ตอนที่แล้วนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 138 - รับสมัคร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 140 - ฝึกฝน

นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 139 - ทองคำที่ไร้ค่า


ฟิลลิดาถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะกลับมากล่าวกับเหล่านักเรียนอีกครั้ง “ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้ทุกคนเสียเวลากับเรื่องไร้สาระ” เธอส่งรอยยิ้มที่สดใสให้กับทุกคน แต่มันเหมือนกับจะทำให้บรรยากาศตึงเครียดขึ้นแทนที่จะผ่อนคลายลง

“บอกตามตรง ฉันค่อนข้างมั่นใจในความสามารถของตัวเอง ว่าน่าจะเป็นผู้ชนะเลิศในการแข่งขันครั้งนี้ได้อย่างแน่นอน แต่ถ้าฉันลงมือเพียงลำพัง มันน่าจะต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมากเลยทีเดียว” เธอพูดพร้อมกับถอนหายใจออกมาอีกครั้ง

“ดังนั้น! ฉันจึงเลือกที่จะขอความร่วมมือจากคนที่เต็มใจจะช่วยเหลือ และได้โปรดวางใจ หลังจากที่กิจกรรมครั้งนี้จบลง และฉันได้เป็นลูกศิษย์ส่วนตัวของศาสตราจารย์อาวุโสไวท์ รับรองได้ว่า ฉันจะตอบแทนกลับอย่างเต็มที่เลยทีเดียว” เธอกล่าวให้คำมั่นออกมาด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม น้ำเสียงนั้นจริงจังเป็นอย่างมาก

แต่ผลที่ได้รับกลับมานั้น มันตรงกันข้ามกับที่ฟิลลิดาคิดเอาไว้อย่างสิ้นเชิง นักเรียนหลายคนส่งเสียงหัวเราะเป็นการเยาะเย้ยออกมา อีกหลายคนกำลังจับกลุ่มซุบซิบกันอย่างเมามัน และมีส่วนหนึ่งเริ่มขยับออกไปจับจองบ้านหรือห้องพักที่ยังว่างอยู่เพื่อใช้เป็นที่พักผ่อนของตัวเองแล้ว

แน่นอน นี่ยังไม่รวมกับคนที่จากไปตั้งแต่ฟิลลิดาได้สแกนข้อมูลของเธอเข้ากับกล่องอุปกรณ์เสร็จสิ้นแล้วด้วย มันยังมีอุปกรณ์ไฮเทคระดับต่ำเป็นจำนวนมากรอให้ไปค้นหาอยู่ โดยส่วนใหญ่แล้ว ไม่มีใครเก็บเอาข้อเสนอของฟิลลิดามาพิจารณาเลย

“ทำไมเธอถึงได้มั่นใจขนาดนั้นนะ? จะเอาที่ 1 เลยเหรอเนี่ย?” เสียงเยาะเย้ยดังมาพอให้ได้ยิน

“หึหึ! อย่าไปพูดถึงอันดับ 1 เลย แค่ติด 1 ใน 10 จะเป็นไปได้หรือเปล่ายังไม่รู้เลย? ต่อให้มีคนยอมช่วยด้วยก็เถอะ มันต้องใช้สักกี่คนกันล่ะ ความแข็งแกร่งของเธอไม่ได้มากถึงขนาดนั้นเลย”

“นายคิดไม่ต่างจากฉันมากนัก ลองคิดดูสิ เจ้าพวกนักเรียนใหม่หน้าแปลก ๆ พวกนั้น มันโผล่หน้าขึ้นมาราวกับดอกเห็ดเลย แต่ละคนแข็งแกร่งกันทั้งนั้น” เสียงนักเรียนอีกคนกล่าวสนับสนุนออกมา เขาถึงขนาดลอบแอบมองมาที่กลุ่มของเอเวียนด้วยซ้ำ

แทบจะไม่มีใครฟังคำพูดของฟิลลิดาอีกเลย ทุกคนเริ่มแยกย้ายกันไปทำสิ่งที่ตัวเองวางแผนเอาไว้ บรรยากาศรอบ ๆ กลายเป็นวุ่นวายขึ้นมาไม่น้อยเลยทีเดียว

นั่นทำให้เธอต้องขมวดคิ้วอย่างคิดหนัก ก่อนที่ในดวงตาจะมีประกายที่แปลกประหลาดปรากฏขึ้น และอย่างที่ไม่มีใครคาดคิด ฟิลลิดาเอื้อมมือไปหยิบของออกมาจากกระเป๋าเป้สีน้ำตาลด้านหลัง มันเป็นผ้าลายพรางผืนนั้นนั่นเอง!

การกระทำของเธอกระตุ้นให้บรรยากาศนั้นตึงเครียดขึ้นอีกครั้ง สายตาของนักเรียนหลายคนปรากฏความโลภขึ้นมาอย่างชัดเจนอีกครั้ง และมีหลายคนที่ทึ่งกับความใจกล้าของฟิลลิดาไม่น้อย แต่ส่วนใหญ่แล้ว พวกเขากำลังสับสนกันอยู่ในใจ เด็กผู้หญิงคนนี้จะหยิบผ้าคลุมออกมาทำไม มันจะช่วยให้เธอรับสมัครคนได้ง่ายขึ้นอย่างนั้นหรือ?

ฟิลลิดาไม่แยแสกับสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวเลย เธอแค่กล่าวเพิ่มออกมาแค่ 2 คำเท่านั้น และมันแทบจะทำให้พื้นที่ปลอดภัยนี้ลุกเป็นไฟขึ้นมา

“ชุดรบ!!”

ตูม!!

……………..

เดวิดชะงักเท้าของตัวเองลง เมื่อแน่ใจว่าตัวเองเข้าใกล้กับจุดหมายที่เข็มทิศชี้ทางมาแล้ว

เข็มทิศที่เขาใช้อยู่ตอนนี้ เป็นอุปกรณ์ไฮเทคที่อยู่ในชุดเครื่องค้นหาสมบัติ แม้ว่าชื่อเรียกนั้นค่อนข้างจะน่าสนใจ แต่มันก็เป็นแค่เพียงเทคโนโลยีระดับต่ำเท่านั้น และภายใน 1 วัน สามารถใช้งานได้สูงสุดแค่ 3 ครั้ง ที่เลวร้ายไปกว่านั้น คือความแม่นยำและความถูกต้องของมันนั้นต่ำมาก บางทีการโปรแกรมความหมายของคำว่าสมบัติ อาจจะมีอะไรที่ผิดพลาดจากความเป็นจริงไปบ้าง เพราะบางครั้ง จุดหมายที่มันชี้ไปก็มีแค่ของที่ไร้ประโยชน์เท่านั้น

และนั่นคือสิ่งที่เดวิดประสบมาเมื่อราว ๆ 3 ชั่วโมงที่แล้วนี้เอง การเดินทางตามทิศทางที่ระบุโดยเข็มทิศนั้นราบรื่นเป็นอย่างมาก เขาไม่พบแม้แต่สัตว์ร้ายที่น่ากลัวเลยแม้แต่ตัวเดียว ไม่ต้องพูดถึงสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์เลยด้วยซ้ำ

แต่เรื่องที่ทำให้เดวิดต้องใช้เวลา 3 ชั่วโมงต่อมาสาปแช่งอย่างต่อเนื่องก็คือ สมบัติที่เข็มทิศนี้ชี้ทางมาถูกฝังอยู่ใต้ดิน แม้ว่าเขาจะสงสัย แต่เดวิดก็ยังทำการขุดลงไปเพื่อค้นหามันอยู่ดี และรู้อยู่เต็มอกว่ามันไม่น่าจะใช่ของที่สถาบันจัดเตรียมเอาไว้ให้แน่ เพราะโดยปกติแล้วกล่องอุปกรณ์จะวางอยู่ในที่โล่ง ไม่มีการหลบซ่อน หรือกับดักอะไรทั้งสิ้น เดวิดหวังว่ามันอาจจะเป็นของอย่างอื่นที่สามารถใช้ประโยชน์ได้บ้าง!

และเขาต้องใช้เวลามากกว่า 10 นาทีในการขุดลงไป ใช่แล้ว! เดวิดขุดดินลงไปค้นหาสมบัติ! เพราะมันเป็นการประหยัดพลังงานของเขามากกว่า การใช้ทักษะพิเศษแหวกธรณีกับเรื่องไร้สาระแบบนี้ มันไม่คุ้มค่ากับพลังที่จะต้องเสียไปนัก เขายอมเสียเวลาเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย เพื่อทำให้ตัวเองมีพลังเต็มเปี่ยมอยู่เสมอมากกว่า

ตอนที่กระดูกที่เดวิดใช้แทนพลั่วกระทบเข้ากับของแข็งบางอย่างข้างล่าง เขารู้สึกตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างมาก ถึงกับโยนกระดูกนั่นทิ้งไป และหันมาใช้มือค่อย ๆ ขุดอย่างระมัดระวัง ด้วยความกลัวว่า ‘สมบัติ’ นั้นจะได้รับความเสียหาย

แต่หลังจากนั้นไม่ถึง 1 นาที สีหน้าของเขาก็กลายเป็นไร้ความรู้สึกขึ้นมาทันที เพราะสิ่งที่เขาพบคือทองคำ! ทองคำที่เป็นก้อนสี่เหลี่ยมสวยงามทีเดียว

คิ้วของเดวิดขมวดติดกันแน่น เขาพยายามคิดหาคำด่าหรือคำสาปแช่งที่เหมาะสมออกมา เขาเสียเวลาอันมีค่าไปกับการขุดทอง! ทองคำที่ไม่มีค่าอะไรเลยสำหรับเขา!

