ตอนที่ 20 ลูกเสือตัวน้อยมาถึงแล้ว!
ทะลุมิติมาสร้างสวนสัตว์ในฝัน ตอนที่ 20 ลูกเสือตัวน้อยมาถึงแล้ว!
คุณพ่อถึงนึกถึงความทรงจําในอดีต “ลูกต้องจําไม่ได้อยู่แล้วสิ ตอนนั้นลูกยังเป็นทารกตัวน้อยอยู่เลย”
“ตอนนั้นลูกน่าจะอายุประมาณ 3 เดือน แล้วแม่ของลูกเกิดอยากออกไปเที่ยว พวกเราเลยพาลูกไปที่สวนสัตว์ของ เมืองกัน พ่อจําได้ว่าตอนนั้นที่สวนสัตว์มีทั้งสิงโต เสือ นกยูง แล้วเราก็สามารถให้อาหารพวกมันได้โดยจ่ายเงินซักหน่อย”
“เอาจริง ๆ แล้วพ่อก็ไม่ค่อยขอบที่นั่นซักเท่าไหร่ สัตว์พวกนั้นมันโดนขังไว้ในกรงแถมดูไม่มีความสุขด้วย พอลูกโตขึ้ นพวกเราเลยไม่ได้พาลูกไปที่นั่นแล้ว”
คุณแม่ถึงถามขึ้นมาอย่างสงสัย “สวนสัตว์หลินไห่เป็นสวนสัตว์ที่ค่อนข้างล้าหลัง แต่ทําไมอยู่ ๆ ลูกถึงอยากรู้เรื่องสวน สัตว์นี้ละ? ลูกอยากไปเที่ยวสวนสัตว์ด้วยกันเหรอ?”
คุณพ่อถังขมวดคิ้วแล้วพูดขึ้น “ผมได้ยินเพื่อนร่วมงานคุยกันเมื่อไม่กี่ปีก่อนว่าที่นั่นแทบไม่มีสัตว์แล้ว ไม่แน่ใจว่ามันจะยังเปิดอยู่รึเปล่า”
“อย่างงั้นเหรอ...งั้นเราลองไปเที่ยวที่นั่นช่วงวันชาติไหม ลองไปที่สวนสัตว์เมืองใกล้ ๆ นี่ก็ได้นะ”
ถังเสี่ยวซินได้คําตอบแล้วก็รีบโบกไม่โบกมือปฏิเสธไป “ไม่เป็นไรค่ะ! หนูแค่ถามไปเรื่อยเฉยๆ”
เมื่อวันชาติครั้งก่อน พ่อแม่ของเธอพาเธอไปเที่ยวแต่สุดท้ายพวกเธอก็ต้องติดอยู่บนถนนเกือบทั้งวัน ทําให้นั่นเป็นประ สบการณ์ที่ไม่มีวันลืมสําหรับเธอไปเลย
เราจะไปเที่ยวทําไม อยู่บ้านไม่สบายกว่างั้นเหรอ?
“สําหรับวันนี้ก็ขอบคุณทุกคนมากครับ!”
