ตอนที่แล้ว1045 - พร้อมที่จะบรรลุความเป็นอมตะ 
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป1047 - คำทำนาย 

1046 - ยันต์ความลับสวรรค์ 


1046 - ยันต์ความลับสวรรค์

ทุกคนกล่าวว่ายุคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเผ่าอีกาทองกำลังจะมาถึง พวกเขามีองค์ชายที่เป็นครึ่งเซียนถึงสิบคน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขาจะครองโลกในอนาคตอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ผู้คนจำนวนมากวาดฝันไว้กลับต้องพังทลายลงภายในเวลาไม่กี่วันเท่านั้น องค์ชายทั้งสิบของเผ่าอีกาทองล้มลง และแม้แต่ลู่หยาที่แข็งแกร่งที่สุดก็เสียชีวิตเช่นกัน เรื่องทุกอย่างจบลงอย่างน่าเศร้า

ผลลัพธ์นี้ทำให้ผู้บ่มเพาะทั้งโลกรู้สึกละอายใจ บันทึกโลหิตอันยิ่งใหญ่ถูกกระทำด้วยมือของคนคนเดียวเท่านั้น

เย่ฟ่านฆ่าองค์ชายทั้งสิบของเผ่าอีกาทองด้วยตัวคนเดียว ความสามารถอันยอดเยี่ยมนี้อาจถูกเล่าขานไปนานนับหมื่นปี

เขาโก่งคันศรและยิงอีกาทองร่วงหล่นราวกับยิงปักษาธรรมดา ในการต่อสู้เพียงครั้งเดียวชื่อเสียงของเย่ฟ่านได้ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าและยืนหยัดในฐานะยอดฝีมืออันดับหนึ่งของโลกอย่างเต็มภาคภูมิ

ในยุคนี้เมื่อเซียนไม่ปรากฏตัวผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดย่อมหนีไม่พ้นร่างศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ

วันนี้ไม่มีใครไม่รู้จักชื่อเย่ฟ่าน ชื่อของเขาได้ถูกเล่าขานอย่างไม่รู้จบแล้ว

การต่อสู้ที่เกิดขึ้นในหยวนซูทำให้ทุกฝ่ายตกใจ!

ในที่สุดผู้คนจำนวนมากก็มีโอกาสได้มองเห็นเย่ฟ่านต่อสู้ ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่านี่คือบุคคลที่มุ่งมั่นที่จะพิสูจน์เต๋า และตราบใดที่เขายังมีชีวิตอยู่ทุ่งดวงดาวจื่อเว่ยจะไม่มีวันสงบได้

หยินเทียนเต๋อนั้นน่ากลัวมาก เมื่อสิบสี่ปีก่อนเขาก็เอาชนะยอดฝีมือของทุกเผ่าพันธุ์ในโลกและกลายเป็นยอดฝีมืออันดับ 1 ในปัจจุบัน

ตอนนี้เย่ฟ่านอีกคนปรากฏตัวขึ้น ในอนาคตพยัคฆ์และมังกรคู่นี้จะต้องต่อสู้กันเอง ในแต่ละยุคนั้นจะมีจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ได้เพียงคนเดียว และไม่ต้องสงสัยเลยว่าหนึ่งในพวกเขาจะต้องกลายเป็นบันไดให้อีกฝ่ายใช้ปีนป่ายขึ้นไปด้านบน

บนถนนของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ ผู้คนที่มีความสามารถจำนวนมากเหี่ยวเฉา คนที่โดดเด่นไม่เพียงพอถูกกำหนดให้ต้องตาย

นี่คือถนนที่สร้างขึ้นด้วยเลือดและกระดูก!

“ในอนาคตข้างหน้าหยินเทียนเต๋อจะต่อสู้กับเย่ฟ่านแน่นอน และมันจะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้!”

“ราชาสวรรค์ทั้งสองที่เกิดในยุคเดียวกันช่างน่าเศร้าจริงๆ แม้ว่าหยินเทียนจื่อจะไม่ถูกเย่ฟ่านฆ่าตายแต่ทั้งคู่ต้องต่อสู้กันสักวันหนึ่ง”

ผู้คนกำลังพูดคุยกันอย่างดุเดือด และทุกคนในโลกต่างกำลังรอคอยเหตุการณ์ที่สั่นสะเทือนทั้งสวรรค์พิภพซึ่งจะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้!

