ตอนที่ 81 สงครามและการนองเลือดที่เขต 3(อ่านฟรี)
ตอนที่ 81 สงครามและการนองเลือดที่เขต 3
เจนค่อย ๆ ลอยตัวขึ้นมาพร้อมกับเสาแสงที่เป็นเหมือนกับสัญญาณเรียกมอนสเตอร์ทั้งหมดมารวมกัน การกระทำของเธอสร้างความหวาดกลัวให้กับผู้คนที่แอบหลบซ่อนอยู่ตามตึกและเหนือมนุษย์ที่มาถึงที่นี่
“เราต้องหยุดเธอ!” แดริวตวาดใส่อีลิก เขารู้ว่ายิ่งช้ายิ่งมีโอกาสน้อยลง
อีลิกมองเจน แต่ในแววตาของเขาไม่มีความคิดจะทำร้ายเจนแม้แต่นิดเดียว
“ฉันเชื่อพี่ลุค” อีลิกกล่าวขณะที่ยืนขวางทางแดริวอย่างมั่นคง
“บ้าไปแล้วหรือไง ถ้าพ่อแกมาที่นี่เขาจะต้องผิดหวังในตัวแก” แดริวไม่สนใจความสุภาพกับอีลิกอีกแล้ว แดริวลงมือหวังสังหารในทันที
ที่ผ่านมาเขาออมมือสู้กับอีลิก แต่อีลิกก็ออมมือเหมือนกัน
‘เวลาเหลือไม่เยอะ ต้องจัดการเขาและไปพาตัวนางฟ้ากลับมาหาพี่ลุค’ อีลิกคิดในใจ ลงมือต่อแดริวอย่างโหดเหี้ยมในทันที
แดริวเข้าต่อสู้กับอีลิกอย่างหนักหน่วง แต่เขาก็ยังตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบอีกเช่นเคย ซึ่งทำให้แดริวอยากจะบ้าตายและตะโกนด่าอีลิกอย่างต่อเนื่องถึงความคิดแบบเด็ก ๆ ของเขา อีลิกไม่สนใจแม้แต่น้อย ยิ่งลงมือยิ่งโหดจนถึงขนาดหักแขนแดริวทิ้งไปข้างหนึ่งและทุบจนหัวแตกเลือดอาบทั้งหน้า
ถึงอย่างนั้นอีลิกก็เริ่มอ่อนแรงลงเรื่อย ๆ เพราะได้ถึงขีดจำกัดของเขาแล้วเช่นกัน
ที่อนุสาวรีไม่ได้มีแค่แดริวคนเดียวที่ต้องการจัดการกับเจน
เหนือมนุษย์ระดับ D ที่เคยปะทะกับมอนสเตอร์อินทรีย์ระดับ D ก็มาที่นี่ในสภาพบาดเจ็บ แต่เป้าหมายของเขาก็ยังคงเป็นเจน
มาคัสก็มาถึงเช่นกัน เขารวบรวมกองกำลังของกิลด์กะโหลกดำมาที่นี่ ในฐานะผู้นำกิลด์เขามีอำนาจมากพอที่จะทำแบบนั้น มีเหนือมนุษย์ระดับ E 15 คนและระดับ F 70 คนจากในกิลด์ที่ยังรอดอยู่ก็มาเช่นกัน
กิลด์กะโหลกดำถือเป็นกิลด์ระดับต้น ๆ ของเมืองที่อยู่ในแรงค์ทองแดง 3 ดาว นี่คือจำนวนสมาชิกที่เหลืออยู่ไม่รวมกับบางส่วนที่ให้สำนักงานเหนือมนุษย์หยิบยืมไปทำภารกิจกวาดล้างมอนสเตอร์ระดับ B เมื่อไม่นานมานี้
ในเมืองยังมีกิลด์ระดับเดียวกับกิลด์กะโหลกดำอีก 2 กิลด์ที่อยู่ในแรงค์ทองแดง 3 ดาวที่นับว่าเป็นแรงค์ที่สูงสุดในเมืองปลายฝนเล็ก ๆ แห่งนี้แล้ว รองลงมาคือกิลด์ที่อยู่ในแรงค์ทองแดง 2 และ 1 ดาวอีก 5 กิลด์และกิลด์ระดับแรงค์เหล็ก 3-1 ดาวจำนวน 15-20 กิลด์ รวมทั้งทีมล่าอีกมากกว่าร้อยทีม โดยรวมแล้วตอนนี้มีเหนือมนุษย์มากกว่า 2,000 มารวมกันที่นี่
