บทที่ 18 - รางวัลทั้งสาม ข้าต้องการมันทั้งหมด
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 18 - รางวัลทั้งสาม ข้าต้องการมันทั้งหมด
หลังจากลองคิดดูอยู่สักพัก หลินเฉินก็กำลังจะเลือก ทันใดนั้นเขาก็พบว่าทางเลือกในครั้งนี้ดูเหมือนจะมีช่องโหว่อยู่หรือเปล่านะ?
“ระบบ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าข้าทำตามเงื่อนไขของทั้งสามทางเลือกในเวลาเดียวกัน?”
แม้ว่าสามตัวเลือกในครั้งนี้จะยากกว่าครั้งก่อนมาก แต่มันก็ไม่มีความขัดแย้งระหว่างสามตัวเลือกเลย หากหลินเฉินทุ่มเทมากพอ เขาก็สามารถทำตามข้อกำหนดทั้งหมดของตัวเลือกทั้งสามได้ในคราวเดียว
ระบบดูเหมือนจะชักงักไปชั่วคราว ก่อนที่จะตอบมาว่า “ระบบการเลือกอนุญาตให้ผู้ใช้เลือกได้ทั้งหมด แต่ถ้าแม้แต่ตัวเลือกเดียวไม่สำเร็จ ผู้ใช้จะถูกลบทิ้ง! โปรดเลือกอย่างระมัดระวัง”
เลือกอย่างระมัดระวังงั้นเหรอ?
ความเสี่ยงย่อมมาพร้อมผลตอบแทนที่มาก
“ระบบ ข้าต้องการรางวัลของทั้งสามตัวเลือก!”
“ติ๊ง ยืนยันการเลือกของผู้ใช้ โปรดทำภารกิจให้เสร็จโดยเร็วที่สุด การนับถอยหลังหนึ่งปีจะเริ่มขึ้นแล้ว!”
วินาทีต่อมา หลินเฉินก็เห็นตัวจับเวลาถอยหลังที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาปรากฏขึ้นในสายตาของเขา
…
นับตั้งแต่วันนี้ ชาวไซย่าบนดาวเคราะห์เบจิต้าจะเข้าสู่ยุคสมัยแห่งการฝึกฝน
ชาวไซย่าทุกคนไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ จะต้องเริ่มฝึกฝนอย่างบ้าคลั่ง
ในความเป็นจริง ช่วงห้าปีนับตั้งแต่ที่หลินเฉินได้หายไป เพราะชาวไซย่าถูกห้ามไม่ให้ออกจากดาวเคราะห์เบจิต้า เพื่อที่จะฆ่าเวลา การฝึกฝนจึงได้กลายเป็นที่นิยมในหมู่ชาวไซย่าและความแข็งแกร่งโดยรวมของพวกเขาก็มากขึ้นกว่าตอนที่พวกเขาจัดการกับฟรีเซอร์เสียอีก
แต่น่าเสียดายที่แทบจะไม่มีชาวไซย่าคนใดในโลกที่รู้วิธีการฝึกที่ถูกต้อง
ในอดีต ชาวไซย่าไม่เคยมีนิสัยชอบการฝึกฝนเลย
ดังนั้นในช่วงห้าปีที่ผ่านมา ความแข็งแกร่งของไซย่าจึงดีขึ้นอย่างช้าๆ
หลังจากรู้ถึงสถานการณ์ในตอนนี้ หลินเฉินก็เริ่มกำหนดแผนการฝึกสำหรับชาวไซย่าทันทีและปล่อยให้พวกเขาฝึกตามนั้น
ในเวลาเดียวกัน หลินเฉินยังเลือกชาวไซย่าที่มีความสามารถมากที่สุดห้าสิบคนและให้โอกาสพวกเขาเข้าสู่ห้องแรงโน้มถ่วงห้าสิบเท่าเพื่อฝึกฝน โดยหวังว่าระดับพลังของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 100,000 ภายในหนึ่งปี
ส่วนภารกิจที่ต้องการชาวไซย่ามากกว่า 5 คนที่มีระดับพลังเกิน 500,000 เขารู้ดีว่ามันยากที่จะทำได้สำเร็จ
เพราะขนาดเขาที่ใช้เวลาห้าปีในการผสานกับสายเลือดในตำนาน ยังมีพลังประมาณ 500,000 เลย
ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา โบรลี่ที่มีสายเลือดซูเปอร์ไซย่าในตำนานก็มีระดับพลังเพียงแค่ 230,000 เท่านั้น
ทั้งเขาและโบรลี่มีสายเลือดซูเปอร์ไซย่าในตำนาน แต่อัตราการเติบโตของพวกเขากลับน้อยนิดนัก
สำหรับชาวไซย่าธรรมดาพวกนั้น คงเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้วิธีปกติเพื่อทะลุขีดจำกัดภายในหนึ่งปี
โชคดีที่หลินเฉินมีวิธีอื่นอยู่
วันหนึ่ง หลินเฉินได้เรียกราชาเบจิต้า พารากัส บาร์ดัค ฮานาเซียและโบรลี่มารวมตัวกัน
พวกเขาทั้งห้าเป็นคนที่หลินเฉินตั้งใจที่จะใช้เพื่อทำภารกิจเพิ่มระดับพลัง 500,000 ให้สำเร็จ
หลังจากที่ทุกคนมาถึง หลินเฉินก็ส่งผลไม้ของต้นไม้แห่งชีวิตทั้งห้าลูกให้พวกเขา
"กินนี่ซะ"
“น-นี่…คือผลไม้ของต้นไม้แห่งชีวิตงั้นหรือ ?”