ทุกคนเชื่อว่าเย่ฟ่านจะเป็นคนที่จะแสวงหาหยินเทียนเต๋อออกมาต่อสู้เอง

มิฉะนั้นเราจะแข่งขันกับหยินเทียนจื่อได้อย่างไรในอนาคต ไม่ใช่แค่เรื่องของผู้ที่พิสูจน์เต๋าได้ แต่ยังเป็นเรื่องของชีวิตด้วย และผู้แพ้ไม่มีทางออก

หยินเทียนเต๋อทรงพลังมากแค่ไหนเย่ฟ่านไม่รู้ บางทีนั่นอาจเป็นเหตุผลทำให้เขากล้าท้าทายชายผู้แข็งแกร่งที่สุดในโลก

อย่างไรก็ตามผู้คนในทุ่งดวงดาวจื่อเว่ยมีความหวาดกลัวต่อหยินเทียนเต๋ออย่างสุดซึ้ง เหตุการณ์ที่เขาเอาชนะยอดฝีมือจากทุกเผ่าพันธุ์เมื่อสิบสี่ปีที่แล้วยังคงตราตรึงอยู่ในใจของทุกคน

“เมื่อสิบสี่ปีก่อนเขากลายเป็นผู้อมตะครึ่งก้าวไปแล้ว”

“หลายปีที่ผ่านมาความลึกซึ้งเกี่ยวกับเต๋าของเขาจะต้องมีมากกว่าเดิม ไม่ว่าเขาจะยังไม่บรรลุความเป็นอมตะแต่ข้าคิดว่าความแข็งแกร่งของเขาน่าจะใกล้เคียงกันกับราชาอีกาทอง”

นี่เป็นข้อความที่เรียบง่ายและตรงไปตรงมาจากหลี่เทียนและเอี๋ยนอี้ซีซึ่งทำให้เย่ฟ่านขมวดคิ้วเล็กน้อย

“กล่าวตามตรง ต่อให้ข้ามั่นใจในตัวเองมากเพียงใดแต่ข้ารู้ดีว่าไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้” แม้แต่หลี่เทียนผู้ดื้อรั้นก็ยังกล่าวเช่นนั้น

ตอนนี้เขาได้เห็นพลังการต่อสู้ของเย่ฟ่านแล้ว แต่เขาก็ยังกล่าวแบบนี้ ซึ่งเพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าหยินเทียนเต๋อนั้นน่ากลัวเพียงใด

เจ้าต้องรู้ว่าหลี่เทียนและเอี๋ยนอี้ซีเป็นคนที่แข็งแกร่งในระดับเดียวกับลู่หยาอย่างแน่นอน นี่คืออัจฉริยะระดับสูงสุดของโลก และหากพวกเขาร่วมมือกันก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากกว่าเดิมสองเท่า

อย่างไรก็ตามแม้พวกเขาจะต้องการบุกเข้าไปในวังไป๋จิงพวกเขาก็ต้องทำในระหว่างที่หยินเทียนเต๋อกำลังขี่วัวไปทางทิศตะวันตกตามถนนโบราณเท่านั้น

หากหยินเทียนเต๋อยังคงอยู่ในวังโบราณไป๋จิง ทั้งสองคนไม่มีทางเฉียดเข้าใกล้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนั้นอย่างแน่นอน

“อา... ข้าเป็นผู้ชาย ได้โปรดละเว้นพรหมจรรย์ของข้าด้วย”

เสียงกรีดร้องที่เสียดหูดังขึ้น และชายหนุ่มปีศาจงูจากวังไป๋จิงกรีดร้องอย่างน่าสังเวช ราวกับว่าเขากำลังจะถูกหลี่เทียนขืนใจ

ใบหน้าของหลี่เทียนมืดมน เท้าของเขาตวัดออกไปสองครั้งด้วยความโกรธทันที

“ผู้แซ่หลี่ไม่ใช่คนปัญญาอ่อนที่จะบอกไปได้ว่าเจ้าเป็นชายหรือหญิง?”

