บทที่ 215 : ฉันต้องการสร้างดินแดนอันยิ่งใหญ่ให้กับเขา!
บทที่ 215 : ฉันต้องการสร้างดินแดนอันยิ่งใหญ่ให้กับเขา!
หยวนปิงเม่ยไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะมีคนที่สามารถบรรลุนิพพานถึง 21 ครั้งได้
ยิ่งกว่านี้, เขายังไม่พอใจและต้องการทำนิพพานทางจิตวิญญาณอีก 6 ครั้งต่อ
สิ่งนี้เกือบทำให้โลกในความเข้าใจของเธอเกิดสับสนขึ้นมาทันที
เเต่อย่างไรก็ตาม, เมื่อเธอคิดว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนของเธอเอง……..เธอก็ยิ้มอย่างมีความสุข
“คุณชายน้อย……ถ้าเป็นเรื่องนิพพานร่างกายหรือนิพพานพลังธาตุ”
"ฉันคงจะช่วยไม่ได้"
"แต่บังเอิญว่าฉันเป็นนักรบพลังจิตด้วยเช่นกัน……เเละนิพพานทางจิตวิญญาณของฉันก็ครบ 6 นิพพานแล้ว"
"ดังนั้นฉันจะส่งต่อประสบการณ์ของฉันให้คุณ, เผื่อมันอาจจะเป็นประโยชน์กับคุณบ้าง"
หยวนปิงเม่ยจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาของชูโจว
จากนั้นความคิดทางจิตวิญญาณของเธอก็แผ่กระจายออกเเละเจาะเข้าไปในหัวใจของ ชูโจว
ในช่วงเวลาสั้นๆนั้นเอง, ข้อมูลและภาพจำนวนมากก็ปรากฏขึ้นในใจของชูโจว……. เเละมันคือประสบการณ์ทั้งหมดของหยวนปิงเม่ยในการฝึกฝนพลังจิตวิญญาณ
เมื่อชูโจวค้นดูข้อมูลที่หยวนปิงเม่ยส่งมาให้
เขาก็พบว่าหยวนปิงเม่ยได้บรรลุคุณสมบัติทางจิตวิญญาณ 6 ประการเเล้วซึ่งได้แก่, ภาพลวงตา, ระเบิดวิญญาณ, การรับรู้, การสะกดจิต, การควบคุมจิต, และโทรจิต
ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมภาพลวงตาของหยวนปิงเม่ยถึงน่ากลัวขนาดนี้
ปรากฎว่าเธอบรรลุนิพพานทางจิตวิญญาณไปแล้วถึงหกครั้ง
เเถมเธอยังฝึกพลังภาพลวงตา จนสามารถสร้างศิลปะภาพลวงตาที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองอย่าง "ทะเลดอกไม้เเห่งความตาย" ได้
เเละด้วยประสบการณ์เหล่านี้, ไม่ต้องสงสัยเลยว่าชูโจวจะสามารถพัฒนาคุณสมบัติทางจิตวิญญาณของเขาได้ง่ายขึ้นมาก
“น่าเสียดายที่ฉันไม่มีเลือดของราชามอนสเตอร์อยู่ในมือ………ฉันเลยช่วยคุณไม่ได้ในเรื่องนี้” หยวนปิงเม่ยถอนหายใจด้วยความเสียดาย
"เเค่นี้ก็ช่วยฉันได้มากเเล้ว"
ชูโจวสวมกอดอีกฝ่ายอย่างรักใคร่และพูดด้วยรอยยิ้มว่า
"เพื่อเป็นการขอบคุณ, ฉันจะสอนทักษะพิเศษให้คุณด้วย"
หลังจากที่พูดจบ, ชูโจวก็รวบรวมพลังจิตของเขาและส่งต่อ "เทคนิคการทำสมาธิรูปแบบเจดีย์" ของเขาให้กับหยวนปิงเม่ย
"[การทำสมาธิแบบเจดีย์] นี่มันเทคนิคการทำสมาธิระดับ A ในห้างสรรพสินค้านักรบนี่……… ฉันไม่ขาดเทคนิคการทำสมาธิระดับนี้หรก"
หยวนปิงเม่ยดู "เทคนิคการทำสมาธิรูปแบบเจดีย์" ที่ชูโจวถ่ายทอดให้เธอ
เเละเมื่อเธอพบว่ามันคือ "เทคนิคการทำสมาธิรูปแบบเจดีย์" เธอรู้สึกงงงวยเล็กน้อย
ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมชูโจวถึงสอนเทคนิคการทำสมาธิระดับ A ให้เธอ
แต่เมื่อเธออ่านต่อไป, เธอก็รู้ทันทีว่าเทคนิคการทำสมาธินี้แตกต่างจากที่เธอรู้จักอย่างสิ้นเชิง
"เทคนิคการทำสมาธิรูปแบบเจดีย์" เธอรู้จักเป็นเทคนิคการทำสมาธิระดับ A ซึ่งสามารถสร้างเจดีย์ได้สูงสุดหกชั้นเท่านั้น
แต่ "เทคนิคการทำสมาธิรูปแบบเจดีย์" ที่ ชูโจวส่งมาให้เธอนั้นได้รับการพัฒนาถึงระดับ SSS เเล้ว
มันสามารถสร้างเจดีย์หกเหลี่ยมได้ถึงสิบสองชั้นและสามารถปลูกฝังได้ถึงระดับเทพนักรบหรือสูงกว่านั้น
เเต่สิ่งที่ทำให้เธอตกใจยิ่งกว่าก็คือ "เทคนิคการทำสมาธิรูปแบบเจดีย์" นี้มีเนื้อหาเสริมของการแยกวิญญาณและการหลอมรวมของวิญญาณด้วย
นี่คืออาณาจักรแห่งจิตวิญญาณที่เธอไม่เคยได้ยินมาก่อน
เเละจากการมองไม่กี่ครั้ง, เธอสัมผัสได้ถึงความน่ากลัวของการเเยกวิญญาณและการหลอมรวมวิญญาณทันที
ผ่านพลังของการเเยกวิญญาณและการหลอมรวมวิญญาณม………พลังจิตวิญญาณของผู้ฝึกฝนนั้นไม่เพียงจะเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่งเท่านั้น
แต่ยังสามารถแยกสติสัมปชัญญะจำนวนมากออกมาได้ โดยที่มันจะไม่ส่งผลกระทบต่อสติสัมปชัญญะหลักเลย
วิธีการดังกล่าวถือได้เลยว่าเป็นเทคนิคลับสุดยอดสำหรับเหล่านักรบพลังจิต
หยวนปิงเม่ยสรุปได้เกือบจะในทันทีว่า
แม้ว่าจะจัดระดับของ "การทำสมาธิรูปแบบเจดีย์" นี้จะเป็นระดับ SSS….... แต่ในความเป็นจริงเเล้ว, เทคนิคการทำสมาธินี้ได้เกินระดับ SSS ไปแล้ว
และพรสวรรค์ของเธอในฐานะนักรบพลังจิตวิญญาณนั้นก็อยู่ในขั้นสูงสุดแล้ว
ในบรรดานักรบพลังจิตของกลุ่มพันธมิตรเงาทั้งหมด, ไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้ของเธอได้
ดังนั้นด้วย "เทคนิคการทำสมาธิรูปแบบเจดีย์" ที่ได้รับจากชูโจวนี้
เธอก็มั่นใจว่าเธอจะสามารถพัฒนานิพพานทางจิตวิญญาณของเธอจนถึงขีดจำกัด……….และบรรลุนิพพานทางวิญญาณ 9 คุณสมบัติได้
"คุณชายน้อย, คุณได้ถ่ายทอด "เทคนิคการทำสมาธิรูปแบบเจดีย์" ของคุณให้กับฉัน………เเละสิ่งนี้มันมีประโยชน์มากสำหรับฉัน"
อารมณ์ของหยวนปิงเม่ยปั่นป่วน
จากนั้นเธอก็ตัดสินใจที่จะให้รางวัลกับชูโจวอีกรอบและริเริ่มที่จะกอดชูโจว
ไม่นานเงาของทั้งสองก็ทาบทับกัน
…….
หลังจากนั้นไม่นาน, เมฆด้านนอกก็สลายตัวและฝนก็หยุดตก
"ปิงเม่ย, ชายวัยกลางคนก่อนหน้านี้เป็นสมาชิกของกลุ่มพันธมิตรเงาใช่ไหม……… เเล้วทำไมเขาถึงไล่ล่าคุณ" ชูโจวถามอย่างสงสัย
หยวนปิงเม่ยลุกขึ้นนั่ง, ยืดผมที่ยุ่งเหยิงของเธอและพูดว่า:
“เรื่องนี้…….. เกี่ยวข้องกับคุณด้วย”
“หืมมม……. เกี่ยวอะไรกับฉัน” ชูโจวเลิกคิ้วขึ้น
“คุณเป็นคนฆ่า 'มังกรพิษ' ฉินหลง, 'จิ้งจอกเงิน' ซูไป๋, 'จอมเวทย์ฉลาม' ลี่ไห่ และ 'ราชสีห์พฤกษา' หยานตงชูใช่ไหม”
"ใช่, ฉันเป็นคนฆ่าพวกเขา"
หยวนปิงเม่ยใส่เสื้อผ้า, เอนตัวไปในอ้อมแขนของชูโจวและพูดต่อ
"พวกเขาทั้งสี่ถูกเรียกว่าสี่จตุรเทพ…….ซึ่งนี่ไม่ใช่แค่ฉายาของพวกเขา แต่ยังแสดงถึงสถานะของพวกเขาในกลุ่มพันธมิตรเงาด้วย
พวกเขาทั้งสี่เป็นสมาชิกรุ่นเยาว์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในกลุ่มพันธมิตรเงา
ดังนั้นพวกเขาทั้งสี่จึงมีผู้สนับสนุนจำนวนมาก…….มีทั้งนักรบขั้นราชาหรือแม้เเต่เทพนักรบที่อยู่เบื้องหลังพวกเขา”
"เดิมที, กลุ่มพันธมิตรเงาของเราวางแผนที่จะเลือกบุคคลที่โดดเด่นที่สุดในสี่คนนี้………..ให้เป็นนักบุญของกลุ่มพันธมิตรเงา"
“เเต่โชคไม่ดีที่พวกเขาทั้งหมดถูกคุณสังหารลงพร้อมๆกัน”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้, ชูโจวก็อดหัวเราะไม่ได้
เขาไม่เคยคิดเลยว่า, เขาได้ทำลายแผนการที่วางไว้มาอย่างยาวนานของกลุ่มพันธมิตรเงาโดยไม่รู้ตัว
หยวนปิงเม่ยยังคงกล่าวต่อไป
"เมื่อแผนการเลือกนักบุญครั้งนี้ถูกทำลาย"
"กลุ่มพันธมิตรเงาจึงต้องหาผู้ที่เหมาะสมอีกครั้ง……....ดังนั้นโอกาสของฉันจึงมาถึง"
"หืมม……..คุณเป็นหนึ่งในรายชื่อผู้เข้าร่วมการคัดเลือกนักบุญงั้นหรอ?" ชูโจวตกตะลึงเล็กน้อย
"ถูกต้อง" หยวนปิงเม่ยพยักหน้าและพูดต่อ
"อย่างไรก็ตาม, ในกลุ่มพันธมิตรเงายังมีคนอีกมากมายที่มีส่วนร่วมในการคัดเลือกตำแหน่งนักบุญ"
"สุดท้ายใครจะชนะนั้นก็ขึ้นอยู่กับวิธีการของเเต่ละคน"
“กฎของพันธมิตรเงาคือให้ผู้สมัครจำนวนมากแข่งขันกันเองโดยไม่สนวิธีการและคนที่อยู่รอดในตอนจบคือผู้ชนะ”
"ชายที่ไล่ล่าฉันในตอนก่อนหน้านี้มีชื่อว่าราชาหมาป่า…….. เขาเป็นลูกน้องของหลิวเหยาคู่แข่งของฉัน"
เมื่อพูดถึงสิ่งนี้, การเยาะเย้ยอย่างเย็นชาก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของหยวนปิงเม่ย
“อย่างไรก็ตาม, ตอนนี้เธอคงจะไม่ค่อยมีความสุขมากนัก……… เพราะฉันก็ได้ส่งนักรบขั้นราชาที่สนับสนุนฉันให้ไปสังหารเธอด้วย”
หลังจากได้ยินเช่นนี้, ชูโจวก็แอบแลบลิ้น
เขาไม่ได้คาดคิดมาก่อนเลยว่าการแข่งขันภายในของกลุ่มพันธมิตรเงาจะดุเดือดและนองเลือดขนาดนี้
คนอย่างหยวนปิงเม่ย, เพื่อชิงตำแหน่งนักบุญ……… ถึงกับปล่อยให้นักรบขั้นราชาที่สนับสนุนเธอไปกำจัดศัตรูโดยตรง
ชูโจวสามารถจินตนาการได้เลยว่าจะต้องมีผู้สมัครบางคนที่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากนักรบขั้นราชาและถูกกำจัดไปเรียบร้อยแล้ว
การแข่งขันภายในที่โหดร้ายเช่นนี้เป็นไปไม่ได้สำหรับกองกำลังอื่น
อย่างไรก็ตาม…… สิ่งนี้มันก็สอดคล้องกับสไตล์ของกลุ่มพันธมิตรเงา
“คุณมีอะไรให้ฉันช่วยอีกไหม” ชูโจวเอ่ยปากถาม
ตอนนี้หยวนปิงเม่ยเป็นผู้หญิงของเขาเเล้ว
ดังนั้น, เขาจึงต้องการช่วยให้เธอได้กลายเป็นนักบุญของกลุ่มพันธมิตรเงา
เพราะเมื่อหยวนปิงเม่ยได้กลายเป็นนักบุญของกลุ่มพันธมิตรเงาเเล้ว………. ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันก็จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับเขาเช่นกัน
“หลิวเหยานั้นมีพรสวรรค์มาก”
"เธอควบคุมฐานของกลุ่มพันธมิตรเงาของเราไปถึงหกฐานในเขตกวางตุ้ง"
"นอกจากนี้, เธอยังแอบควบคุมห้าตระกูลใหญ่ในพื้นที่เขตกวางตุ้งอีก”
"ฉันวางเเผนที่จะจับกองกำลังเหล่านี้ทีละกองกำลังหลังจากฆ่าหลิวเหยาเเล้ว"
“แต่ตอนนี้ฉันมีคุณอยู่ที่นี่……..ด้วยพลังของคุณ, ฉันสามารถยึดอำนาจของกองกำลังเหล่านี้ล่วงหน้าได้” หยวนปิงเม่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม
"เอาล่ะ……..งั้นมาเริ่มกันเลย"
ชูโจวพยักหน้าตอบตกลงที่จะช่วยหยวนปิงเม่ย…….กำจัดกองกำลังของหลิวเหยา
………
สัปดาห์ต่อมา
ชูโจวและหยวนปิงเม่ยปรากฏตัวขึ้นทีละเเห่งของฐานลับของกลุ่มพันธมิตรเงาในกวางตุ้ง
พวกเขาบุกเข้าไปในฐานเหล่านี้อย่างเอิกเกริกและสังหารผู้คุมฐานอย่างรวดเร็ว
ในหมู่พวกเขามีผู้คุมฐานสองคนที่เป็นนักรบขั้นราชาที่ทรงพลัง
แต่พวกเขาก็ถูกชูโจวฆ่าอย่างง่ายดาย
เเละหลังจากการเสียชีวิตของผู้คุมฐาน……….. หยวนปิงเม่ยก็ได้เปิดเผยตัวตนของเธอต่อผู้บริหารที่เหลือและเข้ายึดฐานเหล่านี้อย่างรวดเร็ว
หยวนปิงเม่ยนั้นเป็นบุคคลสำคัญในกลุ่มพันธมิตรเงาอยู่เเล้ว……. และเธอยังเป็นหนึ่งในผู้ที่มีโอกาสจะได้เป็นนักบุญมากที่สุด
ดังนั้น, หลังจากการสังหารผู้คุมฐานแล้ว……… เธอก็ไม่ได้พบอุปสรรคมากนัก แถมพวกผู้บริหารก็เชื่อฟังเธออย่างมาก
แน่นอนว่า, ชูโจวนั้นได้ปกปิดตัวตนของเขาในระหว่างกระบวนการทั้งหมด
มิฉะนั้นหากผู้คนในฐานเหล่านี้รู้ว่า, ชูโจวได้มาพิชิตฐานของกลุ่มพันธมิตรเงาภายใต้การนำของหยวนปิงเม่ย……….เกรงว่าพวกเขาจะต้องต่อต้านอย่างถึงที่สุด
หลังจากยึดสิทธิ์การจัดการของฐานทั้งหกเเล้ว
ชูโจวและหยวนปิงเม่ยก็เดินทางมาพบห้าตระกูลใหญ่ในพื้นที่เมืองฐานกวางตุ้ง…….. ซึ่งเเอบเข้าร่วมกับกลุ่มพันธมิตรเงาอย่างลับๆ
พวกเขาสองคนปราบปรามตระกูลทั้งห้านี้ได้อย่างรวดเร็วและบังคับให้พวกเขาสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อหยวนปิงเม่ย
แน่นอนว่า, ถ้าแค่สาบานว่าจะจงรักภักดีมันก็คงไม่ได้ผลมากนัก
หยวนปิงเม่ยได้ใช้เทคนิคลับบางอย่างของ กลุ่มพันธมิตรเงา………เพื่อพันธนาการจิตสำนึกทางจิตวิญญาณของคนห้าตระกูลใหญ่, ทำให้พวกเขาไม่กล้าต่อต้านเธอเเม้เเต่นิดเดียว
อันที่จริง, หากหยวนปิงเม่ยไม่ต้องการที่จะควบคุมตระกูลทั้งห้าเหล่านี้……..ชูโจวก็คงจะกำจัดพวกเขาทันที
ตระกูลที่กล้าหักหลังมนุษยชาตินั้น, ชูโจวไม่เอาไว้อยู่แล้ว
แต่ตอนนี้ตระกูลเหล่านี้ถูกควบคุมโดยผู้หญิงของเขา……….งั้นเขาก็จะยกเว้นไว้ชั่วคราว
เเต่อย่างไรก็ตาม, พวกเขาล้วนถูกควบคุมโดยหยวนปิงเม่ยเรียบร้อยแล้ว………และเมื่อเขาต้องการทำลายพวกมัน, ก็เป็นเรื่องของการออกคำสั่งเเค่ประโยคเดียว
………….
"ครั้งนี้ฉันบรรลุเป้าหมายแล้ว, คุณชายน้อย………คุณควรกลับไปได้แล้ว"
ในโรงแรมแห่งหนึ่ง, หยวนปิงเม่ยลุกขึ้นมาแต่งตัวและผลักชูโจวออกเบาๆ
"เวลาผ่านไปไวจัง" ชูโจวลุกขึ้นนั่ง
"ขอบคุณคุณมาก" หยวนปิงเม่ยช่วยชูโจวสวมเสื้อผ้าเเละการเคลื่อนไหวของเธอก็อ่อนโยนมาก
“ถ้าคุณตกอยู่ในอันตรายอีก, คุณต้องติดต่อฉันโดยเร็วที่สุดนะ” ชูโจวกล่าวด้วยรอยยิ้มและวินาทีต่อมาร่างของเขาก็หายไป
หยวนปิงเม่ยมองไปที่ร่างที่หายไปของชูโจว และเดินไปที่ประตูโดยไม่รู้ตัว
เมื่อนึกถึงวันที่เธอและชูโจวกำลัง "นอนหลับไปด้วยกัน" ในช่วงเวลานี้, เธอก็สับสนเล็กน้อย
เเละทันใดนั้นเอง, หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นข้างๆหยวนปิงเม่ย
“ป้าไป๋, หลิวเหยาตายแล้วหรอ”
หญิงวัยกลางคนส่ายหัวเล็กน้อยและพูดด้วยความเสียดาย
"ฉันใกล้จะฆ่าเธอได้แล้ว แต่คู่เเข่งอีกคนของคุณหนูก็เข้ามาแทรกแซงและช่วยชีวิต หลิวเหยาไว้ได้"
"ดูเหมือนว่าคุณหนูจะแข็งแกร่งมากเกินไป……….จนตอนนี้มีคนผนึกกำลังกันเพื่อสู้กับคุณหนู"
"หลิวเหยายังไม่ตายหรือ…… น่าเสียดาย"
หยวนปิงเม่ยถอนหายใจเล็กน้อยแล้วพูดต่ออย่างสนุกสนาน:
"อย่างไรก็ตาม, แม้ว่าหลิวเหยาจะยังไม่ตาย……….แต่คราวนี้ฉันได้ยึดฐานทั้งหมดของเธอในเมืองฐานกวางตุ้งไว้แล้ว, เเละนี่จะเป็นความสูญเสียของเธออย่างมหาศาล"
"ส่วนเรื่องที่เธอร่วมมือกับคนอื่นนั้น"
"คุณคิดจริงๆหรือว่าชาวนาสามคนจะสามารถเอาชนะขงเบ้งคนเดียวได้?"
“คุณหนูพูดถูก, ไม่ว่าคุณจะมีคนธรรมดาสักกี่คน……..เมื่อเทียบกับอัจฉริยะอย่างคุณหนูเเล้วพวกเขาก็ไร้ประโยชน์”
หญิงวัยกลางคนพยักหน้าเห็นด้วย, จากนั้นเธอก็เปิดปากและถามคำถามที่เธออยากจะถามมานานเเล้ว
“คุณหนั…….เท่าที่ฉันจำได้ คุณมักจะไม่สนใจตำแหน่งนักบุญเลย”
"มิฉะนั้น ด้วยพรสวรรค์ของคุณหนู……คุณหนูจะปล่อยให้ชื่อเสียงของเหล่าจัตุรเทพเหนือกว่าคุณได้อย่างไร?"
“เเล้วทำไมจู่ๆ, คุณหนูถึงอยากเข้าร่วมการแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งนักบุญ?”
หยวนปิงเม่ยที่ได้ยินคำพูดของหญิงวัยกลางคน, เธอก็จ้องมองไปยังทิศทางที่ชูโจวหายไปแล้วยิ้ม
“ที่ผ่านมาฉันไม่สนใจตำแหน่งนักบุญเลยจริงๆ”
“แต่ฉันเป็นของเขาเเล้ว”
"เเละเขาได้ถูกกำหนดไว้เเล้วว่าให้เป็นศัตรูของคนทั้งโลกในอนาคต"
"ดังนั้นฉันต้องการสร้างดินแดนอันยิ่งใหญ่ให้กับเขา…..…..เเละฉันสามารถช่วยเขาได้ด้วยวิธีนี้เท่านั้น"
"ฉันจะไม่ปล่อยให้เขาอยู่คนเดียวบนเส้นทางสู่จุดสูงสุด"
……..(สุดยอดภรรยาชัดๆ (-___-))
……………………..