นักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 12
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 12
“หืม…”
จิตใจของราอนอยู่ในความสงบ แม้ว่าเขาจะกำมือแน่น
“ไม่เห็นต้องกังวล พวกเราแค่อยากคุยด้วย”
เด็กผมยาวเดินเข้ามาหยุดหน้าเขา ราอนจำชื่อของเขาได้แล้ว เครน ซีกฮาร์ท เป็นคนที่เกือบจะต่อสู้กับเขาในตอนเช้า แล้วในตอนที่มีพิธีทดสอบผลลัพธ์ของเขาก็ค่อนข้างดี
“เฮ้”
เด็กสามคนที่เหลือเข้ามาล้อมรอบๆราอน และเครนก็เชิ่ดหน้ามองเขา
“คุย? อยากจะคุยแบบไหนล่ะ?”
เขาอยากจะถอยหลัง แต่ติดที่มีคนสามคนขวางทางเขา
“ตามมาเดี๋ยวก็รู้”
“ตามมาเงียบๆ”
เครนแสดงท่าทางอย่างผู้ชนะแล้วเดินไปก่อน ผู้ชายสองคนที่อยู่ข้างๆก็เริ่มผลักไหล่เขาให้เดินตาม
เนื่องจากราอนตัวเล็กมาก ในขณะที่เด็กคนอื่นค่อนข้างตัวใหญ่ ภาพจึงออกมาเหมือนผู้ใหญ่กำลังลักพาตัวเด็กๆ
“เดี๋ยวสิ เราคุยกันที่นี่เลยไม่ได้เหรอ?”
“มันหัวช้าเกินไปแล้ว”
“แกไม่ควรอวดดีขนาดนั้นเลยนะ”
ในขณะที่ราอนยักไหล่และลดสายตาลง เด็กๆที่อยู่ข้างๆก็หัวเราะคิกคักและคล้องแขนของเขา
เจ้าบอกว่าเจ้าจะแสดงสิ่งที่ข้าอยากเห็น แต่ตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่
'รออีกนิด มันต้องรอเวลาหน่อย'
“หึ!”
ราอนถูกลากไปด้านข้างสนามฝึกซ้อม เขาถูกเหวี่ยงไปที่กำแพงทันที มันเป็นสถานที่มืดและเปลี่ยวไม่มีใครมองเห็น
“ทะ-ทำไมทำแบบนี้”
“ก็แกใช้พลังของน้ำอมฤตนี่หว่า”
“อะไรนะ”
“แกถูกสายตรงทอดทิ้งไปแล้ว แต่ที่แกกล้าอวดดีขนาดนี้แค่เพราะพลังของยาอมฤตงั้นเหรอ?”
“ถ้าไม่ใช่เพราะน้ำอมฤตที่ได้จากท่านนักบุญ แกจะทำอะไรได้”
“ไอ้!”
การแสดงออกของพวกเริ่มร้ายแรงขึ้น เหมือนสัตว์กำลังล่าเหยื่อ
'ด้วยเหตุผลไร้สาระนั่นเนี่ยนะ...'
การแสดงออกของพวกเขาแสดงให้เห็นเลยว่าพวกเขายังเป็นเด็กอยู่
'พวกเขาดูมั่นใจเหลือเกินนะว่าจะชนะ'
ราอนยิ้มเยาะ
'แต่ก็เป็นเรื่องปกติแหละนะที่พวกมันจะคิดแบบนั้น’
ร่างกายพวกเขาใหญ่กว่าเขามาก เนื่องจากพวกเขาฝึกฝนมาเป็นเวลานาน พวกเขาจึงไม่ได้คิดว่าจะแพ้ด้วยซ้ำ
“ไม่ต้องห่วง เราจะทำแบบไม่ให้ใครรู้”
“นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราทำแบบนี้สักหน่อย”
“ก็อย่างที่อาจารย์บอก พวกเราควรจะสนิทกันไว้บ้าง”
พวกเขาเดินเข้ามาในขณะที่แกว่งกำปั้น
“นายพูดถูก”
ราอนเงยหน้าขึ้นและยิ้ม
ไม่มีความกลัวและความสับสนในดวงตาของเขาอีกต่อไป
“ไอ้เวรนี่!”
