ตอนที่ 14
“แกสินะชื่ออัคคี”วิโรขน์กล่าวออกมาพร้อมจ้องอัคคีเขม็งพร้อมปล่อยออร่าแรงกดดันออกมา
“อึก ใช่แล้วครับคุณลุง”อัคคีกล่าวตอบพร้อมกลืนน้ำลายลงไปอย่างประหม่าถ้าจะถามว่าเค้ามาอยู่ในสถานณการณ์แบบนี้ได้ยังไงคงต้องย้อนกลับไปเมื่อ1.ชม.ก่อน
.
.
.
“ห๊ะแพรว่าไงนะ”อัคคีอุทานถามออกไป
“เราบอกว่าพ่อเราอยากเจอนายไง”แพรหันมาตอบพลางพองแก้ม
“เอิ่มเรื่องอะไรงั้นหรอ”อัคคีถาม
“ก็ข่าวลือที่นายตามจีบฉันนะสิพอดีบอดดีกาดร์คงได้ยินเข้าแล้วคงคาบข่าวไปบอกพ่อนะ”แพรกล่าวตอบพลางหน้าแดงไปพลาง
“เออแล้วตอนไหนละ”อัคคีกล่าวถาม
“จริงๆพ่อบอกว่ายิ่งเร็วยิ่งดีงั้นวันนี้เลยละกัน”แพรครุ่นคิดก่อนกล่าวตอบออกมา
“เอิ่มงั้นแพรเข้าไปลาเพื่อนเถอะเดี่ยวเราเข้าไปบอกเพื่อนเหมือนกันอีกอย่างเราต้องเดินไปเอารถของเราที่จอดอยู่ร้านคาเฟ่นั้นก่อน”อัคคีกล่าวตอบไป
“ได้สิ”แพรขานรับ
.
.
“ไอ้ น้ำ เน ไฟท์ ฉันต้องไปก่อนวะ”อัคคีเดินมาถึงโต๊ะเสร็จกล่วบอกไปทันที
“แหมๆแกนี้สุดยอดจริงๆแล้วจะไปเดทไหนวะ”น้ำกล่าวแซวออกมา
“หืมๆไม่หรอกๆไปพบพ่อตาต่างหาก”อัคคีกล่าวออกมาพร้อมเดินออกจากร้านไปเพื่อไปเอารถ
“…..”น้ำ เน ไฟท์
“นอกจากเตรียมของวันเกิดให้ไอ้น้ำฉันต้องเตรียมใส่ซองด้วยปะเนี่ย”เนกล่าวออกมาอย่างขำๆ
.
.
15 นาทีผ่านไปได้มีเบนซ์ S Class ได้ขับมาจอดที่ร้านชาบูแล้วได้มีชานหนุ่มเดินลงออกมาจากรถ
“แพรรอนานไหม”อัคคีเดินลงมาจากรถแล้วเดินดิ่งมาหาแพรทันที
“ไม่หรอกเราก็พึ่งคุยกับเพื่อนจบเหมือนกัน”แพรกล่าว
“งั้นเราไปกันเลยไหม”อัคคีกล่าวถาม
“ได้สิ”แพรขานตอบแล้วได้พากันเดินไปยังรถของอัคคีแล้วได้ขับออกจากร้านไป
“ว่าแต่คุณลุงวิโรจน์อยู่ไหนงั้นหรอ”อัคคีถามออกมา
“คุณพ่อรออยู่โรงแรมแกรนโฮเทลนะ”แพรกล่าวตอบ
“คงใช้เวลาสักพักแหละกว่าจะถึงแพรอยากฟังเพลงออะไรไหมเดี่ยวเราเปิดให้”อัคคีกล่าวถาม
“ไม่หรอก ไม่เป็นไรจ๊ะ”แพรกล่าวตอบหลังจากนั้นบรรยากาศในรถก็เต็มไปด้วยความอึดอัดจนเดินทางมาถึงโรงแรมแกรนโฮเทล
“อึกตอนแรกฉันก็ว่าจะไม่ประหม่าหรอกนะแต่พอมาถึงถึงแล้วมันต่างออกไปจริงๆ”อัคคีกล่าวไปพรางมือสั่นไปพลาง
“นายไหวใช่ไหมอัคคีหายใจเข้าหายใจออกอย่าคิดมากน่านายมาหาพ่อฉันนะไม่ได้มาหายมบาลสะหน่อย”แพรกล่าวออกมาอย่างเป็นห่วง
“อ..อืมมไปกันเถอะเดี่ยวคุณลุงรอนานว่าแต่คุณลุงอยู่ชั้นไหนอะ”อัคคีกล่าวบอกพร้อมหันมาถามจุดหมายปลายทางที่ตนต้องไป
“คุณพอบอกว่าอยู่โซนห้องอาหารชั้น 5 นะ ห้องVIP 9แล้วนายก็เลิกประหม่าได้แล้ว”แพรกล่าวตอบพร้อมเดินนำไป
.
.
.
“คุณพ่อหนูมาแล้วค่ะ”แพรกล่าวบอกพร้อมวิ่งไปกอดชายวัยกลางคนท่าทางมีภูมิฐานที่นังอยู่บนหัวโต๊ะอาหารที่เป็นเจ้าของกิจการการรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่นับหมื่นล้าน วิโรจน์ ยั่งยืน
“โอวมาแล้วหรอลูกรัก”วิโรจน์กล่าวพร้อมหันมามองทางอัคคีแล้วดล่าวว่า
“แกหรออัคคี”วิโรจน์กล่าวออกมา
“ครับคุนลุง”อัคคีสะดุ้งตอบ
“เอาละมานั่งสิยืนหัวโด่อยู่ตรงนั้นทำไมมานั่งใกล้ๆฉันโอวลูกรักลูกก้ไปนั่งได้แล้วละเราจะรับประธานอาหารกันก่อนนะลูกคงไม่กินชาบูมาจนอิ่มล้วหรอกนะ”วิโรขน์กล่าวออกอมา
“ไม่ค่ะพ่อหนูกินไปนิดเดียว”แพรกล่าวตอบ
“แกละไอ้หนู”วิโรจน์หันมาถามอัคคี
“ไม่ครับคุณลุงผมกินไปนิดเดียวเหมือนกัน”อัคคีกล่าวตอบพลางมองบรรยากาศรอบๆตนการตกแต่งภายในร้านคุมโทนด้วยการใช้แสงสีแดงตัดกับเฟอร์นิเจอร์สีดำเพื่อสร้างความรู้สึกแบบเลานจ์ รวมไปถึงเคาท์เตอร์สูงที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากทาปาสบาร์แบบญี่ปุ่นที่มองเห็นครัวแบบเปิด เพื่อชมศิลปะในการปรุงอาหารของเชฟ ที่ร้านสาขาปทุมธานีฯ นี้มีเชฟ Olivier Limousin ที่เคยร่วมงานกับร้านอาหารชั้นนำที่ทั้งลอนดอนและปารีสมาแล้ว เพราะฉะนั้นมั่นใจในรสชาติว่าไม่เป็นรองกับที่อื่น ๆ แน่นอน เมนูที่นี้ขอแนะนำให้ลอง Hokkaido scallop served with seaweed butter and lemon juice (หอยเชลล์จากฮอกไกโดเสิร์ฟคู่กับเนยสาหร่ายและน้ำมะนาว) อาหารหน้าตาหลากหลายดีอยู่ลอกแต่เค้ารู้สึกทานไม่ค่อยลงยังไงก็ไม่รู้
“เอาละฉันกะว่ากินอาหารเสร็จค่อยพูดแต่แกหน้าจะกังวลเกินไปรึเปล่าไอ้หนู”วิโรจน์กล่าวออกมาหลังจากเห็นท่าทางขงอัคคี
“ใช่ที่ฉันอยากเจอนายก็เพราะมีบอดีกาดร์มาบอกบอกฉันว่าแกตามจีบลูกสาวฉันอยู่จริงรึเปล่า”วิโรจน์กล่าวออกมาพร้อมจ้องขเม็งไปที่อัคคี
“อ..เออ”อัคคีอึกอักเลิกลักออกมานี้ก็เป็นโอกาสแล้วไม่ใช่รึไง
“ใช่ครับผมตามจีบแพรแล้วผมก็ชอบเธอมาตั้งแต่ม.ต้นแล้ว”อัคคีกล่าวออกมาด้วยความมั่นใขเต็มเปรี่ยมอาการประหม่าใดๆไม่ีทั้งสิ้นพร้อมจ้องตาวิโรจน์กลับไป
“ฮ่าๆๆๆดีมากไอ้หนูถ้าแกตอบว่าไม่ฉันคงต้องส่งคนไปดักอัดแกสักวันแล้วละเพื่อสั่งสอนแกสักทีสองทีข้อหาทำให้ลูกสาวฉันเสียใจ”วิโรจน์กล่าวหัวเราะออกมา
“อึก”อัคคีกลืนน้ำลาย
“แล้วทำไมแพรต้องเสียใจด้วยหรอครับ”อัคคีกล่าวถามอย่างงงๆ
“อ่าวนี้แกไม่รู้….”วิโรจน์กล่าวไม่ทันจบแพรก็ตะโกนมาสะก่อน
“พ่ออออออ”แพรตบโต๊ะดังลั่นพร้อมตะโกนออกมาจนทุกคนสะดุ้งโหย๊งกันหมดแต่ถ้าสังเกตดูสีหน้าเธอมีสีแดงแต่งแต้มที่แก้มเธอแดงจ๋าแล้ว
“เฮ้ยช่างเถอะช่างเถอะถ้าไม่รู้จะพูดตอนนี้แล้วลูกจะพูดตอนไหนละ”วิโรจน์กล่าวมากับลูกสาวตน
“ก…ก..ก็เออก็ได้จริงแล้วฉันก็ชอบนายตั้งแต่ม.ต้นแล้วละช่วงนั้นตั้งแต่นายวิ่งไปช่วยน้ำที่หน้าโรงดรียนฉันก็สนใจในตัวของนายแล้วนายคงไม่รู้ในสายตาของฉันตอนนั้นนายนะคือฮีโร่เลยนะแล้วพอเวลาผ่านไปเรื่อย ๆฉันก็รู้สึกได้ว่าสายตาที่มองนายก็เริ่มเปลี่ยนไป”แพรอธิบายพร้อมเอานิ้วจิ้มกันไปมาพร้อมหน้าแดงเป็นลูกตำลึงแล้วเสียงที่อธิบายก็เบาลงเรื่อย ๆจนแทบอัคคีไม่ได้ยิน
“เอาละเอาง่ายๆก็คือลูสาวหัวแก้วหัวแหวนฉันชอบนายมาตั้งนานแล้วนั้นแหละแล้ว็เอาเรื่องของนายมาพูดให้ฉันฟังทุกวันฉันละเอือมแล้วละ”วิโรจน์กล่าวออกมาเมื่อเห็นอาการลูกสาวของตนที่ไม่น่าจะไปรอด
“เออแต่คุณลุงไม่”อัคคีกล่าวออกมาอย่างอึดอัด
“เหอะอะไรไอ้หนูเรื่องฐานะงั้นหรอฉันไม่สนใจหรอกไม่ว่าลุกสาวฉันชอบใครฉันก็สนับสนุนหมดนั้นแหละแค่เงินของฉันตอนนี้ก็ไม่รู้จะใช้หมดตอนไหนแล้้ว”วิโรจน์กล่าวออกมา
“เออแพรเรื่องจริงงั้นหรอที่พูดมา”อัคคีหันไปกล่าวถามกับแพร
“ใช่แล้วนาย”แพรเงยหน้าขึ้นมาตอบ
“ก็อย่างที่บอกฉันนะชอบแพรมาตั้งแต่ต้นแล้วไม่เคยเปลี่ยนใจไปเลยละ”อัคคีกล่าวออกมาด้วยความมั่นใจและจริงใจ
“อืมฉันเชื่อนาย”แพรพยักหน้าตอบอย่างเขินๆ
“เอาละส่วนเรื่องที่นายจะคบกับลูกสาวฉันตอนแรกถ้านายเป็นคนธรรมดาฉันก็จะไม่อะไรหรอกแต่ด้วยฐานะของแกตอนนี้ไอ้หนูแกคงรู้ดีแก่ใจอยู่แล้วเรื่องข่าวลือของแกฉันก็รู้มาบ้างจากลูกสาวของฉันงั้นนี้ก็ถือเป็นบททดสอบของแกที่ฉันจะให้แล้วกันสยบช่าวลือและสาวไส้คนที่อยู่เบื้องหลังข่าวลือของแกออกมาสะ”วิโรจน์กล่าวออกมาอย่างจริงจัง
“ไม่ต้องห่วงหรอกครับคุณลุงเรื่องนี้ผมกับเพื่อนได้เตรียมตัวไว้แล้ว”อัคคีกล่าวออกมาด้วยท่าทางเคร่งขรึม
“ลุงเริงอะไรเรียกพ่อตาสิไอ้เด็กนี้อีกสักหน่อยคงได้เป็นครอบครัวเดียวกันแล้วเรื่องแค่นี้คงไม่คณามือแแกหรอกเพราะเพื่อแกแต่ละคนก็ใช่เล่น”วิโรจน์กล่าวออกมา
“แต่ไอ้ลูกเขยฉันจะสอนอะไรแกหน่อยจิตใจมนุษย์นั้นยากแท้หยั่งถึง”วิโรจน์กล่าวออกมาอย่างจรองจังพร้อมจ้องมาที่อัคคี