เหนือมนุษย์ 2,000 คนถือเป็น 2 ใน 3 ของเหนือมนุษย์ทั้งของเมืองปลายฝน และอีก 1 ใน 3 บางส่วนไปทำภารกิจด้านนอก ไม่ก็พึ่งจะตายลงในการต่อสู้กับมอนสเตอร์วันนี้ ส่วนใหญ่เป็นเหนือมนุษย์ระดับ F ที่อ่อนแอและ E บางคนที่ลุคเชือดไป
นอกจากเหนือมนุษย์และเหล่าฮันเตอร์ก็ยังมีกองทัพจากสำนักงานเมืองที่ส่งเฮลิคอปเตอร์ประมาณ 10 ลำที่ยังใช้งานได้มาด้วย
ในตอนนี้คำพูดของผู้มองอนาคตได้รับการยืนยันแล้วว่าเหตุการณ์โจมตีของมอนสเตอร์ครั้งนี้เกี่ยวกับเด็กสาวคนนั้นจริง ๆ สำนักงานเหนือมนุษย์จึงตัดสินใจลงมือเช่นกัน พวกเขาได้ออกภารกิจพิเศษทำลายล้างมอนสเตอร์ที่ใจกลางพื้นที่เขต 3 อนุสาวรีและก็ระบุเป้าหมายไปที่เจนจับเป็นหรือตายก็ได้
นิโคลมองดูแหวนเครือข่ายไกอาที่ออกภารกิจนี้ให้กับเหนือมนุษย์ทุกคนจัดการเด็กสาว เธอก็พูดให้ลุคที่พิงกำแพงของซากอาคารที่พังทลายหลังหนึ่งอยู่
“พวกเขาตัดสินใจแล้ว เจนคือภัยคุกคาม สำนักงานเหนือมนุษย์สั่งให้ฆ่าเธอ” นิโคลมองดูเจนที่โดนล้อมด้วยเหนือมนุษย์จำนวนมาก
“ฉันจะต้องหยุดเจนและแสดงให้เห็นว่าเธอไม่ใช่ภัยคุกคาม แต่เป็นอีกตัวตนในตัวของเธอ” ลุคพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้งที่มีเพียงนิโคลที่ได้ยินเท่านั้น
“นายไปไม่ไหวหรอก พลังของเจนแปลกประหลาดมาก เธอไม่เหมือนกับเหนือมนุษย์ระดับ F แถมยังมีมอนสเตอร์ที่มารวมกันรอบตัวเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถ้านายไปก็อาจจะถูกฆ่าได้” นิโคลห้ามปรามลุค เพราะรู้ว่าถ้าลุคเข้าไปเขาจะตาย
สภาพของเขาในตอนนี้อ่อนแอมาก แม้แต่เหนือมนุษย์ระดับ F ก็สามารถฆ่าเขาได้
ซึ่งก็จริงลุคแทบจะขยับตัวไม่ได้ด้วยซ้ำการที่เขายังรักษาสติของตัวเองไว้ได้ก็นับว่าเหลือเชื่อมากแล้ว
...
“รายงานพบว่ามีเด็กสาวตรงตามข้อมูลคนหนึ่งที่พวกมอนสเตอร์พยายามปกป้อง พวกมันมารวมกันและล้อมเธอไว้ตรงกลาง ตอนนี้จำนวนมอนสเตอร์เพิ่มอยู่ที่หลักร้อยตัว ส่วนใหญ่เป็นมอนสเตอร์ระดับ F และ E”
“สั่งการให้ใช้อาวุธหนักรีบกำจัดเธอก่อนที่มอนสเตอร์ระดับสูงจะไปถึงที่นั่น”
“รับทราบ”
นักบินแต่ละคนได้รับคำสั่งก็เปิดฉากยิงเจนที่อยู่ใจกลางในทันที กระสุนและจรวจจากเครื่องบินยิงถล่มใส่เจน แต่มอนสเตอร์กลับใช้ตัวเองต่อตัวเป็นกำแพงปกป้องให้กับเจน
โฮก....