เด็กที่ตัดผมทรงเห็ดเริ่มเหวี่ยงหมัด
เขาบิดไหล่เพื่อหยุดกำปั้น แล้วราอนก็ใช้ศอกขวาศอกไปที่หน้าอกของเขา
“แอ๊ก!”
เด็กหัวเห็ดทรุดลงกับพื้น หายใจไม่ออก เขาตะกายกับพื้นพยายามหายใจ
“กะ-เกิดอะไรขึ้น!”
เด็กที่ตาตี่ปล่อยลูกเตะเข้าที่ทางซ้าย
ปั่ก!
ราอนใช้มือซ้ายกันไว้ จากนั้นก็เข้าชกที่ท้องด้วยกำปั้นของเขา
“อั่ก…”
เด็กตาตี่ร่วงลงบนพื้นกุมท้องแน่น ในขณะที่ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีขาว
ว้าก!
เด็กชายจากด้านหลังใช้กำปั้นทั้งสองของเขาโจมตี ราอนใช้ฝ่ามือปัดมันออกแล้วเตะเข้าท้อง
“อึก!”
เด็กตัวใหญ่ที่สุดหายใจหอบ ทรุดลงกับพื้น
“พะ-พวกแกกำลังทำอะไรกันอยู่? ทำไมแพ้ให้กับไอ้เวรนั่น!”
เครนซึ่งยืนเป็นคนสุดท้ายก้าวถอยหลัง มือของเขาสั่นในขณะที่เขาพูดติดอ่าง
“ก็อย่างที่แกบอก เราแค่พูดคุยระหว่างเพื่อนฝึกหัดด้วยกัน”
ราอนเดินเข้าหา เครนค่อยๆร่นถอยหลัง
“อย่าเข้ามาใกล้ฉัน!'
เครนตะโกน เขาเหวี่ยงกำปั้นซ้ายของเขา ตามด้วยกำปั้นขวา มันเป็นการโจมตีต่อเนื่องที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี
อย่างไรก็ตาม คู่ต่อสู้ของเขาไม่ใช่เด็กอายุสิบสองปีธรรมดาๆ
กร๊อบ!
ราอนจับแขนซ้ายของเครนแล้วบิดไปทางขวา
“อ๊ากก!”
เครนร้องเสียงหลง ไม่สามารถเหวี่ยงหมัดอีกข้างต่อได้เพราะเจ็บปวดมาก
“ยังไม่หมดหรอกนะ”
ราอนใช้มือซ้ายฟันเข้าที่เอวขวาของเครน
“อ๊าก! อ๊ากกก”
เครนกลิ้งไปกับพื้นพร้อมกับกรีดร้องราวกับว่ากำลังเผชิญกับวินาทีสุดท้ายของชีวิต
‘นั่นเป็นเสียงกรีดร้องที่ไพเราะมาก แต่กะโหลกศีรษะมันยังอยู่ ทำลายมันเลยสิ’
'แกก็คิดแต่จะให้เล็งกะโหลกอย่างเดียวเลยนะ...'
ราอนส่ายหัวและมองไปที่เด็กทั้งสี่ซึ่งดิ้นอยู่บนพื้น
“ทำยังไงต่อดีนะ?”
ราอนหันเข้าหาเด็กที่เป็นสายเลือดรองด้วยสายตาที่บอกได้เลยว่าหวังจะฆ่าพวกเขา
“อ้า!”
“อึ้ก!”
“อะ-อะไร…”
เด็กสายรองตัวสั่นงกๆ ด้วยความเจ็บปวดและความหวาดกลัว
“กึด…”
เครนกัดฟันแน่น เขารู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว
'มันเป็นใครกันแน่...?'
เป็นสัมผัสที่เบอร์เรนไม่เคยได้เจอจากคนวัยใกล้เคียงกัน เขารู้สึกถึงสิ่งอื่นที่ไม่ใช่ออร่า มีบางอย่างที่มืดมนกว่านั้น
'มันเหมือนกับการเผชิญหน้ากับปีศาจ...'
