1048 - หน้าผาขนนกอมตะ 

1048 - หน้าผาขนนกอมตะ

บนท้องทะเลสีครามสามวันให้หลัง ร่างที่งดงามของอี้ชิงอู่ยืนอยู่บนรถม้าศักดิ์สิทธิ์ รูปร่างของนางสมส่วน ท่วงท่าสมบูรณ์แบบ ผมยาวพริ้วไหว และผิวที่ขาวราวกับหยก

ความงามของนางคู่ควรกับฉายาหญิงงามอันดับหนึ่งแห่งแผ่นดินอย่างแท้จริง

เย่ฟ่านนัดพบกับอี้ชิงอู่อีกครั้ง คืนนี้อาจจะมีการต่อสู้หรืออาจมีโอกาสครั้งใหญ่ ท้ายที่สุดมันเกี่ยวข้องกับคัมภีร์เทพโบราณ ดังนั้นเขาจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า

แน่นอนว่าอี้ชิงอู่ไม่มีทางปฏิเสธคัมภีร์เทพโบราณที่อาจจะทำให้นางกลายเป็นสิ่งมีชีวิตอมตะได้ ดังนั้นนางจึงตอบตกลงต่อคำร้องขอของเย่ฟ่านโดยไม่มีความลังเล

เย่ฟ่านและคนอื่นๆ ได้หายตัวไปอีกครั้ง พวกเขากำลังรอให้คืนพระจันทร์เต็มดวงมาถึงอย่างเงียบๆ

เมื่อเวลาผ่านไป ดวงจันทร์ที่สว่างไสวลอยขึ้นสูงแสงสีขาวนวลๆ กระจายไปทั่วท้องฟ้าทำให้ดินแดนอันมืดมิดสว่างไสวราวกับเวลากลางวัน

ผาขนนกอมตะแสดงให้เห็นถึงความพิเศษของมัน ในขณะนี้มันกำลังดึงดูดแสงสีทองที่อยู่บนท้องฟ้า แก่นแท้แห่งสวรรค์พิภพไหลมารวมกันอย่างไม่สิ้นสุด

“มาแล้ว!” หลี่เทียนกล่าวเบาๆ

ในท้องฟ้าอันไกลโพ้น เรือรบสิบแปดลำบินอยู่เหนือก้อนเมฆสีดำทะมึน การปรากฏตัวของมันทำให้โลกทั้งใบตกสู่ความมืดมิดราวกับจะไม่มีแสงปรากฏขึ้นอีกแล้ว

“นี่คือเรือรบของวังราชามนุษย์ ช่างเป็นการเดินทางที่อวดโอ่เหลือเกิน” เสียงของอี้ชิงอู่เต็มไปด้วยความอ่อนหวานที่ทำให้หัวใจของชายหนุ่มทั้งสามคนสั่นไหวอย่างรุนแรง

ในอีกด้านหนึ่งเอี๋ยนอี้ซีก็กระซิบเช่นกัน “อีกฝั่งก็มีคนมาถึงแล้ว”

ในอีกฟากหนึ่งของท้องฟ้าขนาดใหญ่มีวิหารโบราณบินข้ามความว่างเปล่าและปรากฏตัวบนหน้าผาขนนกอมตะอย่างเงียบๆ

“นี่คือวิหารเต๋าโบราณแห่งหมิงหลิง อาคารโบราณนี้ตั้งอยู่ที่เดิมมานานกว่าหมื่นปี ข้าไม่อยากเชื่อเลยว่าวันนี้มันจะเคลื่อนไหว” อี้ชิงอู่กระซิบ

หลายคนประหลาดใจ นิกายโบราณนี้แทบจะพังทลายไปตามกาลเวลาแล้ว ในโลกนี้มีไม่กี่คนเท่านั้นที่ใส่ใจพวกเขา อย่างไรก็ตามยอดฝีมือที่ปรากฏขึ้นในยุคหลังกลับเป็นผู้ยิ่งใหญ่ของสวรรค์พิภพทั้งสิ้น

ตัวอย่างเช่นเดียวกับนักพรตซานเชวียในปัจจุบันที่มีความแข็งแกร่งไม่อาจหยั่งรู้ได้

เห็นได้ชัดว่าวังราชามนุษย์และวิหารเต๋าโบราณกำลังจะมีการแลกเปลี่ยนคัมภีร์เทพโบราณกัน ครั้งนี้ดูเหมือนพวกเขาจะค่อนข้างมั่นใจว่าต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน!

คัมภีร์โบราณหน้าเดียวถูกฉีกออกเป็นสองซีก นี่คือวัตถุระดับเทพที่กลายเป็นตำนานอันยิ่งใหญ่มานานนับแสนปี การครอบครองคัมภีร์ฉบับเต็มจะทำให้ผู้ที่ศึกษามีโอกาสทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแห่งความเป็นอมตะ

อย่างไรก็ตามนี่เป็นหนึ่งในคัมภีร์ที่ฝึกฝนยากที่สุดในโลกดังนั้นจึงไม่มีผู้ใดประสบความสำเร็จได้!

“การที่บอกว่ายังไม่เคยมีใครประสบความสำเร็จในการอ่านคัมภีร์เล่มนี้ไม่เป็นความจริง อย่างน้อยในอดีตก็เคยมีจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ประสบความสำเร็จมาแล้ว” อี้ชิงอู่ถอนหายใจเบาๆ

ภายใต้แสงเดือนคืนนั้นสว่างใส ทะเลไร้ขอบเขตทอดยาวไปไกลสุดลูกหูลูกตา

หน้าผาขนนกอมตะที่ริมทะเลตั้งตระหง่านท่ามกลางสวรรค์พิภพ

วังราชามนุษย์และวิหารเต๋าปรากฏขึ้นที่นี่โดยไม่มีผู้ใดคาดคำนวณถึงร่องรอยของพวกเขาออก ดังนั้นวันนี้จะต้องมีการแลกเปลี่ยนอย่างราบรื่น

เย่ฟ่านและคนอื่นๆ กลั้นหายใจและซ่อนตัวอยู่ในความมืด ไม่กล้าที่จะประมาทเลินเล่อแม้แต่น้อย!

เรือรบทั้งสิบแปดลำแต่ละลำมีความยาวหลายร้อยวา พวกมันมีขนาดใหญ่โตราวกับสัตว์อสูรโบราณที่ปกคลุมทั่วท้องฟ้า

ตรงข้ามกับวิหารเต๋าโบราณงดงามและเคร่งขรึมราวกับวังอมตะของเทพ กระเบื้องและหินทุกชิ้นที่ลอยอยู่กลางอากาศเต็มไปด้วยร่องรอยแห่งกาลเวลาอันยาวนาน

เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายต้องการที่จะแลกเปลี่ยนคัมภีร์โบราณกันนับครั้งไม่ถ้วนแต่สุดท้ายก็มียอดฝีมือมากมายที่ล่วงรู้ร่องรอยของพวกเขาและลงมือปล้นชิงอย่างหักโหม สุดท้ายการแลกเปลี่ยนจึงล่วงเลยมาจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่สามารถทำสำเร็จได้

คัมภีร์โบราณครึ่งหน้าที่พวกเขาแต่ละคนถือล้วนมีความสำคัญอย่างยิ่ง ดังนั้นยอดฝีมือทั้งสองฝ่ายต่างไม่กล้าประมาทและล้มเลิกการแลกเปลี่ยนทุกครั้งที่ความลับถูกเปิดเผย

ตอนนี้ปรมาจารย์สองคนของสองนิกายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกปรากฏตัวออกมาแล้ว พวกเขาตกลงกันอย่างมั่นเหมาะว่าวันนี้จะต้องทำการแลกเปลี่ยนคัมภีร์ให้ได้

สถานที่นี้เงียบสงบ พระจันทร์กลมโตส่องแสงสว่างจ้า

เย่ฟ่านและคนอื่นๆ ไม่รู้สึกถึงกลิ่นอายของยอดฝีมือคนอื่นๆเลย มีความเป็นไปได้เพียงสองประการ หนึ่งคือการเดินทางของสองมหาอำนาจถูกปกปิดเป็นความลับจนไม่มีใครล่วงรู้ และอีกประการคือทั้งสองมหาอำนาจต่างส่งยอดฝีมือออกมาฝั่งละคนเท่านั้น

“เรือรบสิบแปดลำนี้ก็ควรจะเป็นสมบัติโบราณเช่นกัน เพียงมองจากร่องรอยของแสงที่สาดส่องออกมาเห็นได้ชัดว่าพวกมันได้รับการติดตั้งค่ายกลสังหารที่ทรงพลังอย่างยิ่ง” เอี๋ยนอี้ซีวิเคราะห์อย่างจริงจัง

ในขณะนั้นมีนักพรตหนุ่มใบหน้าหล่อเหลารูปร่างสง่างามเดินออกมาจากวิหารโบราณทีละก้าว นี่คือนักพรตที่อายุน้อยมาก แต่รัศมีพลังของเขากลับอยู่ในจุดสูงสุดของระดับปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์แล้ว

“นักพรตซานเชวีย!”