ใบหน้าเล็กๆ ของชายหนุ่มปีศาจงูเต็มไปด้วยความตกใจ แต่สุดท้ายเขาก็ยังคืบคลานขึ้นมาจากพื้นเพราะกลัวจะถูกทรมานไปมากกว่านี้

“เจ้ามองหน้าข้าทำไม ที่เจ้าอยากให้ข้าควักดวงตาคู่นั้นออกมา!” หลี่เทียนกล่าวด้วยใบหน้าที่มืดมน

นี่เป็นภูเขาขนาดเล็กที่อยู่ในพื้นที่อันห่างไกล เย่ฟ่านและคนอื่นๆ ได้ทรมานชายหนุ่มปีศาจงูเพื่อให้ได้ทุกอย่างเกี่ยวกับวังไป๋จิง

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม พวกเขาออกจากพื้นที่ภูเขาเตี้ยๆ พร้อมกับวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของชายหนุ่มปีศาจงูและเดินทางสู่เมืองโบราณไป๋จิงโดยปราศจากความลังเล

วังไป๋จิงนั้นแม้จะมองเห็นได้ง่ายไม่ได้อยู่ในสถานที่ลึกลับอันใด แต่การจะเข้าไปข้างในกลับไม่ง่ายขนาดนั้น

“ด้วยเตาหลอมเซียนในมือต่อให้ที่นี่เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่ชิงเราก็สามารถเปิดขึ้นได้ แต่ต้องรอจนถึงคืนพระจันทร์เต็มดวงก่อนเตาหลอมเซียนจึงจะมีอำนาจเพียงพอ” หลี่เทียนตัดสินใจที่จะรอคอยสามวัน

ในอีกไม่กี่วันต่อมา ข่าวที่ทำลายโลกก็ปรากฏขึ้น ราชาอีกาทองออกจากการเก็บตัวฝึกฝนอย่างสันโดษและพยายามพลิกแผ่นดินเสิ่นโจวตะวันออกเพื่อมองหาร่องรอยของเย่ฟ่าน

ราชาสวรรค์ที่แท้จริงปรากฏตัวขึ้นแล้ว!

นี่คือปฏิกิริยาแรกของทุกคนเมื่อได้ข่าว ตลอดหลายพันปีที่ผ่านมาราชาอีกาทองแทบไม่เคยปรากฏตัวขึ้น นั่นทำให้ผู้คนต่างคาดเดาความแข็งแกร่งของเขาไปต่างๆนานา

อย่างไรก็ตามเหตุการณ์เมื่อไม่กี่วันก่อนนั้นทำให้ทุกคนหวาดกลัวอย่างยิ่ง พวกเขาไม่เข้าใจความแข็งแกร่งที่แท้จริงของหยินเทียนเต๋อและเย่ฟ่าน แต่พลังที่ราชาอีกาทองแสดงออกมาจะต้องเหนือกว่าชายหนุ่มทั้งสองคนอย่างแน่นอน

นั่นก็เพราะร่างอวตารที่เขาส่งออกมาไล่ล่าเย่ฟ่านเมื่อไม่กี่วันก่อนนั้นย่อมไม่มีทางเทียบได้กับร่างจริง บางทีมันอาจจะมีพลังเพียงหนึ่งในสิบส่วนของร่างจริงเท่านั้น

เมื่อเป็นเช่นนี้การฆ่าเย่ฟ่านดูเหมือนจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร

“พวกเราต้องออกจากดาวดวงนี้ให้เร็วที่สุด ไม่เช่นนั้นอีกาเฒ่าจะต้องฉีกร่างของพวกเราออกเป็นชิ้นๆอย่างแน่นอน” หลี่เทียนกล่าวด้วยใบหน้ามืดมน

“ท่านลุงร้องไห้เลยถ้าอยากร้องไม่จำเป็นต้องฝืนใจตัวเอง” ตงตงกล่าวขณะกอดกระต่ายน้อยสีขาวในอ้อมแขน

“อย่าอุ้มกระต่ายเวลาคุยกับข้า” หลี่เทียนคำราม

เมื่อตงตงน้อยได้ยินเช่นนั้นเขาก็รีบอุ้มกระต่ายวิ่งหนีทันที

“ดูเหมือนความอ่อนโยนทุกอย่างในโลกนี้จะสะกิดแผลบางอย่างในหัวใจเจ้า” เย่ฟ่านถามด้วยรอยยิ้ม

