ตอนที่ 10 – ซันฟุหยื่อกับสัตว์อสูรที่น่ากลัว (ลูกแมว)
ซันฟุหยื่อถูกโยนไถลไปกับพื้น พ่ายแพ้ให้กับอู่ ชิงชิงอีกครั้ง. อย่างน้อยครั้งนี้เขาก็สู้ได้นานกว่าครั้งก่อน.
อู่ชิงชิงเช็ดเหงื่อตัวเองออกด้วยความแสยะ “ศิษย์น้องซัน ทำได้ดีมาก. พรุ่งนี้ค่อยเจอกันใหม่” นางดูถูกเขาอีกครั้งก่อนจะกลับไปเข้ากลุ่มเพื่อนๆของเธอ.
ซันฟุหยื่อมองต่ำลงพยายามไม่ให้เธอเห็นตาที่หมองของเขา. เขาเอาชายเสื้อมาป้องปากไว้แล้วกลืนยาระดับต่ำลงไปเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บภายใน.
อู่ชิงชิงกับเพื่อนๆเดินไปหากลุ่มของหวังลี่เหว่ยตามเดิม “ฝึกกับเจ้าเวิ่นนั่นเสร็จแล้วรึ?” นางถาม.
“เหอะ! เธอหมายถึงเจ้าเวิ่นจีฮ่าวโง่นั่นเหรอ!” หวังลี่เหว่ยกล่าวด้วยความแสยง.
“เขาหนีไปเหรอ? เจอกันรอบก่อนเขาก็หนีนะ”
“เขาเกิดกลัวขึ้นมาหรือ?” เพื่อนของอู่ชิงชิงกล่าวขึ้นมา.
“มันเป็นผู้ฝึกตนที่น่าสมเพสจริงๆ. เลี้ยงเปลืองข้าวสำนักเปล่าๆ” อู่ชิงชิงกล่าว.
หวังลี่เหว่ยเย้ย “ทำตัวแบบนั้น อีกไม่นานพวกผู้ใหญ่คงเตะมันออกไปแน่!”
ซันฟุหยื่อกัดฟันแล้วรีบวิ่งเข้าไปหาพวกเขา “ถ้าพวกเจ้าสองคนคิดว่าตัวเองเก่งกันนักหนาล่ะก็ ทำไมไม่สู้กันเองซะเลยล่ะ?! ศิษย์พี่เวิ่นเก่งกว่าพวกมดปลวกอย่างเจ้าเป็นไหนๆ! ทางอธรรมรึ? พวกเจ้าน่ะเลวยิ่งกว่าอีก! พวกมือถือสากปากถือศีล!”
สีหน้าของหวังลี่เหว่ยแดงขึ้นมาด้วยความโมโห “เจ้า--! มาสู้กันเลย!”
ซันฟุหยื่อเก็บดาบแล้วทำตามศิษย์พี่เวิ่นของเขา, เขารีบวิ่งหนีไป.
ซันฟุหยื่อรีบขึ้นไปที่สูงของสำนักแล้วนึกหาทางที่เวิ่นจีฮ่าวเดินไป...สายตาอันแหลมคมของเขาสังเกตุเห็นเวิ่นจีฮ่าวที่อยู่ในกรงสัตว์อสูร.
...เดี๋ยวนะ, อยู่ในกรงของสัตว์อสูรงั้นเหรอ?! แต่เวิ่นจีฮ่าวเป็นผู้ฝึกวิชาดาบนะ! ซันฟุหยื่อหรี่ตาลงพร้อมๆกับเดินเข้าไปหา.
ใกล้ขึ้น ใกล้ขึ้น...
สัตว์อสูรพวกนั้นมีฟันแหลมคมซี่เล็กๆและกรงเล็บเล็กๆเช่นกัน. แต่ถึงอย่างนั้นศิษย์พี่เวิ่นก็กำลังให้อาหารพวกมันด้วยมือแถมยังลูบตัวด้วยอีก.
นี่เขา....ค้นพบสัจจะธรรมอะไรถึงทำแบบนั้นได้? มันไม่ใช่สิ่งที่ซันฟุหยื่อรู้จักเลยแม้แต่น้อย.
นิ้วของซันฟุหยื่อพันเข้ากับรั้ว. เขารู้สึกได้ถึงสัตว์อสูรที่กำลังย่องมาหาเขา. เขารู้ดีว่าสัตว์ป่าดุร้ายแค่ไหนแถมสัตว์อสูรพวกนี้ก็ยังแกร่งกว่าอีก.
เวิ่นจีฮ่าวเดินตามลูกแมวมา. เขาประหลาดใจเล็กน้อยที่เห็นซันฟุหยื่อ. เขาดูเหงามากที่ยืนอยู่ด้านนอกกรงนั่น.
“โอ้, ศิษย์น้องซัน” เวิ่นจีฮ่าวกล่าวด้วยน้ำเสียงยินดี “เจ้าอยากเล่นด้วยไหมล่ะ? เข้ามาสิ”
ซันฟุหยื่อคำนับหัวลงเล็กน้อย “ครับ ศิษย์พี่”
เวิ่นจีฮ่าวเปิดประตูแล้วรีบให้ซันฟุหยื่อเข้ามาก่อนที่พวกลูกแมวจะออกไป.
“สัตว์อสูรพวกนี้...” ซันฟุหยื่อดูตกใจ.
“ลูกแมวน่ารัก” เวิ่นจีฮ่าวกล่าวอย่างสุขุม. เขาตบหลังซันฟุหยื่อเบาๆ “ไม่ต้องกลัวพวกมันหรอก ถ้าเป็นอะไรไปศิษย์พี่คนนี้ก็ยังอยู่นี่ นี่เนอะ?”
ซันฟุหยื่อก้มหัวลงอีก “อื้อ”
เวิ่นจีฮ่าวยิ้มเล็กน้อย. เป็นเด็กที่ว่าง่ายจริงๆ! เขาตบไหล่ซันฟุหยื่อเบาๆ พยายามไม่ให้โดนผม ไม่งั้นคงเสียทรงแย่.
เวิ่นจีฮ่าวนั่งลงกับพื้น. ซันฟุหยื่อก็นั่งตาม แก้มของเขาแดงขึ้นมาเรื่อๆ. พวกลูกแมวเข้ามากินอาหารมากขึ้นและเล่นกันไปมาระหว่างพวกเขาอย่างมีความสุข. บางตัวถึงกับปีนขึ้นไปบนบ่าของจีฮ่าว กับอีกตัวที่ปีนขึ้นไปบนหลังแล้วเอาเล็บเขี่ยชุดของเขา.
ซันฟุหยื่อมองไปที่สายตาสดใสของเวิ่นจีฮ่าวขณะที่เขาหยอกล้อกับสัตว์อสูรอยู่. พอเวิ่นจีฮ่าวมองมา เขาก็รีบเบือนหน้าหนีทันทีแล้วหันไปจดจ่อกับลูกแมวอสูรขนสีทองนั้น. แต่เขาก็ยังรู้สึกว่าศิษย์พี่เวิ่นกำลังมองอยู่.
เขาไม่เข้าใจเลย. ศิษย์พี่เวิ่นไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน.... เขาไปเจออะไรแย่ๆมาเหรอ? หรือบรรลุธรรม? เขายังไม่ได้ตอบแทนเรื่องคราวก่อนเลย...
เวิ่นจีฮ่าวยิ้มออกมาด้วยความสุข. ซันฟุหยื่อกำลังเอานิ้วเขี่ยพื้นเล่น สีหน้าบูดเล็กน้อยพร้อมกับแก้มที่แดงระเรื่อ. เวิ่นจีฮ่าวมั่นใจเลยว่าท่านป้าต้องชอบเขาแน่ น่ารักแทบจะเหมือนลูกแมวเลย.
ไม่นาน, เสียงฆ้องก็ดังขึ้น ซันฟุหยื่อรีบลุกขึ้นในทันที.
เวิ่นจีฮ่าวจ้องไปที่เขาขณะที่อีกมือก็กำลังลูบแมวอยู่ “จะไปไหนรึ? ไม่ต้องเกรงใจหรอก”
ซันฟุหยื่อคำนับให้ “ข้าขอตัวก่อนครับ ศิษย์พี่เวิ่น, ข้าต้องไปเรียนแล้ว!”
เวิ่นจีฮ่าวลุกขึ้นแล้วพาซันฟุหยื่อออกไปทางประตู “ตั้งใจเรียนล่ะ”
“ครับ!”
จากนั้นซันฟุหยื่อก็นำดาบออกมาแล้วบินจากไป.
เวิ่นจีฮ่าวมองดูเขาจากไป. จริงๆแล้วเขาเองก็น่าจะมีเรียนเหมือนกันแต่เขาไม่สน. เขาเรียนจบจากมหาลัยมาแล้วทำไมต้องเรียนเพิ่มอีก. อีกอย่าง, ไปนั่งเรียนนานๆ ตวัดพู่กันไปมา? ขาเขาคงตะคริวกินตายแน่ๆ แถมคงโดนเตะออกจากห้องเพราะลายมือไก่เขี่ยอีก.
ถ้ากลับห้องไปคงมีคนไปตามตัวอีกแน่ เวิ่นจีฮ่าวจึงตัดสินใจอยู่นี่กับพวกลูกแมวไปอีกซักพัก!