หลายคนจำเขาได้และไม่ใช่ครั้งแรกที่ทุกคนเห็นชายหนุ่มคนนี้ นี่คือปรมาจารย์หนุ่มที่แข็งแกร่งที่สุดคนหนึ่งในโลก เขาเป็นน้องชายร่วมสาบานอีกคนของหยินเทียนเต๋อ

“เขาทรงพลังขนาดนั้นเลยหรือ?”

หลี่เทียนรู้สึกประหลาดใจ ก่อนหน้านี้พวกเขาเคยเห็นนักพรตซานเชวียมาบ้างแล้ว แต่เมื่อเวลาผ่านไปสี่ปีชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าดูเหมือนจะทรงพลังมากกว่าเดิมหลายเท่า

อี้ชิงอู่จ้องมองชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าครู่หนึ่งก่อนจะสูดลมหายใจอย่างหนาวเหน็บและกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นสะท้านว่า

“ไม่ นี่คือเจิ้งเต๋อบิดาของนักพรตซานเชวียผู้ที่บ่มเพาะเต๋าผู้ยิ่งใหญ่มานานถึงแปดร้อยปี ว่ากันว่าเว้นแต่จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่จะถือกำเนิดขึ้นมา ในยุคปัจจุบันไม่มีผู้ใดสามารถต่อสู้กับเขาได้...”

“เขาเป็นบิดาของนักพรตซานเชวีย?”

เย่ฟ่านรู้สึกประหลาดใจ เขารู้ว่านักพรตบางคนสามารถแต่งภรรยาและมีลูกได้ แต่เขาไม่คาดคิดว่าบิดาและบุตรชายคู่นี้จะมีลักษณะไม่แตกต่างกันแม้แต่น้อย

เจิ้งเต๋อนักพรตที่มีอำนาจที่สุดในโลก กล่าวกันว่าเขาได้ก้าวเข้าสู่ขอบเขตสวรรค์ชั้นที่สามของเซียนเทียมไปครึ่งก้าวแล้ว

อย่างไรก็ตามอาณาจักรเก้าต้องห้ามนั้นแม้แต่เย่ฟ่านผู้เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ยังไม่มีปัญญาทำสำเร็จ ชายชราที่อยู่ตรงหน้าก็คงไม่มีโอกาสเช่นกัน

แม้แต่โลกอำพรางสวรรค์คนที่ไปถึงขอบเขตนั้นในยุคปัจจุบันก็ดูเหมือนจะมีเพียงชายชราผู้บ้าคลั่งและราชาสวรรค์เจียงไท่ซูเท่านั้นที่ทำได้

สำหรับชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเย่ฟ่านรู้สึกว่าเขาอ่อนแอกว่าทั้งสองคนอย่างเทียบกันไม่ติด

เจิ้งเต๋อนั้นมีความระมัดระวังเป็นอย่างมาก แม้ว่าในโลกใบนี้จะมีผู้คนจำนวนน้อยนิดที่สามารถต่อสู้กับเขาได้ แต่ทุกก้าวเดินของเขากลับเต็มไปด้วยความหวาดระแวงและพร้อมที่จะถอนตัวได้ตลอดเวลา

ปรมาจารย์ของวังราชามนุษย์ก็ปรากฏตัวขึ้นบนหน้าผาขนนกอมตะเช่นกัน เขาเป็นชายชราหนวดเคราขาวโพลนเห็นได้ชัดว่ามีอายุหลายพันปีแล้ว

ณ ตอนนี้. เรือรบโบราณสิบแปดลำเริ่มเคลื่อนไหวกลางอากาศ พวกมันก่อตัวเป็นวงกลมขนาดใหญ่ที่ปิดล้อมหน้าผาขนนกอมตะอย่างแน่นหนาพร้อมกับปลดปล่อยค่ายกลสังหารของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ออกมา

ในพริบตากลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวกวาดไปทั่วท้องฟ้า ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหากมีสิ่งมีชีวิตใดรุกล้ำเข้าไปในขอบเขตนี้ร่างของพวกเขาจะต้องถูกฉีกออกจากกันเป็นชิ้นๆอย่างแน่นอน

ในอีกด้านหนึ่ง วิหารเต๋าอันงดงามได้เปิดประตูพร้อมกับปลดปล่อยค่ายกลสังหารที่เพียงพอจะทำลายทั้งสวรรค์พิภพออกมาเช่นกัน ในขณะนั้นภาพธรรมของภูเขาโบราณเก้าลูกได้ครอบคลุมลงมาจากด้านบนและปิดล้อมเรือรบโบราณอีกชั้น

เป้าหมายการสังหารของค่ายกลโบราณทั้งสองไม่ได้อยู่ในจุดกึ่งกลางของการแลกเปลี่ยน แต่มันหันออกมาข้างนอกและพร้อมจะบดขยี้ผู้ไม่หวังดีทุกคนที่คิดจะแทรกตัวเข้ามา

ในขณะนี้ บรรยากาศตึงเครียดอย่างมาก ความว่างเปล่าดูเหมือนจะกลายเป็นน้ำแข็ง ทุกอย่างเงียบสงัดยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองคนไม่เอ่ยปากแม้แต่คำเดียว

พระจันทร์เต็มดวงลอยขึ้นสูง ในทะเลไร้ขอบเขตมีเสียงคลื่นกระทบฝั่งการขึ้นตลอดเวลา ชายชราหนวดเคราขาวโพลนมองนักพรตเจิ้งเต๋ออย่าเงียบๆ จากนั้นทั้งสองคนก็หยิบวัตถุบางอย่างในอกเสื้อออกมาทันที

“ดูเหมือนความลับของเรื่องนี้จะไม่รั่วไหลออกไปเลย” หลี่เทียนตกตะลึงเล็กน้อยที่พวกเขาสี่คนเป็นผู้สังเกตการณ์เพียงกลุ่มเดียว

“เรื่องนี้ต้องปิดเป็นความลับอย่างยิ่ง หากมันถูกเปิดเผยออกไปข้าคิดว่าแม้แต่หยินเทียนเต๋อและราชาอีกาทองก็คงยากที่จะอดใจไว้ได้” อี้ชิงอู่ขมวดคิ้วและรู้สึกแปลกๆ เช่นกัน

ยอดฝีมือจากทั้งสองมหาอำนาจที่ทำการแลกเปลี่ยนคัมภีร์กันนั้นดูจิตใจผ่อนคลายอย่างยิ่ง พวกเขาตรวจสอบคัมภีร์คนละครึ่งหน้าที่ได้รับมาจากอีกฝ่ายและถอนหายใจอย่างโล่งอก จากนั้นทั้งสองคนได้เก็บคัมภีร์ไว้ในอกเสื้อและเตรียมหันหลังกลับทันที!

แต่ในทันใดนั้นกรงเล็บที่แข็งแกร่งของนกอินทรีซึ่งมีขนาดไม่ต่ำกว่าหนึ่งพันวาได้ตกลงมาจากท้องฟ้า และเป้าหมายของมันคือชายชราเส้นผมสีขาวของวังราชามนุษย์

“โจรร้ายเจ้ากล้า!” ชายชราคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยว

พร้อมกันนั้นค่ายกลสังหารที่ทรงพลังได้ปลดปล่อยแสงสีแดงฉานยิงเข้าหาเจ้าของกรงเล็บขนาดใหญ่นั้นอย่างรวดเร็วไม่แตกต่างจากสายฟ้า

ปัง!

อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงในสนามรบเหนือจินตนาการของผู้คนเกินไป เพราะในตอนนี้กรงเล็บอินทรีที่แข็งแกร่งได้หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอยพร้อมกับการปรากฏตัวขึ้นของชายวัยกลางคนที่มีรูปร่างสูงใหญ่และเต็มไปด้วยความดุร้าย

ชายวัยกลางคนรูปร่างสูงใหญ่ตะปบมือซ้ายเข้าไปในอกเสื้อของชายชราหนวดเคราขาวโพลน และมือข้างขวาของเขาก็กระแทกลงมาจากด้านบนอย่างรุนแรง!

โพล่ะ!

ศีรษะของชายชราหนวดเคราขาวโพลนถูกบดขยี้จนแหลกละเอียด เลือดเนื้อและมันสมองของเขาสาดกระจายไปทุกทิศทางท่ามกลางสายตาตกตะลึงของเย่ฟ่านและสหาย

หนึ่งในยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดของแผ่นดินกลับเสียชีวิตจากการโจมตีเพียงครั้งเดียว

ชายวัยกลางคนรูปร่างสูงใหญ่นี้เป็นใครกันแน่จึงทำเรื่องนี้ได้?

……..