ถ้าเป็นในโลกใบเก่า เดวิดคงจะกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจไปแล้ว ทองคำปริมาณขนาดนี้น่าจะทำให้เขามีชีวิตอย่างสุขสบายไปได้สักระยะแน่ ๆ และที่นี่ ที่โลกใบนี้ ทองคำมีค่ามากกว่าก้อนหินเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเอง แทบไม่มีใครใช้มันเป็นเครื่องประดับเลยด้วยซ้ำ ประโยชน์ของมันคือเป็นวัตถุดิบในการจัดสร้างอุปกรณ์ หรือเครื่องมือบางอย่างเท่านั้นเอง

แต่เดวิดก็ยังเก็บมันเอาไว้ เพราะอย่างน้อย ๆ มันก็สามารถแลกเปลี่ยนเป็นคะแนนที่สถาบันได้ “50 คะแนนจีโน ก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลยล่ะนะ” เขาพึมพำออกมา

และนั่นเป็นเมื่อ 3 ชั่วโมงก่อนหน้า ส่วนตอนนี้ เดวิดเดินทางมาใกล้ที่จะถึงเป้าหมายถัดไปเรียบร้อยแล้ว ลูกศรโฮโลแกรมส่องสว่างมากขึ้น ทำให้เขาหยุดการเดินทางลง และเริ่มตรวจสอบสถานที่รอบ ๆ อย่างระมัดระวัง

จุดที่ลูกศรของเข็มทิศชี้ไป น่าจะเป็นอาคารขนาดสูง 20 เมตรที่ตั้งอยู่ด้านหน้าของเขานี่เอง มันเป็นเพียงซากอาคารที่ทรุดโทรม มีร่องรอยของการถูกบุกรุกทำลายเหมือนกับอาคารทั่วไปในพื้นที่บริเวณนี้ทั้งหมด แต่เดวิดก็ยอมเสียเวลาที่จะตรวจสอบมันอย่างละเอียด เขาใช้ความรอบคอบ และระวังตัวเป็นอย่างมาก ความประมาท และการทำผิดพลาดเพียงเล็กน้อย อาจจะทำให้ตัวเองถึงแก่ชีวิตได้ นี่คือสิ่งที่เดวิดได้เรียนรู้มาเป็นอย่างดี

และความระมัดระวังของเขาดูเหมือนจะได้ผล เดวิดได้ยินเสียงบางอย่างดังมาจากชั้น 2 ของอาคารเอ่อ..5 ชั้นแห่งนี้ มันเป็นเสียงที่ค่อนข้างจะประหลาดอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว เสียงนั้นค่อนข้างจะวุ่นวายไม่น้อย ราวกับว่ามีฝูงตัวอะไรยึดครองชั้น 2 เอาไว้เป็นรังของพวกมัน เขาขมวดคิ้วอย่างคิดหนัก เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ การจะเข้าไปหาสมบัติ ก็จะไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ อีกต่อไป

แต่แล้วในที่สุด ดวงตาของเดวิดก็เป็นประกายออกมา เขารีบปิดการทำงานของเข็มทิศ ก่อนจะเก็บมันเข้ากระเป๋าเป้ และเปิดหน้าต่างโฮโลแกรมของตัวเองขึ้นมาแทน ดูเหมือนว่าเฮเซลจะรู้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้ไม่ปกติ มันช่วยลดแสงสว่างของหน้าต่างให้แค่พอมองเห็นได้เท่านั้น

เดวิดกดปุ่มเปลี่ยนหน้าไปที่โปรแกรมที่ติดตั้งเอง ซึ่งมีอยู่เพียงโปรแกรมเดียวเท่านั้น เขาเลือกที่จะกดสั่งให้มันทำงานทันที

เดวิดจะตรวจสอบว่ามันมีสิ่งมีชีวิตอยู่ในอาคารมากน้อยเพียงใดก่อน ค่อยวางแผนว่าจะทำอย่างไรต่อไป!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด