ตอนที่ 13 ถุงเท้ายาวกับสาวงามผู้เย็นชา
ทะลุมิติมาสร้างสวนสัตว์ในฝัน ตอนที่ 13 ถุงเท้ายาวกับสาวงามผู้เย็นชา
“หม่าม้า เจ้าขนฟูชื่ออะไรเหรอคะ?”
เด็กหญิงจับที่ชายเสื้อของผู้เป็นแม่แล้วเขย่ามันเบาๆ พร้อมกับถามด้วยน้ําเสียงของเด็ก ซึ่งคุณแม่ก็ลําบากใจไม่น้อย เพราะตนก็ไม่ทราบจึงได้แต่หันไปมองฟางเย่ที่ยืนอยู่ข้างๆ เพื่อขอความช่วยเหลือ
คนที่เข้ามาห้ามไม่ให้หญิงชราให้อาหารสุนัขจิ้งจอกก็เดินมาพร้อมกับเขา และเสื้อสีเขียวของเขาก็ดูเหมือนพนักงานของสวนสัตว์แห่งนี้
ฟางเยี่ยิ้มแล้วย่อตัวให้ระดับสายตาอยู่ระดับเดียวกับเด็กหญิงแล้วพูดด้วยน้ําเสียงที่เป็นมิตร “สหายตัวน้อย จิ้งจอกตัว นี้ชื่อว่าถังเป่า! หนูได้ยินเสียงเขาร้องเมื่อกี้ไหม? เขากําลังทักทายหนูอยู่ด้วยละ!”
คําพูดของเขาทําให้เด็กหญิงเต็มไปด้วยความดีใจ เธอโบกมือให้กับถังเป่าอีกครั้ง “เจ้าขนฟู! สวัสดีค่ะ! นายน่ารักมาก”
ถังเป่าเอาขาทั้งสองข้างมาพาดไว้กับราวเหล็ก หางฟูๆ ของมันสะบัดไปมา อีกทั้งปลายหางสีขาวที่ราวกับ ไอศกรีมก็ทําให้คนที่มองเห็นต่างอยากลองจับดูซักครั้ง
มันหันหน้าไปมาพร้อมกับดวงตาเล็กๆ สีดําที่มองไปที่คนที่อยู่รอบ ๆ ด้วยความสงสัยพร้อมกับส่งเสียง “อิ๋งอิ๋งอิ๋ง”
เด็กหญิงตัวน้อยที่เห็นหางฟู ๆ ของถังเป่าก็ปรบมือแล้วร้องขึ้นมาอย่างตื่นเต้น “เจ้าขนฟูมีหางใหญ่ด้วย! ทําไมเจ้าขนฟูถึงมีหางเหรอคะ?”
“หางของจิ้งจอกช่วยสร้างสมดุลให้พวกมันเวลามันเดินหรือวิ่ง แล้วในฤดูหนาวพวกมันก็สามารถคลุมตัวเองด้วยหางนี้ ให้เหมือนกับผ้าพันคอเพื่อช่วยต้านความเย็นได้ อีกทั้งหากตัวมันเปื้อนน้ําหรือดินขึ้นมา มันก็สามารถใช้ขนของมันเพื่อทําความสะอาดขนได้อีกด้วย” ฟางเย่อธิบายไปอย่างยืดยาว ซึ่งเด็กหญิงตัวน้อยก็มองมาที่เขาอย่างว่างเปล่า ไม่รู้ว่าเธอเข้าใจที่ เขาพูดไปเท่าไหร่
สําหรับเด็กเล็ก ความรู้เหล่านี้คงไม่ได้จําเป็นมากนัก เพียงแค่สร้างความรักและเคารพในสัตว์ก็เพียงพอแล้ว ส่วนความรู้นั้นเป็นเพียงเรื่องรอง
“แล้วทําไมปลายหางของเจ้าขนฟูถึงมีสีขาวเหรอคะ?” ทําไมเด็กน้อยถึงถามคําถามยาก ๆ แบบนี้ล่ะ! ดีนะที่เขาศึกษาเรื่องเหล่านี้มาเยอะพอสมควร
“ปลายหางของมันมีสีขาวก็เพื่อใช้ในการทําให้ศัตรูสับสนและบังทัศนวิสัยของศัตรู”
“ซวนซวน ขอบคุณคุณลุงด้วยสิคะ”
“ขอบคุณค่ะคุณลุง!!!” เด็กหญิงยิ้มหวานมาให้ฟางเย่ แต่สีหน้าของฟางเย่ก็แปลกประหลาดไปเล็กน้อย
นี่ฉันดูแก่เหรอ? เรียกพี่ชายก็ได้นะเด็กน้อย....
หลังจากที่นักท่องเที่ยวจากไป พวกเขาก็เดินเข้าไปที่กรงสุนัขจิ้งจอกจากด้านหลัง ถังเป่าวิ่งมาหาฟางเย่
พร้อมกับมองหน้าเขาแล้วก็ส่งเสียงร้องราวกับกําลังทักทาย
เฮะเฮะเฮะเฮะ (ผมลองไปหาดูตามที่เมนต์บอก เสียงมันประมาณนี้มั้ง55)
ถังเป่าเป็นสุนัขจิ้งจอกที่ร่าเริงที่สุดในกลุ่ม อีกทั้งมันยังไม่กลัวคนทําให้มันสามารถเล่นมาเล่นกับเหล่านักท่องเที่ยวได้
“ถังเป่า เป็นยังไงบ้างจ๊ะ” หลานลี่เข้าไปทักทาย ในสวนสัตว์แห่งนี้เธอชอบสิ่งมีชีวิตน่ารักทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นอัล ปากาและสุนัขจิ้งจอก ส่วนสัตว์ที่เธอกลัวมากที่สุดก็คือเสืออย่างไม่ต้องสงสัย
ฟางเย่ก้มตัวลงแล้วยื่นมือจะไปลูบหัวของถังเป่า แต่มันก็หลบแล้วล้มลงไปนอนกับพื้น ดวงตาที่ดูเจ้าเหล่ของมันสว่าง ไสว พร้อมกับสะบัดขาทั้ง 4 ของมันไปมา
อยากจับฉันเหรอ? มาสิ!!
ฟางเยี่ยื่นมือเข้าไปหามันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ถังเป่าก็หมุนตัวแล้ววิ่งห่างออกไป พร้อมกับกระโดดไปมาอย่างท้าทาย
เฮะเฮะเฮะเฮะ
มันหัวเราะอย่างสนุกสนานราวกับจะบอกว่า “จับฉันไม่ได้เหรอ? เข้ามาสิ ฉันปล่อยให้จับแล้วเนี่ย!”
ฟางเย่ที่ถูกสุนัขจิ้งจอกหลอกก็หัวเราะเบา ๆ “ฮะฮะ เจ้าซันนี่”
ในขณะเดียวกันเขาก็สังเกตเห็นเส้นขนสีเหลืองส้มหล่นอยู่ในจุดที่ถังเป่ากลิ้งไปมาเมื่อครู่
ช่วงผลัดขนของมันมาถึงแล้ว!!
ทุกคนที่เลี้ยงหมาและแมวต่างทราบว่าในช่วงฤดูร้อน พวกมันจะผลัดขนและเจ้าของควรนําหวีมาใช้เพื่อนช่วย
สางขนที่หลุดออกของมัน ไม่อย่างนั้นทั้งบ้านของพวกเขาก็จะเต็มไปด้วยขนของสัตว์เลี้ยงของตน
ช่วงผลัดเปลี่ยนขนนี้เกิดขึ้นเพื่อที่มันจะปรับตัวเข้าสู่ฤดูใหม่ ซึ่งทําให้ขนของถังเป่าดูน้อยลงและไม่ค่อยสว่างไสว
แม้เขารู้ว่าการผลัดเปลี่ยนขนเป็นเรื่องปกติ แต่นั่นก็ขึ้นอยู่กับว่ามันเป็นการผลัดเปลี่ยนขนที่ปลอดภัยหรือไม่
ดวงตาสังเกตการณ์!
[สุนัขจิ้งจอกแดง : ถังเป่า
อายุ : 2 ปี
อารมณ์ : มีความสุข]
[สถานะสุขภาพ : สัตว์ตัวนี้กําลังอยู่ในช่วงผลัดขน แนะนําให้ทําการหวีขนของมันเพื่อสลัดเอาขนเก่าออกและทําให้ขนใหม่สามารถโตได้ดีขึ้น รวมถึงสามารถพามันไปอาน้ําเพื่อดูแลขนได้แต่ไม่ควรบ่อยเกินไป ซึ่งไม่ควร 3 ครั้งต่อเดือน และขอให้ระวังเรื่องการให้อาหาร...]
อาหารที่แนะนํา : แอปเปิ้ล 200 กรัม, เนื้อสัตว์ 100 กรัม, ขนมปังข้าวโพดสําหรับสัตว์กินพืชกินเนื้อ 20 กรัม, ไข่ 10
ไม่เพียงแค่ระบบแสดงสถานะของสุขภาพเท่านั้น แต่มันยังแนะนําเกี่ยวกับการดูแลรวมถึงการให้อาหารอีกด้วย
แต่ในขณะที่เขาเพ่งทักษะดวงตาสังเกตการณ์ ถังเป่ารู้สึกราวกับว่ามีดวงตากําลังจับจ้องมาที่ตัวเองทําให้มันรีบวิ่งออกไปอย่างไม่สบายใจ แต่เมื่อเขายกเลิกทักษะมันก็วิ่งกลับมา
ฟางเย่หันไปบอกกับหลานลี่ “คุณเห็นขนที่มันร่วงอยู่บนพื้นไหม ตอนนี้ถังเป่ากําลังอยู่ในช่วงผลัดขน ผมอยากให้ เปลี่ยนอาหารของมันเป็น...”
หลังจากที่พูดคุยกันเสร็จ พวกเขาก็เดินมายังจุดที่เหล่าสุนัขจิ้งจอกกําลังนอนพักกันอยู่
โหยวโหยวผู้ขลาดกลัวสังเกตเห็นว่ามีสิ่งมีชีวิตอื่นเข้ามาหาตน ทําให้มันส่งเสียงร้องเบา ๆ แต่เมื่อฟางเย่เดินเข้ามา ใกล้มันก็มุดหัวตัวเองลงไปบนพื้น แล้วไม่ขยับตัวราวกับกําลังหลับ หากไม่ใช่เพราะหูของมันที่ถูกพับลงมาคงไม่มีใครคิดว่า มันกําลังตื่นอยู่
เมื่อเสี่ยวเฉียวได้ยินเสียงร้องของโหยวโหยวทําให้เธอหันมามอง แต่เมื่อเห็นว่าเป็นฟางเย่ก็กลับไปหลับตาดังเดิมอย่าง
เงียบสงบ
เฮอะ!
เจ้าคนทําความสะอาดนี่เอง
ส่วนไม่ซื้อก็นอนพร้อมกับยิ้มอย่างสบายใจโดยไม่สนอะไร
ฟางเย่มองโหยวโหยวที่กําลังทําตัวให้เล็กที่สุดแล้วก็หัวเราะอย่างชั่วร้าย
เจ้าจิ้งจอกขี้ขลาดมันทําให้เขาอยากแกล้งมันดูจริง ๆ !!
“โหยวโหยว! มาให้ฉันลูบหัวเล่นหน่อยเร็ว!” เมื่อมันได้ยินเสียงของเขามันก็ส่งเสียงร้องอย่างน่าสงสาร แต่มือของฟาง เย่ก็เคลื่อนเข้าหามันอย่างรวดเร็ว
ถึงแม้ว่าฟางเย่จะทําตัวเหมือนกําลังจะแกล้งมัน แต่เขากลับทํามันด้วยความอ่อนโยนและเมื่อมือของเขาสัมผัสกับ หัวของโหยวโหยว เขาก็ลูบหน้าผากของมันอย่างอ่อนโยน จากนั้นจึงเลื่อนไปจับที่หูของมันพร้อมกับวนนิ้วไปรอบ ๆ
ราวกับกําลังนวดหูรูปสามเหลี่ยมของมันอยู่
หูของโหยวโหยวนั้นเป็นจุดอ่อนของมัน ทําให้เมื่อถูกจับอย่างอ่อนโยนก็รู้สึกคันนิดหน่อยแต่ก็ผ่อนคลาย ซึ่งนั่นทําให้
มันแอบเหลือบมองที่ฟางเย่ เหมือนกับว่ามันจะไม่กลัวเขาแล้ว
เฮะเฮะ
มันส่งเสียงร้องเบา ๆ แล้วก็พลิกตัวพร้อมกับโชว์หน้าท้องขาว ๆ ให้เขา ขาที่มีขนสีดําของมันลอยไปมากลางอากาศ
นี่คือความพิเศษของโหยวโหยว
สุนัขจิ้งจอกทั่วไปมีเพียงแค่อุ้งเท้าสีดําเท่านั้น แต่ขาของโหยวโหยวนั้นกลับเป็นสีดําราวกับว่ามันสวมถุงเท้าขายาวอยู่
จากนั้นมันก็แลบลิ้นสีชมพูพร้อมกับเลียที่มือของฟางเย่อย่างแผ่วเบา
“น่ารักจัง~” หลานลี่ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็เข้ามาเล่นกับมันด้วย
ฟางเย่เปลี่ยนเป้าหมายใหม่และยิ้มให้มัน “เสี่ยวเฉียว มาให้ตรวจหน่อยเร็ว!!”
เสี่ยวเฉียวเป็นสุนัขจิ้งจอกเงินตัวเดียวในกลุ่ม ขนของเธอเป็นสีเงินดําแซมด้วยสีดําและสีขาว
อีกทั้งนิสัยของมันก็ค่อนข้างหยิ่งและทําตัวลึกลับ
บางคนอาจจะสับสนว่ามันชื่อสุนัขจิ้งจอกสีเงินจะคล้ายกับสุนัขจิ้งจอกขาว แต่จริง ๆ แล้วสุนัขจิ้งจอกสีเงินเป็นสายพันธุ์ย่อยของสุนัขจิ้งจอกแดง หรือบางทีมันก็อาจจะถูกเรียกว่าสุนัขจิ้งจอกสีเงินดํา
ในขณะที่สุนัขจิ้งจอกขาว เป็นที่รู้จักกันในชื่อสุนัขจิ้งจอกอาร์กติก และมักจะอาศัยอยู่ที่มหาสมุทรอาร์กติกและมีขนาดค่อนข้างเล็กกว่าสุนัขจิ้งจอกแดง
ส่วนสุนัขจิ้งจอกสีขาวที่ถูกนํามาเป็นสัตว์เลี้ยงนั้น มันก็คือสุนัขจิ้งจอกแสงที่ผ่านกระบวนการปรับแต่งทางพันธุกรรม ซึ่งทําให้ได้สุนัขจิ้งจอกที่มีขนสีขาวขึ้นมา
เสี่ยวเฉียวนั้นไม่ยอมให้ฟางเย่รังแก
เมื่อมือของเขาห่างจากหัวของมันประมาณ 20 เซนติเมตร มันก็ลืมตาพร้อมกับมองมาที่เขาอย่างเย็นชา
ฟางเย่มองเสี่ยวเฉียว
เสี่ยวเฉียวมองฟางเย่
ดวงตาของมันเย็นชาราวกับกําลังบอกว่า “นายกล้าจับฉันเหรอ”
ห้ามเข้ามา!
หากออร่ารอบตัวสามารถมองเห็นได้ ตอนนี้ตัวรอบของเสี่ยวเฉียวคงเต็มไปด้วยสายลมและหิมะที่เย็นยะเยือก