันกลับชอบกินแร่โลหะซึ่งค่อนข้างแปลก
ซืออวี๋ไม่รู้ว่ามีสัตว์อสูรเช่นหนูหนังเหล็กไหม…
ในขณะที่อสรพิษหนามวางหนูดินที่ถูกกำแพงหนามพันจนมันขยับไม่ได้ อวี๋จิงจิงก็กล่าวออกมาว่า “หนูดินตัวนี้นับเป็นการสังหารของซืออวี๋ หากไม่มีอสูรกินเหล็กของเขา หนูดินตัวนี้คงหนีไปแล้ว”
นางยังคงประเมินความเร็วในการเติบสสนองของหนูดินต่ำเกินไป… อสรพิษหนามในฐานะนักล่าตามธรรมชาติก็ไม่สามารถสังหารหนูดินได้ในวินาทีแรก ดูเหมือนว่าระดับของพวกเขาจะไม่มากพอ
“ใช่แล้ว” เฉินไคและจวงเยว่ไม่มีข้อโต้แย้ง
รางวัลสำหรับการกำจัดหนูดินคือประมาณตัวละสิบหยวนเท่านั้น แม้แต่ซืออวี๋ก็ไม่ใส่ใจมันมากนัก นับประสาอะไรกับนักเรียนที่มีครอบครัวที่ค่อนข้างดีเช่นพวกเขา
ในความคิดของซืออวี๋ แม้ว่าเขาจะกำจัดหนูดิน 100 ตัวในหนึ่งวัน แต่เขาก็แทบจะไม่สามารถดูแลระดับการกินอาหารของอีเลฟเว่นและอาหารเสริมที่เขาจำเป็นต้องซื้อได้เลย
แต่ก็อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ เขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อหาเงิน
การใช้สุดยอดการมองเห็นของอีเลฟเว่นเป็นสิ่งสำคัญที่สุด!
“ต่อไป พวกเราจะทำตามสิ่งที่พวกเรากล่าวบนรถบัส แยกกันเถอะ” ซืออวี๋กล่าวออกมา
“ได้เลย” เฉินไคพยักหน้า “ถ้างั้นพวกเราค่อยเจอกันตอนเที่ยง”
ด้วยวิธีนี้ ความเร็วในการกวาดล้างก็จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ท้ายที่สุด พื้นที่เกษตรแห่งนี้และทั้งป่านั้นก็ใหญ่มากเกินไป
ก่อนอื่นเลย พวกเขาจะแยกกัน เมื่อพวกเขาพบหนูดินที่อยู่เพียงลำพัง พวกเขาก็จะคิดวิธีในการจัดการกับมัน เมื่อพวกเขาพบกลุ่มหนูดิน พวกเขาก็จะเรียกทุกคนมาและวางแผนร่วมกัน เมื่อถึงเวลานั้น ประสิทธิภาพของการทำงานเป็นทีมจะสูงขึ้นมาก
“มาดูกันว่ากำจัดหนูดินได้มากกว่ากัน” อวี๋จิงจิงกล่าวออกมา
“อ่า…” จวงเยว่มองไปที่อสูรกินเหล็กของนางและตกอยู่ในห้วงความคิด หากพวกเขาต้องแข่งกัน นางสงสัยว่านางจะอยู่ระดับต่ำสุด
ทำไมนางถึงรู้สึกว่าอสูรกินเหล็กของนางไม่ใช่เผ่าพันธุ์เดียวกันกับอสูรกินเหล็กของซืออวี๋ล่ะ?
ในขณะนี้ อสูรกินเหล็กของจวงเยว่ก็เริ่มง่วงนอนแล้ว ในขณะเดียวกัน อสูรกินเหล็กของซืออวี๋นั้นยังคงมองไปรอบตัวอย่างกระฉับกระเฉง…
ด้วยสายตาที่ดี ทุกอย่างจึงน่ามองไปหมด
ด้วยสายตาที่ไม่ค่อยดี ทุกอย่างจึงดูน่าเบื่อ
นี่คืออารมณ์ของอีเลฟเว่นในปัจจุบัน
หลังจากตกลงกัน พวกเขาทั้งสี่คนจึงแยกกัน
“เป้าหมายคือยี่สิบตัวก่อนเที่ยง…” ซืออวี๋กล่าวกับอีเลฟเว่นผู้ที่ตามเขามา
“อู๋!” อีเลฟเว่นแสดงสีหน้าจริงจัง
ไม่สิ มันต้องการสังหาร 200 ตัว!
การที่มันสายตาดีนั้นเป็นเรื่องหาได้ยากมาก มันต้องการทำตามเสียงหัวใจของมัน
“ข้าไม่สนใจว่าเราจะสังหารได้มากแค่ไหน” ซืออวี๋มองไปที่โพรงขนาดใหญ่และกล่าวออกมา “เจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้ทำลายพืชและต้นไม้ของคนอื่น เจ้าได้ยินข้าใช่ไหม?”
“มิฉะนั้น ไม่เพียงแค่พวกเราจะไม่ได้อะไรเลย แต่เราก็จะเสียเงินด้วย”
“เนื่องจากพวกเราไม่มีเงินมากนัก พวกเราจึงทำได้แค่หักจากค่าอาหารของเจ้า”
“แง่งงง” ใบหน้าของอีเลฟเว่นมืดลง และมันดูเศร้าใจในขณะที่มันโบกมือไปมา
ชีวิตนั้นอยู่ยาก!
“อย่าฝึกการเคลือบแข็งในวันนี้ สิ่งสำคัญคือการฝึกการตอบสนองของเจ้า ด้วยร่างกายของเจ้า เจ้าสามารถสังหารหนูดินได้โดยไม่ต้องใช้ทักษะไหนเลย”
ซืออวี๋ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
สหายผู้นี้สามารถสร้างรอยไว้บนแผ่นโลหะได้แล้ว! ต้นไม้และพืชเหล่านั้นคงไม่สามารถทนมันได้!
“แต่ไม่ว่าเจ้าจะสังหารไปมากเพียงใด เงินที่เจ้าได้รับจะถูกใช้ไปเพื่อเพิ่มค่าอาหารของเจ้า”
เมื่อรางวัลและบทลงโทษนั้นชัดเจน ดวงตาของอีเลฟเว่นก็สว่างมากขึ้น
…
จจากนั้นอีเลฟเว่นก็เริ่มวิ่งไปทั่วพื้นที่เกษตร
ชาวนาวัยกลางคนผู้ที่ทำหน้าที่เฝ้าและตรวจตราฟาร์มจนถึงช่วงสาย เขาตามมาจากข้างหลังเพื่อนับจำนวนหนูดินที่พวกเขากวาดล้าง
หนูดินกลุ่มนี้รับมือได้ยากมากอย่างแท้จริง มัน ไม่เป็นไรหากพวกเขาพบหนูดินที่อยู่ไกลจากโพรง ด้วยการระเบิดพลังของอีเลฟเว่น มันก็สามารถดักหน้าพวกมันได้อย่างสมบูรณ์และสังหารพวกมันอย่างรวดเร็ว
แต่เมื่อพวกเขาพบหนูดินที่อยู่ใกล้โพรง แม้ว่าอีเลฟเว่นจะพยายามมากเพียงใด แต่ก็มีพวกมันสองสามตัวที่หนีรอดไปได้ อีเลฟเว่นโกรธมากจนมันต้องการให้ซืออวี๋สอนหลบหนีปฐพีให้แก่มันในตอนนั้นเพื่อที่มันจะได้ลงไปใต้ดินเพื่อสังหารพวกมันโดยตรง
ซืออวี๋นั้นไร้คำกล่าว
ไหนเจ้าไม่ชอบทักษะที่เจ้าเก็บเกี่ยวได้โดยไม่ต้องหว่าน…?
ตอนนี้เจ้ารู้แล้วเหรอว่าการมีทักษะที่หลากหลายเป็นสิ่งที่ดี?
อย่างไรก็ตาม การจำลองหลบหนีปฐพีนั้นเป็นไปไม่ได้ ด้วยขีดจำกัดสูงสุดของจำนวนทักษะที่ถูกบันทึกไว้ในสารบัญทักษะ ทุกทักษะต้องถูกเลือกอย่างระมัดระวัง
เขาจะไม่เข้าใจได้ยังไงว่าเขายากจนจนถึงขนาดที่เขาต้องมองหาโอกาสทางธุรกิจด้วยทักษะหนอนไหมล่ะ?
หากเขาได้รับทักษะหลบหนีปฐพีมาอีก เขาคงต้องเปิดธุรกิจก่อสร้างใต้ดินโดยตรงไปแล้ว
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ในช่วงเที่ยง ผลลัพธ์การต่อสู้ของซืออวี๋และอีเลฟเว่นอยู่ที่ 22 ตัว โดยเฉลี่ยแล้ว พวกเขาสังหารหนูดินได้ทุกห้านาที
น่าเสียดายที่พวกเขาไม่เจอหนูดินอยู่เป็นกลุ่ม ไม่เช่นนั้นคงสังหารหนูได้มากกว่านี้
ในขณะนี้ เพราะอีเลฟเว่นนั้นเต็มไปด้วยพลังงาน มันยังคงมองหาหนูดินทั่วพื้นที่เกษตรแห่งนี้
หนูดินไม่หยุดพัก ดังนั้นมันจึงไม่หยุดพักเช่นกัน
อีกสามคนกลับมาเนื่องจากความหิว มีเพียงซืออวี๋และอีเลฟเว่นเท่านั้นที่ยังคงทำงานอย่างหนัก
“บัดซ* พวกเจ้ายังสังหารต่ออีกเหรอ?” เฉินไคกล่าวด้วยความไม่เชื่อ
หลังจากที่พวกเขาทั้งสามคนมารวมตัวกันที่ข้างซืออวี๋ พวกเขามองไปที่อีเลฟเว่นผู้ที่กระตือรือร้นอย่างมากในพื้นที่เกษตร และจิตใจของพวกเขาก็ได้รับผลกระทบเล็กน้อย
มันเป็นเวลากว่าสองชั่วโมงแล้ว
ทำไมอสูรกินเหล็กถึงยังมีพลังงานมากเช่นนี้???
