นักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 17
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 17
หลังจากล้างหน้าเสร็จ ราอนก็จ้องมองดวงอาทิตย์ที่โผล่ขึ้นมานอกหน้าต่างด้วยใบหน้าชื้นแฉะ
“วันนี้นี่แหละ!”
เวลาหกเดือนผ่านไป นี่คือเช้าของการสอบคัดเลือกเด็กฝึกอย่างเป็นทางการ
หากเป็นวันอื่นเขาคงกำลังกลืนวิ่งคลุกฝุ่นในสนามฝึกซ้อม แต่นี่เขายังปล่อยตัวสบายๆเนื่องจากเป็นวันของการสอบ
ราอน ซีกฮาร์ท.
เขากำลังแต่งตัวหลังจากเช็ดหน้าเสร็จ ราธก็พูดขึ้น
"มีอะไร?"
เจ้าจำการเดิมพันกับราชาแห่งแก่นแท้ได้หรือไม่?
"แน่นอนสิ"
ราอนพยักหน้าและสวมชุดฝึกของเขา เขาไม่ลืมแน่นอน ข้อเสนอจากราธที่หยิบยื่นของให้เขาฟรีๆ
ข้ายอมรับว่าความก้าวหน้าของเจ้าค่อนข้างเร็วสำหรับมนุษย์ แต่เจ้ายังตามสองคนนั้นไม่ทัน เจ้าเตรียมพร้อมรับอารมณ์โกรธจากราชาแห่งแก่นแท้หรือยังล่ะ?
ราธไม่ได้พูดผิด เขาพยายามวิ่งมาสามเดือนแต่เขาก็ยังไม่สามารถวิ่งแซงรูนันหรือเบอร์เรนได้
เขาไม่สนใจว่าเขาจะต้องต่อสู้ หรือต้องแสดงพละกำลังที่สะสมมา
เขามั่นใจว่าเขาจะชนะถ้าเขาใช้'วงแหวนแห่งไฟ' และประสบการณ์ของเขาจากชาติที่แล้ว
“คอยดูละกัน”
เจ้าไม่จำเป็นต้องโอ้อวด ในไม่ช้า ราชาแห่งแก่นแท้จะเข้าครอบงำจิตวิญญาณและร่างกายของเจ้าเอง
'งั้นถ้าทำได้ค่อยโม้ละกันนะ'
ข้าเฝ้ารอวันที่ความมั่นใจของเจ้าพังทลาย
'จะไม่มีวันเกิดขึ้น'
ราอนโบกมือ
'การอยู่ร่วมกับปีศาจเป็นเรื่องยากจริงๆ'
ที่ราธพยายามแทรกแซงอารมณ์ของเขาไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ความพูดมากของเขาค่อนข้างน่ารำคาญ
เขาไม่เข้าใจว่าสิ่งที่เรียกตัวเองว่าราชาแห่งปีศาจจะพูดมากขนาดนี้ได้ยังไง
'แต่ก็ยังมีข้อดี...'
การพยายามแทรกแซงของราธทำให้เขาได้รับค่าสถานะ มันน่าเจ็บปวดเล็กน้อย แต่ราธก็เหมือนห่านที่ออกไข่ทองคำ
<หน้าต่างสถานะ>
ชื่อ:ราอน ซีกฮาร์ท
ตำแหน่ง : ไม่มี
สถานะ: คำสาปน้ำแข็ง (แปดสาย), ความแข็งแกร่งต่ำ, ความสามารถในการเคลื่อนไหวลดลง, ค่าความสัมพันธ์มานาลดลง
คุณสมบัติ: ราธ, วงแหวนแห่งไฟ (สามดาว), ต้านทานน้ำ (สามดาว)
ความแข็งแกร่ง: 25
ความคล่องตัว: 24
พละกำลัง: 23
พลังงาน: 15
การรับรู้: 44
ไม่ใช่เพียงตัวเลขเท่านั้น ความสามารถที่แท้จริงของร่างกายเขาก็พัฒนาขึ้นอย่างมากจนถึงจุดที่การเคลื่อนไหวของเขาไม่สามารถเทียบได้กับที่เมื่อก่อน
เหอะ! หน้าต่างสถานะของราชาแห่งแก่นแท้…
แม้ว่าราธจะโวยวาย แต่ราอนก็ยิ้มอย่างพึงพอใจและเดินออกไปที่ห้องรับรอง
พวกเขาทำหน้าเหมือนกำลังจะตาย
'แกพูดถูก'
เด็กๆ ที่รวมตัวกันในห้องรับรองดูกังวลอย่างมาก ราวกับว่าเป็นทหารที่ถูกลากไปทำสงคราม
'ต้องเป็นเพราะการทดสอบ'
ริมเมอร์ไม่ได้อธิบายอะไรเกี่ยวกับการทดสอบเลย ทั้งความยากง่าย หรือจำนวนคนที่จะผ่าน
บอกเพียงว่าพวกเขาจะผ่านไปได้หากพวกเขาทำให้ดีที่สุด ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่เด็กๆกังวล
ราอนคิดว่าเขาคงจะแสดงสีหน้าแบบเดียวกันนี้หากเขาไม่ได้มีความทรงจำของชีวิตก่อน หรือหากเขาไม่มี 'วงแหวนแห่งไฟ'
ช่างน่าสมเพชเสียจริง พวกมันดูเหมือนไก่ที่พ่ายแพ้ก่อนที่สงครามที่แท้จริงจะเริ่มต้นขึ้นเสียอีก
'ก็พวกเขายังเป็นเด็ก'
ราอนมองไปรอบๆเด็กๆที่ซึมเศร้า แล้วเดินออกไปข้างนอก
เจ้าก็ยังเป็นเด็ก
'ฉันแตกต่าง'
อืม. มนุษย์ชอบเชื่อว่าตัวเองเป็นคนพิเศษ
'...'
เขาไม่ตอบสนองต่อการยั่วยุของราธ ไม่จำเป็นต้องสารภาพว่าเขามาเกิดใหม่พร้อมกับความทรงจำเดิม
กึก
ขณะที่เขากำลังเดินไปที่สนามฝึกที่ห้าที่อยู่ถัดจากหอพักก็ได้ยินฝีเท้า
เป็นเธออีกแล้ว
"หืม…"
ราอนหรี่ตาและหันกลับมามอง เด็กสาวที่มีดวงตาสีม่วงและผมสีเงินยาวสลวยคลอเคลียหัวไหล่กำลังเดินตามเขามา
“รูนัน”
เป็นรูนัน ซัลเลียน. หลังจากเกาะติดเขาระหว่างการฝึกอิสระเธอก็ยังตามเขาออกจากหอพักด้วย
"มีอะไรหรือเปล่า?"
"ไม่มี"
รูนันหันศีรษะของเธอด้วยสีหน้าไร้ความคิด เธอเอามือไพล่หลังมองไปทางอื่นอย่างงุ่มง่าม
“เฮอะ…”
ราอนถอนหายใจและหันหลังกลับ รูนันเป็นเช่นนั้นเสมอ เธอเดินเข้าหาเขาอย่างเงียบๆและคัดลอกการฝึกของเขาในขณะที่เว้นระยะไปด้วย
'ฉันไม่รู้ว่าเธอตามฉันมาทำไม'
จากสิ่งที่เห็น ความสามารถของเบอร์เรนดีกว่าเขา เบอร์เรนมีวิชาดาบที่ยอดเยี่ยม ความสามารถทางกายภาพที่ยอดเยี่ยม และความเป็นผู้นำที่ค่อนข้างดี
ถึงอย่างนั้นรูนันดูเหมือนจะไม่สนใจเขาเลย เธอเดินตามราอนไปทุกที่คล้ายกับแมวจรจัดที่จะเดินตามคนที่ให้อาหารไปเรื่อยๆ
'แต่ฉันไม่ได้ให้อาหารเธอด้วยซ้ำ'
เขาเคยให้แครกเกอร์กับเธอมาก่อน แต่มันเป็นของดอเรียน เขาไม่ได้ทำอะไรเพื่อเธอ เขาจึงไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงตามเขาเหมือนลูกเป็ดตามแม่ของมัน
'เธอเพี้ยนหรือเปล่า'
ราอนส่ายหัวและเดินไปที่สนามฝึก
เมื่อเขามาถึง เด็กชายผมสีเขียวโบกมือให้เขา
“คะ-คุณชาย…”
โดเรียนเป็นคนที่สองที่เริ่มมาเกาะติดเขา มือและขาของเขาสั่นไปหมด
"เกิดอะไรขึ้นกับนาย? ไม่สบายเหรอ?"
“มะ... ผมไม่ ผมไม่เป็นไรครับ วันนี้มีสอบและผมก็ไม่ได้นอนเลย เพราะผมกังวลมากเกินไป... ฮึก”
ใต้ตาของโดเรียนดำราวกับถ่าน แสดงถึงความอ่อนล้าของเขาอย่างชัดเจน
“นายจะผ่านไปได้โดยไม่มีปัญหาอะไร”
ราอนเหลือบมองเขา ดอเรียนเป็นคนขี้กลัว แต่จำนวนเด็กที่เอาชนะเขาได้คงมีไม่ถึงสิบ ไม่มีทางที่เขาจะล้มเหลวตราบเท่าที่เขาแสดงความสามารถออกมา
“แต่ผมไม่รู้ว่าการสอบนั้นคืออะไร และผมอ่อนแอมาก! ผมทำอะไรไม่ได้เรื่องเลย!”
ดอเรียนอยากจะอาเจียนและกัดเล็บด้วยริมฝีปากที่สั่นเทา เขาไม่ได้กำลังแสดง เขาหวาดกลัวจริงๆ
เขาเป็นแมลงที่ซื่อสัตย์ที่สุดในบรรดาแมลงทั้งหมดที่ข้าเคยเห็น ทุบศรีษะเขาเลย
'แต่แกเคยบอกว่าชอบเขานี่'
ราชาแห่งแก่นแท้ไม่ต้องการอยู่ร่วมกับคนขี้ขลาด
"ไม่เป็นไรน่า"
แทนที่จะให้กำลังใจเขา ราอนบอกเขาตามความเป็นจริงและเดินผ่านเขาไป แม้จะเป็นคนขี้ขลาดตาขาวแต่การอ้วกออกมาก็ไม่ได้หยุดเขา ไม่ว่าการทดสอบจะเป็นอย่างไรเขาจะจัดการได้อย่างแน่นอน
“ท-ท่านอาจารย์ ริมเมอร์เป็นคนรักษาคำพูด เขาบอกว่าเขาจะแยกอัญมณีจากก้อนกรวด ดังนั้นก้อนกรวดอย่างผมจะต้องสอบไม่ผ่านอย่างแน่นอน”
“งั้นก็ลุยแล้วสอบตกไปซะสิ”
“เอ๋!? ราอน!”
ราอนโบกมือโดยไม่หันกลับมามอง เขามองดอเรียนเป็นเพียงคนแปลกหน้าสำหรับเขา ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องให้คำแนะนำมากเกินความจำเป็น การพูดคุยกับเขาเริ่มทำให้รู้สึกหดหู่
"หืม"
ขณะที่เขากำลังจะเข้าสู่สนามฝึก เขาก็พบเบอร์เรน ซึ่งกำลังเดินมาหาเขาจากด้านข้าง
เมื่อเห็นราอน รูนัน และ ดอเรียน ดวงตาของเขาก็ลุกเป็นไฟด้วยความโกรธ ราวกับว่าเขากำลังเจอศัตรูตัวฉกาจ
“เฮ้อ”
ราอนถอนหายใจเฮือกใหญ่
'รอบตัวฉันไม่มีใครปกติสักคนเดียว'
ในชีวิตที่แล้วเขาถูกห้อมล้อมด้วยคนบ้า ดูเหมือนชีวิตปัจจุบันของเขาก็ไม่ต่างกันมากนัก
ควักลูกตาของมันออกมา
'รวมถึงไอ้บ้านี่ด้วย...'
* * *
* * *
“ราอน!”
“คุณชายราอน!”
ขณะที่ราอนกำลังอบอุ่นร่างกายในสนามฝึกซ้อม เสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นจากทางด้านขวาของเขา
"ท่านแม่? เฮเลน?”
ซิลเวีย เฮเลน และสาวใช้จากอาคารรองกำลังวิ่งมาหาเขา
“ราอน!”
เมื่อไปถึงตัวเขา ซิลเวียก็กอดเขาแน่น—ราวกับนกที่โอบอุ้มไข่ไว้
"โอ้พระเจ้า! ใบหน้าของลูกผอมลงมาก! การฝึกคงยากใช่มั้ย? ลูกโอเคมั้ย? เจ็บตรงไหนหรือเปล่า”
น้ำตาเอ่อคลอในดวงตาของเธอ ไม่รู้ว่าเธอพูดอะไร ราอนมีกล้ามเนื้อที่หนาขึ้นและไม่ใกล้เคียงคำว่าผอมเลย
“ไม่ครับแม่ ผม…”
“แม่รู้มันยาก! ต้องผ่านความยากลำบากมากมาย… ฮึก”
แม้จะผ่านไปหกเดือนแต่ซิลเวียก็ยังเหมือนเดิม เธอไม่ฟังเขาเลยและกังวลเกี่ยวกับร่างกายของเขา
ต่อหน้ามารดา เจ้าก็เป็นแค่เด็กตัวเล็กๆ
'เงียบไปเลย'
ราธหัวเราะเบาๆ เขาเห็นสิ่งที่น่าสนใจ
"คุณชายทำได้ดีมากค่ะ”
เฮเลนโค้งคำนับและยิ้มเล็กน้อย สาวใช้ที่อยู่ข้างหลังเธอก็ยิ้มและบอกว่าเขาน่าทึ่งมาก
“ผมยังไม่ผ่านการทดสอบด้วยซ้ำ”
ราอนเกาแก้มของเขา เขาถูกชมทั้งที่ยังไม่ทันทำอะไร
“คุณชายอยู่ที่นี่ได้ถึงหกเดือน”
“นั่นน่าทึ่งมากค่ะ!”
"ใช่ค่ะ คุณชายทำได้ดีมากจริงๆ”
เฮเลนและสาวใช้คนอื่นๆชมเชยเขาไม่หยุด พวกเขาเคยคิดว่าเขาจะล้มเหลวและรีบกลับไปที่นั่น
"มาที่นี่ได้ยังไงครับ?"
ราอนผละจากซิลเวียซึ่งกำลังเอาแก้มถูแก้มของเขาอยู่และหันหน้าไปหาเฮเลน
“ผู้ปกครองได้รับอนุญาตให้รับชมการทดสอบในวันนี้ ไม่ใช่แค่พวกเราแต่คนอื่นๆก็อยู่ที่นี่ด้วย”
เขามองไปรอบๆตามมือของเฮเลน อย่างที่เธอพูด เด็กๆกำลังทักทายพ่อแม่อยู่ทั่วสนามฝึก
“ว่าแต่เธอเป็นใครกันเหรอ…?”
ดวงตาของซิลเวียเบิกกว้างเมื่อเห็นเด็กผู้หญิงยืนอยู่ข้างหลังราอน รูนันโค้งคำนับซิลเวีย
'ผู้หญิงคนนี้น่าทึ่งมากจริงๆ'
รูนันไม่หยุดเกาะติดราอน แม้ว่าซิลเวียและเฮเลนจะอยู่กับเขาก็ตาม นิสัยของเธอนั้นน่าทึ่งยิ่งกว่าพรสวรรค์ของเธออีก
“รูนัน!”
ในขณะที่รูนันและซิลเวียกำลังมองหน้ากันก็ได้ยินเสียงทุ้มจากทางด้านซ้าย มันเป็นชายวัยกลางคนที่มีผมสีเงินสลวยไปด้านหลัง
'โรแคน ซัลเลียน'
เขาคือ โรแคน หัวหน้าตระกูลขุนนางซัลเลียน และเป็นพ่อของรูนัน
ใบหน้าของเด็กสาวนั้นไม่เปลี่ยนแม้แต่ในตอนท้าย
เช่นเดียวกับที่ราธเคยกล่าว ดวงตาของรูนันยังคงไร้อารมณ์ขณะที่เธอมองไปที่พ่อของเธอซึ่งเจอกันเป็นครั้งแรกในรอบหกเดือน
"ท่านพ่อ?"
"ลูกมาทำอะไรที่นี่? ไปกันเถอะ!"
หลังจากจ้องมองราอนและซิลเวีย เขาก็จับมือเธอและลากเธอออกไป
… ข้าเคยเห็นมนุษย์มาหลายคน แต่มนุษย์ผู้นั้น… พิเศษ
'ใช่ไหม? ฉันก็เหมือนกัน '
เขายิ้มอย่างเจื่อนๆให้กับรูนันที่เอาแต่มองเขาในขณะที่ถูกลากออกไป
“รูนันคือลูกสาวคนสุดท้องของตระกูลซัลเลียนใช่ไหม? ที่อยู่ในพิธีทดสอบด้วยกันกับลูก”
"ใช่ครับ"
“เธอสองคนเป็นเพื่อนกันใช่ไหม”
ซิลเวียยิ้ม เธอมองเขาอย่างใกล้ชิด อยากรู้ว่าพวกเขาเป็นเพื่อนกันได้อย่างไร
“เราไม่ได้เป็นเพื่อนกันครับ”
ราอนปฏิเสธอย่างหนักแน่น
“เธอไม่ใช่เพื่อนเหรอ? แล้วเป็นอะไรกัน?”
“คือว่า...”
เขาไม่แน่ใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเขากับรูนัน เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเพื่อนคืออะไรในตอนแรก
“ราอน... ถ้ามีคนเข้ามาหาลูกควรจะผูกมิตรไว้สิ”
ซิลเวียทำหน้ามุ่ย
“ผมไม่เคยไล่พวกเขาสักหน่อย...”
เขาไม่ได้สนใจว่าใครจะเข้าหาหรือต่อต้านเขา
“อย่าทำแบบนั้นอีก! ครั้งหน้าพาเธอมาที่อาคารรองของเรา แม่จะเตรียมอาหารอร่อยๆไว้ให้”
“ผมบอกแล้วไงว่าเราไม่ใช่เพื่อนกัน”
“อุแหวะ.. ฉันใกล้จะตายแล้ว… เอ๋? คุณไม่ใช่… ท่านแม่ของคุณชายราอนเหรอ???”
ขณะที่ราอนกำลังตอบเลี่ยงๆ ดอเรียนซึ่งกำลังขย้อนอยู่ก็เดินมาหาพวกเขาด้วยดวงตากลมโต
"ใช่จ้ะ แล้วเธอคือ?”
“ผม… กระผมมีนามว่าดอเรียน! ที่ผ่านมาคุณชายราอนดูแลผมดีมาก! ได้โปรดรับคำทักทายจากผม!”
ดอเรียนโค้งคำนับจนศีรษะเกือบกระแทกพื้น
"โอ้พระ!"
“โอ้ คุณชายน้อย!”
ซิลเวียและเฮเลนยิ้มกว้าง การที่ราอนได้ช่วยเหลือใครสักคนทำให้พวกเขามีความสุข
“ผมหายสงสัยว่าทำไมคุณชายราอนถึงรูปงามได้ขนาดนั้น ต้องขอบคุณคุณหญิง! คุณสวยมากจริงๆ!”
โดเรียนหยิบดอกไม้ออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นให้ซิลเวีย เวลาปกติเมื่อเขากลัวเขาจะพูดไม่ค่อยออก แต่คำพูดและการกระทำของเขาตอนนี้ไม่ได้ลังเลเลยแม้แต่น้อย ราอนสงสัยว่าเขาเป็นอะไรกัน
“โอ้! ขอบคุณนะจ๊ะ”
ซิลเวียยิ้มรับดอกไม้ ดูเหมือนว่าเธอจะซาบซึ้งจริงๆ
“ออกไปเดี๋ยวนี้”
“แต่ ทำไมครับ?”
ราอนจับตัวดอเรียน พยายามผลักเขาออกไป แต่ซิลเวียขัดจังหวะ
“ดอเรียน เธอบอกฉันได้ไหมว่าราอนเป็นยังไงบ้าง”
“แน่นอน… แน่นอนครับ! คุณชายราอน ได้ขยับจากระดับต่ำสุดไประดับสูงสุด เขาสร้างประวัติศาสตร์ในสนามฝึกที่ห้าเลยครับ! ทุกคนถึงกับหลั่งน้ำตา…...”
“โห!”
ดอเรียนยังคงพูดจ้อเรื่องของเขาไม่หยุด การสอบยังไม่เริ่มด้วยซ้ำแต่ราอนรู้สึกเหนื่อยล้าแล้ว
น่าทึ่งที่มีมนุษย์ที่พูดมากเช่นนี้
'ก็ยังไม่เท่าแกล่ะนะ'
“…และเช่นเดียวกัน ต้องขอบคุณคุณชายราอนที่สอนท่าทางต่างๆให้ ทำให้ผมและเด็กๆคนอื่นๆในระดับล่างสามารถขึ้นไปชั้นกลางๆได้เลย สำหรับอย่างอื่นผมจะบอกคุณหญิงในภายหลัง! ตอนนี้ผมรีบนิดหน่อย...”
ดอเรียนคำนับเธอแล้ววิ่งไปที่ห้องน้ำ
"โอ้พระเจ้า…"
“คุณชายราอน!”
เฮเลนและสาวใช้คนอื่นๆน้ำตาไหล พวกเขาจับมือกัน ถ้าพวกเขาได้ฟังเรื่องราวต่อไปพวกเขาอาจจะเริ่มร้องไห้แล้วจริงๆ
“การช่วยเหลือคนอื่นเป็นสิ่งที่ดี แต่ตัวลูกเองล่ะ? ลูกยังเป็นหวัดได้ง่าย หอพักมีความอบอุ่นเพียงพอหรือไม่? ลูกไม่สบายบ้างหรือเปล่า?”
สายตาของซิลเวียดูกังวลมาก เธอแสดงออกตามอารมณ์ของเธอเช่นเคย
"ผมสบายดีมากครับ"
ราอนใช้กำปั้นทุบหน้าอกพร้อมรอยยิ้มที่มั่นใจ แต่ไม่เพียงพอที่จะทำให้ความกังวลทั้งหมดหายไปจากสายตาของซิลเวีย
“แม่จะพูดซ้ำ ลูกออกมาได้ทุกเมื่อที่รู้สึกว่ามันยาก อย่าสนใจคนอื่น ทำตามหัวใจของลูกเอง ตกลงนะ?”
"ตกลงครับ"
เขาพยักหน้าและความกังวลของซิลเวียดูเหมือนจะจางหายไปเล็กน้อย
เธอยังคงเหมือนเดิม เธอเป็นแม่ที่เป็นห่วงความเป็นอยู่ของลูกชายเสมอ
“แล้วก็ เฮเลน”
ซิลเวียหันศีรษะไป
“ค่ะคุณหญิงซิลเวีย”
“เธอไม่คิดว่าราอนน่ารักขึ้นเหรอ?”
"จริงที่สุดค่ะ สมกับเป็นลูกชายของคุณหญิง”
"ใช่ไหม? ราอน! ให้แม่กอดลูกอีกที…”
"อ๊า! เดี๋ยวก่อน!”
เมื่อราอนพยายามถอยห่างจากซิลเวียที่กำลังใกล้เข้ามา แรงกดดันปรากฏขึ้นที่ทางเข้าสนามฝึกซ้อม
'พลังนี้...'
ราอนกัดฟันแน่นและจ้องมองไปที่ทางเข้าหลัก รู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่น่าสะพรึงกลัวจากด้านหลังประตูสีน้ำตาล
ปึง!
ประตูสู่สนามฝึกเปิดกว้าง เป็นชายที่เขาคิดว่าจะไม่มีทางมาปรากฏตัว
“สวัสดีครับ นายท่าน!”
“ยินดีต้อนรับท่านเจ้าตระกูล!”
ทุกคนที่เผชิญหน้ากับหัวหน้าตระกูลรีบคุกเข่า
'ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่?'
"ท่านพ่อ?"
"หืม!?"
ซิลเวียและเฮเลนคุกเข่าคำนับเช่นกัน
เขาเป็นเจ้าของพลังที่ข้าสัมผัสได้จากระยะไกลเมื่อครู่ ยังมีมนุษย์แบบนั้นอยู่ในยุคนี้...
ราธพูดด้วยความชื่นชมเป็นครั้งแรกตั้งแต่ตื่นขึ้น ดูเหมือนว่าความสามารถของเกล็นจะน่าประทับใจ แม้แต่สำหรับราธ
พลังของเขาอยู่ในระดับที่แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง เขาทะลวงขีดจำกัดและอยู่เหนือกว่าความเข้าใจของมนุษย์ เพียงแต่เขาอาจเหลือเวลาอีกไม่มาก
'เวลา? แกกำลังพูดถึงอะไร?
…
ราธจ้องไปที่เกล็น โดยไม่ตอบกลับ
"อืม..."
ราอนหันไปมองเกล็นอีกครั้ง
หลังจากมองดูเด็กๆและครอบครัวของพวกเขาอย่างช้าๆ เกล็นก็เดินขึ้นไปบนเวทีและนั่งบนเก้าอี้ที่ริมเมอร์ มักจะนั่ง
“เอ๋?!”
ริมเมอร์ปรี่เข้ามา อ้าปากกว้างเมื่อเห็นเขา
“ทำไมนายถึงมาอยู่ที่นี่…?”
เกล็นจ้องไปที่ริมเมอร์อย่างไม่พอใจ
“เด็กเหล่านี้คืออนาคตสำคัญของตระกูล ทำไมฉันถึงไม่ควรมาที่นี่กัน?”
“โอเค… งั้นที่นี่ยินดีต้อนรับนาย”
ริมเมอร์กระโดดข้ามกำแพงในขณะที่ยิ้มแหยะๆ เขาคำนับเกล็นและวิ่งขึ้นไปบนเวที
“ฉันมีเรื่องอยากจะพูด แต่เนื่องจากท่านหัวหน้าตระกูลมาร่วมรับชมการทดสอบ เราจะเริ่มการทดสอบคัดเลือกผู้ฝึกฝนทันที”
เขาเกาหัวและบอกให้ผู้ปกครองถอยไปรับชมห่างๆ พ่อแม่รีบบอกลาเด็กๆ บอกให้พวกเขาทำให้ดีที่สุดแล้วถอยห่าง
“ราอน”
ราอนหันกลับมาที่ซิลเวียเรียกเขา
“อย่าเจ็บตัวนะ”
“คุณชายได้โปรดอย่ากดดันตัวเองนะคะ”
แทนที่จะบอกให้เขาทำให้ดีที่สุด ซิลเวียและเฮเลนเป็นห่วงเขาและจากไป
พวกเขาอ่อนแอมาก ไม่เหมาะจะเคียงข้างเจ้า
ราอนพยักหน้า สิ่งที่พวกเขาต้องการมีเพียงให้เขามีสุขภาพแข็งแรง
'ยังไม่ค่อยชินเลยแฮะ'
การฝึกของเขาในชาติที่แล้วต้องการแต่ผลลัพธ์ ความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงนี้ทำให้เขาคุ้นเคยได้ยาก
เขาหันศีรษะกลับมาหลังจากจ้องมองทั้งสองคนที่เดินออกไป ริมเมอร์กำลังยิ้มให้เขา
“ถ้าอย่างนั้นทุกคน รายละเอียดของการทดสอบคัดเลือกผู้ฝึกหัดที่ทุกคนสงสัยจะถูกเปิดเผย ในขณะนี้”
ริมเมอร์สะบัดมือออกจากเวที แรงกดดันเล็กน้อยที่เล็ดลอดออกมาจากตัวเขากลับขยายปีกขนาดมหึมา
วูม!
แม้ว่าจะอ่อนแอกว่าของเกล็นซีกฮาร์ท แต่แรงกดดันอันทรงพลังที่ล้อมรอบสนามฝึกซ้อมทั้งหมดทำให้เหล่าผู้ปกครองขมวดคิ้ว และเด็กๆก็หดตัวลง
ตึก!
ด้วยการก้าวที่เบาทว่าสง่างาม ริมเมอร์เดินไปที่ใจกลางสนามฝึกซ้อม
“ทะลวงผ่านแรงกดดันของฉันให้ได้”
เขามองลงไปที่เหล่าเด็กๆที่อยู่ข้างหน้าเขา แสงเยือกเย็นฉายออกมาจากดวงตา
“นั่นคือบททดสอบของฉัน”