บทที่ 5 สามทักษะ
ฐานเพาะพันธุ์สัตว์อสูรของเมืองทุ่งน้ำแข็ง
ในตอนกลางคืน
ร่างหนึ่งเดินออกมาจากอาคารหอพักและตรงมายังสถานพยาบาล
ในฐานเพาะพันธุ์ มันเป็นเรื่องปกติสำหรับสัตว์อสูรป่าที่จะต่อสู้ และบางครั้งนักเพาะพันธุ์ก็อาจจะได้รับบาดเจ็บโดยไม่ได้ตั้งใจ
ดังนั้นฐานเพาะพันธุ์สัตว์อสูรทุกแห่งจึงมีสถานพยาบาล
สถานพยาบาลที่นี่ไม่มีเป้าหมายการรักษาเฉพาะเจาะจง อาการบาดเจ็บของมนุษย์และสัตว์อสูรสามารถรักษาได้ และวิธีการรักษาก็เรียบง่ายมาก… ในยุคแห่งสัตว์อสูร แน่นอนว่าต้องใช้ทักษะการรักษาของสัตว์อสูร
หลังจากมาถึงสถานพยาบาลอย่างรวดเร็ว ซืออวี๋ก็พบแพทย์เวรนั่งอยู่บนเก้าอี้ซึ่งกำลังจัดเอกสารอยู่
“มีอะไรหรือเปล่า?” นางเงยหน้าขึ้นมาเมื่อเห็นใครบางคนกำลังเดินเข้ามา
“หมอ ข้าคิดว่าข้าข้อมือเคล็ด ข้ากังวลว่าพรุ่งนี้มันจะส่งผลต่องานของข้า…”
ซืออวี๋เดินไปข้างหน้าและยื่นมือออกมา มือที่บวมเล็กน้อยของเขายังคงสั่นเทา
“ขอข้าดูก่อน” แพทย์หญิงไม่แสดงอารมณ์ในขณะที่นางเหลือบมองมายังข้อมือของซืออวี๋
ดูจากชุดของเขา นางสามารถบอกได้ว่าซืออวี๋เป็นนักเพาะพันธุ์ฝึกหัดที่นี่ เป็นนักเรียนที่เพิ่งจบการศึกษาจากโรงเรียน
โดยปกติแล้ว พนักงานเช่นนี้มักชอบสร้างปัญหา แต่นางก็ชินแล้ว
“ให้ข้าจัดการเอง” นางพึมพำ
ในวินาทีต่อมา ซืออวี๋ก็รู้สึกว่าอุณหภูมิรอบตัวเขาลดต่ำลงในขณะที่กระแสลมปรากฎขึ้นจากอากาศอันบางเบา
ฟู่วว…
ลมเย็นพัดผ่าน และผ้าม่านในห้องก็กระพือ
ในเวลาเดียวกัน ในขณะที่แพทย์หญิงพึมพำ กลุ่มก้อนสีเขียวขาวขนาดใหญ่ก็เปล่งประกายด้วยจุดแสงนับไมไ่ถ้วนที่ปรากฎขึ้นกลางอากาศ พุ่งไปทางซืออวี๋
จากนั้นกลุ่มก้อนสีเขียวขาวก็กระเพื่อมราวกับสายน้ำ และดอกแดนดิไลออนสีขาวก็ลอยออกมา
ดอกแดนดิไลออนสีขาวมีขนาดใหญ่กว่าฝ่ามือของซืออวี๋และไม่มีราก หลังจากถูกอัญเชิญออกมาโดยแพทย์หญิง มันก็ตกลงมาบนหลังมือของเขา
“มันใช้เวลาไม่นานนัก” นางกล่าวออกมา
ทันทีที่นางกล่าวจบ ดอกแดนดิไลออนสีขาวก็เปล่งแสงสีขาวจางที่ห่อหุ้มหลังมือของซืออวี๋
มันเป็นความจริงที่เขาบิดมือของตัวเอง แต่มันก็ไม่ได้ร้ายแรงเช่นนั้น เขาทำมันบนถนน ก่อนหน้านี้ ความเจ็บปวดยังคงมีอยู่เล็กน้อย แต่ตอนนี้มันก็ได้หายไปอย่างสมบูรณ์
ซืออวี๋รู้สึกประหลาดใจ
ไม่น่าแปลกใจที่เด็กฝึกหัดคนนั้นจะกล่าวว่าสถานพยาบาลในฐานเพาะพันธุ์นั้นน่าประทับใจมาก มันน่าประทับใจอย่างแท้จริง
การมีตัวตนอยู่ของสัตว์อสูรนั้นไม่ใช่เรื่องเลวร้ายสำหรับมนุษย์เสมอไป พวกมันสามารถช่วยได้อย่างมากในหลายด้านเช่นการรักษาพยาบาล
หลังจากการรักษา ดอกแดนดิไลออนสีขาวก็ลอยขึ้นมามือของซืออวี๋
ในขณะเดียวกัน ในจิตใจของซืออวี๋ หน้าที่สามของคู่มือหินภาพประกอบก็พลิกเปิดออก
ภาพของอสูรพืชดอกแดนดิไลออนก็ปรากฎขึ้นมา
[ทักษะ] : การรักษาความเร็วสูง
[ระดับทักษะ] : กลาง
[หมายเหตุ] : ทักษะการรักษาประเภทไม้ มันสามารถเร่งความเร็วในการรักษาของอาการบาดเจ็บธรรมดาได้
[สถานะ] : ไม่มีเป้าหมาย
สิ่งที่บันทึกและจำลองสำเร็จในครั้งนี้ก็คือทักษะการรักษาที่หายากมาก คุณค่าและประโยชน์ของมันก็สูงมากเช่นกัน
ไม่เพียงแค่ดอกแดนดิไลออนจะใช้ทักษะของมันเท่านั้น แต่มันยังสัมผัสกับซืออวี๋อีกเช่นกัน มันเป็นเหมือนกับที่ซืออวี๋คาดการณ์ไว้
แพทย์ในสถานพยาบาลของฐานเพาะพันธุ์เป็นนักฝึกสัตว์อสูรทุกคนและได้ทำสัญญากับสัตว์อสูรประเภทรักษาที่หายาก ก่อนหน้านี้ พนักงานคนอื่นมาที่นี่เพื่อรับการรักษาเพราะได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ดังนั้นซืออวี๋จึงคิดวิธีการเช่นนี้ขึ้นมาอย่างรวดเร็วเพื่อพยายามจำลองทักษะประเภทการรักษา
อย่างไรก็ตาม ซืออวี๋รู้สึกว่าเขายังคงใจร้อนเกินไป ยังเหลือเวลาอีกสามเดือนสำหรับการฝึกงาน จะมีโอกาสอื่นในอนาคต ไม่จำเป็นต้องผลีผลามเช่นนี้เลย
“มันน่าจะไม่เป็นไรแล้วใช่ไหม?” แพทย์หญิงมองไปที่ซืออวี๋หลังจากเรียกสัตว์อสูรของนางกลับไป “นอกจากนี้ เจ้ายังวุ่นวายเกินไป ไป๋ฝูอิ๋งกล่าวว่ามันเป็นแค่การบาดเจ็บที่เล็กน้อยมาก”
ในเวลานั้น สีหน้าที่ดูจริงจังของซืออวี๋ทำให้นางคิดว่ามันเป็นอาการบาดเจ็บที่สาหัส… แต่ในความเป็นจริง หากนางไม่รักษาเขา ร่างกายของซืออวี๋ก็จะหายดีเอง
อย่างไรก็ตามมันคุ้มค่าที่จะยืนยันว่าเขาจะมาพบแพทย์ได้เมื่อร่างกายของเขาได้รับบาดเจ็บ และแพทย์ก็สังเกตเห็นเรื่องนี้
นางเคยเห็นนักฝึกสัตว์อสูรและสัตว์อสูรจำนวนมากที่ไม่สนใจอาการบาดเจ็บเล็กน้อย เมื่ออาการบาดเจ็บเล็กน้อยสะสมกัน ในที่สุดพวกมันก็จะกลายเป็นปัญหาอันร้ายแรง
ซืออวี๋ไร้คำกล่าว
ขอโทษด้วย เขาได้ผ่านการต่อสู้ในใจหลายครั้งเพื่อสร้างอาการบาดเจ็บเล็กน้อยนี้
ซืออวี๋พยักหน้าและกล่าวขอบคุณนาง “ข้าจะระวังตัวในคราวหน้า ขอบคุณมาก”
ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกค่อนข้างอาย ท้ายที่สุด เขาได้ทำให้คนอื่นเสียเวลา เขาควรจะซื้อขนมที่สัตว์อสูรพืชชอบมาในวันพรุ่งนี้เพื่อขอบคุณนาง…
การใช้ทักษะการรักษาเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บเป็นวิธีการรักษาของสถานพยาบาลของฐานเพาะพันธุ์สัตว์อสูร
แม้ว่ามันจะเป็นบาดแผลเล็กๆ แต่แพทย์ที่นี่ก็ชอบรักษามันด้วยสัตว์อสูร เหตุผลนั้นเรียบง่ายมาก ด้วยการรักษาหลายครั้ง มันก็สามารถเพิ่มความเชี่ยวชาญในทักษะของสัตว์อสูรได้
การเรียนรู้ทักษะไม่ได้หมายความว่าจะใช้มันได้อย่างช่ำชอง บ่อยครั้งที่ต้องฝึกฝนหลายครั้งเพื่อเปลี่ยนทักษะให้กลายเป็นทักษะในแบบของตัวเอง
ดังนั้นความสามารถในการจำลองทักษะเดิมในสารบัญทักษะเพื่อเพิ่มความเชี่ยวชาญจึงเป็นข้อผิดพลาด มันเทียบเท่ากับการเร่งประสิทธิภาพการฝึกฝนของสัตว์อสูร
…
จากสถานพยาบาลของฐานเพาะพันธุ์ ซืออวี๋รับทักษะการรักษาที่หายากได้สำเร็จ เขาอารมณ์ดีมาก
หลังจากกลับมายังหอพักจากสถานพยาบาล ซืออวี๋ก็อาบน้ำและล้มตัวลงนอน
ก่อนที่จะเข้านอน เขาก็ตั้งตารอวันที่จะได้กลายเป็นนักฝึกสัตว์อสูร
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีใครสามารถผ่านการทดสอบนักฝึกสัตว์อสูรมืออาชีพได้ นอกจากทำหน้าที่เล็กน้อยของพวกเขาแล้ว พวกเขาก็ไม่ต้องทำอะไรอีก สมาคมนักฝึกสัตว์อสูรจะจ่ายเงินให้กับพวกเขาเป็นรายเดือน และมันก็เป็นการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในอาชีพการงานของพวกเขา
“นักฝึกสัตว์อสูรที่เพิ่งทำสัญญากับสัตว์อสูรก็คือนักฝึกสัตว์อสูรฝึกหัด”
“นักฝึกสัตว์อสูรและสัตว์อสูรเริ่มต้นสามารถเข้าร่วมในการประเมินของสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรหลังจากความสามารถพวกเขาถึงจุดหนึ่ง”
“หากผ่านการประเมินก็จะกลายเป็นนักฝึกสัตว์อสูรมืออาชีพอย่างเป็นทางการ”
ซืออวี๋พึมพำเบาๆ เขาไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนสำหรับเขาที่จะกลายเป็นนักฝึกสัตว์อสูรฝึกหัดด้วยสารบัญทักษะ…
ด้วยสารบัญทักษะ เขาควรจะได้เปรียบอย่างมากในการฝึกฝนสัตว์อสูร
อายุ 18 ปีเป็นวัยที่เหมาะสมที่สุดในการกลายเป็นนักฝึกสัตว์อสูร
ในขณะที่เขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซืออวี๋ก็ผล็อยหลับไป
หลังจากถูกย้ายข้ามโลก ซืออวี๋ก็ใช้เวลามาแล้วหนึ่งวันในการปรับตัวเข้ากับโลกใบใหม่
ในปัจจุบัน เขายืนยันเป้าหมายต่อไปของเขาได้แล้ว
…
เช้าวันรุ่งขึ้น ซืออวี๋ตื่นแต่เช้าเพื่อเริ่มเช้าวันใหม่
ยิ่งกว่านั้น เขายังสละเวลาเล็กน้อยเพื่อซื้อของขวัญขอบคุณสำหรับแพทย์หญิงชราที่ช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของเขาเมื่อวานนี้
หลังจากปรับความคิดของเขาและระงับความต้องการที่จะเป็นนักฝึกสัตว์อสูรให้เร็วที่สุด ซืออวี๋ก็เริ่มที่จะหลอมรวมเข้ากับโลกใบนี้อย่างเชื่องช้า
ในชั่วพริบตา สามเดือนต่อมา ระยะเวลาฝึกงานก็สิ้นสุดลง และในที่สุดซืออวี๋ก็สามารถไปรับสัตว์อสูรของเขาได้
ด้วยสภาพแวดล้อมในการทำงานของเขา เขาจึงประสบความสำเร็จในการคัดลอกและบันทึกได้อีกสองทักษะ
ทักษะแรกคือทักษะระดับกลาง ‘สุดยอดการมองเห็น’ มันมาจากสัตว์อสูรประเภทลมซึ่งเป็นเผ่าพันธุ์ระดับเหนือธรรมชาติชั้นสูง มันคืออินทรีหลังเขียวซึ่งเป็นกลุ่มสัตว์อสูรที่ลาดตระเวนอยู่บนท้องฟ้าของฐานเพาะพันธุ์
สุดยอดการมองเห็น ตามชื่อของมัน มันเป็นทักษะที่ใช้ในการเสริมพลังการมองเห็น
อินทรีมีสายตาที่ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว และสัตว์อสูรที่ปลุกทักษะสุดยอดการมองเห็นก็จะยิ่งมีสายตาดียิ่งขึ้น ไม่เพียงแค่พวกมันจะสามารถมองผ่านภาพมายาธรรมดา แต่การเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้ของพวกมันก็ช้าลงหลายเท่าในสายตาของพวกมันเช่นกัน
แม้ว่ามันดูราวกับจะไม่สามารถใช้งานได้โดยตรง แต่ขีดจำกัดสุงสุดนั้นสูงมาก และการใช้งานมันก็กว้างขวาง สัตว์อสูรที่ใช้สายตาในการสอดส่องและลาดตระเวนในเมืองโดยพื้นฐานแล้วจะมีทักษะสุดยอดการมองเห็น
น่าเสียดายที่ยังมีช่องว่างระหว่างทักษะนี้และทักษะการรับรู้ในอุดมคติของซืออวี๋ที่สามารถพัฒนาประสาทสัมผัสทั้งห้าให้ถึงขีดจำกัด… หากไม่ใช่เพราะเขาหามันไม่เจอ ใครจะเต็มใจคัดลอกทักษะสุดยอดการมองเห็นกันล่ะ?
อย่างไรก็ตาม ทักษะนี้ก็ไม่เลวเลย หากอสูรกินเหล็กเรียนรู้ทักษะนี้ได้ การรับรู้ในการต่อสุ้ของมันก็จะเพิ่มมากกว่าครึ่ง
ทักษะที่สองก็คือทักษะระดับสูง การหลับลึก
มันมาจากสัตว์อสูรเผ่าพันธุ์ระดับเหนือธรรมชาติชั้นสูง ปีศาจนิทรา
ปีศาจนิทราเป็นสัตว์อสูรอันเดดที่มีสองทักษะเผ่าพันธุ์ : การหลับลึกและคลื่นสะกดจิต
เห็นได้ชัดเจนว่าปีศาจนิทราตัวนี้เป็นสัตว์อสูรของนักฝึกสัตว์อสูรบางคน
อีกฝ่ายมักใช้คลื่นสะกดจิตของปีศาจนิทราเพื่อให้สัตว์อสูรบางตัวหลับสนิท มันเป็นทักษะการสนับสนุนที่ดีมาก
สำหรับทักษะการหลับลึก มันเป็นทักษะที่ใช้กับตัวเอง หลังจากใช้มัน ผู้ใช้ก็จะเข้าสู่สภาวะหลับลึกและฟื้นฟูพละกำลังด้วยความเร็วสูง มันเป็นทักษประเภทการฟื้นฟู
มีสัตว์อสูรเพียงไม่กี่ตัวที่เรียนรู้ทักษะการหลับลึกได้ แต่อสูรกินเหล็กก็น่าจะสามารถเรียนรู้ได้ใช่ไหม?
ซืออวี๋ได้จำลองทักษะนี้เพราะเขาต้องการพึ่งพาตัวเองในอนาคต…
หลังจากกลายเป็นนักฝึกสัตว์อสูร หากเขาต้องการให้สัตว์อสูรของเขาเติบโตอย่างรวดเร็ว เขาต้องฝึกฝนมัน
อย่างไรก็ตาม การฝึกฝนจะต้องใช้พละกำลังของสัตว์อสูร สัตว์อสูรก็จะเหนื่อยและจำเป็นต้องพักผ่อน
ภายใต้สถานการณ์ปกติ นักฝึกสัตว์อสูรจะอัญเชิญสัตว์อสูรของพวกเขากลับไปยังมิติฝึกสัตว์อสูรเพื่อเร่งการฟื้นฟูพละกำลังของพวกมัน อย่างไรก็ตาม ด้วยวิธีนี้ นักฝึกสัตว์อสูรก็จะใช้พลังงานจำนวนมากเช่นกัน
คนที่ร่ำรวยสามารถซื้ออาหารเสริมได้ อย่างไรก็ตาม ซืออวี๋นั้นแตกต่าง
เขาคิดว่าหากสัตว์อสูรของเขาเรียนรู้ ‘การหลับลึก’ ได้ มันก็จะสามารถฟื้นฟูพละกำลังของมันด้วยความเร็วสูง… วิธีนี้จะช่วยประหยัดเงินและพลังงาน แต่ไม่ว่ายังไง อสูรกินเหล็กก็รักการนอน ดังนั้นมันจึงนอนได้ทุกที่
หากซืออวี๋ได้รับบาดเจ็บในระหว่างการฝึกฝน เขาต้องไปโรงพยาบาลและซื้อยา แต่หากเขาสอนทักษะการรักษ ‘การรักษาความเร็วสูง’ ให้กับสัตว์อสูรของเขา มันก็สามารถรักษาตัวเองได้
ด้วยวิธีนี้ เขาจะประหยัดเงินได้อย่างมหาศาล
เขาเป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริง
แน่นอนว่าซืออวี๋ผู้ที่คัดลอกทักษะเหล่านี้นั้นไม่ได้พยายามที่จะหย่อนยาน… มันเป็นนิสัยที่ถูกบังคับเนื่องจากสถานการณ์ในชีวิตก็เท่านั้น
เขาเชื่อว่าอสูรกินเหล็กที่เขายังไม่เคยเจอจะเข้าใจเขา ครอบครัวของพวกเขายากจนเกินไป
ซืออวี๋ใช้ความพยายามอย่างมากในการคัดลอกทักษะทั้งสอง และเขาก็ต้องแอบเรียนรู้ทักษะการรักษาความเร็วสูงอย่างลับๆ
อย่างไรก็ตาม ทำไมถึงมีแค่สองทักษะล่ะ? มันเป็นเพราะหลังจากสารบัญทักษะบันทึกได้ห้าทักษะก็ดูราวกับว่ามันจะถึงขีดจำกัดแล้ว
เรื่องนี้ทำให้ซืออวี๋สิ้นหวัง
แม้ว่าเขาจะคาดเดาได้ว่ามีขีดจำกัดสูงสุด แต่ห้าในตอนเริ่มต้นนั้นน้อยเกินไป
โชคดีที่เขาไม่รีบร้อนที่จะจำลองทักษะระดับต่ำ มิฉะนั้น เขาคงต้องพบกับความสูญเสียครั้งใหญ่
ในปัจจุบัน ขีดจำกัดสูงสุดของสารบัญทักษะคือห้าทักษะ…
หากเขาต้องการเพิ่มหน้าใหม่ ซืออวี๋คาดเดาว่าเขาต้องยกระดับนักฝึกสัตว์อสูรของเขา เช่นเดียวกับที่เขาต้องพัฒนาพรสวรรค์ฝึกสัตว์อสูรพิเศษบางอย่าง
มันเป็นเรื่องง่ายสำหรับนักฝึกสัตว์อสูรที่จะพัฒนาความสามารถของพวกเขา
มันคือการเสริมพลัง แก้ไข และขยายมิติฝึกสัตว์อสูรของพวกเขาผ่านการทำสมาธิ
ยิ่งมิติฝึกสัตว์อสูรแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ ระดับของสัตว์อสูรที่ทำสัญญาได้ก็จะยิ่งสูงขึ้น และข้อจำกัดของสัตว์อสูรก็จะยิ่งมากขึ้น
ยิ่งสภาพแวดล้อมในมิติฝึกสัตว์อสูรดีมากเท่าไหร่ ความเร็วในการเติบโตของสัตว์อสูรก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
ยิ่งมิติฝึกสัตว์อสูรมีขนาดใหญ่มากเท่าไหร่ จำนวนสัตว์อสูรที่นักฝึกสัตว์อสูรทำสัญญาก็จะมากยิ่งขึ้น
นักฝึกสัตว์อสูรสามารถเลือกที่จะพัฒนามิติฝึกสัตว์อสูรได้ตามความต้องการของพวกเขาเอง ไม่จำเป็นต้องทำให้สมบูรณ์ทั้งสามเส้นทาง
เมื่อมิติฝึกสัตว์อสูรยกระดับ พรสวรรค์ฝึกสัตว์อสูรพิเศษก็จะแข็งแกร่งยิ่งขึ้นเช่นกัน
Fanpage : ผีเสื้อกลางคืน