โดยเฉพาะจวงเยว่ผู้ที่มีสีหน้าแปลกประหลาดบนใบหน้าของนาง ท้ายที่สุด อสูรกินเหล็กของนางเริ่มหลับหลังจากมันเริ่มขยับตัวได้ไม่นาน…
“ท้ายที่สุด นี่เป็นอีกรูปแบบการฝึกฝนหนึ่ง นอกเหนือจากการกินอาหารแล้ว อสูรกินเหล็กของข้าชอบการฝึกฝน” ซืออวี๋กล่าวหลังจากเงียบไปสักพักหนึ่ง “นี่เทียบไม่ได้เลบกับการฝึกฝนปกติของมัน”
พวกเขาทั้งสามคน : ???!!!
“ตอนเจ้าไม่ได้เหนื่อยล้าเหรอ? ทำไมตอนนี้เจ้าถึงกระตือรือร้นมากล่ะ?” เฉินไคมองไปที่ซืออวี๋อย่างว่างเปล่า
ไม่เป็นไรหากอสูรกินเหล็กไม่เหนื่อยเพราะมันเป็นสัตว์อสูร แต่ทำไมซืออวี๋ถึงยังคงกระตือรือร้นล่ะ?
แม้ว่าจะอยู่ภายใต้แสงแดดเป็นเวลานาน แต่ก็ดูราวกับเขาไม่เป็นอะไรเลย
ซืออวี่หยิบแคปซูลสดชื่นออกมาอย่างไม่ตั้งใจและกล่าวว่า “เอาไหม? มันค่อนข้างมีประโยชน์”
พวกเขาทั้งสามคนยิ่งได้รับผลกระทบมากขึ้น
ท้ายที่สุด เมื่อคนธรรมดาเหนื่อยล้า พวกเขาจะต้องการพักผ่อนโดยไม่รู้ตัว
แต่ซืออวี๋… พึ่งพาอาหารเสริมในการฟื้นตัวเหรอ??
นี่มากเกินไปแล้ว
“ข้าคิดว่าข้ารู้แล้วว่าข้าพ่ายแพ้ให้กับนักฝึกสัตว์อสูรจากเมืองได้ยังไงกัน”
เฉินไคจินตนาการถึงภาพนักเรียนในเมืองที่นอนดึกเพื่อเรียนรู้อย่างหนักโดยไม่รู้ตัว
เขาไม่ได้กลัวว่าคนอื่นจะมีพรสวรรค์มากกว่าเขา แต่เขากลัวว่าคนอื่นจะขยันกว่าเขา!
บัดซ* เขาพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์!
จวงเยว่มองไปที่อีเลฟเว่นผู้ที่ดูแตกต่างจากอสูรกินเหล็กของนางอย่างสิ้นเชิง และเอ่ยถามซืออวี๋ “เจ้า… พวกเจ้ากำจัดไปมากแค่ไหนเหรอ?”
“แล้วพวกเจ้าล่ะ?” ซืออวี๋เอ่ยถาม
“ข้าหกตัว” อวี๋จิงจิงกล่าวออกมา
“เจ็ดตัว” เฉินไคกล่าวออกมา
จวงเยว่ถอนหายใจ “อสูรกินเหล็กโง่เกินไป ข้ากำจัดได้สองตัวเท่านั้น”
“อู๋—”
ในขณะนั้นเอง อีเลฟเว่นก็กลับมาและบังเอิญจับใจความได้ว่าอสูรกินเหล็กโง่ มันจึงไม่มีความสุขในทันที
อย่าคิดว่าอสูรกินเหล็กทุกตัวเหมือนกัน…!
แม้แต่ร่างกายของอสูรกินเหล็กแต่ละตัวก็แตกตามกัน!