และไม่ใช่แค่ปีศาจเท่านั้น อาจจะมากกว่านั้น
“พูดออกมาอีกสิ”
“อุก!”
“ข-ขอร้อง ปล่อยเราไปเถอะ!'
ราอนเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม นี่พวกเขากำลังเจอกับมัจจุราชหรือเปล่านะ?
* * *
* * *
ปึ่ก! ปั่ก!
จะกรีดร้องยังไม่ได้ เด็กสายเลือดรองของตระกูลม้วนตัวเหมือนหนอนในขณะที่ราอนยังคงต่อยพวกเขาต่อไป
‘ตอนนี้ข้ารู้สึกดีมาก เป็นครั้งแรกที่ข้าชอบเจ้าเลย’
'ก็ดีที่แก...ชอบ'
ราอนทุบพวกเขาอย่างต่อเนื่องจนราธอยากปรบมือให้ ยิ่งไปกว่านั้น เขายังตีไปตรงจุดที่เจ็บที่สุด
“อั่ก!”
“อะ…”
เด็กพวกนั้นไม่กล้าแม้แต่จะสบตาราอนอีกต่อไป พวกเขาขดตัวงอเหมือนกุ้ง
“ได้โปรด หยุด…”
“ฉันขอโทษ!”
“อ้าก!”
ราอนสอนบทเรียนที่ชัดเจนแก่พวกเขา พวกเขาไม่คู่ควรแม้แต่จะมองปลายเล็บของเขา
“สิ่งที่เราทำในวันนี้คือการพูดคุยระหว่างเพื่อนร่วมการฝึกหัดใช่ไหม?”
“เอ๊ะ ใช่แล้วๆ!”
“ถ-ถูกต้อง!”
“ฉันคิดถูกใช่ไหม พวกแกจะไม่บอกใครเรื่องที่เราคุยกัน”
“แน่นอน…แน่นอน!”
“แน่นอน!”
เนื่องจากเครนและพรรคพวกต้องการหนีจากสถานการณ์นี้ พวกเขาจึงพยักหน้า
“งั้นเรามาจบงานกันเถอะ”
“จ-จบงาน?”
“หมายความว่ายังไง…?”
“ใครเป็นยุให้พวกแกทำแบบนี้? เบอร์เรนหรือเปล่า”
“เอ่อ…”
“ไม่ ไม่ มันไม่ใช่อย่างนั้น”
พวกเขาส่ายหัว
“แล้วใคร”
“ท่านเบอร์เรนไม่เคยสั่งให้เรา”
“ถูกต้อง เขาบอกให้เราหยุด แค่ว่าเรา…”
“อย่างนั้นเหรอ?”
ราออนยิ้มเยาะ ดูแล้วพวกเขาไม่ได้โกหก เบอร์เรนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
'เบอร์เรนก็คงไม่ได้เน่าไปทั้งหมด'
เห็นได้ชัดว่าเบอร์เรนไม่ชอบเขา และปากเสีย แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ใช่ขยะแบบเต็มรูปแบบ
“ทำตัวให้ดีกว่านี้ ถ้าไม่อยากคุยกันแบบนี้อีก”
“ครับนายท่าน!”
“แน่นอนครับ!”
“เราจะไม่มาให้เห็นหน้าเลยครับ!”
ราอนหันกลับเมื่อได้ยินคำตอบ เมื่อเขากำลังจะออกจากตรอกแคบๆก็ได้ยินเสียงแจ้งเตือน
ติ๊ง!
***
ตึก
ริมเมอร์กระโดดลงในตรอกแคบที่ราอนกับเด็กสายรองเคยอยู่
“หืม!”
เขาเลียริมฝีปากมองไปที่เหล่าเด็กสายรองซึ่งหมดฤทธิ์เดินจากไป
'เป็นภาพที่สนุกดีเหลือเกิน'
เขาแค่หาอะไรทำฆ่าเวลา แต่สุดท้ายเขาก็ได้เห็นบางอย่างที่ยอดเยี่ยม
'ยิ่งเฝ้าดูเขา มันยิ่งน่าสงสัย'
ราอนที่เขาเห็นในวันนี้ไม่ใช่คนป่วยที่น่าสงสารอย่างที่เกล็นและซิลเวียพูดถึง
'หรือเขาเป็นอัจฉริยะ?'
ราอนไม่เคยเรียนศิลปะการต่อสู้และไม่เคยมีเรื่องกับใครแน่ๆ แต่การเคลื่อนไหวของเขาเมื่อสักครู่ดูไม่เป็นอย่างนั้น
เขาหลบหมัดด้วยการเคลื่อนไหวที่น้อยที่สุดและโต้กลับทันที
เขาจัดการกับคู่ต่อสู้คนที่สองและสามก่อนที่พวกเขาจะรู้ตัวด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว แม้จะดูทื่อๆแต่หมัดของเขาไม่ใช่หมัดของคนที่พึ่งเคยต่อสู้แน่นอน
ตอนแรกคิดว่าเขาแค่มีพลังใจที่ยอดเยี่ยม แต่ดูเหมือนว่าเขามีพรสวรรค์ในศิลปะการต่อสู้ด้วย
'ก็สมกับเป็นซีกฮาร์ท'
ริมเมอร์ฉีกยิ้ม เขาจำได้ว่าราอนทุบเด็กสายรองและขู่พวกเขาอย่างไร
มันทำให้เขานึกถึงเกล็น เขาไม่ได้ดูโดดเด่นออกมาในตอนแรก แต่เมื่อต่อสู้เขาจะดูพิเศษกว่าใครๆ
เขาสร้างความประทับใจให้กับริมเมอร์ ซึ่งดูถูกมนุษย์อยู่เสมอ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขายอดเยี่ยมเพียงใด
'เหนือสิ่งอื่นใด...'
แม้แต่วิธีที่ราอนข่มขู่... ยิ่งเหมือนกับเกล็นมากขึ้นไปอีก
“พรสวรรค์ที่ลึกลับท่ามกลางพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยม…”
ริมเมอร์กลิ้งไปกับพื้นอย่างร่าเริง
“อ่า... หัวใจของฉันกำลังเต้นแรงสุดๆ”
มุมปากของเขาบิดขึ้นอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่
***
ราอนเข้าไปในห้อง405 ตามหมายเลขบนกุญแจที่อาจารย์หน้าหอพักให้มา
มันเป็นห้องกว้างไม่ต่างจากห้องของเขาในอาคารรอง เตียงดูสบายและมีพื้นที่เพียงพอสำหรับฝึก'วงแหวนแห่งไฟ'
'แล้ว...'
เขากวาดตามองรอบห้องแล้วเขาก็นั่งบนเตียงและเรียกข้อความขึ้นมา
<ราธ> พอใจกับการกระทำของคุณ ความว่องไวเพิ่มขึ้น 1 แต้ม
เป็นข้อความที่บอกเขาว่าความว่องไวของเขาเพิ่มขึ้นพร้อมกับข้อความที่บอกว่าราธพอใจแล้ว
'เพิ่มค่าสถานะแบบนี้ก็ได้เหรอ?'
เห็นได้ชัดว่าการทำให้ราธพึงพอใจช่วยเพิ่มแต้มของเขา การกีดกันการรบกวนก็ได้แต้มเพิ่มเหมือนกัน
แต่เหมือนว่า…
<ราธ> คำราม
มันเป็นความผิดพลาด! ราชาแก่นแท้ยังไม่สะใจ! เท่านั้นยังไม่พอ! อย่างน้อยเจ้าควรตัดหัวพวกมัน!
ราธโวยวาย นั่นไม่ใช่ความตั้งใจของราธ
ค่าพวกนั้น! แต้มมาจากไหน!
เห็นได้ชัดว่าราธเองก็ไม่รู้ว่าค่าสถานะมาจากไหนเช่นกัน
'แกก็ไม่รู้เหมือนกันเหรอ? พลังของแกไม่ใช่รึไง จะไม่รู้ได้ยังไง?'
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะเจ้าขโมยมันไปจากราชาผู้นี้!
“แต่..แกก็ดูไม่รู้อะไรเกี่ยวกับระบบเลยไม่ใช่เหรอ?”
ฮึ่ม…
เสียงของราธสั่น ความสุขของเขาก่อนหน้านี้หายไปแล้ว
ได้ ข้าจะตรวจสอบให้ รอก่อน
เมื่อนั้นราธก็หายไป สร้อยข้อมือยังอยู่ แต่วิญญาณของเขาดูเหมือนจะหายไป ราอนพยายามสะบัดข้อมือ แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“เงียบ..สักที”
ราอนลดมือลง เขาคิดว่าจะใช้โอกาสนี้อาบน้ำ เขาจึงมุ่งหน้าไปยังห้องน้ำที่ชั้นสี่
หลังจากอาบน้ำอย่างรวดเร็วเขาก็กลับไปที่ห้อง เขานั่งลงบนพื้นโดยไม่แม้แต่จะเป่าผมให้แห้ง
'แกเหมือนกับห่านที่ออกไข่เป็นทองคำไม่มีผิด'
เขายิ้มพลางมองสร้อยข้อมือดอกไม้ที่ข้อมือ การได้รับค่าสถานะหลังจากการทำตามหรืออดทนต่อราธเป็นเรื่องที่ดีมาก
ตราบที่เขามีสกิลวงแหวนแห่งไฟและต้านทานน้ำเขาก็จะไม่แพ้ให้กับราธ
'ฉันควรฝึกฝนก่อนเขากลับมาไหมนะ?'
เขาพึงพอใจอย่างมาก จึงหลับตาลงเพื่อฝึก 'วงแหวนแห่งไฟ' ต่อ
ขณะที่เขากำลังจะเริ่มการฝึกเขาก็ได้ยิน
ฮึ!
“กลับมาแล้วเหรอ”
เมื่อเขาลืมตาขึ้น ราธมาอยู่บนข้อมือของเขาและสั่นกำไล
เจ้าหัวขโมย!
“ขโมย?”
เจ้าขโมยพลังที่ราชาแห่งแก่นแท้ที่ทิ้งไว้ในร่างจริงไป!
'ร่างจริง?'
เขาเริ่มคิดย้อนกลับไป ราธเคยบอกว่าเขาเป็นราชาจากที่ไหนสักแห่งและเรียกตัวเองว่าราชาแห่งแก่นแท้ เขาไม่ได้สนใจมากเพราะคิดว่าไม่สำคัญ
ร่างปีศาจ! ข้าเป็นราชาแห่งปีศาจ!
'อย่างนี้นี่เอง'
เขาพยักหน้าเล็กน้อย ไม่ได้สนใจอะไรมาก
กรอด!
เขาได้ยินเสียงกัดฟัน
ตอบแบบนั้นคืออะไร?! เป็นแค่แมลงวันแท้ๆ! เจ้ากล้าดียังไงขโมยพลังของราชาแห่งแก่นแท้ไป เจ้าควรคุกเข่ากราบไหว้ข้า!
“แกไม่ได้ตั้งใจให้ฉันสักหน่อย เหตุผลอะไรที่ฉันต้องขอบคุณ?”
ฮึ่ม…
ราธฟึดฟัด เขาไม่สามารถพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้
ความจองหองของเจ้าสูงไปถึงสวรรค์แล้วมั้ง
“ไม่ใช่...”
ราอนส่ายหัว เขาไม่เคยคิดอะไรแบบนั้นเลย ราธคุ้นเคยกับการถูกบูชามากเกินไปจนเขาไม่สามารถบอกตรงๆได้
ร่างกายของราชาแห่งแก่นแท้เชื่อมโยงเข้ากับเจ้า นั่นเป็นเหตุผลที่หน้าต่างสถานะถูกส่งต่อให้เจ้า
'อืม…'
ดังนั้นข้ามีข้อเสนอให้
“ข้อเสนอเหรอ?”
มาเดิมพันกัน หากเจ้าชนะข้าจะให้แต้มสถานะแก่เจ้า แต่ถ้าเจ้าแพ้ เจ้าจะต้องยอมจำนนต่อข้า
น้ำเสียงของราธเต็มไปด้วยความโกรธและความขุ่นเคือง เหมือนกับตอนที่เขาพบกันครั้งแรก
<ราธ> ได้เสนอเดิมพันแก่ผู้ใช้ระบบ