ฟางเย่โบกมือให้กับกล้องด้วยรอยยิ้ม แล้วก็ขมวดคิ้วเบา ๆ เมื่อไม่มีใครมองมา เขาพูดคุยกับหลานลี่เล็กน้อยก่อนจะรีบกลับห้องพักเพื่อพักผ่อน
การใช้งานทักษะหลายครั้งส่งผลต่อพลังจิตของเขาอย่างมาก แต่เพื่อให้เขาสามารถอาบน้ําให้กับเสี่ยวเฉียวได้ก็จําเป็นที่จะต้องทํา ซึ่งนั่นทําให้เขารู้สึกอ่อนเพลียเป็นอย่างมาก
ฟางเย่หลับไปซักพักเพื่อให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมา เมื่อเขาตื่นขึ้นก็พบว่าเลยเวลาทานอาหารเย็นแล้ว “ไปขอให้เหล่าจางทําก๋วยเตี๋ยวให้กินหน่อยดีกว่า”
เขาลุกจากเตียงพร้อมกับจับท้องที่ส่งเสียงออกมาเพราะความหิว “ทักษะแรงดึงดูดใช้พลังจิตไปเยอะมาก! แถมตอนที่ ใช้ทักษะวันนี้ก็ดูเหมือนผลของมันจะแย่กว่าเมื่อวานหรือเปล่า? เสี่ยวเฉียวเริ่มไม่ยอมให้ฉันจับแถมยังพยายามดิ้นอยู่หน่อยๆ ด้วยสิ”
ฟางเย่คิดอยู่ซักพักแล้วก็มีความคิดหนึ่งปรากฏขึ้นมา
เช่นเดียวกับเด็ก ๆ ที่ไม่เคยกินไก่ทอด แฮมเบอร์เกอร์และเฟรนฟราย หรือไม่ก็เมื่อพวกเขาได้ไปกิน KFC เป็นครั้ง แรกก็จะเต็มไปด้วยความสุขราวกับว่าพวกเขาสามารถกินมันได้ทุกวัน พร้อมกับคิดว่าอาหารที่พ่อและแม่ของพวกเขาทํามันไม่อร่อย
แต่เมื่อพวกเขากินไปหลายครั้งเข้า ก็จะพบว่ารสชาติของมันก็เป็นเหมือนเดิมและไม่ได้อยากกินเท่าตอนแรก แถมเมื่อพวกเขาโตขึ้นก็ไม่ชอบกินอาหารแคลลอรี่สูงเหล่านี้แล้ว
ออร่าที่ปรากฏขึ้นเมื่อเขาใช้ทักษะแรงดึงดูดก็เช่นกัน แม้ในตอนแรกจะทําให้พวกมันรู้สึกชื่นชอบเป็นอย่างมาก แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็จะทําให้มันรู้สึกเฉย ๆ ราวกับมันเป็นเรื่องปกติ
“มาดูแต้มของวันนี้ดีกว่า!” ฟางเย่เปิดระบบขึ้นมาพร้อมกับมองไปที่แต้มความนิยม
[แต้มความนิยม : 15,000]
เขาสามารถสุ่มได้หลายครั้งในรอบเดียวเลย! “บางทีฉันอาจจะได้อุปกรณ์มาเพิ่มค่าพลังจิตก็ได้!”
ฟางเย่เริ่มการสุ่มแต่ว่า...
แล้ว
ตุ๊กตาอัลปากา!
ตุ๊กตาเสือ!
ตุ๊กตา...
“เห้อ! ระบบอยากให้ฉันเปิดร้านขายของชําเหรอเนี่ย!” ฟางเย่บ่นขึ้นมาเบา ๆ เพราะตอนนี้เขาได้รับตุ๊กตามาหลายตัว
ในท้ายที่สุดเขาก็ได้รับอย่างอื่นนอกจากตุ๊กตา [ขอแสดงความยินดี! ท่านได้รับ “น้ํายาผู้พิทักษ์]
หลอดแก้วโปร่งแสงที่ด้านในมีน้ําสีทองเปล่งประกายอยู่ด้านในโผล่ขึ้นมา (น้ํายาผู้พิทักษ์ : เมื่อให้กับสัตว์ จะ เพิ่มความทนทานและภูมิคุ้มกันต่อโรคให้กับสัตว์เหล่านั้น (หมายเหตุ : ยิ่งสัตว์มีขนาดตัวที่ใหญ่มากขึ้น ผลของน้ํายาก็จะลดลง)]
ฟางเย่ถามระบบอย่างสงสัย “ระบบ น้ํายาที่สามารถให้กับมนุษย์ได้หรือเปล่า?”
ได้ เพียงแต่ผลของนํ้ายาดังกล่าวจะน้อยมาก
ฟางเย่ยักไหล่เบา ๆ แล้วหยิบน้ําตาผู้พิทักษ์ออกมา
ยังไงซะเขาก็แข็งแรงอยู่แล้ว ไม่จําเป็นที่จะต้องใช้ก็ได้
น้ํายาผู้พิทักษ์นับเป็นของดีที่สามารถนํามาใช้ได้หลากหลายรูปแบบ เช่นหากเจ้าของร่างเดิมนําน้ํายานี้ไปให้กับลิงที่กําลังป่วยแล้วยังไม่หาย บางทีเขาอาจจะไม่ต้องไปยืมมือสัตวแพทย์จากสวนสัตว์อื่นมาก็ได้
วันต่อมา
ฟางเย่เดินไปที่โรงแสดงเสือเพื่อตรวจสอบความคืบหน้าการก่อสร้าง ซึ่งคนงานก่อสร้างได้รื้อกรงเหล็กและพื้นคอนกรีตออกไปแล้ว แล้วรถบรรทุกก็นําทรายสีเหล็กมาเทเพื่อสร้างความเป็นธรรมชาติ
เป็นทีมก่อสร้างที่ทํางานได้เร็วมาก!
หลังจากนั้นเขาก็เดินไปรอบ ๆ สวนสัตว์พร้อมกับถ่ายทอดสดไปเป็นระยะ
แต่ละวันผ่านไปอย่างสงบสุข
“ผู้อํานวยการ! มีวัสดุมาส่งครับ! ใช่ของคุณไหมครับ?” เสี่ยวเลยที่กําลังยืนเวรอยู่โทรเข้ามาหาเขา
“วัสดุอะไรเหรอครับ?” ฟางเย่ถามไปอย่างสงสัย
“ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ คนขนส่งเอากล่องไม้มาวางไว้ครับ”
ฟางเย่นิ่งไปซักพักก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าวันนี้คือวันที่เสือโคร่งขาวเบงกอลตัวน้อยที่ระบบส่งมาได้เดินทางมาถึงสวนสัตว์
นั่นทําให้เขารู้สึกตื่นเต้นมาก! “เอามาที่ออฟฟิศของผมเลย แล้วตอนเอามาก็ระวังด้วย! ไม่สิ! เดี๋ยวผมไปเอาเองเลยดีกว่า!!”
ฟางเย่รีบวิ่งไปที่หน้าสวนสัตว์อย่างรวดเร็วจนหายใจแทบไม่ทัน หลังจากที่ขอบคุณเสี่ยวเล่ยแล้วเขาก็หยิบกล่องไม้กลับมาที่ออฟฟิศอย่างระมัดระวัง
เขาวางกล่องไม้ไว้บนโต๊ะอย่างเบามือที่สุด
กล่องไม้นี้เป็นกล่องขนาดกลางเหมือนกับกล่องขนส่งทั่วไป แต่มันดูแข็งแรงมากและมีโลโก้ของเกม “Planet Zoo ประทับไว้บนกล่อง และฝากล่องก็ถูกล็อคเอาไว้อย่างดี
ฟางเยี่ยืนมองกล่องไม้อยู่พักใหญ่แต่ก็ไม่พบอะไร สุดท้ายเขาก็พบเครื่องตรวจลายนิ้วมืออยู่บริเวณฝาของกล่อง
“อย่าบอกนะว่าเป็นระบบแสกนลายนิ้วมือน่ะ?” ว่าแล้วเขาก็น่านิ้วมือไปแตะที่ตัวเครื่องแสกนอย่างระมัดระวัง
พร้อมกันนั้นก็มีเสียง “กริ๊ก” และฝากล่องก็เปิดออกอย่างอัตโนมัติ
เขาปัดควันสีขาวที่ลอยออกจากกล่องให้หมด “เชี่ย! ควันสีขาวนี่มันอะไรเนี่ย!”
[แก๊สพิเศษที่ใช้ทําให้สัตว์หลับลึก เพื่อความสะดวกในการขนส่ง]
ฟางเย่เกาหัวของตัวเองแล้วพูดกับตัวเองเบา ๆ “อย่างกับแคปซูลกาลเวลาในพวกหนังไซไฟเลยแฮะ”
เขาเปิดกล่องแล้วพบว่าด้านล่างของกล่องมีผ้าขนหนูสีเหลืองวางกองไว้ ซึ่งด้านบนผ้ามีเสือโคร่งขาวตัวน้อยกําลังนอนหลับตาอยู่ด้านบน