มอนสเตอร์ต่างบาดเจ็บล้มตายไปจำนวนมาก เจนเพียงเหลือบมองมอนสเตอร์ที่ตายด้วยแววตาไร้ความสงสาร แต่พอมองไปที่เฮลิคอปเตอร์เธอก็ไม่พอใจเช่นกันที่พวกนั้นกล้าคิดร้ายกับเธอ
ตัวของเจนหยุดการปลดปล่อยแสง เพราะมันไม่จำเป็นแล้วมอนสเตอร์รู้ว่าเธออยู่ที่นี่แล้ว เจนอ้าปากและกล่าวเสียงที่ไร้คำพูดออกมา แต่มอนสเตอร์ทุกตัวราวกับได้ยินคำสั่ง พวกมันพากันทุบทำลายสิ่งก่อสร้างและอนุสาวรีก่อนจะขวางใส่เฮลิคอปเตอร์เหล่านั้น
“หลบเร็ว”
“มีเยอะเกินไป”
ตูม!
“หมายเลข 7 โดนแล้ว”
“เครื่องกำลังตก ๆ”
หลังจากการปะทะครั้งแรกในช่วง 10 นาทีที่ผ่านไปก็มีเฮลิคอปเตอร์ตกไปแล้วกว่า 4 ลำ ส่วนที่เหลือได้แต่บินถอยห่างให้สูงขึ้นมา พวกเขาไม่อาจจะแตะต้องตัวของเจนได้ด้วยซ้ำ
มอนสเตอร์ออกมามากขึ้นเรื่อย ๆ ที่แย่กว่านั้นคือมีประตูมิติเปิดขึ้นจำนวนมาก ฝูงมอนสเตอร์หลากหลายชนิดปรากฏออกมาไม่ว่าจะเป็นด้วงเกราะดำ หนอนริบบิ้น ตั๊กแตนเคียวเงิน หมูป่าจอมตะกละ งูเหยือกแข็ง งูตาหิน กิ้งก่าเพลิง ยุ่งเข็มพิษ แมงป่องหลังหนาม หิ่งห้อยระเบิดเพลิง มดจอมพลัง หนอนละลายเลือด หมาป่าขนเหล็ก หมาป่าเพลิง อินทรีย์วายุ นกกระจิบเงามายา นกกระจอกเทศสายฟ้า กิ้งกือมังกร ลิงแม่น้ำ ตะขาบเขาดาบ แรดทำลายภูเขา จิ้งจอกสายหมอก มนุษย์ต้นไม้และยังมีมอนสเตอร์อีกหลายชนิดที่พวกเขาก็ไม่อาจจะจดจำพวกมันได้หมดอีกนับร้อยสายพันธุ์
เวลาผ่านไป 20 นาทีก็ปรากฏมอนสเตอร์อินทรีย์ยักษ์ระดับ D 3 ตัวขนาดเกือบ 30 เมตรเมื่อมันกลางปีก ได้เข้าโจมตีทำลายฝูงเฮลิคอปเตอร์ นี่นับเป็นหายนะของพวกเฮลิคอปเตอร์เพราะมอนสเตอร์คล่องแคล่วกว่ามาก การต่อสู้บนน่านฟ้าจึงดำเนินไปอย่างดุเดือด
30 นาทีเฮลิคอปเตอร์พ่ายแพ้อย่างย่อยยับและที่พื้นดินเหนือมนุษย์จากทั้งเมืองที่มารวมกันที่นี่ก็โจมตีมอนสเตอร์ที่หลั่งไหลเข้ามาเรื่อย ๆ กันอย่างดุเดือดและโหดเหี้ยม
แม้แต่ระดับ C ที่เหลืออยู่เพียง 13 คนก็เข้าร่วมด้วย 5 คนเป็นคนของสำนักงานเหนือมนุษย์และอีก 6 มาจากสำนักงานเมือง ส่วนที่เหลืออีก 2 เป็นพวกเหนือมนุษย์ที่ไม่เปิดเผยตัวของกิลด์ 2 แห่งคือ กิลด์กายาเหล็กและกิลด์กะโหลกดำ
ตอนนี้กิลด์ทั้งสองได้เปิดเผยไพ่ลับที่เก็บซ่อนไว้ออกมา เพราะถ้าไม่ทำแบบนั้นภัยพิบัติมอนสเตอร์ครั้งนี้ได้ทำลายกิลด์ที่เป็นรากฐานของพวกเขาจนหมดแน่
ระดับ C หนึ่งในนั้นคือผู้นำคนก่อนของกิลด์กะโหลกดำ ลุงของมาคัสที่ชื่อฟารัน ส่วนอีกคนชื่อกาย จากกิลด์กายาเหล็ก
“มอนสเตอร์พวกแกกล้ามาก” กายตวาดลั่นด้วยความโมโห เพราะเมืองปลายฝนกำลังย่อยยับจากพวกมัน
“พวกมันปกป้องเด็กสาวนั้น ฉันรู้สึกว่าถ้าปล่อยให้เธอมีชีวิตต่อไปแบบเมืองปลายฝนจะโดนทำลายล้างอย่างสมบูรณ์” หนึ่งเหนือมนุษย์ระดับ C จากสำนักงานเหนือมนุษย์บอกข้อมูลกับคนในระดับเดียวกับพวกเขา
“ถ้าอย่างนั้นฉันจะฆ่าเด็กหายนะนั้น” ฟารันพูดด้วยจิตสังหารที่ชัดเจน
“แบ่ง 6 คนออกไปนำเหนือมนุษย์ระดับ D E F รับมือกับมอนสเตอร์โดยรอบด้วย ส่วนที่เหลือพยายามจับเธอ แต่ถ้าขัดขืนก็ฆ่าได้” ระดับ C จากสำนักงานเหนือมนุษย์ที่ชื่อ ดีลเลอร์บอกกับทุกคน เขาเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในเหนือมนุษย์ระดับ C ในที่นี้
“ได้”
เหนือมนุษย์ระดับ C ขานรับและแบ่งหน้าที่กัน ในกลุ่มพวกเขามี 6 คนที่มีอุปกรณ์ช่วยบิน และอีก 4 คนมีพลังพรสวรรค์ด้านการเคลื่อนไหวและบิน ส่วนอีก 3 ไม่มีอุปกรณ์ในการบิน
เหนือมนุษย์ระดับ C 3 คนนั้นจึงคอยสั่งการและเป็นผู้นำให้กับเหนือมนุษย์ที่พื้นดินคอยส่งคำสั่งให้เหนือมนุษย์ทุกคนไม่ต้องไปสนใจมอนสเตอร์รอบนอก เน้นไปที่การฆ่าเด็กสาวในวงล้อมมอนสเตอร์ตัวนั้น
อีก 3 คนที่มีอุปกรณ์ช่วยบินได้ช่วยกันจัดการมอนสเตอร์บินได้ และที่เหลือเคลื่อนไหวอย่างอิสระโดยมีเป้าหมายที่เจน
“ฆ่า!”
พอมีการนำจากเหนือมนุษย์ระดับ C เหนือมนุษย์ทุกคนก็เรียกขวัญกำลังใจในการต่อสู้กลับมาได้ พวกเขาฮึกเหิมมากและเขาเข่นฆ่ากับมอนสเตอร์ไม่หยุด
มีเหนือมนุษย์มากกว่า 40 คนที่มีพลังพรสวรรค์ นี่นับว่าเยอะมากแล้ว เพราะพลังพรสวรรค์หายากมาก เรทเจอร์จากกิลด์กะโหลกดำก็เป็นหนึ่งผู้ที่มีพลังพรสวรรค์ด้วย เขาได้ทะลวงไปที่ระดับ E แล้ว
ประสิทธิภาพการต่อสู้ของเหนือมนุษย์ที่มีพลังพรสวรรค์นั้นสูงมาก แต่เหนือมนุษย์ที่ไม่มีพลังพรสวรรค์ก็ไม่ได้อ่อนแอมากนัก เพราะพวกเขามีจำนวนมากและใช้อุปกรณ์พิเศษหรืออาวุธพิเศษในการต่อสู้ได้ นี่คือการต่อสู้เป็นตายไม่มีใครมามัวแต่กังวลเรื่องค่าใช้จ่ายเรื่องอาวุธที่ใช้กัน มันเป็นอาวุธที่แจกจ่ายมาจากสำนักงานเหนือมนุษย์และสำนักงานเมืองที่เก็บสะสมไว้
ปืน ระเบิด รถหุ้มเกราะรถถังแทบจะถูกนำมาใช้ในสนามรบเขต 3 แห่งนี้ รวมถึงอาวุธที่ทรงพลังอย่างปืนใหญ่ระดับ E ที่ยังใช้งานได้ 2 กระบอกและยิงถล่มลงมาที่นี่จากระยะไกล ส่วนกระบอกอื่น ๆ โดนทำลายไปหมดแล้วจากมอนสเตอร์ระดับ C
5 นาทีต่อมาพื้นที่จากอนุสาวรีในระยะ 1,000 สิ่งปลูกสร้างทั้งหมดโดนทำลาย ออกมาที่ 1500 เมตรเลือดสาดกระจายไปทุกที่ เพราะมีมอนสเตอร์จากด้านหลังเขามาสมทบกับคนธรรมดาหลายร้อยที่หลบอยู่ตามที่หลบภัย แต่พอการสู้รบขยายตัวก็ไปไหนไม่รอดจึงตายที่นี่ด้วยจำนวนมาก
ชีวิตคนธรรมดาเปราะบางมากและก็ไม่มีใครสนใจพวกเขา
10 นาทีต่อมาสถานการณ์เหมือนจะได้เปรียบ แต่กองกำลังมอนสเตอร์เพิ่มมากขึ้นและยิ่งมีมอนสเตอร์แปลก ๆ อย่างพวกมอนสเตอร์หูแหลมที่ระดับ C เรียกมันว่า ก็อบลิน พวกมันได้เข้ามาควบคุมและสั่งการมอนสเตอร์
แถมมอนสเตอร์ยังได้รับการสนับสนุนจากมอนสเตอร์บอสมนุษย์ต้นไม้ระดับ C เป็นมอนสเตอร์ที่เป็นต้นไม้ที่มีรากนับร้อยที่โจมตีได้เหมือนกับหนวดที่แหลมคนและด้วยร่างที่มีขนาดใหญ่ พอมันเคลื่อนตัวมาก็ทำลายตึกจนพังราบเป็นทาง มันมาช้าเพราะต้องเดินมาที่นี่จากเขต 1 ซึ่งสามารถโจมตีทำลายกระสุนจากปืนใหญ่ระดับ E ได้ด้วย
มีมอนสเตอร์บอสหมาป่าเพลิงระดับ C ได้ทำลายปืนใหญ่อีก 1 กระบอกทิ้งไปแล้วด้วย
20 นาทีต่อมาทั้งมนุษย์และมอนสเตอร์กันจนเลือดอาบพื้นปูนและดินจนชุ่มเป็นธารเลือดไหลไม่หยุด บางจุดก็มีหลุมขนาดหลายสิบถึงร้อยเมตร ซากศพนอนตายอยู่ด้านในจำนวนมาก
จากการคำนวณดูแล้วเหนือมนุษย์ตายไปไม่ต่ำกว่า 1,000 คน ส่วนใหญ่เป็นระดับ F และ E ระดับ D ตายไปครึ่ง ระดับ C เหลือกันอยู่แค่ 7 คนเท่านั้น
ทั้งหมดกัดฟันแน่นมองดูความสูญเสียที่เกิดขึ้น พวกเขาไม่คิดว่าการเข้าหาตัวของเด็กสาวหายนะนั้นจะยากขนาดนี้ เพราะไม่ว่าจะทำยังไง ถ้าเข้าใกล้มอนสเตอร์ระดับ C จะทำทุกวิถีทางเพื่อหยุดพวกเขา โดยไม่สนใจว่ามันจะตายไปด้วยหรือไม่
และการตายของเหนือมนุษย์ระดับ C ทั้ง 6 ก็มาจากการพลีชีพของมอนสเตอร์ระดับ C พวกนั้น
การสูญเสียของมนุษย์ถึงจะหนัก แต่มอนสเตอร์ก็ไม่ต่างกัน พวกมันตายกันไปนับหมื่นตัวและกำลังรบเหลือเหลือไม่กี่พันตัวเท่านั้น
ระดับ C ที่รอดทั้ง 7 คนมารวมกันอีกครั้งโดยที่เหลืออยู่คือ ดีลเลอร์จากสำนักงานเหนือมนุษย์และพวกอีกสองคน ฟารันกิลด์กะโหลกดำ กายจากกิลด์กายาเหล็ก และคาร์ลกับมาเรียจากสำนักงานเหนือมนุษย์ พวกนี้คือคนที่มีพลังพรสวรรค์และประสบการณ์สูง จึงเอาตัวรอดจากมอนสเตอร์ที่โจมตีแบบพลีชีพมาได้
ซึ่งทุกคนที่รอดไม่มีใครคิดจะเอาชีวิตตัวเองไปทิ้งโง่ ๆ แน่นอน
“ทำไมมันถึงไม่พาเด็กคนนั้นหนีไปจากที่นี่ทั้งที่หาตัวเจอแล้ว” กายถามด้วยน้ำเสียงหอบ กล้ามเนื้อทั้งตัวเขากำลังสั่นเทา
“มันอาจจะหนีไปไม่ได้ เพราะพวกเราล้อมมันไว้” ฟารันกล่าว
ทุกคนมามองที่ตาแก่คนนี้ เขาคือคนที่ทำให้เหนือมนุษย์ระดับ C สองคนตาย เพราะการใช้เขาเหลี่ยมให้เหนือมนุษย์ระดับ C สองคนต้องโดนการโจมตีแทนจากการเข้าไปโจมตีเจน แต่ใครจะเอ่ยปากแทนคนตาย โดยเฉพาะนี่มันคือสงครามในเมื่อเต็มใจไปสู้เองก็ต้องยอมรับว่าอาจจะตายได้ ทุกคนทำได้เพียงมองด้วยความไม่พอใจ แต่ไม่ยังต้องการกำลังรบจากฟารันอยู่
“ไม่ใช่ เธอกำลังรอบางอย่างอยู่ ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้เธอเอาแต่เงยหน้ามองท้องฟ้า” ดีลเลอร์กล่าว
“ท้องฟ้าเหรอ มันมีอะไร” เหมือนทุกคนจะนึกขึ้นได้จึงพากันเงยหน้ามองดูท้องฟ้า มันไม่มีอะไร
“พวกคุณสังเกตไหม มอนสเตอร์ที่ออกมาจากประตูน้อยลงเรื่อย ๆ แต่ประตูยังเปิดค้างไว้อยู่” มาเรียเหนือมนุษย์ระดับ C ที่เป็นหญิงช่างสังเกตบอกกับทุกคนถึงประตูมิติ
ตั้งแต่ที่ประตูเปิดออกมา พอมอนสเตอร์ออกมาประตูก็ไม่ปิดลง แต่ว่าก็ไม่มีมอนสเตอร์ออกมาอีก ซึ่งไม่มีใครสังเกตเลย แต่ตอนนี้พอพวกเขาดูดี ๆ มันมีความผิดปกติเกิดขึ้นจริง
“ระบบตรวจสอบและระบุตำแหน่งทั้งหมดของประตูมิติทั้งเมืองปลายฝน” ดีลเลอร์เหมือนจะคิดอะไรขึ้นมาได้จึงสั่งให้ไกอาตรวจสอบทันที
แหวนเครือข่ายไกอาแสดงผังเมืองและประตูมิติที่เปิดขึ้นมา รวมทั้งระยะเวลาด้วย
โดยเริ่มจากการช่วงที่มีการโจมตี จากข้อมูลประตูมิติในช่วงแรกเปิดอย่างสุ่ม แต่พอผ่านไปสักพักไม่มีประตูเกิดขึ้นที่เขตอื่นอีก แต่เกิดขึ้นที่เขต 5 จำนวน 30 แห่ง ระยะเวลาต่อมาประตูเปิดอีกครั้งที่เขต 4 จำนวน 40 แห่ง
และเขต 3 อีก 128 แห่ง ทั้งหมดเปิดขึ้นในเขต 3 บริเวณอนุสาวรี
พอพวกเขาเห็นข้อมูลก็พากันตกตะลึง ก่อนจะมองไปที่เด็กสาวหายนะ เพราะจำนวนที่มากขึ้น 3 เท่าเป็นช่วงที่เด็กสาวระเบิดเสาพลังงานออกมา
“ประตูมิติมันเปิดขึ้นตามตำแหน่งของเธอ”
สิ้นเสียงคำพูดของดีลเลอร์ก็มีรอยแตกดังขึ้นมามันมาจากประตูมิติที่เปิดขึ้นทั้งหมดรอบเมือง ก่อนจะตามมาด้วยรอยแตกของมิติเป็นเส้นเล็ก ๆ
“หลบเร็ว”
ทุกคนรีบหลบออกมาจากรอยแตกของมิติที่ขยายมาจากประตู รอยแตกพวกนั้นไปเชื่อมต่อกันที่เหนือใจกลางอนุสาวรี โดยมีเจนเป็นจุดศูนย์กลาง
รอยแตกเหล่านั้นรวมกันทำลายท้องฟ้าเหนือเมืองปลายฝน ก่อนจะเกิดคลื่นพลังงานต่างมิติระเบิดออกมาอย่างรุแรง
เหตุการณ์นี้ทำให้ทั้งมนุษย์ทุกคนต่างหวาดกลัว เพราะบนท้องฟ้าในตอนนี้กลับเกิดรอบแยกมิติที่มีขนาดเกือบครึ่งหนึ่งของเมือง
“ประตูมิติจากโลกสมบูรณ์”
เหนือมนุษย์ระดับ C ทุกคนพูดออกมาพร้อมกันและมองด้วยความหวาดกลัว