“ข้าคือชายผู้ชั่วร้ายที่สุดในโลก แต่ในความเป็นจริงข้าไม่เคยทำเรื่องชั่วร้ายแม้แต่ครั้งเดียว!” หลี่เทียนดูเหมือนจะรู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่งกับเรื่องนี้

“พึ่บ…” เย่ฟ่านสำลักน้ำชา “เจ้าไร้ยางอายขนาดนี้ยังบอกว่าไม่เคยทำเรื่องชั่วร้ายอีก”

“ข้ารู้ว่าเจ้าไม่เชื่อข้า หลายปีก่อนหน้านี้ในระหว่างที่ข้ากำลังนอนหลับอยู่ด้านนอกของน้ำตกแห่งหนึ่ง เมื่อข้าตื่นขึ้นก็พบว่าหญิงงามอันดับแปดและเก้าของโลกใบนี้กำลังอาบน้ำอยู่ในม่านน้ำตกนั้น เมื่อพวกนางมองเห็นใบหน้าของข้า จากนั้นชื่อเสียงของข้าก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป!” หลี่เทียนดูเหมือนจะได้รับความคับแค้นอย่างยิ่ง

“เรื่องนี้ไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว เมื่อเจ้าไปถึงโลกอำพรางสวรรค์ชื่อเสียงทองเจ้าก็จะได้รับการฟื้นฟูอีกครั้ง เจ้าไม่จำเป็นต้องแบกรับชื่อที่เต็มไปด้วยความอัปยศนี้อีกต่อไป!”

เอี๋ยนอี้ซีซึ่งได้ชื่อว่าเป็นชายที่หล่อเหลาที่สุดในโลกกล่าวด้วยรอยยิ้ม จากนั้นเขาก็หยิบหยกชิ้นหนึ่งออกมาและกล่าวอย่างจริงจังว่า

“ศิษย์น้องเจ้าคิดอย่างไรกับของชิ้นนี้”

“ยันต์ความลับสวรรค์!” หลี่เทียนผงะและกล่าวว่า “เจ้าไปพบมันที่ไหน”

“ในขี้เถ้าธูปหน้าแท่นบูชาปรมาจารย์”

“นี่เป็นสมบัติล้ำค่าที่สุดในสำนักของเรา เหตุใดตาแก่นั้นไม่มอบออกมาแต่เลือกที่จะซ่อนไว้?” หลี่เทียนตะโกนด้วยความโกรธ

“ยันต์นี้มีความพิเศษอะไร?” เย่ฟ่านถาม

“แน่นอน นี่คือยันต์ศักดิ์สิทธิ์ของนิกายเทียนจี้เรา หากเจ้าถือไว้ในมือและกระตุ้นมันให้ทำงานด้วยวิธีการโบราณบางอย่าง เจ้าจะสามารถส่องความลับสวรรค์ได้ แน่นอนว่ามันสามารถใช้งานได้เพียงสี่ครั้ง” หลี่เทียนอุทานด้วยความตื่นเต้น

“เรากำลังจะจากไปในไม่ช้า ดังนั้นเราต้องกระตุ้นยันต์ชิ้นนี้เพื่อส่องความลับสวรรค์จนกระทั่งมันกลายเป็นเศษขยะ” หลี่เทียนยิ้มจากนั้นเขาก็หยิบยันต์โบราณขึ้นมาและกล่าวว่า

“อี้ชิงอู่จะมีวาสนาเป็นภรรยาของข้าหรือไม่?”

“เจ้ากล่าวเรื่องไร้สาระอะไร!” เย่ฟ่านไม่พอใจเล็กน้อย

“เรามีโอกาสใช้มันเพียงไม่กี่ครั้ง ดังนั้นไม่อาจปล่อยให้เสียโอกาสไปอย่างไร้ความจำเป็น” เอี๋ยนอี้ซีกล่าว

“ใช่ เรากำลังจะออกจากโลกนี้แล้ว ดังนั้นในสายตาของเราหญิงงามทั่วทั้งโลกก็ไม่ต่างอะไรจากเศษขยะ” หลี่เทียนถอนหายใจ

“แล้วพวกเราจะส่องความลับสวรรค์ในเรื่องอะไร” เย่ฟ่านกล่าว

จากนั้นทั้งสามคนก็เริ่มใช้สมองร่วมกัน พวกเขาคิดหาวิธีที่จะใช้งานสมบัติชิ้นนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

….

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด