นักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 20
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 20
“ฮาวววว…”
ริมเมอร์หาว เขาไม่สามารถห้ามการง่วงนอนจากการดูสิ่งที่น่าเบื่อแบบนี้ได้
'แล้วยังไงต่อ?'
การดวลระหว่างราอนและเบอร์เรนเป็นสิ่งที่เขาวางแผนไว้ตั้งแต่แรก
เขารู้ว่าเบอร์เรนจะคัดค้านเมื่อราอนขึ้นเป็นที่หนึ่ง แล้วจะจบลงด้วยการดวลกัน
ริมเมอร์ต้องการสอนบทเรียนให้กับเบอร์เรนที่มั่นใจเกินเหตุ และอยากแสดงความเก่งกาจของราอนให้ทุกคนได้เห็น
อย่างไรก็ตาม ราอนได้เปลี่ยนแปลงทุกอย่างที่เขาคิดไว้
ผลลัพธ์เหมือนกัน แต่รายละเอียดนั้นน่าตกใจเกินไป
แทนที่จะใช้พละกำลัง ความว่องไว หรือทักษะเพื่อเอาชนะ เขากลับใช้แก่นแท้ของพยัคฆ์แห่งความว่างเปล่าซัดเบอร์เรนจนกระเด็น
'นั่น...'
แม้จะไม่ได้ใช้ออร่า แต่หมัดพยัคฆ์ว่างเปล่าของเบอร์เรนก็ไม่ได้อ่อนแอ เขายังมีพรสวรรค์ที่เป็นเลิศ
ถึงอย่างนั้นราอนกลับลอกเลียนแบบหมัดของเบอร์เรนแล้วโต้กลับได้ทันที
"อึก…"
ริมเมอร์กลืนน้ำลายและมองไปรอบๆ ทุกคนที่อยู่รอบๆ ก็ตกตะลึงหลังจากการเห็นการต่อสู้ของราอนกับเบอร์เรน
'แม้แต่หัวหน้าตระกูลยังตกใจ'
เกล็นผู้ไร้อารมณ์ราวกับรูปปั้น ตอนนี้กำลังขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจ
“ราอน”
ริมเมอร์กลืนน้ำลายอีกครั้งและปรี่เข้าหาราอน
“ครับอาจารย์?”
“เธอทำอะไรลงไป?”
คำถามนั้นหมายความว่ายังไง เขากำลังจะถามว่าราอนลอกเลียนแบบหมัดพยัคฆ์แห่งความว่างเปล่าจากการเห็นได้จริงๆหรือว่าเขาเรียนรู้มาจากใคร หรือว่ามันเป็นเทคนิคที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
“ผมเห็นการหมุนของกำปั้นของเบอร์เรน มันหมุนวนเหมือนพายุทอร์นาโด”
ความพิเศษของหมัดพยัคฆ์แห่งความว่างเปล่าคือการหมุนเป็นเกลียว
“การหมุนนั้นเร็วพอที่ผมจะป้องกันไว้ไม่ได้ ดังนั้นผมถึงคิดว่าผมไม่ควรต่อสู้ปกติ”
ริมเมอร์พยักหน้า เขาวางแผนการดวลเพราะเขาต้องการดูว่าราอนจะเอาชนะได้อย่างไร ดังนั้นเขาจึงตระหนักได้อย่างชัดเจน
“ผมมั่นใจในพละกำลังของผม ผมจึงวิ่งไปรอบๆ พอผมสังเกตเห็นหมัดของเบอร์เรนผมก็คิดบางอย่างได้”
“รู้สึกได้เหรอ”
"ใช่ครับ การไหลของกำปั้นของเขาสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ผมคิดว่าผมทำตามเขาได้ ดังนั้นผมจึงกลับด้านการหมุนเพื่อป้องกันหมัดของเขา”
"อ๊า!"
ริมเมอร์อุทานโดยไม่รู้ตัว
‘เด็กคนนี้คือของจริง!'
หัวใจของเขาเต้นแรงราวกับกลอง คนที่เข้าใจกระแสของศิลปะการต่อสู้โดยการสังเกตก็เป็นอัจฉริยะแล้ว
แต่ราอนยอดเยี่ยมยิ่งกว่านั้นมาก
เขาสามารถใช้การไหลของฝ่ายตรงข้ามมาเป็นของเขาเอง มันเป็นพรสวรรค์ที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
“เวรเอ๊ย!”