เมื่อเห็นผลไม้สีแดงขนาดใหญ่ในมือของเขา ราชาเบจิต้าและคนอื่นๆ ก็จำได้ทันที
นี่ไม่ใช่ผลไม้ของต้นไม้แห่งชีวิตที่ทาเลสนำออกมาเพื่อล่อลวงชาวไซย่าให้มีส่วนร่วมในการกบฏของทาเลสหรอกหรือ?
“ฝ่าบาท ทำไมท่านถึงมีสิ่งเหล่านี้ติดตัวกัน? ไม่ใช่ว่าท่านทำลายผลของต้นไม้แห่งชีวิตไปทั้งหมดแล้วหรือ?” พารากัสถามออกมาด้วยความประหลาดใจ
“เจ้าไม่จำเป็นต้องถามอะไรมากมาย รีบกินซะ ความแข็งแกร่งของเจ้าจะเพิ่มขึ้นมากเลย”
"ขอรับ!"
เมื่อได้ยินคำสั่งของหลินเฉิน ยกเว้นเพียงโบรลี่ อีกสี่คนไม่ลังเลอีกต่อไปและกินผลไม้ของต้นไม้แห่งชีวิตทันที
เพียงไม่กี่อึดใจ พวกเขาทั้งสี่ก็กินผลไม้จนหมด
วินาทีต่อมา พวกเขาทั้งสี่รู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นภายในร่างกายของพวกเขา พลังงานที่ร้อนระอุและมหาศาลเต็มไปทั่วร่างกายของพวกเขาในทันที
พลังงานนี้ไม่เพียงแต่ทำให้พวกเขารู้สึกราวกับว่าร่างกายของพวกเขากำลังเปล่งพลังออกมา แต่ยังทำให้จิตใจของพวกเขาสัมผัสทุกอย่างได้ชัดเจนมาก
ทั้งสี่คนเริ่มปล่อยออร่าออกมาอย่างไม่รู้ตัว
“พลัง! ข้ารู้สึกเต็มไปด้วยพลัง!” ราชาเบจิต้ามองไปที่หมัดของเขาด้วยความตื่นเต้น ขณะที่เขาสัมผัสได้ถึงพลังที่พุ่งพล่านในร่างกายของเขา
"พลังอันมหาศาล!" บาร์ดัคเองก็เต็มไปด้วยความสุขขณะที่เขากำหมัดแน่น
“ผลของต้นไม้แห่งชีวิตนั้นทรงพลังขนาดนี้เลยหรือ?” ฮานาเซียและพารากัสก็ตื่นเต้นมากเช่นกัน
เมื่อมองไปที่พวกเขาทั้งสี่คนที่กำลังตื่นเต้นกันอยู่ หลินเฉินก็ใช้ระบบเพื่อตรวจสอบระดับพลังของพวกเขา
ในบรรดาทั้งสี่ ความแข็งแกร่งขอบาร์ดัคเพิ่มขึ้นมากที่สุดและระดับพลังของเขาถึง 400,000 ในครั้งเดียว
ส่วนราชาเบจิต้าก็อยู่ไม่ไกลจากเขาเท่าไรนัก
ทางด้านพารากัสและฮานาเซียเพิ่มขึ้นน้อยกว่าเล็กน้อย แต่พวกเขาก็ยังมีระดับพลังมากกว่า 300,000
สมกับเป็นผลไม้ที่ถูกกินโดยพระเจ้า มันทรงพลังกว่าที่คาดไว้เสียอีก
ในเวลานี้เอง หลินเฉินมองไปที่โบรลี่ที่ถือผลของต้นไม้แห่งชีวิตและไม่ขยับเขยื้อนเลยสักนิดเดียว
“โบรลี่ ทำไมเจ้าไม่กินล่ะ?”
โบรลี่ลังเลและตอบไปว่า “พี่ลิงค์ สิ่งนี้มีค่ามาก ทำไมท่านถึงไม่เป็นคนกินมันงั้นเหรอ?”
“ข้าลองแล้ว พูดตามตรง ยิ่งมีความแข็งแกร่งน้อยเท่าไร มันก็ยิ่งมีผลต่อการเพิ่มระดับพลังได้ดีขึ้นเท่านั้น หลังจากผ่านไประดับหนึ่ง ผลของมันจะไม่ค่อยชัดเจนนัก”
หลินเฉินได้รับผลของต้นไม้แห่งชีวิตเป็นรางวัลที่เขาทำภารกิจได้สำเร็จ
หลังจากฆ่าทาเลสแล้ว หลินเฉินก็ได้ลองกินไปหนึ่งผล แต่ผลลัพธ์ของมันได้ทำให้เขาผิดหวังพอสมควร
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าผลของต้นไม้แห่งชีวิตจะสามารถเพิ่มระดับพลังได้โดยตรง
แต่หลังจากกินเข้าไปจริงๆ เขาก็ตระหนักว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในผลของต้นไม้แห่งชีวิตไม่ใช่การเพิ่มระดับพลัง แต่เป็นการเพิ่มความแข็งแกร่งทางจิตใจ
การเพิ่มขึ้นของระดับพลังนั้น เกิดจากการที่ผลของต้นไม้แห่งชีวิตบำรุงและเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางร่างกายในเวลาเดียวกัน
แต่ร่างกายของหลินเฉินได้รับความแข็งแกร่งจากการผสานกับสายเลือดซูเปอร์ไซย่าในตำนานแล้ว ดังนั้นผลของต้นไม้แห่งชีวิตจึงยกระดับพลังของเขาได้น้อยมาก
หลังจากกินผลไม้ไป ระดับพลังของหลินเฉินเพิ่มขึ้นเพียงประมาณ 100,000 และระดับพลังในปัจจุบันของเขาคือ 650,000
ก่อนหน้านี้หลินเฉินรู้สึกเสียใจมากที่เขาใช้กำลังมากเกินไปในวันนั้น จนเผลอฉีกยานอวกาศของทาเลสขาดสะบั้น ทำให้มันไม่เหลือเมล็ดพันธุ์ของต้นไม้แห่งชีวิตเลย
แต่หลังจากรู้ถึงความสามารถของผลต้นไม้แห่งชีวิตแล้ว เขาก็ไม่รู้สึกเสียใจอีกต่อไป
“โบรลี่ ผลไม้นี้จะไม่มีผลต่อเจ้ามากนัก แต่หลังจากที่เจ้ากินมันแล้ว มันจะมีประสิทธิภาพมากในการช่วยเจ้าควบคุมอารมณ์ ดังนั้นเจ้าควรรีบกินมันเสีย”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ โบรลี่ก็ไม่ลังเลที่จะกินมันอย่างเชื่อฟัง
ตามที่คาดไว้ หลังจากกินผลของต้นไม้แห่งชีวิตไป ออร่าของโบรลี่ก็ไม่พุ่งสูงมากนัก แม้แต่ระดับพลังก็เพิ่มเพียงเพียง 70,000 เท่านั้นซึ่งเพิ่มระดับพลังของเขาจาก 230,000 เป็น 300,000
แม้ว่าทั้งห้าคนจะยังคงห่างจากระดับพลัง 500,000 อยู่ แต่อย่าลืมไปนะว่าระยะเวลาของภารกิจคือหนึ่งปี เมื่อพวกเขาได้เพิ่มระดับพลังของพวกเขาผ่านผลของต้นไม้แห่งชีวิตแล้ว หากพวกเขาต้องการที่จะไปถึงระดับพลัง 500,000 มันก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาเลย
“ราชาเบจิต้าและพวกเจ้าทั้งหมดที่ได้กินผลของต้นไม้แห่งชีวิตจำเป็นต้องฝึกฝนกันอย่างหนักต่อไป ภายในหนึ่งปี หากระดับพลังของใครก็ตามไม่เกิน 500,000 จงอย่าหาว่าข้ารุนแรง!”
"ขอรับ!"
ราชาเบจิต้าและผู้อื่นๆ พยักหน้า จากนั้นพวกเขาก็กล่าวคำอำลาและเดินออกไป
ดูเหมือนว่าโบรลี่จะมีบางอย่างจะพูด แต่เขาก็ถูกดึงออกไปโดยพ่อของเขา พารากัส
คนเดียวที่เหลืออยู่คือฮานาเซียที่รีบวิ่งไปทางด้านข้างของหลินเฉินด้วยใบหน้าแดงก่ำ นางจับแขนของเขาและพูดว่า “ฝ่าบาท ตอนนี้ข้ารู้สึกว่าร่างกายของข้าแข็งแกร่งขึ้นมาก ข้าต้องการต่อสู้กับท่านดูอีก 300 รอบ เพื่อทดสอบขีดจำกัดของร่างกายของข้าสักหน่อย…”
“เอ่อ…บาร์ดัค? ทำไมเจ้าถึงยังอยู่ที่นี่?”
หลินเฉินที่กำลังจะตอบตกลง ก็พบว่ามีอีกผู้หนึ่งที่ยังคงยืนอยู่ที่นี่
บาร์ดัคเอามือข้างหนึ่งวางบนศีรษะของตนและตอบไปว่า: “ฝ่าบาทลิงค์ ข้ามีเรื่องหนึ่งต้องรายงาน”