ตอนที่แล้วนักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 19
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 21

นักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 20


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 20

“ฮาวววว…”

ริมเมอร์หาว เขาไม่สามารถห้ามการง่วงนอนจากการดูสิ่งที่น่าเบื่อแบบนี้ได้

'แล้วยังไงต่อ?'

การดวลระหว่างราอนและเบอร์เรนเป็นสิ่งที่เขาวางแผนไว้ตั้งแต่แรก

เขารู้ว่าเบอร์เรนจะคัดค้านเมื่อราอนขึ้นเป็นที่หนึ่ง แล้วจะจบลงด้วยการดวลกัน

ริมเมอร์ต้องการสอนบทเรียนให้กับเบอร์เรนที่มั่นใจเกินเหตุ และอยากแสดงความเก่งกาจของราอนให้ทุกคนได้เห็น

อย่างไรก็ตาม ราอนได้เปลี่ยนแปลงทุกอย่างที่เขาคิดไว้

ผลลัพธ์เหมือนกัน แต่รายละเอียดนั้นน่าตกใจเกินไป

แทนที่จะใช้พละกำลัง ความว่องไว หรือทักษะเพื่อเอาชนะ เขากลับใช้แก่นแท้ของพยัคฆ์แห่งความว่างเปล่าซัดเบอร์เรนจนกระเด็น

'นั่น...'

แม้จะไม่ได้ใช้ออร่า แต่หมัดพยัคฆ์ว่างเปล่าของเบอร์เรนก็ไม่ได้อ่อนแอ เขายังมีพรสวรรค์ที่เป็นเลิศ

ถึงอย่างนั้นราอนกลับลอกเลียนแบบหมัดของเบอร์เรนแล้วโต้กลับได้ทันที

"อึก…"

ริมเมอร์กลืนน้ำลายและมองไปรอบๆ ทุกคนที่อยู่รอบๆ ก็ตกตะลึงหลังจากการเห็นการต่อสู้ของราอนกับเบอร์เรน

'แม้แต่หัวหน้าตระกูลยังตกใจ'

เกล็นผู้ไร้อารมณ์ราวกับรูปปั้น ตอนนี้กำลังขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจ

“ราอน”

ริมเมอร์กลืนน้ำลายอีกครั้งและปรี่เข้าหาราอน

“ครับอาจารย์?”

“เธอทำอะไรลงไป?”

คำถามนั้นหมายความว่ายังไง เขากำลังจะถามว่าราอนลอกเลียนแบบหมัดพยัคฆ์แห่งความว่างเปล่าจากการเห็นได้จริงๆหรือว่าเขาเรียนรู้มาจากใคร หรือว่ามันเป็นเทคนิคที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

“ผมเห็นการหมุนของกำปั้นของเบอร์เรน มันหมุนวนเหมือนพายุทอร์นาโด”

ความพิเศษของหมัดพยัคฆ์แห่งความว่างเปล่าคือการหมุนเป็นเกลียว

“การหมุนนั้นเร็วพอที่ผมจะป้องกันไว้ไม่ได้ ดังนั้นผมถึงคิดว่าผมไม่ควรต่อสู้ปกติ”

ริมเมอร์พยักหน้า เขาวางแผนการดวลเพราะเขาต้องการดูว่าราอนจะเอาชนะได้อย่างไร ดังนั้นเขาจึงตระหนักได้อย่างชัดเจน

“ผมมั่นใจในพละกำลังของผม ผมจึงวิ่งไปรอบๆ พอผมสังเกตเห็นหมัดของเบอร์เรนผมก็คิดบางอย่างได้”

“รู้สึกได้เหรอ”

"ใช่ครับ การไหลของกำปั้นของเขาสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ผมคิดว่าผมทำตามเขาได้ ดังนั้นผมจึงกลับด้านการหมุนเพื่อป้องกันหมัดของเขา”

"อ๊า!"

ริมเมอร์อุทานโดยไม่รู้ตัว

‘เด็กคนนี้คือของจริง!'

หัวใจของเขาเต้นแรงราวกับกลอง คนที่เข้าใจกระแสของศิลปะการต่อสู้โดยการสังเกตก็เป็นอัจฉริยะแล้ว

แต่ราอนยอดเยี่ยมยิ่งกว่านั้นมาก

เขาสามารถใช้การไหลของฝ่ายตรงข้ามมาเป็นของเขาเอง มันเป็นพรสวรรค์ที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน

“เวรเอ๊ย!”

