ตอนที่ 3 - ศิษย์พี่เวิ่น...
ซันฟุหยื่อมองเวิ่นจีฮ่าวขณะเขาเดินจากไป.
ศิษย์พี่เวิ่นเดินจากไปอย่างใจเย็นและสง่ามาก ราวกับว่าเขาลืมเรื่องตะกี้ไปแล้วเลย.
เขาคงต้องแกร่งมากแน่ๆถึงสุขุมได้แบบนั้น.
แล้วซันฟุหยื่อก็เดินตามเขาไป.
เขาเองก็เคยเห็นเวิ่นจีฮ่าวมาบ้าง. เวิ่นจีฮ่าวเป็นคนที่ใช้ลานซ้อมดาบนานที่สุด. เขาไม่เคยชายตามามองซันฟุหยื่อมาก่อน ส่วนซันฟุหยื่อเองก็มีเรื่องที่ตัวเองต้องทำอยู่แล้ว ทั้งคู่จึงไม่เคยได้คุยกันเลย.
กระทั่งตอนนี้ เวิ่นจีฮ่าวเป็นคนแรกที่...
อ้า! ซันฟุหยื่อลืมขอบคุณเขาไปเสียสนิทเลย! ทำไมเขาถึงได้โง่และขี้ลืมแบบนี้กันนะ?!? เพราะแบบนี้ไงเขาจึงตัวคนเดียว.
แต่เขาก็ไม่ควรไปกวนศิษย์พี่....
ผมกับชุดของศิษย์พี่เวิ่นนั้นดูไม่เป็นระเบียบมาก แต่เขากลับดูใจเย็น เขากำลังเงยหน้าขึ้นไปมองพระอาทิตย์ราวกับกำลังรับแสงแดด.
ซันฟุหยื่อคิดไม่ออกเลยว่าศิษย์พี่เวิ่นกำลังเดินไปไหน. เขากำลังหาอะไรอยู่งั้นหรอ? เพราะแบบนี้อู่ชิงชิงกับคนอื่นถึงกลัวงั้นหรอ?
ไม่ว่าศิษย์พี่เวิ่นจะทำอะไรอยู่ก็ตาม เขาดูไม่รีบรนอะไรเลย. นิ้วเรียวยาวของเขากำลังลูบไล้ใบไม้และดอกหญ้าอยู่. ออร่าของเขาก็ดูสงบมากด้วย.
นั่นเป็นเพราะเวิ่นจีฮ่าวสงบจริงๆ. ความเครียดต่างๆในชีวิตก่อนกำลังสลายไปในขณะที่เขากำลังดื่มด่ำกับความงดงามของธรรมชาติ. เขาคิดว่าคนสวนของสำนักตะวันทองคงมีหน้าที่คอยปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายแน่ๆ.
ในช่วงเวลาที่สงบสุขนี้เอง เวิ่นจีฮ่าวก็ได้รับความทรงจำของร่างต้นเพิ่มขึ้นมาอีก. ด้วยความสงสัย เวิ่นจีฮ่าวขยับแขนไปมาราวกับว่ากำลังถือกระบี่อยู่.
ดูเหมือนว่าเขาจะจำกระบวนท่าพื้นฐานของวิชากระบี่ได้. ทว่าเวิ่นจีฮ่าวคนก่อนนั้นเอาแต่ฝึกวิชาจนแทบไม่พัฒนาขึ้นเลย เวิ่นจีฮ่าวคนใหม่นี้จึงไม่เห็นด้วย.
เขาชอบออกแรงน้อยๆแล้วสนุกไปกับชีวิตเสียมากกว่า. เขาไม่ได้มีชะตาจะเป็นคนที่แกร่งที่สุดอยู่แล้ว. แถมไม่ได้เกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์อะไรเลยด้วย. แล้วทำไมเขาต้องมาลำบากตัวเองเพื่อให้เป็นคนที่แกร่งที่สุดด้วยล่ะ?
มีเรื่องอื่นที่น่าสนใจกว่าการฝึกวิชา23ชั่วโมงต่อวันอยู่นะ.....
ตัวอย่างเช่น..........อาหารไงล่ะ.