ชาวนาที่ตรวจตราซึ่งมีหน้าที่ทำความสะอาดพื้นที่ให้แก่ซืออวี๋และคนอื่นก็ได้ตามมันมา
“อย่ากล่าวเช่นนนั้น อสูรกินเหล็กน้อยนี้เป็นสัตว์อสูรที่มีประสิทธิภาพที่สุดที่ข้าเคยพบ มันสังหารหนูดินได้ 22 ตัวในสองชั่วโมง มันน่าประทับใจมาก”
เขาเคยเห็นประสิทธิภาพเช่นนี้กับสัตว์อสูรประเภทนกอินทรีบางตัวเท่านั้น เขาไม่เคยจินตนาการผลลัพธ์นี้จากอสูรกินเหล็กเลย
ยี่สิบสองตัว???
อีกสามคนไม่สามารถคิดอะไรได้อีกต่อไป
ยี่สิบสองตัว? ไม่ใช่ 12 ตัว แต่เป็น 22 ตัว???
จวงเยว่ก็ตกตะลึงเช่นกัน สิบเอ็ดเท่าของเธอ? เขาล้อเล่นหรือเปล่า?
“กินข้าวเที่ยงและพักผ่อนกันก่อนเถอะ” ซืออวี๋กล่าวออกมา
พวกเขายอมแพ้ ไม่มีประโยชน์ที่จะแข่งขันกันอีกต่อไป
อาหารนั้นสำคัญกว่า!
เจ้าหน้าที่คณะกรรมการหมู่บ้านนำข้าวกล่องมาให้พวกเขา หลังจากกินไปได้สักพัก พวกเขาก็ยังต้องทำงานต่อไป
นี่เป็นภารกิจแรกสำหรับพวกเขาทั้งสี่คน แต่ท้ายที่สุด พวกเขาก็มาที่นี่เพื่อฝึกฝน ดังนั้นพวกเขาจึงแค่กินข้าวเที่ยงเท่านั้น ไม่มีความจำเป็นต้องพักเที่ยง พักผ่อนระหว่างกินข้าวเที่ยงก็เพียงพอแล้ว
จากนั้นพวกเขาทั้งสี่คนก็หยิบข้าวกล่องขึ้นมากินพร้อมกับน้ำแร่เย็น
อสูรกินเหล็กของจวงเยว่ อสูรเกราะน้ำแข็งของเฉินไค และอสรพิษหนามของอวี๋จิงจิงถูกนำกลับไปที่มิติฝึกสัตว์อสูรเพื่อพักผ่อน มีเพียงอีเลฟเว่นเท่านั้น… ที่ยังคงอยู่ข้างนอก
หลังจากกินไผ่เหล็กในกระเป๋าของซืออวี๋ไปได้สองสามอัน มันก็วิ่งไปด้านข้างเพื่อฝึกฝนอย่างหนัก มันไม่อยากเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์
มันรู้สึกว่าการระเบิดความเร็วของมันยังคงช้าเกินไป มิฉะนั้นมันคงไม่ปล่อยให้หนูดินจำนวนมากหนีไปได้
การปล่อยให้หนูดินหนีไปได้ตัวหนึ่งนั้นเท่ากับการเสียไผ่เหล็กไปหนึ่งอัน…
อีเลฟเว่นวิ่งไปทั่วพื้นที่เกษตรด้วยความเศร้า
พฤติกรรมนี้ทำให้เฉินไคและอีกสองคนสับสน
เมื่อมองไปที่อีเลฟเว่นที่มีวินัยและขยันขันแข็ง เฉินไค จวงเยว่ และอวี๋จิงจิงก็รู้สึกแน่นอก พวกเขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
แม้ว่าจะมีน้ำแร่ แต่พวกเขาก็รู้สึกว่าข้าวกล่องนี้กลืนยากอย่างแท้จริง
พวกเขามองไปที่ซืออวี๋ผู้ที่คิดว่านี่เป็นเรื่องปกติมาก
“นี่… อสูรกินเหล็กของเจ้าไม่ต้องพักผ่อนเหรอ???” จวงเยว่เอ่ยถาม
นี่ไม่สมเหตุสมผลเลย! อสูรกินเหล็กไม่ควรเป็นเช่นนี้!!
ย้อนกลับไปในตอนนั้น ในตอนที่นางไปเลือกอสูรกินเหล็กที่ฐานเพาะพันธุ์
ทำไมนางไม่เลือกอสูรกินเหล็กที่มีชีวิตชีวาเช่นนี้ล่ะ?!
“ทำไมเจ้าถึงคิดว่ามันสามารถเชี่ยวชาญการเคลือบแข็งระดับชำนาญได้ล่ะ?” ซืออวี๋สงบมาก
พวกเขาทั้งสามคนไร้คำกล่าวในทันใด นั่นสมเหตุสมผล
อย่างไรก็ตาม นักฝึกสัตว์อสูรที่พกอาหารเสริม อสูรกกินเหล็กที่ไม่นอนกลางวัน แต่กลับฝึกฝนการวิ่งแทน… พวกเจ้าไม่ปกติอย่างแน่นอน!!
Fanpage : ผีเสื้อกลางคืน