บทที่ 7 อสูรกินเหล็กจะไม่มีวันเป็นทาส
สภาพแวดล้อมของฐานเพาะพันธุ์ไผ่เหล็กนั้นแตกต่างจากฐานเพาะพันธุ์เมืองทุ่งน้ำแข็ง ที่นี่มีเพียงแค่พื้นที่ป่าไผ่ภูเขาสูง
ในโลกใบนี้ ซืออวี๋มักจะเห็นสิ่งที่ไม่สมเหตุสมผล
ตัวอย่างเช่น สภาพแวดล้อมสามหรือสี่แห่งที่เป้นไปไม่ได้เลยที่จะอยู่ติดกันบน ‘โลก’ นั้นสามารถผสมผสานกันได้อย่างสมบูรณ์แบบที่นี่
อย่างไรก็ตาม หากใครศึกษามันอย่างละเอียดถี่ถ้วน พวกเขาจะตระหนักว่ามันเป็นพลังพิเศษของสัตว์อสูรที่มีผลกระทบต่อโลกภายนอก
สภาพแวดล้อมของฐานเพาะพันธุ์ไผ่เหล็กนั้นค่อนข้างปกติ อย่างน้อยก็ปกติกว่าฐานเพาะพันธุ์เมืองทุ่งน้ำแข็ง
ดินคุณภาพสูง ป่าอันเขียวขจี ไผ่เหล็กที่อุดมสมบูรณ์ แหล่งน้ำที่ใส่สะอาด เสียงน้ำไหลที่ชัดเจน — นี่คือสภาพแวดล้อมที่อสูรกินเหล็กชื่นชอบ
ในปัจจุบัน ซืออวี๋และหลินซิ่วจูก็ได้เข้าสู่พื้นที่เพาะพันธุ์แล้ว
แม้ว่าจะมีลูกอสูรกินเหล็กเหลือเพียงตัวเดียว แต่เขาก็ยังจะมาดูมัน เขารอลูกอสูรกินเหล็กกลุ่มใหม่เติบโตในอีกหนึ่งปีข้างหน้าไม่ไหว
ชีวิตนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ซืออวี๋ถนหายใจ…
ในฐานเพาะพันธุ์ไผ่เหล็ก ไม่ได้มีเพียงแค่อสูรกินเหล็กเด็กเท่านั้น แต่ยังมีอสูรกินเหล็กโตเต็มวัยจำนวนมากเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ซืออวี๋ได้จองอสูรกินเหล็กเด็ก
นักฝึกสัตว์อสูรมือใหม่เช่นเขาทำสัญญาได้แค่เฉพาะลูกสัตว์อสูรเท่านั้น
แม้ว่าอสูรกินเหล็กโตเต็มวัยจะสามารถลดขนาดตัวของพวกมันได้ แต่ซืออวี๋ก็ไม่สามารุรับมือกับะวกมันได้อย่างชัดเจน
“อสูรกินเหล็ก… เป็นประเภทเก็บตัวอย่างแท้จริง”
ระหว่างทาง ซืออวี๋เห็นอสูรกินเหล็กหลายตัวที่นอนอยู่เพียงลำพังในบริเวณใกล้เคียง พวกมันทุกตัวกำลังนอน… ราวกับคนเก็บตัว
บางตัวนอนในรังหญ้า บางตัวนอนกอดต้นไม้ และบางตัวก็นอนบนกิ่งไม้ มันเงียบสงบอย่างน่าประหลาดใจ
“มันยังไม่ถึงฤดูออกหากินของพวกมัน อสูรกินเหล็กตัวเต็มวัยจึงมักจะอยู่อย่างเงียบสงบ แต่อสูรกินเหล็กเด็กจะมีชีวิตชีวา”
หลินซิ่วจูเดินไปข้างหน้าในขณะที่นางกล่าว อันที่จริง ภายใต้การนำของนาง ในไม่ช้าซืออวี๋ก็เห็นอสูรกินเหล็กตัวเล็กอย่างชัดเจน
มันตัวยาวไม่ถึงเมตรและตัวไม่ใหญ่มากนัก มันอายุประมาณหนึ่งขวบและเพิ่งจากลาแม่ของมันออกมาใช้ชีวิต
ลูกอสูรกินเหล็กที่นักฝึกสัตว์อสูรจองไว้นั้นโดยพื้นฐานแล้วมีอายุเท่านี้ ท้ายที่สุด หากลูกสัตว์อสูรนั้นเด็กเกินไป การดูแลพวกมันนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายนัก
“อสูรกินเหล็กตัวนี้เหรอ?” ซืออวี๋มีความสุขมากเมื่อเขาเห็นอสูรกินเหล็กตัวน้อย เขารู้สึกว่าเขาไม่ได้รอถึงสามเดือนโดยเปล่าประโยชน์
ลูกสัตว์อสูรตัวนี้มีขนนุ่มสีดำขาว และหางที่สั้นของมันก็น่ารักมาก
ในเวลานี้ มันก็สังเกตเห็นซืออวี๋และหลินซิ่วจู เหนือแก้มกลมของมัน ดวงตาภายในวงกลมสีดำขนาดใหญ่นั้นกำลังมองมาที่พวกเขาอย่างสดใสและจริงจัง
“ใช่แล้ว…” หลินซิ่วจูพยักหน้า
“มันดูปกติมาก” ซืออวี๋กล่าวออกมา
ทันทีที่เขากล่าวเสร็จ ลูกอสูรกินเหล็กก็มองไปทางอื่นทันที ราวกับว่ามันไม่ต้องการถูกรบกวน ทันใดนั้นมันก็วิ่งและกระแทกตัวกับต้นไม้อย่างรุนแรง จากนั้นมันก็กระเด็นออกมาและกลิ้งบนพื้นหลายครั้งก่อนที่หยุด
ซืออวี๋กล่าวเสริมว่า “เอาล่ะ เขาดูไม่ฉลาดมากนัก”
หลินซิ่วจูเอามือปิดหน้าผากของนางอย่างช่วยไม่ได้และกล่าวว่า “อสูรกินเหล็กเด็กตัวนี้มีปัญหาบางอย่างเมื่อมันคลอด และการคลอดของมันนั้นไม่ค่อยราบรื่นนัก ร่างกายของมันอ่อนแอกว่าอสูรกินเหล็กเด็กตัวอื่น”
“อสูรกินเหล็กในวัยเดียวกันกับมันได้ปลุกทักษะการเคลือบแข็งของพวกมันแล้วก่อนอายุหนึ่งขวบ มีเพียงอสูรกินเหล็กตัวนี้เท่านั้นที่ยังปลุกการเคลือบแข็งได้จนถึงตอนนี้”
ภายใต้สถานการณ์ปกติ ยิ่งสัตว์อสูรในเผ่าพันธุ์เดียวกันปลุกทักษะเผ่าพันธุ์ได้เร็วเท่าไหร่ ศักยภาพและพรสวรรค์ของมันก็จะยิ่งดีขึ้นเท่านั้น สำหรับสัตว์อสูรที่ปลุกทักษะเผ่าพันธุ์ได้ช้า ย่อมหมายความว่าพรสวรรค์ของพวกมันนั้นย่ำแย่ นั่นคือเหตุผลที่อสูรกินเหล็กตัวนี้จึงถูกทิ้งไว้
“กล่าวตามตรง เนื่องจากความแตกต่างของสัตว์อสูรแต่ละตัว นิสัยของมันจึงเริ่มแตกต่างจากอสูรกินเหล็กตัวอื่น”
อสูรกินเหล็กมีนิสัยและงานอดิเรกเหมือนกับแพนด้ายักษ์ นอกจากใช้เวลาครึ่งวันในการกินแล้ว อีกครึ่งวันที่เหลือนั้นก็ใช้ไปกับการนอนหลับ
ในกรณีส่วนใหญ่ อสูรกินเหล็กนั้นเชื่องมาก เมื่อพวกเขาเห็นผู้คน พวกเขามักจะเอาอุ้งเท้าปิดหน้าหรือก้มหัวลง ไม่เปิดเผยหน้าตาที่แท้จริงของพวกมัน พวกมันไม่ค่อยเป็นฝ่ายเริ่มโจมตีสิ่งมีชีวิตตัวอื่นก่อน
ดังนั้นพวกมันจึงเหมาะสำหรับนักฝึกสัตว์อสูรมือใหม่
อย่างไรก็ตาม อสูรกินเหล็กตัวนี้มีประสบการณ์ส่วนตัวที่แตกต่างจากอสูรกินเหล็กตัวอื่น อย่างแรก มันพัฒนาช้ากว่าอสูรกินเหล็กตัวอืนของกลุ่มเดียวกัน มันยังไม่รู้สิ่งที่มันควรจะรู้ จากนั้นมันก็ถูกทิ้งให้อยู่เพียงลำพัง และนิสัยของมันก็เปลี่ยนไปอย่างมาก
มันกระวนกระวายใจมาก ดังนั้นมันจึงเริ่มเปลี่ยนแปลงนิสัยของมันและมีวินัยมากขึ้น
มันฝึกฝนอย่างหนักหน่วงด้วยตัวเอง โดยหวังว่าจะปลุกทักษะการเคลือบแข็งของมันอย่างรวดเร็วและแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
มันเป็นอสูรกินเหล็กที่หายากซึ่งมีความฝันและไม่ขี้เกียจ น่าเสียดายที่พรสวรรค์ของมันยังขาดอยู่บ้าง
หลังจากการวิวัฒนาการ สติปัญญาของอสูรกินเหล็กนั้นไม่ต่ำเลยเมื่อเทียบกับสัตว์อสูรตัวอื่น
การกระแทกต้นไม้ก่อนหน้านี้นั้นเป้นวิธีที่มันฝึกฝนร่างกายของมัน
“กล่าวอีกนัยหนึ่ง พรสวรรค์ของอสูรกินเหล็กเด็กตัวนี้นั้นย่ำแย่มาก แต่มันฝึกฝนอย่างหนักหน่วงและขยันขันแข็ง มันไม่มีอะไรนอกจากความปรารถนาที่จะแข็งแกร่งใช่ไหม?” ซืออวี๋สรุปและยิ้มออกมา
“...แม้ว่าเจ้าจะกล่าวเกินจริงไปเล็กน้อย แต่ก็กล่าวได้ถูกต้อง” หลินซิ่วจูกล่าวออกมา
“แต่ไม่ต้องกังวล มีแค่การพัฒนาตามธรรมชาติของมันเท่านั้นที่ช้า หากมันอยู่ในมิติฝึกสัตว์อสูร มันก็สามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็วในอนาคต”
ยิ่งกว่านั้น อสูรกินเหล็กที่มีระเบียบวินัยนั้นหายากอย่างแท้จริง
นิสัยเช่นนี้มักจะเป็นโบนัส
แน่นอน… มีข้อเสียสำหรับนิสัยนี้… หลินซิ่วจูกล่าวในใจของนาง มันกินมากเกินไปเนื่องจากวิถีชีวิตอันผิดปกติของมัน
ท้ายที่สุด หากมันต้องการฝึกฝน สารอาหารที่มันต้องการก็มากยิ่งขึ้นเช่นกัน
“งั้นข้าจะรับมันไว้เอง”
แม้ว่าอสูรกินเหล็กธรรมดาจะไม่แย่ แต่ซืออวี๋ไม่ต้องการสัตว์อสูรที่เพียงแค่กินและนอนเท่านั้น พวกมันขี้เกียจเกินไป
เขาอยากเป็นคนเดียวที่ขี้เกียจ
มันไม่สำคัญว่าพรสวรรค์ของมันจะดีหรือแย่ ท้ายที่สุด เขามีสารบัญทักษะ
ทุกคนรู้ว่าความพยายามและการโกงนั้นมีเส้นทางให้เดินได้เสมอ
“เจ้าตัดสินใจแล้วเหรอ?” หลินซิ่วจูมองซืออวี๋ด้วยความสับสน
นักฝึกสัตว์อสูรส่วนใหญ่จะกังวลเกี่ยวกับพรสวรรค์ของสัตว์อสูรไม่ใช่เหรอ?
มิฉะนั้น อสูรกินเหล็กเด็กตัวนี้คงไม่ถูกทิ้งไว้
“ข้าชอบสัตว์อสูรที่พยายามอย่างหนัก… ข้าคิดว่ามันเข้ากันได้ดีกับข้า”
ใช่แล้ว เขาคิดจะให้มันฝึกฝนด้วยตัวเอง
“แล้วมีส่วนลดบ้างไหม?” ซืออวี๋ยังคงไม่ลืมเกี่ยวกับส่วนลด
หลินซิ่วจูไร้คำกล่าว อย่างไรก็ตาม ด้วยข้อมูลของซืออวี๋ นางจึงเข้าใจสถานการณ์ของเขา
นางกล่าวว่า “อสูรกินเหล็กตัวนี้นอนน้อยมาก ดังนั้นมันจึงมีความอยากอาหารมากขึ้น”
“ในส่วนของราคา… ไม่มีส่วนลด เราปฏิบัติต่ออสูรกินเหล็กทุกตัวที่นี่อย่างเท่าเทียมกัน อย่างไรก็ตาม หากเจ้าต้องการส่วนลด เราสามารถมอบไผ่เหล็ก”
ฐานเพาะพันธุ์ไผ่เหล็กนั้นไม่เพียงแค่เป็นฐานเพาะพันธุ์อสูรกินเหล็กเท่านั้น แต่มันยังผลิตอาหารโปรดของพวกมัน ไผ่เหล็ก
ไผ่เหล็กนั้นแข็งราวกับเหล็กและเป็นไผ่กลายพันธุ์ มันเป็นอาหารหลักที่ใช้ในการบ่มเพาะอสูรกินเหล็กเพื่อเรียนรู้ทักษะการเคลือบแข็งของพวกมัน มันราคาไม่ถูกเลย และอสูรกินเหล็กก็กินจุมาก
ไผ่เหล็กมูลค่าหนึ่งเดือนเป็นของแถมที่ดีอย่างแท้จริง ท้ายที่สุด มันเป็นสิ่งที่จำเป็น
“ขอบคุณมาก” ซืออวี๋ยอมรับ
หลินซิ่วจูพยักหน้า เนื่องจากซืออวี๋ได้ยืนยันแล้ว นางจึงเดินไปข้างหน้าและไปหาอสูรกินเหล็กน้อยที่นอนอยู่บนพื้นในตอนนี้
“อีเลฟเวน ในที่สุดนักฝึกสัตว์อสูรก็เลือกเจ้า เจ้ามีความสุขไหม?” นางย่อตัวลงและยิ้มให้กับอสูรกินเหล็ก
อสูรกินเหล็กที่นี่ทุกตัวมีหมายเลขของพวกมัน และลูกอสูรกินเหล็กก็เช่นกัน ลูกอสูรกินเหล็กแสนพิเศษตัวนี้คือหมายเลขสิบเอ็ด โดยพื้นฐานแล้วนักเพาะพันธุ์ที่นี่จึงเรียกมันว่าอีเลฟเวน
อสูรกินเหล็กนั่งเงียบ จากนั้นก็มองไปที่ซืออวี๋จากระยะไกลและกระพริบตา
แม้ว่ามันจะมีความสุขที่นักฝึกสัตว์อสูรยอมรับมัน… แต่ก็ช้าเกินไป!
มันนั่งบนพื้นพร้อมกับยกแขนขึ้นและร้องออกมา
อสูรกินเหล็กจะไม่มีวันเป็นทาส!
มันสามารถแข็งแกร่งขึ้นได้ด้วยตัวเอง!
หลังจากกล่าวเช่นนั้นไป มันก็ลุกขึ้นและต้องการวิ่งหนี มันวางแผนหลบหนีจากเจ้าหน้าที่ของฐานเพาะพันธุ์
อสูรกินเหล็กนั้นไร้ความหวาดกลัว!
ไม่จำเป็นต้องมีนักฝึกสัตว์อสูร
ก่อนที่มันจะเริ่มวิ่งหนี หลินซิ่วจูก็คว้าคอของมันและยกมันขึ้น
ซืออวี๋ผู้ที่มีกระแสจิตนั้นไร้คำกล่าว
ไม่เลวเลย มีพลังงานล้นหลาม
ในอีกด้านหนึ่ง หลินซิ่วจูถอนหายใจและกดอสูรกินเหล็กลงบนพื้น
แม้ว่านางจะเป็นเด็กสาวคนหนึ่ง แต่นางก็แข็งแกร่งอย่างน่าประหลาดใจ
นางคือนักฝึกสัตว์อสูรอย่างแน่นอน หลังจากทำสัญญากับสัตว์อสูรแล้ว พลังของสัตว์อสุรก็จะถูกส่งกลับมายังนักฝึกสัตว์อสูรเช่นกัน ทำให้ความแข็งแกร่งทางจิตใจและทางร่างกายของนักฝึกสัตว์อสูรเพิ่มขึ้น
แม้ว่านางจะไม่สามารถต่อสู้กับสัตว์อสูรได้ด้วยมือเปล่า แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับนางที่จะสังหารผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อสู้และนักกีฬาบน ‘โลก’
“ฟังนะ หากเจ้ากล้าวิ่งหนี เจ้าจะไม่มีอาหารให้กิน และหลังจากกลายเป็นสัตว์อสูรของนักฝึกสัตว์อสูร ไม่เพียงแค่ความเร็วการเติบโตของเจ้าจะเร็วขึ้นหลายเท่าแล้ว แต่ทักษะการเคลือบแข็งที่เจ้าเรียนรู้ไม่ได้ก่อนหน้านี้ก็สามารถปลุกได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน”
“ยิ่งกว่านั้นยังมีสภาพแวดล้อมการพักผ่อนที่สะดวกสะบายและอาหารที่หลากหลายมากกว่า มันมีความสุขกว่าการอาศัยอยู่ที่นี่มาก”
หลินซิ่วจูจริงจังมากในขณะที่นางอธิบายให้กับอสูรกินเหล็กเด็ก มันฟังดูราวกับว่านางจะมีพรสวรรค์กระแสจิต หรือบางทีนางอาจสวมบทบาทเป็นอสูรกินเหล็กมานานมากจนพวกมันสามารถเข้าใจคำกล่าวของนางได้
หลังจากที่นางกล่าวเสร็จ อสูรกินเหล็กนั้นก็ตกตะลึง
มันมองไปที่ซืออวี๋ด้วยสีหน้าว่างเปล่า
ซืออวี๋กล่าวหลังจากเงียบไปสักพักหนึ่ง “ใช่แล้ว”
ลูกอสูรกินเหล็กก็ร้องอีกครั้ง สีหน้าของมันก็ดูสับสนและขัดแย้งกันมากขึ้น
อาหารและสภาพแวดล้อมที่ดีกว่าฐานเพาะพันธุ์จริงเหรอ?
น้ำลายไหลออกมาจากปากของมัน
ในท้ายที่สุด การล่อลวงผลประโยชน์ที่นักฝึกสัตว์อสูรมอบให้นั้นยิ่งใหญ่กว่าเจตจำนงของมัน ลูกอสูรกินเหล็กก็พยักหน้าอย่างไม่เต็มใจ
ข้าทนไม่ไหวแล้ว…
อสูรกินเหล็กจะไม่มีวันเป็นทาสและไร้ความหวาดกลัว… เว้นแต่จะมีการจัดเตรียมอาหารและที่พักไว้ให้
Fanpage : ผีเสื้อกลางคืน