คารุน ซีกฮาร์ท ผู้เป็นพ่อของเบอร์เรน ยืนขึ้น เปลวไฟกำลังลุกโชนในดวงตาของเขา

“ไม่ทางที่ใครหน้าไหนจะเข้าใจหมัดพยัคฆ์แห่งความว่างเปล่าได้อย่างรวดเร็วหรอก!”

“แต่เขาทำได้”

ริมเมอร์ยักไหล่ ชี้ไปที่ราอน

“เขาต้องแอบดูการฝึกของเบอร์เรนแน่! หรือเขาอาจเคยเรียนจากคนอื่นมาก่อน!”

สายตาดุร้ายของคารุน หันไปทาง Sylvia และ ราอน

“อ่า.. ฉันคงขี้เกียจเกินไปที่จะสอนอะไรแบบนั้นนะ แล้วใครจะถ่อไปถึงอาคารรองเพื่อสอนให้เขากันล่ะ? แล้วเบอร์เรนคงไม่ใช่คนประเภทที่จะปล่อยให้คนอื่นขโมยเทคนิคของเขา”

"ฮึ่ม…"

คารุนทำหน้าบูดบึ้งอย่างเห็นได้ชัด เขาเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่พูดไม่ออก ขณะที่เกล็นกำลังมองดูอยู่

“แล้วมีใครอีกไหมที่อยากท้าทายราอน?”

ริมเมอร์เงยหน้าขึ้นมองเด็กๆ ไม่มีใครยกมือขึ้นเลย

“รูนันล่ะ?”

“…”

รูนันส่ายหัวของเธอ เธอเดินไปข้างๆราอน และเริ่มเลียนแบบท่าหมัดพยัคฆ์ที่เขาใช้

“ฮย่า”

ริมเมอร์ยิ้มแล้วหันไป สถานการณ์แตกต่างจากที่เขาคาดไว้ แต่ผลลัพธ์สุดท้ายก็ดีขึ้นมาก

“ราอน... นี่คือชัยชนะของเธอ”

"ขอบคุณครับ"

ริมเมอร์ยิ้ม และราอนโค้งคำนับเบา ๆ

“ไม่มีอะไรให้ต้องขอบคุณในเมื่อมันเป็นชัยชนะของเธอ สำหรับการออกแผ่นทองแดงนั้น ท่านเจ้าตระกูลจะเป็นคนจัดการเอง”

"โอเคครับ"

ริมเมอร์มองราอน เขาตรวจสอบซ้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจและเป็นที่แน่นอนว่าราอนไม่มีออร่าใดๆ

'นี่มันเป็นเรื่องที่บ้ามาก'

เขาหันกลับมา

“นายท่าน...เหตุการณ์จบลงแล้ว”

เกล็นพยักหน้าแล้วยืนขึ้น เขามองไปรอบๆ ชั่วครู่เขาก็ออกจากสนามฝึก

“เขาไม่ยอมพูดอะไรก่อนไปเลยแฮะ”

ริมเมอร์เลียริมฝีปากและจะโกนเรียกเด็กๆ

“ผู้ที่สอบผ่านจะกลับมาที่นี่อีกในวันจันทร์หน้า พักผ่อนให้เต็มที่ล่ะ ส่วนใครที่สอบตกก็อย่าเพิ่งน้อยใจไปเพราะยังมีครั้งหน้าอีก เอาล่ะ แยกย้ายได้! ขอให้ทุกคนมีช่วงเวลาที่ดีกับครอบครัว”

ริมเมอร์ปรบมือและออกจากสนามฝึกด้วยการกระโดดข้ามกำแพง

“ราอน!”

“คุณชายราอน!”

ทันทีที่ริมเมอร์จากไป ซิลเวียและเฮเลนก็วิ่งไปหาราอนและกอดเขา

“กะ-เกิดอะไรขึ้นระหว่างที่ลูกอยู่ที่นี่!?”

“คุณชายบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า!”

ทั้งสองยังเหมือนเดิมเสมอ พวกเขาไม่ถามว่าเขาทำได้อย่างไรแต่กลับกังวลเกี่ยวกับร่างกายของเขาซ้ำไปซ้ำมา

“ผมสบายดีครับ ไม่ต้องห่วง”

ราอนยิ้มกว้าง

“กลับกันเถอะครับ ผมอยากกินเนื้อตุ๋นแล้ว!”

"เนื้อตุ๋นเหรอ? ได้สิ! ไปกันเถอะ!"

“ดิฉันจะรีบกลับไปเตรียมก่อน!”

เฮเลนวิ่งออกจากสนามฝึกซ้อม และราอนก็ตามเธอไปพร้อมกับจับมือซิลเวีย

“เอ่อ…”

“เกิดอะไรขึ้นในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา?”

“ราอน ซีกฮาร์ท…”

“ไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะมีพรสวรรค์แบบนั้นอยู่…”

ผู้คนที่เหลืออยู่ในสนามฝึกซ้อมจ้องมองไปที่แผ่นหลังของราอนและซิลเวียด้วยสีหน้าว่างเปล่า

“ชิ…”

ไม่มีใครสนใจเบอร์เรน ซึ่งเอาแต่จ้องมองพื้น กัดริมฝีปากจนเลือดออก

* * *

* * *

ที่บนกำแพงด้านนอกของสนามฝึกซ้อม มีคนห้าคนทั้งชายและหญิงกำลังยืนดูเหตุการณ์ด้านล่าง

"เธอคิดยังไง?"

ชายผมยาวที่นั่งแถวแรกพูดขึ้น

“เขาเป็นอัจฉริยะอย่างแน่นอน”

“ถ้านั่นไม่ใช่การจัดฉาก แสดงว่าเด็กนั่นมีความสามารถมากกว่าเขา”

“การลอกเลียนแบบหลังจากเห็นการไหลเวียน น่าขันสิ้นดี”

“…”

ทั้งสี่คนตอบด้วยความประทับใจ

“เรามาเพื่อดูรูนันและเบอร์เรน แต่นี่มันคุ้มค่ามาก”

ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย

“อย่างที่ทราบกัน ว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้เมฆาโลหิตต้องประสบกับความสูญเสียมากมาย พวกเธอจะพาเบอร์เรนหรือรูนันไปก็แล้วแต่ ฉันจะพาราอน…”

“แกอยากตายไหม?”

“ไอ้คนไร้ยางอาย! แกจะเอาเด็กที่มีความสามารถไร้ขอบเขตแบบนั้นไปคนเดียวเรอะ!?'

“คิดดีๆก่อนจะพูด ถ้าแกไม่อยากเสียเลือดตอนนี้”

“…!”

บรรยากาศเย็นยะเยือกขึ้นมาทันใด ทั้งสี่คนดูเหมือนกำลังจะชักดาบออกมา

“ฉ-ฉันพูดเล่น... ฉันแค่ล้อเล่นน่ะ”

ชายผมยาวกุมมือตัวเองด้วยรอยยิ้มแหยงๆ

“ถึงอย่างไรก็ตาม เด็กคนนั้นจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงมากมาย”

“…”

ทั้งสี่คนยืนเห็นด้วยอย่างเงียบๆ ขณะที่พวกเขาเฝ้าดูราอนเดินออกจากสนามฝึก

พวกเขาคือผู้บัญชาการทหารหน่วยต่างๆของตระกูลซีกฮาร์ท และพวกเขาสนใจในตัวราอน

***

ริมเมอร์ตามเกล็นเข้าไปในคฤหาสน์ของเจ้าตระกูลหลังจากที่ยื่นผลสอบกับผู้ฝึกสอนคนอื่น

“ทำไมนายถึงทดสอบพวกเขาด้วยตัวเอง ทั้งๆนายกำลังอ่อนแอลงเรื่อยๆ”

เกล็นขมวดคิ้ว นั่งบนบัลลังก์

“ฉันเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน ดังนั้นฉันควรทำหน้าที่ของฉัน”

“ท่านริมเมอร์ครับ”

พ่อบ้านโรเอ็นยื่นถ้วยชาให้เขา

“ไม่เจอกันนานนะโรเอ็น”

"ไม่พบกันนานนะครับ"

จากภายนอกโรเอ็นดูแก่กว่า แต่จริงๆแล้วริมเมอร์อายุมากกว่ามาก ดังนั้นริมเมอร์จึงพูดกับเขาอย่างเป็นกันเอง

“นายคิดอะไรอยู่?”

เกล็นถามโดยเท้าคางของเขาไว้บนฝ่ามือ

“ทำไมนายถึงคิดสร้างการต่อสู้ระหว่างราอนและเบอร์เรน”

“ก็...พึ่งวางแผนได้ตอนนั้นแหละ”

“พึ่งคิด? แล้วมันก็เป็นไปตามแผนของนายเลย?”

“โห ฉันหลอกนายไม่ได้จริงๆน่ะแหล่ะ!”

ริมเมอร์เกาคออย่างงุ่มง่าม

“พรสวรรค์ของเบอร์เรนนั้นยอดเยี่ยมแต่เขาใจแคบ ราอนมีบางสิ่งที่พิเศษแต่ไม่มีใครรู้ ฉันต้องการให้พวกเขาสู้กันเพื่อประโยชน์ของทั้งคู่”

“…”

“อย่างที่นายเห็น ความเย็นยังแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของราอน แต่ความมุ่งมั่นของเขาก็เทียบได้กับนักดาบที่ประสบความสำเร็จ”

“ฉันรู้เรื่องนั้นแล้ว”

“แต่มีหนึ่งสิ่งที่นายไม่รู้ และฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”

ริมเมอร์ยกนิ้วชี้ขึ้นและพูดต่อ

“นั่นคือเขาเป็นอัจฉริยะ ฉันอยากเห็นความมุ่งมั่นของเขา ฉันตั้งตารอที่จะได้เห็นว่าเขาจัดการกับเบอร์เรนยังไง”

ดวงตาของริมเมอร์ส่องประกายราวกับดวงดาวบนท้องฟ้า

“แต่สิ่งที่เขาแสดงให้เห็นในครั้งนี้ไม่ใช่ความมุ่งมั่นของเขา แต่เป็นพรสวรรค์ และเป็นพรสวรรค์อันไร้ที่สิ้นสุด! เขาโต้กลับโดยใช้การทำความเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว! มันดูไม่น่าเชื่อใช่ไหม? ฉันผ่านสนามรบมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นพรสวรรค์แบบนี้!”

“ไอ้ขอทานก็เคยพูดอะไรแบบนั้นมาก่อน เด็กที่เกิดมาพร้อมกับคำสาปแห่งน้ำแข็งมักจะมีความสามารถพิเศษ”

“ขอทาน? หมายถึงนักบุญมอมแมมหรือเปล่า?”

"ใช่"

เกล็นพยักหน้าและพูดต่อ

“เด็กพวกนั้นมักจะมีพรสวรรค์พิเศษด้านเวทมนตร์น้ำแข็งหรือออร่าน้ำแข็ง หรือไม่ก็กลายเป็นหญิงสาวที่รูปงามที่สุด”

"นั่นแหละที่ฉันหมายถึง!"

ริมเมอร์กระทืบพื้น

“เขาเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ด้านศิลปะการต่อสู้อย่างแท้จริง!”

"อืม…"

“เบอร์เรน รูนัน หลานชายและหลานสาวคนอื่นๆ ของคุณก็พิเศษเช่นกัน แต่ราอนนั้นพิเศษกว่านั้น เขามีลักษณะของคนที่จะกลายเป็นสุดยอดของทวีปอย่างแน่นอน!”

แม้ริมเมอร์จะตื่นเต้น แต่สีหน้าของเกล็นยังคงสงบนิ่ง

“เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นอะไรแบบนั้น และผมแน่ใจว่าเหล่าผู้บัญชาการทหารไม่เคยเห็นพรสวรรค์แบบนี้มาก่อนแน่นอน”

โรเอ็นที่ดูการต่อสู้พร้อมกับเกล็นพูดออกมา

“เราต้องฝึกเขาให้สมบูรณ์แบบ ราอนได้แผ่นทองแดง แต่ถ้าเราให้เขาด้วยสิ่งที่ดีกว่าอย่างแผ่นเงิน…”

“ไม่ได้”

เกล็นส่ายหัวอย่างหนักแน่น

“ฉันต้องให้รางวัลเขาเพราะแผนงี่เง่าของแก จะให้มาเพิ่มรางวัลมันเป็นไปไม่ได้”

“เอ๋! แต่ว่า…”

“แกไม่ควรเข้าข้างเขา”

“เกล็นใจร้ายจริงๆ… ฮึก!”

เกล็นจ้องมองเขาอย่างเย็นชา ทำให้ริมเมอร์สะดุ้งและปิดปาก

“อย่างไรก็ตาม ราอนมีพรสวรรค์จริงๆ เขาไม่ควรได้รับการปกป้องเพียงเพราะร่างกายอ่อนแอ แต่เขาควรได้รับการฝึกฝนอย่างเหมาะสมแทน เขาน่าจะเก่งกว่าหลานชายคนที่สองของคุณ ผู้ซึ่งถูกเรียกว่าอัจฉริยะที่พบเห็นได้ทุกๆร้อยปีเสียอีก นายต้องพิจารณาเรื่องนี้ดีๆ”

“แกพูดมากไปละ”

“เพราะฉันเห็นคนที่สุดยอดมาก”

“ฉันจะไม่มีใครสนใจเขาเป็นพิเศษ เว้นแต่เขาจะมีส่วนช่วยให้ตระกูลมีชื่อเสียง”

"หา? เขาควรได้รับยาอมฤตหรือเทคนิคการปลูกฝังที่ดีที่สุดสิ อย่างน้อยที่สุดก็ช่วยให้เขาคลายความเย็นลงได้…”

ริมเมอร์ปิดปากทันทีเมื่อเกล็นยกมือขึ้นห้าม

“ขอทานบอกว่าราอนต้องเอาชนะมันด้วยตัวเอง ไม่ใช่ความคิดที่ดีที่จะใช้น้ำอมฤตที่มีธาตุไฟมากขึ้น'

"ว้าว! นายแสร้งทำเป็นไม่สนใจเขา แต่นายก็หาข้อมูลมาแล้ว!”

