บทที่ 21 การกำจัดหนูดิน
แม้ว่าจะมีภารกิจจำนวนมาก แต่ก็ดูเหมือนว่ามีภารกิจที่เหมาะสมกับอีเลฟเว่นไม่มากนัก
ภารกิจที่นี่เป็นเพียงเพราะบางคนต้องการจ่ายเงินเพียงเล็กน้อยเพื่อจ้างนักฝึกสัตว์อสูรไปเป็นพนักงานชั่วคราว
ตัวอย่างเช่น ภารกิจในการจับเป็นตั๊กแตนสายลมซึ่งถูกออกโดยโรงแรมแห่งหนึ่งและได้ถูกมอบหมายให้กับสมาคมนักฝึกสัตว์อสูร
ตั๊กแตนสายลมเป็นสัตว์อสูรที่ทำลายผลผลิตทางการเกษตรและแม้แต่อาหารยอดนิยมบนโต๊ะอาหาร
เมื่อเทียบกับการซื้อตั๊กแตนสายลมจากฟาร์ม การซื้อพวกมันที่นี่ในรูปแบบภารกิจนั้นคุ้มค่ามากกว่า
ข้อเสียเพียงอย่างเดียวก็คือประสิทธิภาพนั้นช้ามาก แต่เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่ภารกิจฉุกเฉินที่จำกัดเวลา พวกเขาต้องการให้มันเป็นภารกิจระยะยาว
การจับตั๊กแตนสายลมที่บินได้นั้นค่อนข้างลำบากอย่างแท้จริง แม้ว่าพวกมันจะไม่แข็งแกร่งกว่าหนอนไหมเขียวมากนัก แต่ความคล่องตัวของพวกมันก็สูงมาก ทักษะเผ่าพันธุ์ของพวกมันคือปีกสายลม ดังนั้นพวกมันจึงเร็วมาก
หลังจากมองหาสักพัก หากไม่ใช่เพราะอีเลฟเว่นบินไม่ได้และการทำภารกิจนี้เป็นเรื่องยากมากเกินไป บางทีซืออวี๋อาจเลือกภารกิจนี้
ในการต่อสู้ตอนนี้ แม้ว่าชัยชนะจะค่อนข้างง่าย แต่ไม่ใช่ว่าซืออวี๋จะไม่คิดถึงมันเลย
การโจมตีของอสูรเกราะน้ำแข็งตัวนั้นรวดเร็วมาก อีเลฟเว่นผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ในการต่อสู้มากนักทำได้เพียงแค่เคลือบแข็งทั้งร่างกายของมันเพื่อป้องกันการโจมตีโดยสัญชาตญาณ
อย่างไรก็ตาม มีทางเลือกอื่นอีกในขณะนั้น มันคือการคาดการณ์จุดโจมตีของคู่ต่อสู้และเคลือบแข็งแค่บางส่วน
ด้วยวิธีนี้ มันจะลดการใช้พละกำลังอย่างมหาศาล
แม้ว่าการเคลือบแข็งระดับช่ำชองจะมอบความสามารถในการต่อสู้ด้วยร่างกายเคลือบแข็งให้แก่พวกมัน แต่สัตว์อสูรที่ชนะด้วยการใช้พละกำลังน้อยที่สุดนั้นพวกมันมีทักษะการต่อสู้ที่ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด
“บางทีทักษะต่อไปอาจต้องเป็น ‘สุดยอดการมองเห็น’”
แม้ว่าการระเบิดความเร็วของอสูรกินเหล็กจะรวดเร็วมาก แต่มันก็จำเป็นต้องมีความเร็วในการตอบสนองและการมองเห็นที่ดีขึ้น
ซืออวี๋รู้สึกว่าสายตาของเขานั้นดีกว่าอีเลฟเว่นแม้ว่าเขาจะสวมแว่นกันแดดอยู่ก็ตาม
