นักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 19
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 19
ราอนค่อยๆก้าวไปข้างหน้า ยิ่งเขาเข้าใกล้ริมเมอร์มากเท่าไหร่ ความกดดันก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น
แม้แต่เบอร์เรนหรือรูนันก็ยากที่จะผ่านแรงกดดันดังกล่าว ราอนก็ทำได้เพียงหัวเราะ
'เขาตั้งใจทำแบบทดสอบนี้มาให้ฉัน'
ในเขาตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตในฐานะ ราอน ซีกฮาร์ท ดังนั้นเขาไม่จำเป็นต้องซ่อนความสามารถของเขาอีกต่อไป
เวทีถูกจัดขึ้น และความสามารถของเขาได้เปิดออกแล้ว ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องแสดงบทบาทของเขาบนเวทีเท่านั้น
“แบบนี้เป็นยังไงบ้าง? ถ้ามันยากเกินไปก็บอกได้นะ…”
"ไม่เป็นไรครับ"
ราอนยิ้มเล็กน้อยและขยับเท้า
'พลังมันมากเกินไปสำหรับฉันในตอนนี้...'
ความชำนาญนั้นติดมากับจิตวิญญาณไม่ใช่ร่างกาย ราอนไม่เพียงแต่มีความชำนาญแบบซีกฮาร์ทเท่านั้น แต่ยังมีราอนซึ่งเป็นมือสังหารที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอีกด้วย
ฟู่ว!
ตึก.
เสียงฝีเท้าของเขาที่เดินบนพื้นทรายของสนามฝึกเปลี่ยนไป ด้วยความชำนาญของราอน เขาแสดงเจตจำนงอันเยือกเย็นที่แรงกล้า
ฉึก!
แรงกดดันที่คมราวกับใบมีดได้ฉีกแรงลมสีเขียวของริมเมอร์ขาดครึ่ง
"เธอเป็นใครกันแน่…?"
ริมเมอร์จ้องเขม็ง ความตื่นตระหนกปรากฏขึ้นในดวงตาสีเขียวของเขา
หวือ!
ราอนเดินไปข้างหน้าโดยไม่ตอบโต้ ตัดผ่านลมที่ปั่นป่วน เขาก้าวไปห้าก้าวและยืนอยู่ข้างหน้าริมเมอร์
แตะ.
เขายื่นมือออกไปแตะไหล่ของริมเมอร์เบาๆ
“การสอบจบยังครับ?”
“เอ๊ะ? ใช่…”
ด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจแต่สงบนิ่งของราอน ริมเมอร์เพียงแค่พยักหน้า
"ขอบคุณนะครับ"
เขาลดมือลง เขาลบความชำนาญของมือสังหารที่เขาเรียกออกมา ดูเหมือนว่าเขาจะมีสมาธิในการสอบมากเกินไป
“…”
ปากของริมเมอร์ยังคงอ้ากว้าง ไม่สามารถซ่อนความประหลาดใจของเขาได้
เจ้า! เจ้าเป็นตัวอะไรกันแน่?
เสียงของราธก็ฟังดูประหลาดใจเช่นกัน แทบไม่เคยเห็นราธแสดงอารมณ์อื่นนอกจากโกรธ
"อืม"
ขณะที่รอปฏิกิริยาของริมเมอร์ ราอนก็มองไปรอบๆ สนามฝึกที่เงียบสงบ
เด็กๆ จากครอบครัวขุนนางและสายรองที่เย้ยหยันเขา เด็กๆ ที่ฝึกฝนกับเขาและคอยให้กำลังใจเขา และแม้แต่ผู้ปกครองก็ยังเงียบ
“อะไรนั่น? เขาผ่านมันได้? ไอ้เวรนั่นเนี่ยนะ?”
“ไม่จริงอะ นี่มันเป็นไปได้ยังไง…?”
“มันเป็นแค่คนป่วย ที่ไม่รู้วิธีใช้ออร่า! มันเป็นไปไม่ได้หรอก!”
ผู้ปกครองของเด็กฝึกพูดพึมพำด้วยสีหน้าว่างเปล่า
“ราอน! ร่างกายของเธอเป็นอย่างไรบ้าง”
“คุณชาย เหนื่อยมากใช่มั้ยคะ”
ซิลเวียและเฮเลนน้ำตาไหล พวกเขาดีใจ แต่พวกเขาพูดถึงเกี่ยวกับร่างกายของเขาเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม การแสดงออกของเกล็น ซีกฮาร์ทไม่เปลี่ยนแปลง เขาดูเย็นชาเช่นเคยราวกับว่ามีชั้นน้ำแข็งปกคลุมใบหน้าของเขา
'นั่นเป็นเรื่องจริง'
ราอนส่ายหัว มองดูเกล็น
***
“เธอเป็นใครกันแน่?”
ริมเมอร์ แสดงความประหลาดใจเมื่อมองไปที่ ราอน ที่สงบนิ่ง
“ผมคือราอน คุณก็คอยดูแลผมตลอดที่ผ่านมานี่นา”
“ฉันถามเพราะเธอทำได้ดีเกินไป ฉันตั้งใจปล่อยแรงกดดันที่เธอไม่สามารถต้านทานได้แน่ๆ คือฉันแค่จะแกล้งเล่นๆ แต่ฉันไม่คิดว่าเธอจะแทงทะลุแรงกดดันนั้นได้...”
เพื่อที่จะค้นพบความสามารถที่ราอนซ่อนไว้ เขาได้ลองสร้างแรงกดดันที่ทรงพลังเกินกว่าที่ราอนจะทนไหว
เขาแน่ใจว่าราอนไม่สามารถทะลวงมันได้ ไม่ว่าพลังที่ซ่อนไว้จะมากเพียงใด แต่ราอนก็ฝ่าแรงกดดันของเขาไปได้ด้วยมือๆเดียว ตามจริงแล้วเขายังไม่เชื่อในสิ่งที่เห็นเลย
"หืม…"
ริมเมอร์เหลือบมองคนข้างหลังราอน
'ก็ดีแล้วแหละน่ะ'
พื้นที่ฝึกซ้อมทั้งหมดเงียบเชียบเพราะสิ่งที่ราอนเพิ่งทำไป
“อะแฮ่ม.. ฉันรู้สึกสับสนเล็กน้อย ขออภัย...”
ริมเมอร์ขี่ลมสีเขียวกลับไปที่เวที
“ด้วย ราอน ซีกฮาร์ท เป็นผู้เข้าร่วมคนสุดท้าย การทดสอบคัดเลือกผู้ฝึกฝนอย่างเป็นทางการได้สิ้นสุดลงแล้ว และ ยังมีอีกหนึ่งเรื่องสำคัญ...”
สายตาของทุกคนจับจ้องมาที่เขา
“การประกาศผู้เข้ารับการฝึกฝนอันดับที่หนึ่ง ตัวแทนของผู้เข้ารับการฝึกฝน”
มีโอกาสสูงที่ผู้ฝึกหัดอันดับหนึ่งจะได้เป็นหัวหน้าตระกูล ความโลภจึงอยู่ในสายตาของทุกคน—ทั้งเด็กและผู้ปกครอง
'ทุกอย่างเป็นไปตามแผน แต่สถานการณ์แตกต่างจากที่คาดไว้นิดหน่อย'
แน่นอนแล้วว่าอันดับที่หนึ่งจะตกเป็นของ ราอน ซีกฮาร์ท เขามีความก้าวหน้ามากที่สุดในฐานะเด็กฝึกหัดชั่วคราว นั่นเหมาะสมกับจุดประสงค์ของการทดสอบอย่างมาก
'เพราะแบบนี้ฉันก็ไม่ต้องใช้แผนสำรอง'
ริมเมอร์หัวเราะเยาะและชำเลืองมองเหล่าเด็กฝึกหัด เมื่อมองผ่านรูนันและเบอร์เรนไป สายตาของเขาหยุดที่ราอน
“ราอน ซีกฮาร์ท ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เธอคือตัวแทนผู้ฝึกฝนของสนามฝึกที่ห้า ขอให้ทำให้ดีที่สุดในอนาคต”
"โอ้! คุณชายราอน!”
“…”
ดอเรียนปรบมือรัวๆ ส่วนรูนันปรบมือแค่สามครั้ง สีหน้าเธอดูแปลกๆ
“คุณชายราอนเป็นผู้ฝึกหัดระดับแนวหน้า!”
“อ๊า…”
“คุณหญิงซิลเวีย!”
เฮเลนจับหัวของเขาและกอดซิลเวียที่กำลังจะเป็นลม
“เอ๊ะ?”
“จ-จริงเหรอเนี่ย”
“เด็กคนนั้นเป็นที่หนึ่งจริงๆเหรอ? ไม่อยากจะเชื่อเลย…”
“ราอนเป็นเด็กที่ทนต่อแรงกดดันที่ทรงพลังที่สุดได้”
“แต่เขาเป็นลูกชายของซิลเวีย! ซิลเวียผู้หลบหนีจากตระกูล!”
