ตอนที่แล้วตอนที่ 1 - งานประลองภายในสำนักตะวันทอง! … (แล้ว) ไงนะ?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 3 - ศิษย์พี่เวิ่น...

ตอนที่ 2 – ฉากบุลลี่อีกแล้วเหรอ *เห้อ*


ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่เวิ่นจีฮ่าวยังมีชีวิตอยู่ในศตวรรรษที่21, เขาทำงานอยู่ในห้องสลัวๆที่ร้อนเกินไปในหน้าร้อนและหนาวเกินไปในหน้าหนาว.

ในฐานะพนักงานรีโมตเวิร์คแล้ว (พนักงานออนไลน์ ทำที่ไหนก็ได้), เขามีหน้าที่รอ “รับสาย” ตลอด24ชั่วโมงและต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำเพื่อหัวหน้าของเขา จะได้มีตำแหน่งที่ดีขึ้น. หน้าต่างห้องของเขาอยู่ฝั่งกำแพงหมองๆของตึกข้างๆบ้าน. มันเป็นวิวที่ไม่รื่นรมย์เอาเสียเลย. เขาทำงานนอกเวลาทุกวันแต่ก็ไม่ได้เงินตอบแทนเลย. เขาเกือบจะตายเพราะทำงานหนักเกินไปตอนที่ส่งตัวอย่างโปรเจ็คครั้งที่10นั่น.

ตอนที่ได้ออกมาข้างนอกเป็นครั้งแรกบนถนนที่มีแต่ขี้นกนั้น เขาเหนื่อยเสียจนไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างบนถนนเลย...

..

ตายซะได้ก็ดี. เขาไม่ได้สนใจอยู่แล้วด้วย.

รีแอคชั่นแรกของเวิ่นจีฮ่าวหลังได้ย้ายมาต่างโลกคือ ขอร้องนะ.

แต่เมื่อเขาได้หลีกหนีจากงานประลองหนวกหูนั่นแล้ว เขาก็รู้สึกดีขึ้น.

เขากำลังดื่มด่ำกับภาพดอกไม้และสวนของสำนักตะวันทองอันงดงาม. เขาฟังเสียงใบไม้สะพัดกับลมและสูดอากาศที่สดชื่นและหอมหวนเข้าไป.

นี่แหละ! ทุกครั้งที่หายใจเข้าออก เขารู้สึกได้เลยว่าจุดชีพจรของเขาโล่งมากขึ้นและกล้ามเนื้อก็ผสานเข้ากับพลังปราณ.

เขาตั้งแคมป์ตรงนี้เลยดีไหมนะ? เอาผ้ามาปูแล้วนอนใต้อาทิตย์อุ่นๆนี่เลยดีไหม?

ศิษย์ทุกคนมัวแต่ชิงดีชิงเด่นกันจนลืมชมความงามของธรรมชาตินี้ไป.

“เจ้า....เอา....โง่...”

คำพูดหยาบคายทำให้เวิ่นจีฮ่าวหลุดจากภวังค์. เขาขมวดคิ้วขึ้นมาทันที. เขาพยายามจะเมินเสียงนั่นไป แต่มันยิ่งทำให้เขาไม่พอใจขึ้นไปอีก.

“…ได้โปรด, ปล่อยข้าไปเถอะ..”

“ข้าเห็นเจ้ามองข้าแบบนั้น...เจ้าต้องชดใช้...”

...

แม่มเอ๊ย! เขารู้สึกเลือดร้อนเหมือนวัยรุ่นอายุยี่สิบกว่าๆ. แต่เอาจริงๆเจ้าของร่างเก่าก็อยู่ในช่วงวัยรุ่นนี่นะ ถ้าพวกเขารวมอายุกันแล้วก็คงจะสามสิบปลายๆใช่ไหมล่ะ?

เวิ่นจีฮ่าวรีบรุดหน้าไปทางต้นตอของเสียงในสวนด้วยสีหน้าหมองหม่น.

ในมุมหนึ่งของสวนนั้น, มีศิษย์ชั้นนอกในชุดสีเหลืองคนหนึ่งกำลังยืนล้อมศิษย์อีกคนอยู่ติดกำแพง.

“มาสิวะ, สู้กับข้า, วันนี้เจ้าจะกลัวอะไรนักหนา?” ศิษย์หน้าใหม่ที่แกร่งที่สุด, เด็กผู้หญิงนามว่าอู่ ชิงชิงยิ้มเย้ยออกมา. สายตาของนางดูอำมหิตขณะที่กำลังกล่าวหาเรื่องกับเหยื่อของเธอ. มือข้างหนึ่งของนางพักอยู่บนกระบี่ที่เอวของเธอ ชุดของนางสะพัดไปมาเพราะพลังปราณที่นางสร้างขึ้น.

ศิษย์หนุ่มคนหนึ่งมองนางแล้วพยายามข่มความโกรธเอาไว้ในดวงตาสีน้ำตาลอ่อนนั้น “ข้าขอตัวก่อน ศิษย์พี่” พอกล่าวเสร็จเขาก็ก้มหัวจากไป.

“อา, ไม่เอาน่า, ซัน ฟุหยื่อ!” สหายของนางกล่าวขึ้นมา “ศิษย์พี่อู่อุตส่าห์สละเวลามาช่วยเจ้าเลยนะ!”

“ช่างเถอะ รีบค้นกระเป๋ามันเลย, ข้ารู้ว่ามันต้องมีศิลาวิญญาณอยู่แน่. ศิษย์พี่อู่จะเอามันไปใช้เอง”

ซัน ฟุหยื่อลนลานขึ้นมาทันทีหลังจากที่ศิษย์คนอื่นๆผลักเขาเข้าไปติดกำแพง “ข้าได้มันมาอย่างยุติธรรมนะ!”

เส้นเลือดปูดขึ้นมาบนหน้าผากของเวิ่น จีฮ่าวทันที. ไอ้พวกเด็กเวรนี่!. ไอ้ฉากบุลลี่ที่เห็นบ่อยๆนี่มันอะไร?

“เด็กๆทำอะไรกันน่ะ?” เวิ่นจีฮ่าวกล่าวขึ้นมา. เขาลืมไปเลยว่าร่างกายเขาตอนนี้แก่กว่าพวกศิษย์คนอื่นแค่ไม่กี่ปีเอง.

อู่ ชิงชิงเลือดขึ้นหน้าขึ้นมาทันที “เจ้าจะเอารึ? เจ้ามาอยู่ที่นี่...แสดงว่าเจ้าแพ้ให้กับศิษย์พี่หวังอีกแล้วสินะ, เหอะ?”

ใช่แล้ว, อู่ ชิชิงรู้จักเวิ่นจีฮ่าวคนก่อนและรู้ว่าเขาทั้งไม่มีความสามารถและโมโหง่ายด้วย.

“พวกเจ้ากล้ามาก่อกวนความสงบสุขในสวนงั้นเหรอ? เจ้ากล้าชักกระบี่ที่นี่งั้นเหรอ?” เวิ่นจีฮ่าวจ้องไปที่พวก’เด็กน้อย’นั่น. ความรำคาญเริ่มระเบิดออกมาในอกของเขา. เขาอยากจะเบิ้ดกระโหลกเด็กพวกนี้แต่ก็พยายามไม่พูดแรงกับเด็กๆ ไม่งั้นแล้วโตมาคงเป็นคนไม่ดีแน่. เห้อ!

เขาอ่อนเสียงลงแล้วกล่าว “ข้าว่าพวกเราแยกย้ายกันไปดีกว่านะ? สู้กันไปก็มีแต่เสียเวลาทั้งสองฝ่าย”

อู่ ชิงชิงหรี่ตาลง. นางรู้สึกได้ถึงความระวังตัวจากท่าทีที่สุขุมของเวิ่นจีฮ่าว. หากเป็นแต่ก่อนนั้นเขาคงพุ่งเข้ามาฟันแล้ว, พลังปราณของเขาก็จะไม่สงบและปั่นป่วน ทำให้พ่ายแพ้ทุกครั้งไป. แต่ทว่าตอนนี้พลังปราณของเขาเป็นเหมือนกับคลื่นทะเล. ทั้งสงบและสุขุม.

อู่ ชิงชิงเองก็ไม่ได้โง่พอที่จะพุ่งเข้าไปสู้. เวิ่นจีฮ่าวคนนี้น่าจะได้ของดีมาและพูดยั่วยุนางโดยตั้งใจ.

นางประชดออกมา “ก็ได้, ข้าจะใจดียอมรักษาหน้าเจ้าอีกครั้งก็ได้” นางเชิดหน้าไปแล้วหันไปบอกเพื่อนๆของนาง “พี่น้องข้า ไปทำเรื่องอื่นที่สนุกกว่ากันเถอะ”

พอกล่าวเสร็จนางและเพื่อนก็จากไป.

เวิ่นจีฮ่าวกรอกตา. เด็กทุกวันนี้หนิ. เขาพยักหน้าให้ศิษย์น้องซัน ฟุหยื่อแล้วหันกลับไปดื่มด่ำกับสวนต่อ. ตาของเขาสดใสขึ้นมาอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงนกร้อง.

ในที่สุดก็เงียบสงบอีกครั้ง!

โชคดีที่อู่ ชิงชิงไม่อยากจะประดาบด้วย เพราะเวิ่นจีฮ่าวเองก็ไม่รู้ว่าตัวเขายังมีความรู้เรื่องการต่อสู้ของเวิ่นจีฮ่าวคนก่อนอยู่ไหม!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด