บทที่ 21 - การร่วมมือกับดร.บรีฟ
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 21 - การร่วมมือกับดร.บรีฟ
ขณะที่เสียงของดร.วิลโลว์ดังขึ้นมา เงาดำสามร่างก็โผล่ออกมาจากบริเวณโดยรอบทันที มันล้อมรอบหลินเฉินและไทต์ไว้อย่างสมบูรณ์
เงาทั้งสามนี้มีลักษณะแปลกๆ เงาหนึ่งสูงและอวบอ้วนเหมือนลูกโป่ง
อีกหนึ่งหนึ่งเป็นสีเขียวและมีหนวดมากมาย
ส่วนเงาสุดท้ายดูปกติที่สุด เป็นร่างผู้ชายที่มีกล้ามเนื้อสีแดง
"ข้าคือใครงั้นเหรอ? เจ้าไม่มีคุณสมบัติที่จะรู้หรอก” หลินเฉินคว้ามือของไทต์ และค่อยๆ ลอยขึ้นมาจากพื้นพร้อมกับเธอ
"หา? นายบินได้ด้วยเหรอเนี่ย?”
ไทต์ตกตะลึงไปแล้ว เธอมองลงไปที่เท้าของหลินเฉิน แต่ก็ไม่เห็นมีเปลวไฟของไอพ่นเจ็ตเลย เขาบินขึ้นไปได้ยังไงกันเนี่ย?
“ไอ้เด็กเหลือขอ คิดจะหนีงั้นเหรอ? ต่อหน้านักรบชีวภาพทั้งสามของฉันที่ทำจากแก่นแท้ของเทคโนโลยีชีวภาพที่ทันสมัยที่สุด คิดว่าแกจะหนีไปได้งั้นหรือ?”
"คิชิเมะ! มิสโซคัตสุ! เอบิฟุยะ! จัดการมันเลย...!"
ขณะที่ดร.วิลโลว์กำลังออกคำสั่ง หลินเฉินก็นำไทต์ ขึ้นมาและบินขึ้นไปทั้งๆ ที่เพดานอยู่เหนือหัวของเขา
เมื่อเห็นว่าทั้งสองคนกำลังจะกระแทกหลังคา ไทต์ ก็หลับตาลงและตะโกนออกมาในทันที
แต่ในตอนนั้นเอง รังสีแสงได้พุ่งออกมาจากปลายนิ้วของหลินเฉินและสร้างช่องว่างในหลังคาสถาบันวิจัยของดร.วิลโลว์
“อะไรกัน สถาบันวิจัยของฉันที่เสริมความแข็งแกร่งด้วยซูเปอร์อัลลอยด์พังได้ง่ายขนาดนี้เลยเหรอ?” ดร.วิลโลว์อุทานออกมา
บนท้องฟ้า ไทต์ที่ไม่ได้รับรู้สึกว่าหัวของตนชนกับหลังคา ก็สังเกตเห็นว่าอุณหภูมิโดยรอบลดลงอย่างรวดเร็ว เธอลืมตาขึ้นมาข้างหนึ่งแล้วแทบจะกรีดร้องออกมา
“ร-เราอยู่บนท้องฟ้ากันเหรอ? ฮ่าฮ่าฮ่า! ความรู้สึกนี้มันยอดเยี่ยมมากไปแล้ว! ฮัดชิ้ว... ฮัดชิ้ว!”
เมื่อเห็นว่าไทต์ดูจะหนาวเล็กน้อย หลินเฉินก็ยื่นมืออีกข้างหนึ่งออกมาและส่งพลังชี่ไปให้ไทต์
ไทต์รู้สึกอุ่นขึ้นมากในทันที
"มหศัจรรย์เหลือเกิน! จะว่าไปนายยังไม่ตอบฉันเลยนะ นายเป็นมนุษย์ต่างดาวเหรอ?”
แม้จะถูกหลินเฉินดึงขึ้นไปและบินที่ความสูง 1,000 เมตร ไทต์กลับดูไม่กลัวเลย ครอบครัวของดร.บรีฟ ดูท่าจะไม่มีใครที่ธรรมดาเลยสักคน
“ใช่แล้ว ข้ามีนามว่าหลินเฉิน ชาวไซย่าจากดาวเคราะห์เบจิต้า”
"ดาวเคราะห์เบจิต้า? ชาวไซย่างั้นเหรอ?”
เมื่อได้ยินชื่อของหลินเฉิน ใบหน้าของไทต์ก็ราวกับว่าเธอได้เห็นผี: “น…นายมาที่นี่เพื่อบุกโลกเหรอ?”
ไทต์เคยได้ยินเรื่องของชาวไซย่ามาก่อน เพราะเธอมีเพื่อนชื่อ จาโก้ ซึ่งเป็นมนุษย์ต่างดาวเช่นกัน
“ได้ยินมาจากจาโก้เหรอ?”
“นายรู้จักจาโก้ด้วยเหรอ?”
“หน่วยสายตรวจจักรวาล จาโก้ ข้าเคยได้ยินชื่อเขามาบ้าง”
“เจ้าหมอนั่นที่ไม่น่าเชื่อถือขนาดนั้นมีชื่อเสียงมากเลยเหรอ?” ไทต์ พึมพำ จากนั้นก็เหลือบมองไปทางหลินเฉิน ที่กำลังชี้ฝ่ามือลงไปใต้เท้าของเขา
"กำลังทำอะไรอยู่งั้นเหรอ?"
“จัดการกับปัญหาในอนาคตให้พ่อของเจ้า ดร.วิลโลว์คงจะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปแน่ ครั้งนี้ข้าช่วยเจ้าไว้ แต่เขาอาจจะยังคงตามล่าครอบครัวของเจ้าต่อ ข้าคงไม่มีเวลาดูแลครอบครัวของเจ้าตลอดเวลาหรอก” หลินเฉินกล่าวตอบอย่างสบายๆ
ฟิ้วว!
ลูกบอลแสงพุ่งออกมาจากฝ่ามือของเขา
ลูกบอลแสงนั้นเร็วมากและในชั่วพริบตา มันก็บินไปในทิศทางที่หลินเฉินและไทต์ พุ่งมาจากสถาบันวิจัยของดร.วิลโลว์ ท้ายที่สุดมันก็ลงไปปะทะกับนักรบชีวภาพทั้งสามและสมองของดร.วิลโลว์
“นี่มัน…” ดร.วิลโลว์และคนอื่นๆ มองไปที่ลูกบอลแสงด้วยความสับสน
แต่ในวินาทีต่อมา พวกเขาก็เห็นลูกบอลแสงพุ่งออกมาเป็นแสงแพรวพราวและพลังงานที่น่าอัศจรรย์ก็กลืนกินพื้นที่โดยรอบ 'มัน'
ทั้งหมด
ในทันที
หลังจากนั้นดร.วิลโลว์ นักวิทยาศาสตร์ผู้บ้าคลั่งที่ใฝ่ฝันจะปกครองโลกก็ได้ลงนรกไปพร้อมกับนักรบชีวภาพทั้งสามของเขา โดยที่ยังไม่ได้สัมผัสกับการต่อสู้ที่แท้จริงเลย
ตู้ม!
เมื่อมองไปที่ลูกบอลแสงขนาดใหญ่ที่กลืนกินสถาบันวิจัยทั้งหมดด้านล่าง ไทต์ ก็ตกตะลึงมากจนร่างกายของเธอสั่นสะท้าน
“โอ้…พระเจ้าช่วย! จาโก้พูดถูก พวกนายมันเป็นพวกที่อันตรายจริงๆ ด้วย!”
“เฮ้ ข้าเพิ่งช่วยเจ้าไว้นะ เจ้าพูดเช่นนั้น เหมือนกับการตอบแทนคุณด้วยการเนรคุณเลยนะ” หลินเฉินกล่าวพร้อมรอยยิ้ม
“เอ่อ...ขอโทษด้วย” ไทต์ตอบด้วยสีหน้าจริงจัง: “ถ้าอย่างนั้นฉันคงต้องขอแนะนำตัวอีกครั้ง สวัสดี ฉันชื่อว่าไทต์ เป็นลูกสาวคนโตของดร.บรีฟ ขอบคุณที่ช่วยฉันเอาไว้”
หลินเฉินยิ้มขณะที่เขามองไปที่หญิงสาวผมสั้นตรงหน้าเขาและพบว่าอีกฝ่ายเป็นคนที่ค่อนข้างน่าสนใจพอสมควรเลย
หลินเฉินไม่รู้เลยว่าด้วยรอยยิ้มของเขา หัวใจของหญิงสาวเบื้องหน้าเขาเริ่มเต้นเร็วขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้
……
เมืองตะวันตก บ้านของดร.บรีฟ
หลังจากช่วยตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บแล้ว ดร.บรีฟก็ได้กลับไปที่ห้องนั่งเล่นของเขาอย่างรวดเร็ว
ข้างในห้อง มีคุณนายบรีฟที่กำลังดูแลฮานาเซียที่ถูกล่อลวงด้วยเค้กแสนอร่อยและชานมอยู่
เมื่อบรีฟเห็นว่าฮานาเซียผู้เกรี้ยวกราดกำลังหลงใหลในเค้กอยู่ ลูกสาวของเขาอย่างบูลม่าก็กำลังแหย่หางของอีกฝ่ายด้วยความสงสัย ดร.บรีฟได้แต่เช็ดหยาดเหงื่ออันเย็นเหยียบที่หยดลงมาจากหน้าผากของเขา
ทำไมลูกสาวของเขาถึงไม่คิดจะดูสถานการณ์เลย?
หากลูกของเขายังรบกวนเอเลี่ยนตัวนั้นอีก เธอไม่กลัวหรือไงว่าทั้งครอบครัวจะถูกฆ่าเอา?
แต่ในขณะนั้นเอง ร่างสองร่างปรากฏขึ้นที่ใจกลางห้องนั่งเล่น
เป็นหลินเฉินและไทต์ ที่กลับมาพร้อมกันโดยเคลื่อนย้ายพริบตา
“พี่สาว!”
“ฝ่าบาท!”
“ไทต์!”
เมื่อเห็นทั้งสองกลับมา เสียงร้องอันประหลาดใจของทั้งครอบครัวก็ได้ดังขึ้น
บูลม่ากระโดดและกอดพี่สาวของเธอ ส่วนคุณนายบรีฟก็กอดลูกสาวของเธอด้วยสีหน้าตกใจ ในขณะที่ฮานาเซียลุกขึ้นยืนและส่งเค้กชิ้นหนึ่งให้หลินเฉิน
“ฝ่าบาท ลองดูสิ อาหารบนโลกนี้อร่อยมากเลย”
หลินเฉินยิ้มและปฏิเสธ จากนั้นจึงหันไปมองดร.บรีฟที่ยังคงตะลึงงันอยู่
“ดร.บรีฟ ข้าพาลูกสาวของเจ้ากลับมาอย่างปลอดภัยแล้ว”
“ขอบคุณ ขอบคุณคุณหลินเฉิน ว่าแต่ดร.วิลโลว์…”
“เขาจะไม่รบกวนเจ้าอีกต่อไปแล้ว…”
ดร.บรีฟยกแว่นตาของเขาขึ้น: "ย...อย่างนั้นเหรอ? เช่นนั้นก็ขอบคุณมากเลย คุณหลินเฉิน คือว่าพอจะบอกฉันได้ไหมว่าจุดประสงค์ที่มาที่นี่คือ?”
“โอ้ ที่รัก เขาเพิ่งช่วยลูกสาวของเราไว้ คุณค่อยพูดเรื่องธุระทีหลังได้หรือเปล่า? เดี๋ยวฉันจะไปเตรียมอาหารอร่อยให้นะ เราต้องปฏิบัติต่อผู้มีพระคุณเป็นอย่างดีสิ!” คุณนายบรีฟกล่าวออกมาด้วยความไม่พอใจนัก
“คุณผู้หญิง ไปจัดการตามที่เห็นสมควรเถอะ ดร.บรีฟและข้าจะรอเจ้าในขณะที่พูดคุยเรื่องบางเรื่องกัน ฮานาเซีย!” หลินเฉินตะโกนออกมา
“เจ้าน่ะ เดี๋ยวข้าจะช่วยเจ้าเอง ข้าน่ะอยากเห็นเหลือเกินว่าพวกเจ้าทำสิ่งนี้ได้เช่นไร?” ฮานาเซียคว้ามือไทต์และบูลม่าทันที จากนั้นก็ผลักพวกนางทั้งหมดไปพร้อมกับคุณนายบรีฟเข้าไปในห้องครัว เพื่อที่จะได้ให้หลินเฉินและดร.บรีฟพูดคุยกัน
“ดร.บรีฟ ข้าจะพูดตรงประเด็นเลย ข้ามาที่นี่เพื่อหวังว่าจะได้รับความช่วยเหลือจากเจ้า” หลินเฉินกล่าว
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ดร.บรีฟก็ลูบมือของเขา: “คุณหลินเฉิน ด้วยความแข็งแกร่งของคุณ ฉันสงสัยเหลือเกินว่ามีอะไรที่ฉันจะสามารถช่วยคุณได้ด้วยหรือ?”
หลินเฉินส่ายศีรษะและตอบว่า “แม้ว่าพวกเราชาวไซย่าจะแข็งแกร่งกว่าชาวโลก แต่เราไม่มีทักษะในการพัฒนาเทคโนโลยีอยู่ ดังนั้นข้าจึงหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนทางเทคโนโลยีจากดร.บรีฟและบริษัทแคปซูลที่อยู่เบื้องหลังเจ้า เพื่อให้เราชาวไซย่ามีเทคโนโลยีที่ดีขึ้นกว่านี้”