บทที่ 213 : ช่วยเหลือหยวนปิงเม่ย
บทที่ 213 : ช่วยเหลือหยวนปิงเม่ย
ณ เมืองร้างที่ถูกทิ้ง
ในขณะนี้, เมืองร้างแห่งนี้ได้ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกหนาสีดำ
ในหมอกสีดำมีเงาขนาดใหญ่แวบผ่านไปมา…….ทำให้มันดูแปลกตาและน่าสะพรึงกลัว
ทันใดนั้นชายวัยกลางคนที่ดูเเปลกประหลาดก็โผล่มาจากอีกด้าน
สาเหตุที่ชายวัยกลางคนนี้ดูแปลกประหลาดเพราะเขามีสองหัว
นอกจากหัวมนุษย์หนึ่งหัวแล้ว, บนไหล่ของเขายังมีหัวหมาป่าสีทองขนาดเท่าครึ่งหนึ่งของหัวมนุษย์ทั่วๆไปอีกหัวหนึ่งด้วย
ชายวัยกลางคนคนนี้มีออร่าที่น่าสะพรึงกลัวแผ่ออกมา จนมันสามารถบิดเบือนความว่างเปล่าโดยรอบได้
"หยวนปิงเหม่ย…….เธอหนีไม่รอดหรอก"
ชายวัยกลางคนพูดอย่างเย็นชากับหยวนปิงเม่ยที่อยู่เขตเเดนที่ปกคลุมไปด้วยหมอกสีดำ
"ราชาหมาป่า, หลิวเหยาให้ผลประโยชน์กับคุณมากเท่าไร……..คุณถึงสนับสนุนเธอเเบบนี้"
ในหมอกสีดำ, เสียงของหยวนปิงเม่ยดังออกมา
“เธอไม่ต้องสนใจเรื่องนั้นหรอก…… ยังไงวันนี้เธอจะต้องตาย”
ชายวัยกลางคนกล่าวอย่างเฉยเมยและก้าวเข้าไปในหมอกสีดำ
อย่างไรก็ตาม, ในขณะที่เขาเข้าไปในหมอกสีดำ……..หมอกสีดำก็ปะทุขึ้นราวกับน้ำทะเลที่กำลังเดือดดาล
ทันใดนั้น, มอนสเตอร์จำนวนมากก็โผล่ออกมาจากหมอกสีดำและพุ่งเข้าหาชายวัยกลางคนทันที
"ฮึ่ม, การโจมตีที่ไร้ประโยชน์!"
ชายวัยกลางคนเพียงแค่ปล่อยเสียงเย็นเยียบออกมา
จากนั้นก็มีสายฟ้าฟาดลงมาจากท้องฟ้าสีคราม และมอนสเตอร์ที่พุ่งเข้ามาหาเขาทั้งหมดก็ระเบิดกลายเป็นฝนเลือด
"ราชาหมาป่า, หากคุณสนับสนุนฉันให้ได้สถานะ [นักบุญเงา] เเทนที่ผู้หญิงคนนั้น… …….. ฉันจะเพิ่มสิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นสัญญาไว้กับคุณเป็นสองเท่า"
เสียงของหยวนปิงเม่ยดังออกมาจากหมอกสีดำอีกครั้ง
“หยวนปิงเหม่ย…….หยุดทำอะไรที่ไร้ประโยชน์”
"ไม่ว่าเธอจะทำอะไรในวันนี้ มันก็จะมีเพียงความตายสำหรับเธอเท่านั้น!”
ดวงตาของวัยกลางคนนั้นเย็นชาและไร้ความปรานี
ทันใดนั้นเขาก็ชกไปที่หมอกสีดำโดยตรง
บูมมมมมมม!!!
หมอกสีดำถูกระเบิดออกเป็นช่องทางเดินสุญญากาศที่กว้างกว่าสิบเมตร
ช่องทางเดินสุญญากาศนั้นทะลุผ่านทั่วทั้งเขตของหมอกสีดำโดยตรง
ระหว่างทางเดินสุญญากาศ, มอนสเตอร์จำนวนมากถูกระเบิดและศพของพวกมันก็นอนล้อมรอบทางเดินสุญญากาศ
"ราชาหมาป่า……..คุณคิดว่าจะสังหารฉันได้จริงๆหรือ?"
หลังจากหยวนปิงเม่ยกล่าวจบ, หมอกสีดำทั่วทั้งเขตเเดนก็เดือดพล่านทันที
และทันใดนั้น, มอนสเตอร์นับหมื่นก็พุ่งออกมาจากหมอกสีดำและเข้าหาชายวัยกลางคนทีละตัว
ในบรรดามอนสเตอร์เหล่านั้น, มีแม้กระทั่งงูเกล็ดเขียวสองปีก, กิ้งก่าลาวา, แมงมุมร้อยตา และมอนสเตอร์อื่นๆที่ถึงระดับขอบเขตแล้ว
อย่างไรก็ตาม, เมื่อเผชิญกับการโจมตีของมอนสเตอร์ระดับขอบเขตที่มีจำนวนมากขนาดนี้……..ชายวัยกลางคนยังคงเฉยเมยและสงบนิ่ง
"กรรรรรรรร--"
หัวหมาป่าสีทองขนาดเท่ากำปั้นบนไหล่ของเขาก็เปิดปากของมันและปล่อยเสียงคำรามที่สั่นสะเทือนปฐพีออกมา
ในทันทีที่เสียงคำรามถูกปล่อยออกมา
ระลอกคลื่นสีทองก็เเผ่กระจายออกไปเป็นวงกลมรอบๆร่างของชายวัยกลางคน
ผลของระรอกคลื่นสีทองประการแรกคือ, มอนสเตอร์ที่พุ่งเข้ามาระเบิดกลายเป็นฝนเลือดทั้งหมด
ประการที่สอง, หมอกสีดำที่ปกคลุมทั่วทั้งเขตเเดนก็สั่นคลอนอย่างน่ากลัว
เป็นเพียงเเค่เสียงหอนของหัวหมาป่า เเต่กลับทำให้มอนสเตอร์ทั้งหมดถูกระเบิดทิ้ง………เเถมยังทำให้เมืองเก่ารอบๆของบริเวณนี้ก็กลายเป็นซากปรักหักพังทันที
จากสิ่งนี้จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าความแข็งแกร่งของชายวัยกลางคนนี้น่ากลัวมากเเค่ใหน
จากนั้นชายวัยกลางคนก็จ้องมองไปที่ซากปรักหักพังอย่างว่างเปล่า
ดวงตาของเขาเฉียบคมราวกับสายฟ้าและสแกนซากปรักหักพังทั้งหมดอย่างรวดเร็ว
……..แต่เขากลับไม่พบร่างของหยวนปิงเหม่ย
“หนีไปอีกแล้วเหรอ”
“แต่หนีไม่พ้นหรอก”
ชายวัยกลางคนกล่าวอย่างเย็นชา, จมูกของหัวหมาป่าสีทองที่อยู่บนไหล่ของเขาขยับเล็กน้อย…….ราวกับว่ามันกำลังดมกลิ่นอะไรบางอย่าง
วินาทีต่อมา, ชายวัยกลางคนก็กลายเป็นภาพติดตาและรีบไปที่ป่าที่อยู่ห่างออกไปหลายสิบกิโลเมตรทันที
อย่างไรก็ตาม, เมื่อเขามาถึงเเละเห็นศพมอนสเตอร์ที่มีเศษผ้าอยู่ในปาก……..สีหน้าของเขาก็ดูน่าเกลียดเล็กน้อย
ครู่ต่อมา, เขาก็เคลื่อนที่ตามกลิ่นอีกครั้ง……..เเละมาปรากฏตัวขึ้นเหนือทะเลสาบที่อยู่ห่างออกไปหลายกิโลเมตร
เขาเปิดใช้พลังที่พลุ่งพล่านโดยตรง ระเหยทะเลสาบทั้งหมดให้แห้ง
จากนั้นเขาเอื้อมมือไปคว้าซากปลาเกล็ดเงินยาวสามเมตรไว้ในมือ…… เเละเขาก็พบชิ้นส่วนเสื้อผ้าในปากของปลาเกล็ดเงินนี้
บูมมมมม!
เขาโมโหจนทุบร่างของปลาเกล็ดเงินจนเป็นผงในทันที
“หยวนปิงเม่ย…....เธอกล้าดียังไงถึงมาเล่นกับฉันแบบนี้”
ใบหน้าของชายวัยกลางคนนั้นมืดมนราวกับท้องฟ้า, และออร่าแห่งการสังหารก็ควบแน่นอย่างเต็มพิกัดในดวงตาของเขา
จากนั้นเขากลายเป็นภาพติดตาอีกครั้งและกลับไปยังเมืองเที่เพิ่งถูกทำลายจเป็นซากปรักหักพังในตอนเเรก
เขาลอยอยู่เหนือซากปรักหักพังราวกับความตายจากอเวจีทั้งเก้า เเละปลดปล่อยกลิ่นอายแห่งการสังหารที่ไม่มีที่สิ้นสุดแผ่ออกมาจากตัวเขา
ซากปรักหักพังทั้งหมดดูเหมือนจะมีเมฆดำปกคลุมท้องฟ้าและดวงอาทิตย์
“หยวนปิงเหม่ย ฉันรู้ว่าเธอยังอยู่ที่นี่”
"แม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าเธอใช้วิธีใด ถึงได้ซ่อนตัวจากการรับรู้ของฉันได้"
“แต่ฉันก็รู้อยู่ดีว่าเธออยู่ที่นี่”
ชายวัยกลางคนกล่าวด้วยท่าทางอาฆาต
ทันใดนั้นเขาก็เอื้อมมือออกไป…….ควบเเน่นพลังเป็นฝ่ามือขนาดใหญ่ที่ปกคลุมท้องฟ้าและกดลงมาที่ซากปรักหักพังอย่างรุนแรง
ฝ่ามือขนาดใหญ่ที่ปกคลุมท้องฟ้านั้นมีพลังงานมหาศาล
ก่อนที่มันจะตกลงมา, ซากปรักหักพังทั้งหมดก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง และพื้นที่ขนาดใหญ่ของพื้นดินยังคงพังทลายอย่างต่อเนื่อง
สามารถคาดการณ์ได้เลยว่าผลที่ตามมาจะร้ายแรงเพียงใดเมื่อฝ่ามือนี้ตกลงมาอย่างสมบูรณ์
และเมื่อฝ่ามือขนาดใหญ่ที่ปกคลุมท้องฟ้ากำลังจะตกกระทบพื้น
ร่างที่ล้อมรอบด้วยหมอกสีดำก็ระเบิดออกมาจากซากปรักหักพังในทันที และพุ่งออกจากระยะของฝ่ามือขนาดใหญ่ราวกับสายฟ้า
"บูมมมมมม!!!"
ฝ่ามือขนาดใหญ่ตบลงบนซากปรักหักพังอย่างรุนแรง และมันก็ทำให้ซากปรักหักพังทั้งหมดถูกทำลายในทันที
พายุพลังงานอันน่าสะพรึงกลัวพัดพาก้อนอิฐ หิน และเศษดินนับไม่ถ้วนขึ้นไปบนท้องฟ้า……..ก่อตัวเป็นฉากที่น่าสะพรึงกลัวราวกับวันโลกาวินาศ
อย่างไรก็ตาม, ร่างที่ปกคลุมไปด้วยหมอกสีดำนั้นไม่ได้รับบาดเจ็บเพราะเธอหนีจากระยะของฝ่ามือนี้ได้ทันเวลา
"ในที่สุดเธอก็แสดงตัวออกมาเสียที"
ชายวัยกลางคนมองไปที่ร่างที่ปกคลุมไปด้วยหมอกสีดำ
ตะคอกอย่างเย็นชาและพุ่งเข้าหาร่างนั้นราวกับสายฟ้าฟาด
คลื่นพลังปะทุออกมาจากร่างกายของเขา……..จนทำให้ความว่างเปล่าทั้งหมดสั่นสะท้าน
อย่างไรก็ตาม, ก่อนที่เขาจะเข้าไปถึงร่างนั้น ความว่างเปล่าที่อยู่ตรงหน้าเขาก็บิดเบี้ยวทันที
รอบๆตัวของชายวัยกลางคนปรากฏกิ่งก้านของดอกเบียนฮัวเติบโตขึ้น……..และในที่สุดก็ก่อตัวเป็นทะเลดอกไม้ที่ไร้ขอบเขต
ในขณะเดียวกัน, เพลงที่โศกเศร้าก็ปรากฏเเละลอยอยู่ในทะเลดอกไม้ราวกับว่ากำลังต้อนรับคนตาย
ฉากที่อยู่ตรงหน้านี้สามารถอธิบายได้เลยว่าเป็นความชั่วร้าย
มันทั้งทะเลดอกไม้สีแดงเลือดเเละบทเพลงเเห่งความตาย
………..
ตามตำนานโบราณเเล้ว, ดอกเบียนหัวเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นดอกไม้แห่งความตาย
กลิ่นหอมของดอกไม้นี้มีพลังวิเศษและสามารถกระตุ้นคนตายได้
ผู้ที่จะไปสู่อาณาจักรแห่งความตายจะตามดอกไม้นี้ไปสู่นรก
หลังจากที่ชายวัยกลางคนได้ตกลงไปในทะเลดอกไม้ที่แปลกประหลาดนี้
ทันใดนั้นเขาก็พบว่าจิตสำนึกทางจิตวิญญาณของเขาดูเหมือนจะจมดิ่งลงสู่ก้นบึ้งอย่างรวดเร็ว
และสิ่งนี้ทำให้พลังในร่างกายของเขาก็ลดลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน
ชายวัยกลางคนตกตะลึงอย่างมาก
เขารู้ว่านี่คือภาพลวงตาพิเศษนี้เป็นของหยวนปิงเม่ย "ทะเลดอกไม้เเห่งความตาย" และเขาเคยได้ยินชื่อของมันมาหลายครั้งเเล้ว
แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่า "ทะเลดอกไม้เเห่งความตาย" นี้จะน่ากลัวมากจนสามารถทำร้ายเขาซึ่งเป็นนักรบขั้นราชาได้
โชคดีที่เขายังสามารถดึงสติตัวเองออกมาได้ทันเวลา………ไม่เช่นนั้นเขาอาจจะถูกฝังอยู่ในทะเลดอกไม้เเห่งนี้อย่างสมบูรณ์
"หยวนปิงเม่ย, เธอเป็นอัจฉริยะที่หายากมาก……… โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านภาพลวงตา"
"ในบรรดารุ่นเยาว์………ฉันเกรงว่าจะไม่มีใครเทียบเธอได้เลย"
"ถ้าเธอมีเวลาเพียงพอให้เติบโต, บางทีเธออาจจะมีโอกาสปีนขึ้นไปสู่จุดสูงสุดของเผ่าพันธุ์มนุษย์และแข่งขันกับอาปาซาคนนั้นได้"
"โชคไม่ดีที่เธอไม่มีโอกาสนั้นเเล้ว"
ชายวัยกลางคนรู้สึกตกใจอย่างมากกับพรสวรรค์ในด้านภาพลวงตาของหยวนปิงเม่ย
แต่อย่างไรก็ตาม, เขาก็จะไม่ปล่อยหยวนปิงเม่ยไปอยู่ดี
"ตูม!!"
ร่างกายของชายวัยกลางคนสั่นอย่างรุนแรงและคลื่นพลังที่ท่วมท้นก็ปะทุออกมาจากร่างกายของเขาทันที
ในเวลาเดียวกัน, หัวหมาป่าสีทองขนาดเท่ากำปั้นบนไหล่ของเขาก็เปิดปากของมันอีกครั้งและปล่อยเสียงหอนที่สั่นสะเทือนแผ่นดินออกมา
เมื่อต้องเจอกับเสียงหอนที่ทรงพลังนี้……….ด้านหนึ่งของทะเลดอกไม้ที่ไร้ขอบเขตก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆ
เเละหลังจากที่ด้านหนึ่งของทะเลดอกไม้แตกเป็นเสี่ยงๆ……… ชายวัยกลางคนก็สามารถมองเห็นร่างของหยวนปิงเม่ยได้เป็นครั้งแรก
ทันใดนั้น, ร่างของเขาก็กระโดดข้ามความว่างเปล่าราวกับสายฟ้า…….และต่อยไปที่หยวนปิงเม่ยอย่างรวดเร็วและรุนแรง
กำปั้นนี้ปลดปล่อยพลังงานที่น่าสะพรึงกลัวจนดูเหมือนว่ามันจะสามารถทำลายท้องฟ้าได้
อย่างไรก็ตาม, กำปั้นของชายวัยกลางคนไม่ได้โดนร่างของหยวนปิงเม่ย
เพราะมันถูกหยุดไว้ด้วยฝ่ามือสีขาว
“คุณชายน้อย, ปล่อยให้ฉันรออยู่ตั้งนาน”
"หากคุณมาช้ากว่านี้อีกนิดเดียว ฉันคงจะตายไปเเล้ว”
หยวนปิงเม่ยยิ้มอย่างมีเลศนัยให้กับชายที่จู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นข้างๆเธอและร่างกายอันอ่อนนุ่มของเธอติดก็เกาะติดกับเขาโดยอัตโนมัติ
"สถานที่ที่คุณส่งพิกัดให้ฉันไปนั้นอยู่ห่างไกลมาก………เเละฉันค้นหาอยู่นานกว่าจะเจอ"
ชูโจวมองผู้หญิงที่เป็นตัวปัญหาข้างๆอย่างโมโห……..เเต่เขาก็ยื่นมือออกมาดึงเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา
………
ดาบเทพเจ้า, ชูโจว?
ชายวัยกลางคนมองชูโจวที่ปรากฏตัวต่อหน้าเขาด้วยความตกตะลึง
เเละเมื่อเขาเห็นชูโจวดึงหยวนปิงเม่ยเข้ามาไว้ในอ้อมแขน, เขาก็ยิ่งตกตะลึงมากยิ่งขึ้นไปอีก
ชูโจวมีความสัมพันธ์บางหย่างกับหยวนปิงเม่ย……...และความสัมพันธ์นั้นก็ไม่ธรรมดาเลย
………………………