นักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 16
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 16
ภายในคฤหาสน์หลัก เจ้าของที่นี่—เกล็น ซีกฮาร์ท—กำลังนั่งอยู่บนบัลลังก์ด้วยสายตาที่หรี่ลง
'เรื่องนั้น...'
มีบางอย่างที่คนเร่ร่อนอย่างนักบุญมอมแมมเคยพูดเอาไว้
'หลายครั้งที่พวกเขาก็มีความสามารถพิเศษ'
แพทริคเคยกล่าวไว้ว่ามีเด็กที่เกิดมาพร้อมกับคำสาปแห่งน้ำแข็งที่มีความสามารถพิเศษ
'หรือว่าพรสวรรค์ของเขาจะออกมาแล้ว?'
ไม่มีทางที่ราอนจะยังคงรับประทานยาอายุอมฤตต่อหากไม่เป็นแบบนั้น
"อืม…"
เกล็นคิดพึมพัมกับตัวเอง มันไม่ใช่ท่าทางที่ให้คนอื่นเห็นได้ในฐานะราชาผู้ทำลายล้างแห่งแดนเหนือ
'มันอาจจะเป็นเรื่องเหมือนตอนนั้น...'
มีอยู่ครั้งหนึ่งที่อารมณ์ของเขาเหือดแห้งราวกับทรายในทะเลทรายจากการทะลวงขอบเขตศิลปะการต่อสู้ของเขา
ซิลเวียเกิดในเวลานั้น เขาไม่ได้มอบความรักแก่เธอเหมือนเด็กคนอื่นๆ เขาเป็นเหมือนครูฝึกมากกว่าพ่อ เขาเลี้ยงดูเธอด้วยการมอบหมายงานให้เธอ
ด้วยเหตุนี้ ซิลเวียจึงไม่ได้รับความรักจากพ่อหรือแม่ของเธอ และเธอก็ไม่ได้รับความรักจากพี่น้องของเธอเช่นกัน เธอลงเอยด้วยการใช้ชีวิตเหมือนหุ่นกระบอก และแล้วเธอก็ทิ้งครอบครัวไปหาผู้ชายที่เธอพบจากภายนอก
'ตอนนั้นฉันไม่มีความรู้สึกเลยจริงๆ'
เกล็นรู้ว่าการที่เธอถูกพี่ๆของเธอใส่ร้ายและการก่อจลาจลของผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เธอจากไป แต่เขาไม่ได้สนใจเธอเลยจริงๆ
นั่นเป็นเพราะมันไม่สำคัญสำหรับเขาว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับซิลเวีย ในตอนนั้นเขากังวลแค่เรื่องการเพิ่มอำนาจตระกูลให้มากขึ้นและแข็งแกร่งขึ้น
และห้าปีหลังจากนั้น ในที่สุดเขาก็ตระหนักได้หลังจากได้อารมณ์มนุษย์กลับคืนมา เขาทะลวงกำแพงแห่งศิลปะการต่อสู้อันชั่วร้าย ความจริงที่ว่าเขาทำผิดพลาดครั้งใหญ่ที่ไม่สามารถย้อนกลับได้
เขาส่งองครักษ์ตามไปเพื่อช่วยซิลเวีย และราอนในครรภ์ของเธอ—แต่ลูกเขยและหลานสาวของเขาที่เขาไม่เคยพบแม้แต่น้อยเหลือเพียงแอ่งเลือด
'ช่างน่าสมเพชสิ้นดี'
เขากัดริมฝีปากจากอดีตที่น่าอับอาย หัวหน้าตระกูลซีกฮาร์ท ราชาผู้ทำลายล้างแห่งทิศเหนือ จักรพรรดิแห่งดาบ เขาถูกเรียกด้วยชื่อต่างๆ แต่ไม่มีใครสามารถแก้ไขความผิดพลาดในอดีตของเขาได้
เขาทำสิ่งที่เลวร้ายเกินไปมากกับซิลเวีย และมันยากที่จะกลับตัว
'ราอน'
นั่นเป็นเหตุผลที่เขาตัดสินใจที่จะปกป้องหลานชายคนสุดท้องไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แม้ว่านั่นจะทำให้ซิลเวียและราอนเกลียดชังเขาก็ตาม
ก๊อกก๊อก.
ขณะที่เขากำลังตั้งปณิธานอยู่นั้น เขาก็ได้ยินเสียงคนเคาะประตู
“เฮ้อ…”
เขาปกปิดความเหนื่อยล้าไว้ แล้วส่งน้ำเสียงที่น่าเกรงขามออกไป
"เข้ามา"
***
ราอนเข้ามาในโรงฝึกในร่ม ความตื่นเต้นพุ่งพล่านเต็มสายเลือดของเขา
'ในที่สุดฉันก็รู้สึกดีขึ้น'
ด้วยการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาสองสัปดาห์ เขาสามารถขึ้นไปสู่ระดับของกลุ่มระดับกลางได้
ด้วยความเร็วนั้น ดูเหมือนว่าเขาจะตามระดับของเบอร์เรนและรูนันได้ทันก่อนการทดสอบ
'เริ่มการฝึกของวันนี้กันเถอะ'
เมื่อเขายกอุปกรณ์สำหรับออกกำลังหัวไหล่ รูนันเดินเข้ามาทางซ้ายของเขา
“ฮึ่บ!”
เธอเริ่มยกน้ำหนักที่หนักกว่าของเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉย
สาวหน้ามึนมาอีกแล้ว
'ปล่อยเธอไปเถอะ'
เนื่องจากเธอไม่ได้รบกวนเขา เขาจึงไม่สนใจเธอและออกกำลังต่อไป
คราวนี้เขาได้ยินเสียงคนนั่งลงทางด้านขวาของเขา
“คือ… ผมขอโทษ ผมรบกวนหรือเปล่า”
เด็กฝึกผมสีเขียวสะพายกระเป๋าคาดเอวกำลังเกาหัว เขาเป็นคนเดียวที่กล้าเข้ามาคุยกับเขา
'เขาชื่อดอเรียน'
เขาหวาดกลัวคำสั่งของริมเมอร์ในทุกๆครั้ง แต่เขาก็มีฝีเท้าที่ว่องไวและไม่ยอมถอย
"เอาไหมครับ?'
ดอเรียนยื่นขนมชิ้นกลมจากกระเป๋าให้เขาอีกครั้ง
"อ่า…"
ราอนเผลอรับมาอัตโนมัติ เมื่อเขากำลังคิดจะส่งคืน เขารู้สึกได้ถึงการจ้องมองที่ทรงพลังจากด้านข้างของเขา ดวงตาสีม่วงของรูนันเป็นประกายราวกับทุ่งหิมะ
นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นผู้หญิงหน้ามึนมีสีหน้าแบบนั้น
'เธอจะชอบขนมนี่ไหมนะ'
สายตาของเธอจับจ้องไปที่ขนม
"เธออยากเอานี่ไหม?"
“…”
ราอนยื่นมือที่ถือขนมมาทางเธอ หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งเธอก็ขยับมาหยิบไปราวกับแมวป่า
"… ขอบคุณ"
เธอแสดงความขอบคุณต่อราอนและดอเรียน เธอเริ่มกัดขนมแครกเกอร์เหมือนกระต่ายแทะแคร์รอต
ดูเหมือนว่าเธอจะเพลิดเพลินกับขนมนั่น
เธอฉกมันไปเหมือนแมว และกินมันเหมือนกระต่าย บางครั้งก็เหมือนลูกหมา เธอเป็นคนที่ประหลาดไปซะทุกมุม
“เอ่อ… ราอน?”
ดอเรียนหันศีรษะไป หลังจากเก็บขนมที่เหลือกลับเข้ากระเป๋าแล้ว
“ขอฝึกข้างๆนายได้ไหม?”
เขาบอกว่าเขาต้องการเรียนรู้ท่าทางเช่นกัน
"ได้สิ”
ราอนพยักหน้า การเลียนแบบท่าทางของเขาไปไม่ใช่ปัญหา เขามีความก้าวหน้าที่รวดเร็วจาก 'วงแหวนแห่งไฟ' และประสบการณ์ของเขาจากชาติที่แล้ว
"ขอบคุณครับ!"
"ไม่เป็นไร"
เขามุ่งความสนใจไปที่การออกกำลังของเขาอีกครั้ง
เอี๊ยด!
เมื่อเขาออกกำลังต่อ เขาก็ได้ยินเสียงการยกอุปกรณ์ขึ้นลงด้วยความรวดเร็วจากดอเรียน และก็ได้ยินเสียงเดียวกันจากทางด้านซ้ายของเขา ซึ่งเป็นที่ของรูนัน
'คนประหลาดกับคนประหลาด...'
ราชาแห่งแก่นแท้ชอบเด็กที่ดูเหมือนแรคคูนสีเขียว
'ทำไมล่ะ?'
เขาโค้งคำนับราชาแห่งแก่นสาร นี่เป็นความเคารพครั้งแรกที่ข้าได้รับตั้งแต่ตื่นขึ้น
'...'
ราอนอยากบอกว่าดอเรียนไม่ได้ตั้งใจทำแบบนั้น แต่เขาไม่พูด เดี๋ยวราธทำตัวน่ารำคาญกว่าเดิม
'มีเด็กสองคนคอยเกาะติดฉัน...'
***
การฝึกผ่านไปห้าสัปดาห์.
ราอนข้ามผ่านระดับกลางและขึ้นสู่ระดับกลางค่อนบนในการวิ่งตอนรุ่งสางแล้ว
ในระหว่างการฝึกในเย็นวันนั้น มีการเพิ่มคนอื่นเข้ามาในกลุ่มของเขานอกเหนือจากรูนันและดอเรียน
สิบสัปดาห์.
ราอนนั้นวิ่งเร็วที่สุดในบรรดาเด็กระดับกลางถึงบน และมีเด็กเพิ่มอีกหนึ่งคนในกลุ่มของเขาในเย็นวันนั้น
สิบห้าสัปดาห์ในการฝึก.
ราอนก้าวขึ้นสู่ระดับแนวหน้า คนหกคนในกลุ่มของเขาก็ดีขึ้นอย่างมากเช่นกัน
* * *
สี่เดือนผ่านไปตั้งแต่การฝึกชั่วคราวของสนามฝึกที่ห้าได้เริ่มขึ้น...
ริมเมอร์คอยแนะนำการฝึกประเภทต่างๆ และความยากของการฝึกก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
การฝึกฝนเริ่มขึ้นก่อนรุ่งสางและดำเนินต่อไปจนถึงตอนพระอาทิตย์ตก แม้แต่เด็กจากระดับต้นๆซึ่งมีความแข็งแกร่งดีเยี่ยมก็เริ่มแสดงความอ่อนล้า
แน่นอนว่าการฝึกฝนเหล่านั้นเป็นเพียงทักษะขั้นพื้นฐาน
ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้เข้าร่วมการฝึกฝน ไม่ว่าจะเป็นการฝึกภาคเช้าและภาคบ่ายที่ริมเมอร์สั่ง และการฝึกแบบอิสระที่เกิดขึ้นในตอนเย็น
ริมเมอร์และผู้ฝึกสอนไม่ดุใครที่ยอมแพ้หรือโดดการฝึกแบบอิสระ
หากผู้เข้ารับการฝึกฝนขอให้ยกตัวอย่างท่าทางหรือคำแนะนำ พวกเขาก็จะสอนอย่างละเอียด แต่ก็แค่นั้น พวกเขาไม่เคยบอกให้ใครฝึกหนักขึ้นหรือออกกำลังกายให้มากขึ้น พวกเขาดูเหมือนเป็นผู้สังเกตการณ์มากกว่าผู้สอน
การปล่อยให้เด็กอายุสิบสองถึงสิบสามปีตัดสินใจทุกอย่างเป็นวิธีการสอนแบบใหม่
เด็กสายรองและเด็กๆบางคนซึ่งภูมิใจในความสามารถของพวกเขาแล้วไม่ได้ทำอย่างเต็มที่ พวกเขาข้ามการฝึกอิสระไปเลย
ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเชื่อว่าพวกเขาจะสอบผ่านได้โดยไม่ต้องผ่านการฝึกฝนทั้งหมดนั้น
แต่ก็มีคนคนหนึ่งที่ทำให้พวกเขาต้องเปลี่ยนใจ
ราอน ซีกฮาร์ท
เด็กชายผู้เปลี่ยนสนามฝึกที่ห้าให้ดีขึ้น
เมื่อการฝึกเริ่มต้นขึ้น ความแข็งแกร่งของราอนอยู่ที่ระดับท้ายๆ
เขาสามารถวิ่งได้จนจบการวิ่งครั้งแรก แต่ใบหน้าของเขาก็ซีดเซียวราวกับคนกำลังจะตาย
แต่เขายังคงวิ่งต่อไป
เมื่อพูดถึงการฝึกฝนอิสระ เขาเป็นคนแรกที่เริ่มและเป็นคนสุดท้ายที่ออกไป
เขาไม่ได้แค่หอบ แต่หายใจเอาไอสีขาวออกมาขณะที่เขาฝึก และต่อมาก็เริ่มเห็นผลลัพธ์
พลังกาย ความแข็งแกร่ง และความว่องไวของเขาดีขึ้นอย่างมาก เขาเปลี่ยนจากระดับท้ายมาอยู่อันดับที่สิบจากผู้ฝึกหัดหนึ่งร้อยหกสิบคนในการจัดอันดับ
เด็กๆเห็นมันเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา พวกเขาพูดไม่ออก
เด็กสายรอง เด็กจากครอบครัวขุนนาง และเด็กที่ได้รับการแนะนำรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป พวกเขาเริ่มทำอย่างเต็มที่และไม่ข้ามช่วงการฝึกอิสระ
ราอนได้กลายเป็นคู่แข่งของพวกเขา
แน่นอนว่าไม่ใช่สำหรับทุกคน
เบอร์เรนและพรรคพวกที่ติดตามเขายังคงเชื่อว่าการฝึกความแข็งแกร่งในระดับนั้นไม่จำเป็น พวกเขายังคงฝึกฝนดาบและหมัดตามที่ครอบครัวของพวกเขาสอนมา
แล้วเวลาก็ผ่านไปโดยที่ทุกคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด
* * *
* * *
“ฟู่ว!”
ราอนหายใจออกอย่างรุนแรงระหว่างการวิ่งในช่วงเช้า
พลังกายและความว่องไวของเขาเพิ่มขึ้นมาก แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนความจริงที่ว่าการวิ่งอย่างเต็มกำลังทำให้เขาอ่อนล้า
'บางอย่างเปลี่ยนไป'
คนนับไม่ถ้วนที่วิ่งนำหน้าเขาไม่อยู่แล้ว
ต้องขอบคุณค่าสถานะที่ดีขึ้นของเขาและ 'วงแหวนแห่งไฟ' ทำให้มีผู้ฝึกน้อยกว่าสิบคนด้านหน้าเขา
น่าสงสารมาก เวลาผ่านมานานแล้วยังเหลือแมลงตั้งหลายตัวที่เจ้าตามไม่ทัน
'แกควรจะบอกว่าฉันมันน่าทึ่งมาก ฉันพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว'
ราธก็เหมือนทุกครั้ง เขามักจะบ่นขอให้เขามอบร่างกายให้
'ฉันคิดว่าไม่นานฉันก็ตามพวกเขาทัน แต่ยกเว้นสองคนนั้นนะ'
ราอนเห็นรูนันและเบอร์เรนวิ่งอยู่ไกลที่สุด พวกเขาอยู่ในระดับที่แตกต่างจากเด็กคนอื่นๆ นั่นเป็นเรื่องที่เขารู้อยู่แล้ว
พวกเขาเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ที่ดีที่สุด มีพลังใจเหลือล้น และได้รับการศึกษาอย่างเหมาะสมจากตระกูล
แม้จะมีด้านที่บิดเบี้ยวบ้าง แต่ก็ไม่แปลกในเมื่อพวกเขาเป็นเพียงเด็กอายุสิบสองปี
'ฉันเร่งอีกสักหน่อยดีไหมวันนี้'
ราอนเร่งฝีเท้า ตั้งใจควบคุม 'วงแหวนแห่งไฟ'ไปด้วย
เขารู้สึกเหมือนปอดถูกฉีกเป็นชิ้นๆ แต่เขาใช้'วงแหวนแห่งไฟ'เพื่อประคองตัวเองและวิ่งต่อไป
“อะ-อะไรน่ะ?!”
“ราอน ซีกฮาร์ท!”
"แม่ม!"
เด็กระดับสูงสุดจับจ้องมาที่เขาในขณะที่ราอนวิ่งแซงพวกเขา
ซู่ว!
เบอร์เรนและรูนันหันมองกลับไป ได้ยินเสียงลมมาจากข้างหลังพวกเขา
"หืม…"
“…”
เบอร์เรนขมวดคิ้วหนักมาก ส่วนรูนันดวงตาเป็นประกายราวกับแมวที่ได้พบอัญมณี
พวกเขาหันหลังกลับและเริ่มวิ่งอีกครั้งราวกับบอกให้ลองตามพวกเขาไป
'พวกเขาแตกต่างกันอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม…'
ราอนยกมุมปากขึ้นขณะที่เขามองไปด้านหลัง
'ยังมีเวลาเหลือ'
เมื่อพิจารณาจากความรวดเร็วที่เขาเติบโตขึ้น เขาประเมินได้ว่าเขาจะผ่านการทดสอบไปได้ด้วยค่าสถานะของเขา
เว้นแต่หากคนอื่นๆใช้ออร่า มันจะเป็นอีกเรื่องหนี่ง
'ออร่า...'
เด็กๆจากสายตรง สายรอง และครอบครัวขุนนาง ต่างเคยเรียนรู้วิธีฝึกออร่าของพวกเขา
ในทางกลับกันแม้จะมี'วงแหวนแห่งไฟ' แต่ราอนกลับไม่มีออร่าแม้แต่จุดเดียว
'ฉันต้องเรียนรู้มัน...'
เมื่อเขาคิดเกี่ยวกับการเรียนเรื่องออร่า เขาก็รู้สึกมึนหัว
'อันที่ฉันใช้ก่อนหน้านี้ก็ไม่เลวนะ'
เทคนิคการปลูกฝังออร่าแห่งเงาที่เขาได้เรียนรู้ในชีวิตที่แล้วค่อนข้างดี
มันสามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว และมันทำให้เขาเก่งกาจในการลอบสังหารและต่อสู้กับผู้คน
'อย่างไรก็ตาม…'
เขาไม่สามารถแข็งแกร่งที่สุดได้ด้วยออร่าแห่งเงา เขาตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตในฐานะนักรบแทนที่จะเป็นนักฆ่า เขาจึงต้องเรียนรู้เทคนิคการปลูกฝังพลังที่ดีกว่านั้น
'และฉันต้องการให้สิ่งนั้นประสบความสำเร็จ'
เกล็นที่เขาเคยเห็น และเกล็นที่เขาเคยได้ยินมานั้นเหมือนกันทุกประการ เป็นคนเลือดเย็นที่คิดถึงแต่ตระกูล เขาเข้มงวดกับการให้รางวัลและบทลงโทษ
หากเขาจบด้วยอันดับหนึ่งในการฝึกขั้นพื้นฐานได้ เกล็นจะให้รางวัลเขาอย่างแน่นอน
'เป้าหมายชัดเจน'
เพื่อให้ซิลเวียกลับไปอยู่ที่จุดเดิม เพื่อเรียนรู้เทคนิคการปลูกฝั
ที่ดีขึ้น เขาต้องฝึกฝนให้หนักขึ้น
เจ้ากำลังทำอะไร? รีบไล่จับแมลงสองตัวนั้นให้ทัน ข้าทนไม่ได้ที่จะเห็นพวกเขาวิ่งนำหน้าราชา
เป็นราธที่ยุยงปลุกปั่นอารมณ์ของเขา ข้อความใหม่ปรากฏขึ้นในขณะที่ราอนยังคงวิ่งและยืนหยัดต่อสู้กับมัน
ต้านทานการขัดจังหวะของ <ราธ> ได้สำเร็จ
พลังกายเพิ่มขึ้น
เพิ่มอีกแล้ว?!
ราอนพยักหน้าขณะที่ราธเดือดพล่านด้วยความโกรธ
'และฉันก็จะใช้ราธให้เป็นประโยชน์สูงสุด'
***
“การฝึกรอบบ่ายจบลงแค่นี้ แยกย้ายกันไปฝึกอิสระได้”
ริมเมอร์ออกไปทันทีที่การฝึกภาคบ่ายสิ้นสุดลง เขาฮัมเพลงว่าเขาจะออกไปหาอะไรดื่ม
“เฮ้อ…”
เบอร์เรนมองตามหลังเขาแล้วหายใจออกด้วยความขุ่นเคือง
'ฉันไม่ชอบเขาจริงๆ'
เขารู้ว่าริมเมอร์ถูกเรียกว่าดาบแห่งแสง แต่เขาทำตัวเหมือนพวกไร้สาระ
แทนที่เขาจะสอนอะไรบ้างแต่เขากลับนอนรอเวลาอย่างเดียว และเขาก็ไม่สนใจการฝึกแบบอิสระเช่นกัน
แต่จริงๆแล้วริมเมอร์กำลังประเมินเบอร์เรน เพื่อดูว่าเขาสามารถเป็นเด็กฝึกหัดอย่างเป็นทางการได้หรือไม่ เขาดูเหมือนตั๊กแตนที่รู้วิธีกระโดดเท่านั้น
“ท่านเบอร์เรน วันนี้ไม่ฝึกอิสระเหรอครับ?”
ในขณะที่เขาขมวดคิ้วตามหลังริมเมอร์ เครน และเด็กคนอื่นๆ ก็เดินเข้ามาหาเขา ตอนนี้พวกเขาค่อนข้างสนิทกันแล้ว
"ฉันกำลังจะไป"
เบอร์เรนพยักหน้าและคว้าดาบไม้ของเขา น้ำหนักที่น่าพอใจในมือทำให้เขายิ้ม
"ไปกันเถอะ"
"ครับ!"
เบอร์เรนและเด็กที่ติดตามเขากระจายตัวออกไปและเริ่มฝึกฝนวิชาดาบ
เขาจดจ่อกับมันมาก เบอร์เรนจะหยุดเมื่อดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้วเท่านั้น
'ฉันรู้สึกสบายใจที่สุดเมื่อได้ฝึกดาบ'
ความหงุดหงิดของเขาหายไปเมื่อเขาฝึกฝนวิชาดาบที่พ่อของเขาสอนเขามา
“สำหรับวันนี้ก็เท่านี้”
"ครับ!"
"ขอบคุณสำหรับความพยายาม"
ตามคำสั่งของเบอร์เรน เด็กๆโค้งคำนับด้วยความเคารพ แม้จะอายุน้อยที่สุดในบรรดาพวกเขาทั้งหมด แต่เขาก็กลายเป็นผู้นำโดยธรรมชาติด้วยตำแหน่งที่เป็นส่วนหนึ่งของสายตรงและพรสวรรค์อันน่าทึ่งของเขา
“ตามฉันมาถ้าพวกนายต้องการฝึกต่อ”
หลังจากวางดาบไม้ลง เขาก็เข้าไปในโรงฝึกในร่มและขมวดคิ้ว
'หมอนั่น...'
ราอนกำลังฝึกความแข็งแกร่งด้วยอุปกรณ์ มีผู้ฝึกบางคนรวมทั้งรูนันอยู่ข้างๆเขา
“ฮึ่ม…”
เบอร์เรนระบายความโกรธเดือดออกมา สิ่งที่ทำให้เขารำคาญมากที่สุดไม่ใช่ ริมเมอร์ หรืออาจารย์คนอื่นๆ
'ราอน ซีกฮาร์ท'
เขากำลังหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อยๆ เขาเคยไม่ใส่ใจเด็กคนนั้นเพราะเขาเคยอยู่อันดับท้ายสุด
'ทำไมเธอถึงอยู่ข้างๆเขา'
รูนันมีความสามารถเช่นเดียวกับเขา และเป็นลูกสาวของซัลเลียน ซึ่งเป็นตระกูลข้าราชบริพารที่แข็งแกร่งที่สุด เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงยึดติดกับราอน
'ให้ตายเถอะ'
เขาคิดว่าเธอเป็นคู่แข่งของเขา แต่เธอกลับเดินตามราอนไปรอบๆ ข้อเท็จจริงนั้นทำให้เขาเดือดดาล
ยิ่งไปกว่านั้น เด็กบางคนที่เขาคิดว่าพอมีฝีมือก็ยังติดตามราอนไปรอบๆ ซึ่งทำให้เขารำคาญมากยิ่งขึ้น
“อย่าสนใจพวกเขาเลยครับ พวกเขาเป็นเพียงนกพิการที่รวมฝูงกัน”
“แม้แต่ตระกูลขุนนางที่ดีที่สุดในกลุ่มนั้นก็ยังเป็นเพียงตระกูลขุนนางทั่วไป”
“พวกเขารวมกันยังทำอะไรไม่ได้ด้วยซ้ำ”
เด็กที่ติดตามพูดเยาะเย้ยราอนและรูนัน แต่เบอร์เรนไม่ได้หัวเราะตาม
มันเป็นความจริงที่ว่า รูนันมีความสามารถมากกว่าเด็กที่ติดตามเขา
“ชิ..”
เบอร์เรนจิ๊ปากแล้วเข้าไปในโรงฝึก
เขานั่งถัดจากราอนและรูนันซึ่งกำลังฝึกร่างกายส่วนล่าง เขาเริ่มยกน้ำหนักที่หนักกว่าที่ปกติ
"โอ้!"
“น่าทึ่งมาก ท่านเบอร์เรน!”
“เขายกน้ำหนักขนาดนั้นได้ยังไง…”
ทุกคนในโรงฝึกอุทานและปรบมือ
แม้จะได้รับการจ้องมองที่เต็มไปด้วยความชื่นชมและประหลาดใจ สีหน้าของเบอร์เรนกลับแข็งทื่อราวกับเปลือกไม้
'ไอ้บ้าพวกนั้น!'
ราอนและรูนันฝึกฝนต่อไปโดยไม่แม้แต่จะเหลือบมองเขา
ตุ้บ!
เบอร์เรนทิ้งน้ำหนักลงอย่างรุนแรงและลุกขึ้นยืน แต่ทั้งสองไม่แม้แต่จะหันศีรษะราวกับว่าพวกเขากำลังแข่งขันกัน พวกเขามุ่งความสนใจไปที่อุปกรณ์ของตัวเองเท่านั้น
“ฮึ่ม…”
ใบหน้าของเบอร์เรนแดงราวกับลูกแอปเปิ้ล เขากระแทกบานประตูให้เปิดและเดินออกจากโรงฝึก
'คอยดูกันว่าแกจะยังทำเฉยต่อได้ไหมตอนที่ฉันได้ที่หนึ่ง ฮึ่ม!'