คารุน ซีกฮาร์ท ผู้เป็นพ่อของเบอร์เรน ยืนขึ้น เปลวไฟกำลังลุกโชนในดวงตาของเขา
“ไม่ทางที่ใครหน้าไหนจะเข้าใจหมัดพยัคฆ์แห่งความว่างเปล่าได้อย่างรวดเร็วหรอก!”
“แต่เขาทำได้”
ริมเมอร์ยักไหล่ ชี้ไปที่ราอน
“เขาต้องแอบดูการฝึกของเบอร์เรนแน่! หรือเขาอาจเคยเรียนจากคนอื่นมาก่อน!”
สายตาดุร้ายของคารุน หันไปทาง Sylvia และ ราอน
“อ่า.. ฉันคงขี้เกียจเกินไปที่จะสอนอะไรแบบนั้นนะ แล้วใครจะถ่อไปถึงอาคารรองเพื่อสอนให้เขากันล่ะ? แล้วเบอร์เรนคงไม่ใช่คนประเภทที่จะปล่อยให้คนอื่นขโมยเทคนิคของเขา”
"ฮึ่ม…"
คารุนทำหน้าบูดบึ้งอย่างเห็นได้ชัด เขาเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่พูดไม่ออก ขณะที่เกล็นกำลังมองดูอยู่
“แล้วมีใครอีกไหมที่อยากท้าทายราอน?”
ริมเมอร์เงยหน้าขึ้นมองเด็กๆ ไม่มีใครยกมือขึ้นเลย
“รูนันล่ะ?”
“…”
รูนันส่ายหัวของเธอ เธอเดินไปข้างๆราอน และเริ่มเลียนแบบท่าหมัดพยัคฆ์ที่เขาใช้
“ฮย่า”
ริมเมอร์ยิ้มแล้วหันไป สถานการณ์แตกต่างจากที่เขาคาดไว้ แต่ผลลัพธ์สุดท้ายก็ดีขึ้นมาก
“ราอน... นี่คือชัยชนะของเธอ”
"ขอบคุณครับ"
ริมเมอร์ยิ้ม และราอนโค้งคำนับเบา ๆ
“ไม่มีอะไรให้ต้องขอบคุณในเมื่อมันเป็นชัยชนะของเธอ สำหรับการออกแผ่นทองแดงนั้น ท่านเจ้าตระกูลจะเป็นคนจัดการเอง”
"โอเคครับ"
ริมเมอร์มองราอน เขาตรวจสอบซ้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจและเป็นที่แน่นอนว่าราอนไม่มีออร่าใดๆ
'นี่มันเป็นเรื่องที่บ้ามาก'
เขาหันกลับมา
“นายท่าน...เหตุการณ์จบลงแล้ว”
เกล็นพยักหน้าแล้วยืนขึ้น เขามองไปรอบๆ ชั่วครู่เขาก็ออกจากสนามฝึก
“เขาไม่ยอมพูดอะไรก่อนไปเลยแฮะ”
ริมเมอร์เลียริมฝีปากและจะโกนเรียกเด็กๆ
“ผู้ที่สอบผ่านจะกลับมาที่นี่อีกในวันจันทร์หน้า พักผ่อนให้เต็มที่ล่ะ ส่วนใครที่สอบตกก็อย่าเพิ่งน้อยใจไปเพราะยังมีครั้งหน้าอีก เอาล่ะ แยกย้ายได้! ขอให้ทุกคนมีช่วงเวลาที่ดีกับครอบครัว”
ริมเมอร์ปรบมือและออกจากสนามฝึกด้วยการกระโดดข้ามกำแพง
“ราอน!”
“คุณชายราอน!”
ทันทีที่ริมเมอร์จากไป ซิลเวียและเฮเลนก็วิ่งไปหาราอนและกอดเขา
“กะ-เกิดอะไรขึ้นระหว่างที่ลูกอยู่ที่นี่!?”
“คุณชายบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า!”
ทั้งสองยังเหมือนเดิมเสมอ พวกเขาไม่ถามว่าเขาทำได้อย่างไรแต่กลับกังวลเกี่ยวกับร่างกายของเขาซ้ำไปซ้ำมา
“ผมสบายดีครับ ไม่ต้องห่วง”
ราอนยิ้มกว้าง
“กลับกันเถอะครับ ผมอยากกินเนื้อตุ๋นแล้ว!”
"เนื้อตุ๋นเหรอ? ได้สิ! ไปกันเถอะ!"
“ดิฉันจะรีบกลับไปเตรียมก่อน!”
เฮเลนวิ่งออกจากสนามฝึกซ้อม และราอนก็ตามเธอไปพร้อมกับจับมือซิลเวีย
“เอ่อ…”
“เกิดอะไรขึ้นในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา?”
