ตอนที่ 8
ณ เพนเฮาส์สุดหรูย่านใจกลางเมือง
“เห้ ไออัคคีว่าแต่เย็นนี้กินไรดีวะ”น้ำเอ่ยถามอัคคีที่นั่งอยู่โซฟาข้างๆตน
“ไม่รู้ดิฉันรู้สึกขี้เกียจยังไงไม่รู้วะสังแกร๊ปอ่าวดีปะ”อัคคีเอ่ยเสนอขึ้นมาพร้อมหยิบโทรศัพท์เข้าแอปสั่งอาหาร
“เออตามนั้นสั่งให้ฉันด้วยเอาข้าวผัดทะเล”น้ำเอ่ยบอก
“คงเอากะเพราหมูกรอบไข่ดาววะเดี่ยวฉันสั่งเสร็จแล้วถ้าพี่เค้ามาส่งลงไปเอาหน่อยละกันฉันขอเค้าห้องไปก่อน”อัคคีเอ่ยพลางลุกจากโซฟาเดินเข้าห้องตัวเองไป
“ไหนๆฉันขอเช็กหน่อยสิหุ้นของบริษัทไหนกันที่ได้มา”อัคคีเอ่ยพลางค้นชื่อบริษัทไปในกูเกิ้ลทันนที บริษัท แสนสิริกลุ่มบริษัทแสนสิริมีการประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยโครงสร้างรายได้ส่วนใหญ่ของบริษัทจะมากการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการขาย อาทิเช่น โครงการบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ และคอนโดมิเนียม มูลค่าทรัพสินรวมกันมากว่า3หมื่นล้านบ้าน
“3..3หมื่นล้านบ้าไปแล้วงั้นหุ้น6%ของฉันเป็นผู้ถือหุ้นลำดับเท่าไหร่เนี่ย”อัคคีเอ่ยพรางเลื่อนหารายชื่อผู้ถือหุ้น
นาย กินติ แสนสิริ ถือหุ้น 9.56%(ประธานกลุ่มบริหาร)
นาย อัคคี อัครแสง ถือหุ้น 6.47%(ผู้ถือหุ้นลำดับที่สอง)
“….แหะๆดูเหมือนจะกลายเป็นเศรษฐีพันล้านไปโดยไม่รู้ตัวสะแล้วละ”อัคคีกล่าวออกมาขำๆ
ตัดไปช่วงสายๆของวัน ณ บริษัท แสนสิริ
“ท่านประธานกิตติครับแย่แล้วครับ”เลขาวิ่งหน้าตื่นเปิดประตูดังปังเข้ามา
“หืมมีอะไรละเลขาคิม”ประธานกิตติเอ่ยถามเลขาของตนด้วยความแปลกใจเพราะมีเรื่องน้อยมากที่จะทำให้เลขาคนนี้ตื่นตกใจได้
“ก็หุ้นของบริษัทนะสิครับอยู่ดีๆก็ถูกขายออกไปโดยที่เราไม่รู้ตัวแล้วตอนนี้มือลึกลับคนนั้นก็ได้เป็นผู้ถือหุ้นหลักลำดับที่สองแล้วครับเป็นรองแค่ท่าน”เลขาคิมเอ่ยออกมาด้วยสีหน้าตื่นๆ
“ว่าไงนะ”ประธานกิตติอุทานออกมา
“นาย ไปสืบได้ไหมว่าเค้าเป็นใครพอได้ข้อมูลมาแล้วฉันจะติดต่อเค้ากลับไปเองการที่สามารถกว้านซื้อหุ้นไปได้ขนาดนี้แสดงว่าต้องไม่ใช่คนธรรมดาๆแน่นอนเพราะไม่ใช่แค่มีเงินก็ทำได้”ประธานกล่าวบอกเลขาคิมด้วยท่าทางเคร่งเครียด
“ได้ครับท่านขอเวลาผมไม่นาน”เลขาคิมขานรับ
กริ๊ง กริ๊ง เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
“อะฮัลโหลครับใครครับเนี่ย”อัคคีกดรับพร้อมถามออกไป
“มาส่งข้าวครับผมคือเข้าไม่ให้ผมเข้าไปนะครับผมรออยู่ข้างหน้านะครับหวังว่าจะเข้าใจกันนะครับ”แกร๊ปกล่าวออกมาด้วยความเกร็งๆเพราะนี้ก็ครั้งแรกของเค้าเหมือนกันที่มาส่งอาหารที่เพนเฮาส์หรูขนาดนี้
“อ้อได้ครับพี่ไม่เป็นไรครับเดี่ยวลงไปเอาครับพี่”อัคคีเอ่ยออกไปพร้อมเดินออกจากห้องตนไปห้องรับแขกพร้อมบอกน้ำว่า
“เฮ้ยไอ้น้ำข้าวมาส่งแล้วลงไปเอาดิพี่เค้าบอกขึ้นมาไม่ได้”อัคคีเอ่ยออกไป
“เออๆเดี่ยวลงไปเอารอแปป”น้ำเอ่ยตอบพร้อมลุกเดินไปเอาข้าว5นาทีผ่านไปน้ำก็เดินกลับมาพร้อมวางข้าวกล่องไว้ห้องทานอาหาร
“เออไอ้อัคคีไหนๆแล้วแกก็ควรไปทำบัตรเครดิตไว้นะเว้ยเชื่อฉันเถอะมันช่วยแกได้หลายๆอย่างเลยแหละถ้าแกทำเงินจากหุ้นได้เยอะขนาดนั้น”น้ำกล่าวออกมา
“เออๆไว้ว่างๆเดี่ยวฉันไปทำ”อัคคีตอบกลับไปใช้เค้าได้โกหกมันออกไปว่าเค้าเทรดหุ้นกวาดเงินไปเยอะไม่ต่ำกว่าร้อยล้านด้วยความที่ว่าอนาคตเพื่อลงชื่อเข้าใช้แล้วระบบให้เงินมาจะได้ไม่ต้องหาข้อแก้ตัวเยอะแยะการเล่นหุ้นนี้แหละข้อแก้ตัวชั้นเลิส
กริ๊ง กริ๊ง เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
“อ่าวใครมันโทรมาอีกวะเนี่ยฮัลโหลครับใครครับเรี่ย”อัคคีบ่นออกมาพรางรับสายโทรศัพท์ไป
“สวัสดีครับคุณอัคคีผมชื่อกิตติหวังว่าคุณจะรู้จักผมนะครับ”กิตติกล่าวออกมา
“อ้อคุณกิตตินี้เองไม่ทราบว่าโทรมาหาผมมีเรื่องอะไรหรอครับ แปปนะไอ้น้ำฉันไปคุยธุระแปปหนึ่ง”อัคคีกล่าวถามกิตติพร้อมหันไปบอกน้ำแล้วลุกออกไปนั่งคุยโทรศัพท์ที่ห้องนั่งเล่น
“ไม่ทราบว่าที่คุนอัคคีซื้อหุ้นของบริษัทไปนี้….”กิตติยังกล่าวไม่จบอัคคีก็พูดสวนกลับไปว่า
“ไม่หรอกคุณกิตติที่ผมเข้าซื้อหุ้นของบริษัทคุณก็เพื่อเกร็งกำไรเท่านั้นแหละขอแค่บริษัทไม่ขาดทุนผมจะไม่เข้าไปยุ่งอะไรกับบริษัททั้งนั้น”อัคคีเอ่ยออกมา
“โองั้นยินดีเป็ฯอย่างยิ่งเลยแหละครับคุณอัคคียินดีที่ได้ทำงานร่วนกันนะครับ”กิตติกล่าวออกมาก่อนวางสายโทรศัพท์พร้อมมองไปที่โต๊ะทำงานที่มีข้อมูลของอัคคีวางไว้อยู่
“เด็กคนนี้น่าสนใจไม่เบาเลยนะเนี่ย”กิตติกล่าวออกมาด้วยความสนใจ
“เห้อโล่งอกไปที”อัคคีถอนหายใจออกมาแล้วหันไปมองดูมือของตัวเองที่ยังสั่นอยู่ทำไงได้ละเค้าก็พึ่งเคยคุยกับคนที่มีอำนาจทางการเงินมากขนาดนี้ครั้งแรกนี้นะ
“หลังจากนี้คงต้องทำตัวให้ชินไว้แล้วละ”อัคคีบ่นออกมาพร้อมเดินกลับไปกินข้าว