ตอนที่ 13
“ทำไมวะใครกัน”น้ำกล่าวถามออกมาทันทีเพราะเรื่องข่าวลือแบบนี้เพื่อนรักอย่างเค้าไม่โอเคมากๆทั้งที่พวกนั้นไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับอัคคีเลยแท้แต่ช่างกล้าสร้างเรื่องขึ้นมา
“เห้อแกจำพี่ดิวได้ไหมละ”อัคคีกล่าวตอบพลางถอนหายใจ
“พี่ดิวอ้อที่จบก่อนเราไปปีที่แล้วใช่ทำไมหรอวะ”น้ำกล่าวถามออกมา
“ก็พี่ระเบียบในวันที่3ของกิจกกรรมรับน้องคือพี่ดิวไงวะ”อัคคีกล่าวตอบ
“เห้ฉันเก็ทแล้วถ้างั้นน”น้ำกล่าวพรางหันมามองอัคคี
“ใช่งานปัจฉิมเมื่อปีก่อนที่พี่แกสารภาพรักกับแพรไง”อัคคีกล่าวออกมาปลงๆ
“อ่าวแล้วมันเกี่ยวยังไงกับเรื่องข่าวลือของแกวะ”ไฟท์กล่าวถามออกมา
ผั๊วะ
“ไอ้โง่แกลืมเรื่องวันแรกของกิจกรรมรับน้องไปแล้วรึไง”เนตบหัวไฟท์พร้อมกล่าวออกมา
“อู๊ยยไอ้บ้านี้บอกดีๆก็ได้นิวะทำไมแกถึงชอบตบหัวฉันจังวะ”ไฟท์กล่าวถามออกไป
“ไม่รู้สิเห็นมันหมั่นไส้”เนกล่าวพร้อมทำท่าหยักไล่ไปพลางส่วนไฟท์ก็ได้แต่นั่งมองอย่างปลงๆกับท่าทางของเพื่อนตน
“ถึงงั้นก็เถอะฉันก็แค่แซวเล่นเฉยๆไม่ใช่รึไงวะถ้าอิงตามนิสัยของพี่แกแล้วเรื่องแค่นี้ไม่น่าจะเอามาโจมตีแกนิหว่า”น้ำกล่าวถามมาอย่างงๆเพราะตนก็รู้จักดิวดี
“ฉันว่าฉันรู้นะเพราะอะไร พี่ดิว ที่พวกแกว่านาย วิสุทธิ์ แสงพิสุทธิ์ ไหมละ”ไฟท์กล่าวถามออกมา
“ใช่”อัคคี น้ำ ขานตอบ
“งั้นคงลงล็อคแล้วละเพราะพี่แกคือทายาทของแสงพิสุทธิ์คอปเรชั่น เรียกได้ว่าเป็นคู่แข่งทางธุรกิจกับแกก็ว่าได้เพราะบริษัทนี้เน้นทางอสังหากับหมู่บ้านจัดสรรเหมือนกันพอรวมเรื่องคู่แข่งทางธุรกิจคู่แข่งทางความรักฉันว่าเหตุผลมันคงพอตัวแหละอีกอย่างข่าวแบบนี้ยังโจมตีบริษัทคู่แข่งได้ด้วย”ไฟท์กล่าวออกมานิ่งๆ
“เห้แต่ว่า”ก่อนอัคคีจะกล่าวจบพนักงานก็เอาของที่พวกเค้าสั่งมาส่งพอดี
“นี้คือของที่ทางลูกค้าสั่งค่ะขาดอะไรกรุณาแจ้งได้ที่หุ่นยนต์สั่งอาหารได้เลยนะคะ”พนักงานกล่าวตอบพร้อมทยอยยกของมาวางไว้ที่โต๊ะ2นาทีผ่านไปหลังจากพนักงานวางของเสร็จก็ได้เดินจากไป
“เอิ่มม ไอ้ไฟท์ แน่ใจนะว่ากินหมด”อัคคีกล่าวออกมาปนอึ้งนิดๆเพราะว่าตอนนี้ถาดวางอาหารวางช้อนกันจนเลยหัวพวกเค้าไปแล้วแถมยังมีวางอีกเต็มโต๊ะ
“ฮ่าๆๆไม่ต้องห่วงแค่นี้สบายบรือน่าพวกแกคุยกันไปเลยละกันเดี่ยวฉันเสิร์ฟให้”ไฟท์กล่าวออกมาพร้อมเอาหมูทุกอย่างเทลงหม้อชาบูไปตามด้วยผักต่าง ๆ
“เออแกพูดต่อสิวะอัคคีเมื่อกี้จะพูดว่าไร”น้ำหันมาพูดกับอัคคี
“อ้อชั้นจะบอกว่าถึงจะมีข่าวลือนี้ก็เถอะแต่มันก็แค่ในหมู่เด็กมหาลัยไม่ใช่รึไงวะคงไม่กระทบกับบริษัทหรอกมั้งแล้วอีกอย่างแพรนะฉลาดจะตายไปปานนี้คงรู้แล้วมั้งว่าข่าวลือนี้มาจากใครเพราะขนาดฉันยังเดาได้เลยโอ้วขอบใจเพื่อน”อัคคีกล่าวออกมาอย่างงงๆพร้อมหันไปขอบคุณไฟท์ที่คีบหมูใส่จานให้
“เห้แกไรเดียงสาไปแล้วอัคคีข่าวลือแแบบนี้แหละที่น่ากลัวที่สุดแกลองคิดดูสิว่าอยู่ดีๆมีข่าวออกทางโทรทัศน์หรือทางเพจดังๆออนไลน์ว่าผู้ถือหุ้นลำดับที่สองของบริษัทหมื่นล้านนใช้อำนาจทางมิชอบในการกดดันรุ่นพี่เพื่อให้ได้รับอภิสิทธิ์เหนือคนอื่นอื่น ๆในรุ่นของตน เอ็งคิดว่าไงละ”เนกล่าวออกมานิ่งๆ
“เหี้ยนี้”อัคคีอึ้งทันทีก็ใช้เค้าไม่ทันได้คิดไปถึงขั้นนั้นหรอก
“เห้ๆฉันว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เล่นๆแล้วนะ”น้ำกล่าวออกมาอย่างจริงจัง
“ถึงงั้นก็เถอะถึงเราจะรู้ว่าเป็นพี่แกแต่เราไม่มีหลักฐานสักหน่อย”ไฟท์กล่าวออกมาพร้อมเคี้ยวเนื้อตุ้ยๆเต็มปาก
“แม่งเอ้ยแกกลืนก่อนพูดสิวะไอ้บ้านี้เรื่องนี้จะยากก็ยากจะว่าง่ายก็ง่ายเราแค่ต้องทำยังไงก็ได้ให้พี่แกเผยไต๋ออกมา”เนกล่าวออกความคิดออกมา
“แล้วจะทำไงวะ”น้ำกล่าถามออกมาพร้อมมองหน้าเพื่อนๆตน
“เรื่องนี้ฉันพอมีวิธีอยู่แต่คงต้องได้รับความยินยอมจากเธอก่อนละนะ”อัคคีกล่าววอกมา
“แต่ก่อนอื่นนักสืบที่แกว่าเชื่อใจได้แค่ไหนวะไอ้เน”อัคคีกล่าวถาม
“เชื่อใจได้อยู่แล้วไม่มีวันหักหลังเราหรอกเพราะเป็นคนที่พ่อของฉันช่วยไว้ตอนที่พวกเค้าลำบากนะ”เนกล่าวออมาอย่างมั่นใจ
“งั้นก็ดี”อัคคีขานตอบ
“ว่าก็ว่าเถออะว่าแต่ครอบครัวพวกแกทำอะไรวะ”อัคคีกล่าวถามออกมาด้วยความสนใจ
“หือฉันนึกว่านายรู้แล้วสะอีก”ไฟท์เงยหน้าจากจานขึ้นมาตอบ
“ไม่ละแต่ของไอ้น้ำนะฉันรู้อยู่แล้ว”อัคคีกล่าวตอบ
“บริษัทของไอ้ไฟท์เป็นบริษัทขายปูนอันดับหนึ่งของไทยนะส่วนของฉันเป็นบริษัทผลิตเครื่องดื่มอับหนึ่งในประเทศเหมือนกันว่าแต่แกถามไปทำไมวะ”เนกล่าวออกมาพร้อมหันไปสบตาอัคคีแล้วถามออกมา
“ก็ฉันคิดว่่าจะชวนพวกแกตั้งบริษัทขึ้นมานะสิแต่ก็ดีแล้วละจะได้ไม่ได้เป็นขู่แข่งกัน”อัคคีกล่าวออกมาอย่างจริงจังเพราะเค้าคิดเรื่องนี้ในหัวมาสักพักแล้ว
“เห้เอาจริงดิวะ”น้ำหันมาถามอัคคีอย่างอึ้งๆ
“เอาจริงสิหน้าฉันเหมือนเรื่องล้อเล่นรึไงแต่เราค่อยคุยเรื่องนี้อีกทีหลังจากจัดการข่าวลือนี้เสร็จแล้วกันเพราะถ้าตั้งบรฺิษัททั้งๆที่มีข่าวลือแบบนี้คงไม่ดีเท่าไหร่”อัคคีกล่าวออกมาอย่างจริงจัง
“ก็เอาสิฉันเอาด้วยอยู่แล้ว”น้ำกล่าวตอบทันที
“ส่วนพวกฉันก็เอาด้วยเหมือนกัน”เนกับไฟท์หันมองหน้ากันก่อนตอบออกมา
“งั้นฉันควรเริ่มจัดการเรื่องข่าวลือก่อนแล้วละอ้อไอ้เนแกอย่าลืมบอกคนของแกจับตาดูพี่ดิวไว้ด้วยละ”อัคคีกล่าวตอบพร้อมหันมามองเนก่อนลุกออกจากโต๊ะไป
“แพรว่างรึเปล่าเรามีเรื่องจะคุยด้วยนะออกไปคุยกันข้างน้อกร้านได้ไหม”ใช่แล้วอัคคีเดินมาโต๊ะของแพรนั้นเองแล้วเธอก็นั่งอยู่กับเพื่อนผู้หญิงอีก3คน
“ได้สิ”แพรหันมากล่าวตอบพร้อมหันไปบอกเพื่อนทั้งสามของตนว่าเดี่ยวกลับมา
“เหี้ยไอ้นี้แม่งของจริงวะ”เน ไฟท์ น้ำ อุทานออกมาพร้อมหันไปมองอัคคีกับแพรที่เดินออกไปคุยกันข้างนอกร้าน
ข้างนอกร้าน
“เออแพรเคยได้ยิน….”อัคคีกล่าวไม่ทันจบแพรเอ่ยชิงถามมาก่อนว่า
“ที่เรายอมออกมากับนายง่ายๆเราก็มีเรื่องจะบอกนายเหมือนกันไม่รู้ว่าพ่อเอาข่าวมาแต่ไหนเรื่องนั้นเพราะงั้นพ่อของเราถึงอยากเจอนายนะ”แพรกล่าวออกมาพร้อมหันมาสบตาอัคคี
“ห๊ะ…”อัคคี