“ราอน ซีกฮาร์ท…”
“ไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะมีพรสวรรค์แบบนั้นอยู่…”
ผู้คนที่เหลืออยู่ในสนามฝึกซ้อมจ้องมองไปที่แผ่นหลังของราอนและซิลเวียด้วยสีหน้าว่างเปล่า
“ชิ…”
ไม่มีใครสนใจเบอร์เรน ซึ่งเอาแต่จ้องมองพื้น กัดริมฝีปากจนเลือดออก
* * *
* * *
ที่บนกำแพงด้านนอกของสนามฝึกซ้อม มีคนห้าคนทั้งชายและหญิงกำลังยืนดูเหตุการณ์ด้านล่าง
"เธอคิดยังไง?"
ชายผมยาวที่นั่งแถวแรกพูดขึ้น
“เขาเป็นอัจฉริยะอย่างแน่นอน”
“ถ้านั่นไม่ใช่การจัดฉาก แสดงว่าเด็กนั่นมีความสามารถมากกว่าเขา”
“การลอกเลียนแบบหลังจากเห็นการไหลเวียน น่าขันสิ้นดี”
“…”
ทั้งสี่คนตอบด้วยความประทับใจ
“เรามาเพื่อดูรูนันและเบอร์เรน แต่นี่มันคุ้มค่ามาก”
ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย
“อย่างที่ทราบกัน ว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้เมฆาโลหิตต้องประสบกับความสูญเสียมากมาย พวกเธอจะพาเบอร์เรนหรือรูนันไปก็แล้วแต่ ฉันจะพาราอน…”
“แกอยากตายไหม?”
“ไอ้คนไร้ยางอาย! แกจะเอาเด็กที่มีความสามารถไร้ขอบเขตแบบนั้นไปคนเดียวเรอะ!?'
“คิดดีๆก่อนจะพูด ถ้าแกไม่อยากเสียเลือดตอนนี้”
“…!”
บรรยากาศเย็นยะเยือกขึ้นมาทันใด ทั้งสี่คนดูเหมือนกำลังจะชักดาบออกมา
“ฉ-ฉันพูดเล่น... ฉันแค่ล้อเล่นน่ะ”
ชายผมยาวกุมมือตัวเองด้วยรอยยิ้มแหยงๆ
“ถึงอย่างไรก็ตาม เด็กคนนั้นจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงมากมาย”
“…”
ทั้งสี่คนยืนเห็นด้วยอย่างเงียบๆ ขณะที่พวกเขาเฝ้าดูราอนเดินออกจากสนามฝึก
พวกเขาคือผู้บัญชาการทหารหน่วยต่างๆของตระกูลซีกฮาร์ท และพวกเขาสนใจในตัวราอน
***
ริมเมอร์ตามเกล็นเข้าไปในคฤหาสน์ของเจ้าตระกูลหลังจากที่ยื่นผลสอบกับผู้ฝึกสอนคนอื่น
“ทำไมนายถึงทดสอบพวกเขาด้วยตัวเอง ทั้งๆนายกำลังอ่อนแอลงเรื่อยๆ”
เกล็นขมวดคิ้ว นั่งบนบัลลังก์
“ฉันเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน ดังนั้นฉันควรทำหน้าที่ของฉัน”
“ท่านริมเมอร์ครับ”
พ่อบ้านโรเอ็นยื่นถ้วยชาให้เขา
“ไม่เจอกันนานนะโรเอ็น”
"ไม่พบกันนานนะครับ"
จากภายนอกโรเอ็นดูแก่กว่า แต่จริงๆแล้วริมเมอร์อายุมากกว่ามาก ดังนั้นริมเมอร์จึงพูดกับเขาอย่างเป็นกันเอง
“นายคิดอะไรอยู่?”
เกล็นถามโดยเท้าคางของเขาไว้บนฝ่ามือ
“ทำไมนายถึงคิดสร้างการต่อสู้ระหว่างราอนและเบอร์เรน”
“ก็...พึ่งวางแผนได้ตอนนั้นแหละ”
“พึ่งคิด? แล้วมันก็เป็นไปตามแผนของนายเลย?”
“โห ฉันหลอกนายไม่ได้จริงๆน่ะแหล่ะ!”
ริมเมอร์เกาคออย่างงุ่มง่าม
“พรสวรรค์ของเบอร์เรนนั้นยอดเยี่ยมแต่เขาใจแคบ ราอนมีบางสิ่งที่พิเศษแต่ไม่มีใครรู้ ฉันต้องการให้พวกเขาสู้กันเพื่อประโยชน์ของทั้งคู่”
“…”
“อย่างที่นายเห็น ความเย็นยังแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของราอน แต่ความมุ่งมั่นของเขาก็เทียบได้กับนักดาบที่ประสบความสำเร็จ”
“ฉันรู้เรื่องนั้นแล้ว”
“แต่มีหนึ่งสิ่งที่นายไม่รู้ และฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”
ริมเมอร์ยกนิ้วชี้ขึ้นและพูดต่อ
“นั่นคือเขาเป็นอัจฉริยะ ฉันอยากเห็นความมุ่งมั่นของเขา ฉันตั้งตารอที่จะได้เห็นว่าเขาจัดการกับเบอร์เรนยังไง”
ดวงตาของริมเมอร์ส่องประกายราวกับดวงดาวบนท้องฟ้า
“แต่สิ่งที่เขาแสดงให้เห็นในครั้งนี้ไม่ใช่ความมุ่งมั่นของเขา แต่เป็นพรสวรรค์ และเป็นพรสวรรค์อันไร้ที่สิ้นสุด! เขาโต้กลับโดยใช้การทำความเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว! มันดูไม่น่าเชื่อใช่ไหม? ฉันผ่านสนามรบมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นพรสวรรค์แบบนี้!”
“ไอ้ขอทานก็เคยพูดอะไรแบบนั้นมาก่อน เด็กที่เกิดมาพร้อมกับคำสาปแห่งน้ำแข็งมักจะมีความสามารถพิเศษ”
“ขอทาน? หมายถึงนักบุญมอมแมมหรือเปล่า?”
"ใช่"
เกล็นพยักหน้าและพูดต่อ
“เด็กพวกนั้นมักจะมีพรสวรรค์พิเศษด้านเวทมนตร์น้ำแข็งหรือออร่าน้ำแข็ง หรือไม่ก็กลายเป็นหญิงสาวที่รูปงามที่สุด”
"นั่นแหละที่ฉันหมายถึง!"
ริมเมอร์กระทืบพื้น
“เขาเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ด้านศิลปะการต่อสู้อย่างแท้จริง!”
"อืม…"
“เบอร์เรน รูนัน หลานชายและหลานสาวคนอื่นๆ ของคุณก็พิเศษเช่นกัน แต่ราอนนั้นพิเศษกว่านั้น เขามีลักษณะของคนที่จะกลายเป็นสุดยอดของทวีปอย่างแน่นอน!”
แม้ริมเมอร์จะตื่นเต้น แต่สีหน้าของเกล็นยังคงสงบนิ่ง
“เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นอะไรแบบนั้น และผมแน่ใจว่าเหล่าผู้บัญชาการทหารไม่เคยเห็นพรสวรรค์แบบนี้มาก่อนแน่นอน”
โรเอ็นที่ดูการต่อสู้พร้อมกับเกล็นพูดออกมา
“เราต้องฝึกเขาให้สมบูรณ์แบบ ราอนได้แผ่นทองแดง แต่ถ้าเราให้เขาด้วยสิ่งที่ดีกว่าอย่างแผ่นเงิน…”
“ไม่ได้”
เกล็นส่ายหัวอย่างหนักแน่น
“ฉันต้องให้รางวัลเขาเพราะแผนงี่เง่าของแก จะให้มาเพิ่มรางวัลมันเป็นไปไม่ได้”
“เอ๋! แต่ว่า…”
“แกไม่ควรเข้าข้างเขา”
“เกล็นใจร้ายจริงๆ… ฮึก!”
เกล็นจ้องมองเขาอย่างเย็นชา ทำให้ริมเมอร์สะดุ้งและปิดปาก
“อย่างไรก็ตาม ราอนมีพรสวรรค์จริงๆ เขาไม่ควรได้รับการปกป้องเพียงเพราะร่างกายอ่อนแอ แต่เขาควรได้รับการฝึกฝนอย่างเหมาะสมแทน เขาน่าจะเก่งกว่าหลานชายคนที่สองของคุณ ผู้ซึ่งถูกเรียกว่าอัจฉริยะที่พบเห็นได้ทุกๆร้อยปีเสียอีก นายต้องพิจารณาเรื่องนี้ดีๆ”
“แกพูดมากไปละ”
“เพราะฉันเห็นคนที่สุดยอดมาก”
“ฉันจะไม่มีใครสนใจเขาเป็นพิเศษ เว้นแต่เขาจะมีส่วนช่วยให้ตระกูลมีชื่อเสียง”
"หา? เขาควรได้รับยาอมฤตหรือเทคนิคการปลูกฝังที่ดีที่สุดสิ อย่างน้อยที่สุดก็ช่วยให้เขาคลายความเย็นลงได้…”
ริมเมอร์ปิดปากทันทีเมื่อเกล็นยกมือขึ้นห้าม
“ขอทานบอกว่าราอนต้องเอาชนะมันด้วยตัวเอง ไม่ใช่ความคิดที่ดีที่จะใช้น้ำอมฤตที่มีธาตุไฟมากขึ้น'
"ว้าว! นายแสร้งทำเป็นไม่สนใจเขา แต่นายก็หาข้อมูลมาแล้ว!”
“ไร้สาระน่า มันชอบพูดพล่ามเข้าหูฉันเอง”
"โอ้…"
“ฮึ่ม!”
ริมเมอร์และโรเอ็นจ้องมองที่เขาอย่างขบขัน
"เหอะ.."
เกล็นสะบัดนิ้ว เปลวไฟสีทองและประตูโลหะที่นำไปสู่คลังสมบัติของซีกฮาร์ทก็ปรากฏขึ้นด้านหลังเขา
“ฉันจะจัดคลังสมบัติ ดังนั้นแกออกไปซะ”
เกล็นพูดก่อนที่เขาจะเข้าไปในคลัง
ริมเมอร์และโรเอ็นมองหน้ากันแล้วยิ้มเอ็นดู เขาไม่ได้ไปที่นั่นเพื่อจัดของอย่างแน่นอน
“ปากไม่ตรงกับใจเล้ย...”
***
ราอนกลับไปที่อาคารรองและใช้เวลากับซิลเวีย
มีหลายอย่างที่ซิลเวียสงสัย การพูดคุยจึงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ
เขาได้กลับไปที่ห้องของตัวเองหลังจากคุยกันนานกว่าหกชั่วโมง
'เหนื่อยมาก...'
ราอนถอนหายใจขณะปิดประตู เขาเหนื่อยล้ากับการฝึกอย่างมาก
อะแฮ่ม ในที่สุดก็ได้ลิ้มรสอาหารที่น่าพึงพอใจหลังจากเหน็ดเหนื่อยมาอย่างยาวนาน จากนี้ไปเจ้าต้องทานอาหารที่นี่ทุกวัน
ครั้งนี้ราธไม่โวยวาย ดูเหมือนว่าเขาจะพอใจกับอาหารและของหวานของที่นี่
อาหารที่สนามฝึกเหมือนอาหารหมา จะมองตรงๆยังไม่อยากจะมอง
“ฉันขอโทษละกันนะ แต่เราต้องกินมันอีก”
เนื่องจากเขาจะกลายเป็นเด็กฝึกหัดอย่างเป็นทางการ เขาจึงต้องอยู่ที่นั่นหลายปี
เวรเอ๊ย!
ราธกัดฟันแน่น เขาเป็นราชาปีศาจที่ต้องการอาหารอร่อยๆนะ!
ช่างเถอะ ข้ามีเรื่องจะถามเจ้า
"ถามฉันเหรอ?"
ราอน ซีกฮาร์ท เจ้าเป็นใครกันแน่?
ราธที่ห้อยอยู่บนข้อมือของเขา กลับสู่ร่างเปลวไฟสีน้ำเงิน
ราชาแห่งแก่นแท้ได้เห็นมนุษย์มากมายนับไม่ถ้วนและยังเคยใช้ชีวิตในฐานะมนุษย์มาหลายร้อยปี อย่างไรก็ตาม ราชาแห่งแก่นแท้ไม่เคยเห็นใครเหมือนกับเจ้า
ไฟของราธลุกโชน ดุเดือดยิ่งกว่าครั้งแรกที่พบกันเสียอีก
ราชาแห่งแก่นแท้รู้สึกได้ เจ้ากำลังซ่อนบางสิ่งที่พิเศษ ตอนนี้บอกตัวตนที่แท้จริงของเจ้ามา ...
“เฮ้อ...ราธ”
มนุษย์ธรรมดาห้ามเรียกชื่อราชาแห่งแก่นแท้!
“มีบางอย่างที่สำคัญกว่าตัวตนของฉันหรือชื่อของแก”
อะไรล่ะ…
“ความจำของแกแย่กว่าที่ฉันคิด”
มุมปากของราอนยกขึ้น ในขณะที่เขามองลงไปที่ราธ
“การเดิมพันของเราจบลงแล้ว หยุดพูดไร้สาระและให้รางวัลฉันมาเดี๋ยวนี้!”