“นั่นไม่เกี่ยวข้องกับความสามารถของเด็ก”
“นั่นคือแผนของริมเมอร์ไม่ใช่หรือไง? เขาตั้งใจตบตาพวกเราแน่นอน!”
คนอื่นเริ่มโต้เถียงโดยอ้างว่าไม่น่าเชื่อ
“นั่น… นั่นเป็นเรื่องหลอกลวง!”
เบอร์เรนยืนขึ้นด้วยริมฝีปากที่สั่นเทา
“นั่นเป็นไปไม่ได้!”
“อะไรคือหลอกลวง อะไรที่ไม่ไปเป็นได้?”
ริมเมอร์หันกลับมามองเบอร์เรน
“ราอนแย่กว่าผมในทั้งพละกำลัง ความแข็งแกร่ง และพรสวรรค์! ผมรับไม่ได้ที่คนแบบนี้ได้ที่หนึ่ง!”
“เธอก็เห็นนี่นา ราอนทะลวงผ่านแรงกดดันได้อย่างง่ายดาย เธอแทบจะผ่านไปไม่ได้ด้วยซ้ำ เขาสมควรได้รับอันดับหนึ่งแล้ว”
“เขากำลังโกง!”
“เบอร์เรน ซีกฮาร์ท เธอกำลังสงสัยการตัดสินใจของฉันหรือเปล่า?”
รอยยิ้มของริมเมอร์ยังคงเหมือนเดิม แต่บรรยากาศเปลี่ยนไป รู้สึกเหมือนมีแรงกดดันเพิ่มเข้ามาในลมเย็น
“นะ-นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมหมายถึง! ผมกำลังบอกว่าเขาโกง! เมื่อวานนี้ราอนตามผมไม่ทันด้วยซ้ำ ดังนั้นมันไม่สมเหตุสมผล!”
"เขาพูดถูก!"
“แม้แต่อาจารย์เองก็ยังไม่อยากจะเชื่อใช่ไหมล่ะ?”
เด็กลิ่วล้อของเบอร์เรนยืนถัดจากเขา
"อืม…"
ริมเมอร์เกาคาง แน่นอนว่าเขาไม่ได้คาดหวังว่าราอนจะทะลวงผ่านแรงกดดันของเขาได้ เขาจึงเข้าใจคำโต้แย้งของพวกเขา
“แต่นั่นเป็นเรื่องจริง เขาไม่ได้โกง”
“แต่เขามีคำสาปแห่งน้ำแข็ง เขาจะทำได้ยังไงล่ะ”
“เขาไม่มีแม้แต่ออร่า”
เมื่อเขามองไปรอบๆ ไม่เพียงแต่เด็กแต่ผู้ใหญ่ก็พึมพำเช่นกัน พวกเขาเริ่มสงสัยในการทดสอบ ทั้งๆ ที่ได้เห็นกับตาตัวเองแล้ว
“เอ่อ ฉันเข้าใจข้อสงสัยของพวกคุณ ฉันก็แปลกใจเหมือนกัน”
"ใช่ไหมล่ะครับ!"
ดวงตาของเบอร์เรนเบิกกว้างเมื่อเห็นแววแห่งความหวัง
“พวกเราเป็นตระกูลนักรบ ควรตัดสินที่หนึ่งด้วยการดวลกันมากกว่าการทดสอบแบบนี้!”
“เธออยากได้ที่หนึ่งมากถึงขนาดท้าดวลกับราอนเลยเหรอ?”
“ผมหมายถึงต่อสู้กับใครก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นผม...”
“ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความต้องการขนาดนั้น ไม่ต้องโกหกหรอก”
ริมเมอร์หัวเราะและโบกมือของเขา เบอร์เรนหน้าแดงเหมือนลูกแอปเปิ้ล แต่เขาก็ไม่ปฏิเสธ
“แต่การทดสอบได้จบลงแล้ว นายท่าน เราควรจะทำอย่างไรกับสถานการณ์นี้ดีครับ?”
“เบอร์เรน ซีกฮาร์ท”
เกล็นมองราอนและเบอร์เรน จากนั้นก็เริ่มพูด
"ครับ!"
“ถ้าเธอต้องการเปลี่ยนคำตัดสิน มันมีสิ่งที่ต้องแลกนะ? แน่ใจเหรอว่าพร้อมแล้ว”
"แน่นอนครับ!"
เบอร์เรนตอบทันทีโดยไม่ต้องคิด เขามั่นใจว่าจะเอาชนะราอนได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
“ราอน ซีกฮาร์ท”
คราวนี้เกล็นเรียกชื่อของราอน
"ครับ"
ราอนทำความเคารพ
“เธอจะยอมรับการท้าดวลจากเบอร์เรนหรือไม่”
"ไม่ครับ"
* * *
* * *
ราอนส่ายหัวอย่างหนักแน่น
“เห๊!”
“เอ๊ะ?”
“หา…”
“…เขาบ้าไปแล้วเหรอ!”
ไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะปฏิเสธทันที ทุกคนอ้าปากค้าง
“การทดสอบสิ้นสุดลงแล้ว และผลลัพธ์ก็ออกมาแล้ว ไม่มีเหตุผลที่ผมจะแข่งขันกับใครต่อ”
"หืม?"
“เขามักจะพูดเรื่องสายตรงและเกียรติยศของตระกูล ผมไม่คิดว่าเขาจะไม่ยอมรับเรื่องนี้ด้วยซ้ำ”
“อึก!”
เบอร์เรนหน้าแดงก่ำเมื่อเขาได้ยินคำพูดเย้ยหยันของราออน
“งั้นถ้าเป็นแบบนี้ล่ะ”
ทุกคนมองไปที่เกล็น เสียงของเขาฟังดูเหมือนก้อนหินกดทับ
“ให้พวกเธอต่อสู้กัน หากใครชนะ ฉันจะสลักชื่อบนแผ่นทองแดง”
'แผ่นทองแดง!'
ในตระกูลซีกฮาร์ท จะมีการสลักบนแผ่นจารึกทองคำ เงิน หรือทองแดง ขึ้นอยู่กับความสำเร็จของพวกเขา แม้จะเป็นเพียงแผ่นทองแดง แต่เป็นแผ่นที่ออกมาโดยตรงจากหัวหน้าตระกูล
'ลาภลอยสุดๆ'
เขาชนะเดิมพันกับราธแล้ว และตอนนี้เกล็นเสนอจะให้แผ่นทองแดงแก่เขา รางวัลของเขาเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า
ดูเหมือนว่าเกล็นต้องการให้เบอร์เรนจากสายตรงขึ้นเป็นที่หนึ่ง น่าเสียดายที่เขาทำไม่ได้
“เข้าใจแล้วครับ”
“ระ-ราอน!”
"ไม่เป็นไรหรอกครับ"
ทันทีที่เขายอมรับ ซิลเวียก็วิ่งมาหาเขา
“ขอบคุณครับ! ท่านเจ้าตระกูล! ผมจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง!”
เบอร์เรนโค้งคำนับเกล็นด้วยความรู้สึกท่วมท้น
“พอแค่นั้น แล้วเริ่มการต่อสู้ได้เลย”
"ครับ!"
เบอร์เรนลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้าไปหาราอน
“แกจบเห่แล้วล่ะ”
เขาพูดต่อในขณะที่ยิ้ม
“ฉันไม่ชอบแกตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นเลย ฉันจะแสดงให้เห็น ความแตกต่างระหว่างสายตรงกับแมลงที่ถูกทอดทิ้ง”
"ว้าว เด็กที่ยอมรับผลไม่ได้ กำลังพูดมากแหละ'
ราอนหัวเราะเยาะและหมุนข้อมือของเขา
"แกมันเลว…"
“เก็บแรงไว้สู้เถอะ”
ริมเมอร์ส่ายหัว เขายืนอยู่ตรงกลางพวกเขา
“การต่อสู้จะเป็นแบบรอบเดียวจบ ห้ามใช้อาวุธหรือออร่า ใช้ร่างกายต่อสู้เท่านั้น '
“รับทราบครับ!”
"โอเค"
"ดีล่ะ ถ้าอย่างนั้น…"
ริมเมอร์ยกมือที่กั้นระหว่างพวกเขา และก้าวถอยหลัง
"เริ่มได้!"
“ย้าก!”
ก่อนที่คำว่า'เริ่ม'จะไปถึงหูของเขา เบอร์เรนก็พุ่งเข้ามา เขาชกหมัดอย่างแรงไปที่ช่องท้องของราอน
แปะ!
ราอนใช้หลังมือปัดกำปั้น การหมุนที่รุนแรงของกำปั้นทำให้ข้อมือของเขาชา
“นั่นหยุดหมัดของฉันไม่ได้หรอก!”
เบอร์เรนหัวเราะอย่างบ้าคลั่งและชกกำปั้นเป็นครั้งที่สอง คราวนี้เล็งไปที่ท้องของเขา
พัวะ!
เขาปัดป้องแรงที่รุนแรงด้วยมือของเขา แต่แรงกระแทกทำให้แขนของเขาเจ็บปวด
“นี่คือหมัดพยัคฆ์ความว่างเปล่าที่พ่อของฉันสอนให้ ไม่การห้ามใช้เทคนิค สิ่งนี้ไม่ผิดกฎ”
“หมัดพยัคฆ์ว่างเปล่า…”
หมัดพยัคฆ์ว่างเปล่าเป็นเทคนิคการใช้หมัดของซีกฮาร์ท เป็นการหมุนกำปั้นเพื่อทะลวงการป้องกันของศัตรู
'อ่า…?'
มันเป็นท่าที่ทรงพลังแต่เบอร์เรนใช้ได้เละเทะมาก เขาคงเอาชนะได้แบบง่ายๆเลย
'ถ้าเอาชนะแบบธรรมดาๆคงน่าเสียดายแย่เลย'
เขาต้องใช้โอกาสนี้เพื่อพิสูจน์ความสามารถของเขาให้ทุกคนได้เห็น
“มองไปทางไหนอยู่!”
เบอร์เรนเหวี่ยงหมัดของเขา ราอนเอนหลังหลบกำปั้นแล้วก้าวถอยหลัง
“นี่แหละความแตกต่างของพรสวรรค์!”
เขายังคงเหวี่ยงหมัด ทั้งกำปั้นและย่างก้าวของเขาค่อนข้างเละเทะ แต่เขากำลังอวดเบ่งความสามารถของเขา
'พรสวรรค์งั้นเหรอ?'
ราอนก้าวไปด้านข้างด้วยดวงตาเป็นประกาย เขาคิดได้ถึงวิธีที่ดีที่สุดที่จะโจมตีคนงี่เง่าที่มีดีแต่อวดเบ่งนี่
ใช้ศิลปะการต่อสู้
ตระกูลนักดาบถือว่าพรสวรรค์ด้านศิลปะการต่อสู้เป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด
'และฉันก็มีบางอย่างที่ยอดเยี่ยม'
ราอนใช้’วงแหวนแห่งไฟ’อย่างเต็มกำลัง วงแหวนทั้งสามเริ่มหมุนอย่างรวดเร็ว การเคลื่อนไหวของเบอร์เรนช้าลง และเขาสามารถมองเห็นกระบวนท่าหมัดของเขาได้
“แกจะยอมแพ้เลยหรือเปล่า?”
เบอร์เรนชกกำปั้นของเขาตรงๆ ลมที่รุนแรงพัดผ่านหูของเขา
“ไม่แน่นอน”
มือของราอนขยับเป็นรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว เบอร์เรนเด้งกลับเมื่อสัมผัสการหมุนนั้น
มันเป็นการหมุนแบบเดียวกับหมัดพยัคฆ์ความว่างเปล่าของเขา แต่ทิศทางกลับตรงกันข้าม
“อึก!”
สีหน้าของเบอร์เรนซีดเผือดขณะที่เขาก้าวถอย แต่เขาก็กัดฟันและพุ่งเข้าใส่อีกครั้ง
พลั่ก!
ราอนผลักเขาด้วยหัวไหล่ เบอร์เรนกระเด็นถอยหลัง
ปั่ก!
ราอนเล็งไปที่หน้าอกของเบอร์เรน ที่กำลังตื่นตระหนก
"แกมัน...เวรเอ๊ย!"
เขาพยายามชกคางราอนด้วยหมัดซ้าย อย่างไรก็ตาม ราอนได้วิเคราะห์เทคนิคหมัดของเขาเสร็จแล้ว
ผัวะ!
เขาปัดกำปั้นของเบอร์เรนไปทางอื่น แล้วชกเข้าที่ท้องของเขา
“อั่ก!”
เบอร์เรนคุกเข่า น้ำลายฟูมปาก
“แก… แกใช้หมัดพยัคฆ์ความว่างเปล่าเป็นได้ยังไงกัน…?”
เขาน้ำลายไหล อ้าปากกว้างกับสถานการณ์ที่คาดไม่ถึง
“เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”
“เด็กนั่นใช้หมัดพยัคฆ์ความว่างเปล่าได้เหรอ…?”
“ไม่มีทางที่ซิลเวียหรือริมเมอร์จะสอนเขาได้!”
"เกิดอะไรขึ้น…?"
ทุกคนที่ชมการต่อสู้เบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ
“แกแสดงให้ฉันเห็นเอง”
ราอนปัดฝุ่นออกจากมือ มองลงไปที่เบอร์เรนอย่างเย็นชา
“ฉันคัดลอกเทคนิคของแกไงล่ะ”