ข้อบกพร่องทางเผ่าพันธุ์นี้ทำให้อีเลฟเว่นไม่สามารถคาดการณ์จุดโจมตีของศัตรูได้อย่างแม่นยำในการต่อสู้ครั้งนั้น ดังนั้นมันจึงทำได้เพียงแค่เคลือบแข็งทั้งร่างกายของมัน
แต่หากมันได้รับสุดยอดการมองเห็น สถานการณ์นี้จะจดีขึ้นอย่างมาก ในการต่อสู้ มันจะสามารถเห็นการโจมตีของศัตรูได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และภารกิจเช่นการจับตั๊กแตนสายลมที่ว่องไวก็เห็นได้ชัดว่าเป็นวิธีการบ่มเพาะสุดยอดการมองเห็นและการตอบสนองให้ดีมากยิ่งขึ้น แน่นอนว่ามันเป็นตัวเลือกสำรองสำหรับซืออวี๋
“อันที่จริง ภารกิจกำจัดหนูดินก็เหมาะสมเช่นกัน…”
เนื่องจากอีเลฟเว่นบินไม่ได้ ซืออวี๋จึงมองหาภารกิจอื่น
หนูธาตุดินหรือที่รู้จักกันในชื่อหนูดินนั้นเป็นสัตว์อสูรระดับต่ำในโลกสัตว์อสูร ทักษะเผ่าพันธุ์ของพวกมันคือหลบหนีปฐพี กล่าวอีกนัยหนึ่ง พวกมันเก่งในการหลบหนีใต้ดิน ในด้านของพลังต่อสู้ หนูธาตุดินนั้นอย่างมากที่สุดก็เทียบได้กับสุนัขป่า พวกมันสามารถต่อสู้กับผู้ใหญ่ที่มีอาวุธได้แบบตัวต่อตัว
อย่างไรก็ตาม ปัญหาของสัตว์อสูรเหล่านี้ก็คือพวกมันแพร่พันธุ์เร็วเกินไป มีจำนวนมหาศาล และว่องไว เมื่อพวกมันพบกับอันตราย พวกมันก็มักจะร่วมมือกัน และเป็นไปไม่ได้ที่จะตัดสินภัยคุกคามของพวกมันจากระดับการเติบโตตามปกติ
โชคดี เว้นแต่ว่าพวกมันจะพบเจอกับสถานการณ์อันสิ้นหวัง ตัวเลือกแรกของพวกมันเมื่อพบเจอกับสัตว์อสูรตัวอื่นก็คือการหลบหนีอย่างแน่นอน มิฉะนั้นผลกระทบที่พวกมันสร้างขึ้นจะมากยิ่งกว่านี้
แต่ถึงกระนั้น สัตว์อสูรชนิดนี้ก็เลวร้ายยิ่งกว่าตั๊กแตนสายลมเสียอีก พวกมันถูกจัดให้เป็นหนึ่งในสี่ศัตรูพืชเพราะพวกมันเคลื่อนไหวบ่อยมาก พวกมันมักจะหิวโหยและออกอาละวาดหาอาหารอย่างบ้าคลั่ง
พวกมันไม่เพียงแค่ขโมยอาหารและทำลายพืชเท่านั้น แต่ทักษะหลบหนีปฐพีของพวกมันก็สร้างความเสียหายกับอาคารเช่นกัน
อาจมีหนูดินค่อนข้างน้อยในเมือง แต่ก็มีหนูดินจำนวนมากในพื้นที่ชนบทบางแห่ง การกำจัดพวกมันให้หมดสิ้นนั้นเป็นเรื่องยากมาก
ภารกิจในการกำจัดหนูดินถูกออกร่วมกันโดยหลายหมู่บ้านที่อยู่ในเขตผิงเฉิง มันเป็นภารกิจระยะยาวเช่นกัน จะมีทีมนักฝึกสัตว์อสูรไปที่ชนบทเพื่อกำจัดศัตรูพืชเหล่านี้แทบทุกวัน
การกวาดล้างหนูดินอาจไม่ได้ง่ายกว่าการจับตั๊กแตนสายลม แต่ก็ดูเหมือนว่ามันจะสามารถใช้เพื่อฝึกฝนความเร็วในการตอบสนองของอีเลฟเว่นได้
นี่ทำให้ซืออวี๋นึกถึงเกม…
ตีตุ่น!
หาหนูดินและกำจัดมันก่อนที่มันจะหนีลงดิน มันไม่ได้เหมือนกับการเล่นเกมตีตุ่นเหรอ?
ภารกิจนี้จะจ่ายตามจำนวนของหนูดินที่ถูกสังหาร ราคาก็ไม่สูงมากนักเช่นกัน ดังนั้นมันจึงด้อยกว่าตั๊กแตนสายลม
ซืออวี๋สงสัยว่าสาเหตุหลักก็คือร่างกายของพวกมันมีรสชาติราวกับโคลน ไม่มีใครอยากกินพวกมัน พวกมันไม่อร่อยเหมือนกับตั๊กแตนสายลม ดังนั้นค่าหัวของพวกมันจึงถูกมาก…
“การพาอีเลฟเว่นไปฝึกฝนสักสองสามวันนั้นไม่เลวเลย”
“การฝึกฝนการเคลือบแข็งสิ้นสุดลงแล้ว การเคลือบแข็งระดับช่ำชองก็เพียงพอแล้วสำหรับตอนนี้”
เพื่อฝึกฝนสัตว์อสูรอย่างเหมาะสม มันต้องพัฒนารอบด้าน!
หลังจากยืนยันว่าเขาได้รับภารกิจในการกวาดล้างหนูดินแล้ว ซืออวี๋ผู้ที่ถือใบรับรองตัวตนของเขาก็เตรียมลงทะเบียน
แต่ในขณะที่เขากำลังเข้าคิว เขาก็รู้สึกว่าผู้ที่อยู่หน้านั้นดูคุ้นเคยมาก
นักฝึกสัตว์อสูรที่อยู่หน้าเขาก็ดูราวกับจะสัมผัสได้ถึงบางสิ่งเช่นกัน เขาหันกลับมาโดยไม่รู้ตัวและเห็นรอยยิ้มของซืออวี๋
“ช่างบังเอิญอะไรเช่นนี้”
“อสูรเกราะน้ำแข็งฟื้นตัวแล้วเหรอ?”
คนผู้นี้บังเอิญเป็นนักเรียนชั้นนำที่ซืออวี๋และอีเลฟเว่นเคยชนะมาก่อน เฉินไค
ในขณะนั้น เมื่อเฉินไคหันกลับมาและเห็นซืออวี๋ สีหน้าของเขาก็มืดลงในทันใด
“มันฟื้นตัวแล้ว” เขากล่าวอย่างไร้ความสุข
“เจ้ามาที่นี่เพื่อรับภารกิจเช่นเดียวกันเหรอ?” ซืออวี๋เอ่ยถาม
เฉินไคพยักหน้าตอบกลับ
หลังจากการบาดเจ็บของอสูรเกราะน้ำแข็งได้รับการรักษาโดยนักฝึกสัตว์อสูรที่มีพรสวรรค์การรักษาในโรงต่อสู้ ยิ่งเขาคิดถึงความพ่ายแพ้ในการต่อสู้มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้นเท่านั้น
ดังนั้นเฉินไคจึงตัดสินใจทำงานหนักและใช้ประโยชน์จากวันหยุดในการทำภารกิจเพื่อฝึกฝนตัวเอง จากนั้นเขาก็นั่งแท็กซี่มาที่นี่ซึ่งเขามาถึงเร็วกว่าซืออวี๋ผู้ที่ขี้เหนียวในการใช้เงินหนึ่งก้าว
“เจ้าก็เช่นกันเหรอ? เจ้าจะรับภารกิจไหนล่ะ?” เฉินไคเอ่ยถามหลังจากพยักหน้า
เขาต้องการรู้ว่าภารกิจการฝึกฝนแบบไหนที่ ‘ผู้เชี่ยวชาญ’ เช่นซืออวี๋รับมา บางทีมันอาจคุ้มค่าสำหรับการอ้างอิง
“การกวาดล้างหนู โดยเฉพาะหนูดิน” ซืออวี๋กล่าวออกมา
“ด้วยตัวเจ้าเองเหรอ?” เฉินไคตกตะลึง
ซืออวี๋พยักหน้า
“มีปัญหาอะไรเหรอ?”
“ไม่… โดยปกติแล้ว ภารกิจนี้เหมาะสำหรับการรวมทีมกัน เนื่องจากหนูธาตุดินนั้นรวดเร็วเกินไป การทำงานเป็นทีมเพื่อกำจัดพวกมันจึงง่ายกว่า—ทำไมเจ้าไม่มารวมทีมกับข้าล่ะ? ข้าก็จะรับภารกิจนี้เช่นกัน” เฉินไคกล่าวอย่างเร่งรีบ
ซืออวี๋ : “?”
เกิดอะไรขึ้นกับคนผู้นี้กัน?
ข้าไม่ใช่สาวงาม และข้าก็เพียงทุบตีเขา ทำไมเขาถึงจีบข้ากัน?
“คนเดียวกับสองคนไม่ต่างกันใช่ไหม…?”
“ข้าสามารถเรียกเพื่อนร่วมห้องอีกสองคนมาได้ เมื่อถึงเวลาก็จะมีคนควบคุม คนดึงดูดความสนใจ และคนโจมตี มันจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น”
ซืออวี๋ : “…”
เจ้าจะต่อสู้กับบอสเหรอ?
ซืออวี๋คิดเกี่ยวกับมัน หนูดินไม่กี่ตัวนั้นไม่เป็นภัยคุกคามมากนัก แต่หากมีพวกมันมากเกินไป การจัดการพวกมันที่เหลือก็คงเป็นเรื่องยากมากสำหรับเขา
การรวมทีมก็ดูราวกับจะเป็นตัวเลือกที่ดีเช่นกัน เขาไม่ได้ต่อต้านสังคมเหมือนเช่นเคย
“แน่นอน” ซืออวี๋พยักหน้าและกล่าวออกมา “งั้นมาทำภารกิจนี้ด้วยกันเถอะ”
“เอาล่ะ ข้าจะเรียกนักเรียนอีกสองคนมาในคืนนี้เพื่อสร้างทีมสี่คน” เฉินไคยิ้มออกมา
หากเป็นคนในวัยเดียวกันที่เขาไม่เคยเจอ เขาคงไม่เร่งรีบเช่นนี้ ส่วนใหญ่เป็นเพราะความแข็งแกร่งของซืออวี๋ เขาต้องการดูว่าซืออวี๋นั้นฝึกฝนสัตว์อสูรยังไง
ซืออวี๋ฝึกฝนอสูรกินเหล็กจอมขี้เกียจได้ยังไงกัน?
หลังจากที่ทั้งสองคนยืนยันแล้ว พวกเขาก็ตกลงที่จะมาเจอกันที่นี่ในช่วงเช้าของพรุ่งนี้
หลังจากนั้น ซืออวี๋ก็ไม่ได้อยู่ข้างนอกนานนัก ในระหว่างทางกลับบ้าน เขาก็ตรงไปที่ร้ายขายยาเพื่อซื้ออาหารเสริมของเขา
“เจ้าอีกแล้วเหรอ?” ในร้านขายยา แพทย์หนุ่มมีสีหน้าแปลกประหลาดเมื่อเขาเห็นซืออวี๋
นี่เป็นครั้งที่สามซึ่งซืออวี๋มาที่นี่ในช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมา
คนผู้นี้ทำอะไรทุกวันกัน?
“แค่ก มีการฝึกฝนอย่างหนักและแม้แต่การต่อสู้ระหว่างสัตว์อสูร นอกจากนี้ สุขภาพของข้าก็ย่ำแย่ตั้งแต่เด็ก ดังนั้นข้าจึงไม่มีทางเลือก…” ซืออวี๋อธิบาย
แพทย์หนุ่มแสดงออกถึงความเข้าใจและเห็นใจ จากนั้นเขาก็มอบอาหารเสริมให้แก่ซืออวี๋ ในขณะนี้ ซืออวี๋กำลังพิจารณาว่าเขาควรเปลี่ยนร้ายขายยาหรือไม่ มิฉะนั้นชื่อเสียงของเขาก็จะได้รับผลกระทบในไม่ช้าก็เร็ว
Fanpage : ผีเสื้อกลางคืน