“ไร้สาระน่า มันชอบพูดพล่ามเข้าหูฉันเอง”

"โอ้…"

“ฮึ่ม!”

ริมเมอร์และโรเอ็นจ้องมองที่เขาอย่างขบขัน

"เหอะ.."

เกล็นสะบัดนิ้ว เปลวไฟสีทองและประตูโลหะที่นำไปสู่คลังสมบัติของซีกฮาร์ทก็ปรากฏขึ้นด้านหลังเขา

“ฉันจะจัดคลังสมบัติ ดังนั้นแกออกไปซะ”

เกล็นพูดก่อนที่เขาจะเข้าไปในคลัง

ริมเมอร์และโรเอ็นมองหน้ากันแล้วยิ้มเอ็นดู เขาไม่ได้ไปที่นั่นเพื่อจัดของอย่างแน่นอน

“ปากไม่ตรงกับใจเล้ย...”

***

ราอนกลับไปที่อาคารรองและใช้เวลากับซิลเวีย

มีหลายอย่างที่ซิลเวียสงสัย การพูดคุยจึงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ

เขาได้กลับไปที่ห้องของตัวเองหลังจากคุยกันนานกว่าหกชั่วโมง

'เหนื่อยมาก...'

ราอนถอนหายใจขณะปิดประตู เขาเหนื่อยล้ากับการฝึกอย่างมาก

อะแฮ่ม ในที่สุดก็ได้ลิ้มรสอาหารที่น่าพึงพอใจหลังจากเหน็ดเหนื่อยมาอย่างยาวนาน จากนี้ไปเจ้าต้องทานอาหารที่นี่ทุกวัน

ครั้งนี้ราธไม่โวยวาย ดูเหมือนว่าเขาจะพอใจกับอาหารและของหวานของที่นี่

อาหารที่สนามฝึกเหมือนอาหารหมา จะมองตรงๆยังไม่อยากจะมอง

“ฉันขอโทษละกันนะ แต่เราต้องกินมันอีก”

เนื่องจากเขาจะกลายเป็นเด็กฝึกหัดอย่างเป็นทางการ เขาจึงต้องอยู่ที่นั่นหลายปี

เวรเอ๊ย!

ราธกัดฟันแน่น เขาเป็นราชาปีศาจที่ต้องการอาหารอร่อยๆนะ!

ช่างเถอะ ข้ามีเรื่องจะถามเจ้า

"ถามฉันเหรอ?"

ราอน ซีกฮาร์ท เจ้าเป็นใครกันแน่?

ราธที่ห้อยอยู่บนข้อมือของเขา กลับสู่ร่างเปลวไฟสีน้ำเงิน

ราชาแห่งแก่นแท้ได้เห็นมนุษย์มากมายนับไม่ถ้วนและยังเคยใช้ชีวิตในฐานะมนุษย์มาหลายร้อยปี อย่างไรก็ตาม ราชาแห่งแก่นแท้ไม่เคยเห็นใครเหมือนกับเจ้า

ไฟของราธลุกโชน ดุเดือดยิ่งกว่าครั้งแรกที่พบกันเสียอีก

ราชาแห่งแก่นแท้รู้สึกได้ เจ้ากำลังซ่อนบางสิ่งที่พิเศษ ตอนนี้บอกตัวตนที่แท้จริงของเจ้ามา ...

“เฮ้อ...ราธ”

มนุษย์ธรรมดาห้ามเรียกชื่อราชาแห่งแก่นแท้!

“มีบางอย่างที่สำคัญกว่าตัวตนของฉันหรือชื่อของแก”

อะไรล่ะ…

“ความจำของแกแย่กว่าที่ฉันคิด”

มุมปากของราอนยกขึ้น ในขณะที่เขามองลงไปที่ราธ

“การเดิมพันของเราจบลงแล้ว หยุดพูดไร้สาระและให้รางวัลฉันมาเดี๋ยวนี้!”

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด