บทที่ 2 หนังสือทักษะ
เกิดอะไรขึ้น…? สารบัญทักษะนี้มาจากไหนกัน?
จิตใจของซืออวี๋ตกอยู่ในความงุนงงเนื่องจากเขาได้รับข้อมูลจำนวนมาก
ข้อมูลนี้ปรากฎขึ้นในจิตใจของเขาในรูปแบบของภาพและคำศัพย์ที่เขาเข้าใจได้อย่างง่ายดาย
ซืออวี๋ตกตะลึงอยู่สักพักหนึ่ง
ความสามารถนี้นั้นโกงอย่างมาก
สารบัญนี้มีชื่อว่าสารบัญทักษะ และเขาก็สามารถคัดลอกคความสามารถของสัตว์อสูรและบันทึกพวกมันไว้ในสารบัญนี้ นอกจากนี้ดูราวกับว่าซืออวี๋จะสามารถสอนความสามารถที่ถูกบันทึกไว้ในคู่มือภาพประกอบให้กับสัตว์อสูรตัวอื่นได้อย่างอิสระ แต่ไม่สามารถสอนให้กับมนุษย์ได้
สัตว์อสูรเหล่านี้นั้นทรงพลังเพราะพวกมันเชี่ยวชาญในทักษะพิเศษทุกประเภท อย่างไรก็ตาม การจำลองและการสอนนั้นฟังดูไม่เป็นไปตามหลักการวิทยาศาตร์เท่าไหร่…
จำลองความสามารถของสัตว์อสูรระดับเทพนิยายและสอนให้กับสัตว์อสูรธรรมดาได้มั้ย?
ตามคำแนะนำจากสารบัญทักษะ มีสามเงื่อนไขเพื่อที่จะจำลองความสามารถของสัตว์อสูรตัวอื่น
1. การเห็นอีกฝ่ายใช้ความสามารถด้วยตาของตัวเอง
2. การสัมผัสร่างกายของอีกฝ่าย
3. จากการดูทักษะไปจนถึงการสัมผัสอีกฝ่ายจะต้องทำภายในหนึ่งชั่วโมง
นี่เป็นเงื่อนไขสำหรับการคัดลอกและบันทึกทักษะ
ถ้าเขาต้องการมอบทักษะเหล่านี้ให้กับสัตว์อสูรตัวอื่น เขายังต้องทำตามเงื่อนไขบางอย่างเช่นกัน
เงื่อนไขการสอนนั้นคือผู้ใช้ต้องใช้ความแข็งแกร่งทางกายภาพจำนวนหนึ่งขึ้นอยู่กับระดับทักษะ
นอกจากนี้ เป้าหมายที่จะมอบทักษะให้ต้องมีความเข้ากันได้กับทักษะส่วนหนึ่ง…
มีข้อจำกัดจำนวนมาก และซืออวี๋ก็จมอยู่ในห้วงความคิด แม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นนักฝึกสัตว์อสูร แต่เขาก็สามารถบอกได้ว่าการคัดลอก การบันทึก และการสอนความสามารถนั้นทำให้นักฝึกสัตว์อสูรทุกคนน้ำลายไหล
ความแข็งแกร่งของนักฝึกสัตว์อสูรไม่ใช่แค่ขึ้นอยู่กับความสามารถของสัตว์อสูรเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับสามด้าน
ด้านแรกคือการพัฒนาพรสวรรค์ฝึกสัตว์อสูรของพวกเขาและความสามารถในการฝึกฝนสัตว์อสูร
ตัวอย่างเช่น สำหรับนักฝึกสัตว์อสูรที่มีพรสวรรค์การเสริมพลังเพลิง สัดสวนการเพิ่มพลังของทักษะสัตว์อสูรของพวกเขาอาจจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับการพัฒนาพรสวรรค์ของพวกเขา
ด้านที่สองก็คือคู่มือทักษะ
สัตว์อสูรส่วนใหญ่สามารถปลุกได้เพียงแค่ทักษะเผ่าพันธุ์ของพวกมันเท่านั้น ทักษะเผ่าพันธุ์ที่สามารถปลุกได้ตามธรรมชาติเป็นเป้าหมายการอ้างอิงที่สำคัญสำหรับระดับเผ่าพันธุ์ของสัตว์อสูร และความแแข็งแกร่งทักษะของสัตว์อสูรก็มีความสำคัญเช่นกัน
กล่าวได้ว่า มันเป็นเรื่องยากสำหรับสัตว์อสูรที่จะเรียนรู้ทักษะอื่นนอกเหนือจากทักษะเผ่าพันธุ์ของพวกมันเอง
การสอนทักษะสัตว์อสูรนอกเหนือจากทักษะเผ่าพันธุ์ของพวกมันนั้นเป็นเรื่องยากเทียบเท่ากับการสอนเด็กเจ็ดขวบขับเครื่องบิน อย่างไรก็ตาม ด้วยวิธีการสอนพิเศษบางอย่าง สัตว์อสูรยังคงมีโอกาสเรียนรู้ทักษะอื่น
วิธีการสอนนั้นก็เหมือนกับคู่มือศิลปะการต่อสู้ในนิยายการบ่มเพาะ สิ่งเหล่านี้มีค่ามากและสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของสัตว์อสูรได้อย่างรวดเร็ว
หากนักฝึกสัตว์อสูรเชี่ยวชาญวิธีการสอนพิเศษของทักษะที่ทรงพลังและทำให้สัตว์อสูรของเขาเชี่ยวชาญมันได้ สัตว์อสูรก็จะสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ที่มีระดับเผ่าพันธุ์สูงกว่าได้
ด้านที่สามคือวิธีการวิวัฒนาการ
สัตว์อสูรส่วนใหญ่สามารถวิวัฒนาการได้ แต่เส้นทางการวิวัฒนาการหลายเส้นทางนั้นเป็นความลับ
นักฝึกสัตว์อสูรที่เชี่ยวชาญวิธีการวิวัฒนาการสามารถเพิ่มระดับสัตว์อสูรของพวกเขาให้สูงขึ้นและปลุกทักษะเผ่าพันธุ์ที่ทรงพลังยิ่งขึ้น
ด้านแรกในทั้งสามด้านนั้นคือการพัฒนาความสามารถของนักฝึกสัตว์อสูรเอง
สำหรับด้านที่สองและด้านที่สาม มันเป็นการสะสมความรู้และประสบการณ์ในฐานะนักฝึกสัตว์อสูร
สำหรับสารบัญทักษะของซืออวี๋ มันเทียบเท่ากับการเรียนรู้คู่มือทักษะจำนวนมาก
สารบัญทักษะ…
นี่คือ… ‘ระบบ’ ของเขาเหรอ? หรือพรสวรรค์ฝึกสัตว์อสูรที่สองของเขากันนะ?
เมื่อเทียบกับระบบที่คลุมเครือ ซืออวี๋เต็มใจที่จะเชื่อว่ามันเป็นพรสวรรค์ที่สองของเขา
แต่พรสวรรค์ฝึกสัตว์อสูรกระแสจิตของเขาล่ะ?
ยิ่งกว่านั้น เขายังำม่เคยได้ยินเกี่ยวกับพรสวรรค์ฝึกสัตว์อสูรที่โกงเช่นนี้มาก่อน
เขาไม่เคยด้วยซ้ำว่ามีคนที่มีพรสวรรค์ฝึกสัตว์อสูรสองอย่าง…
อารมณ์ของซืออวี๋นั้นพลุ่งพล่าน
ในเวลาเพียงเสี้ยววินาที ความเป็นไปได้นับไม่ถ้วนก็โผล่ขึ้นมาในจิตใจของเขา
แต่หากมันเป็นเขาแล้ว ก็ดูเป็นไปได้ใช่มั้ย?
ในฐานคนที่ถูกย้ายข้ามโลก เขาไม่ใช่คนธรรมดา
ซืออวี๋คนเดิมมีพรสวรรค์กระแสจิต แต่มันเกี่ยวอะไรกับซืออวี๋คนปัจจุบันกันล่ะ? แม้ว่าซืออวี๋คนนี้จะมีพรสวรรค์พิเศษในการคัดลอก แต่มันสมเหตุสมผลมาก
“แต่ไม่ว่ายังไงก็ต้องใจเย็นก่อน…”
ไม่ว่าเขาจะมองยังไง นี่ก็เป็นเรื่องดี นี่ดูเหมือนจะเป็นไพ่ลับในการเกิดใหม่ของเขา นิ้วทองคำของเขาเลยก็ว่าได้… (นิ้วทองคำ คือ ความสามารถที่โกงมากๆ ของตัวเอกที่เกิดใหม่ในต่างโลก )
จากความตกตะลึงไปจนถึงความสุข ซืออวี๋ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
นับตั้งแต่ที่เขาตระหนักว่าเขาย้ายข้ามโลกมา เขาก็รู้สึกไม่สบายใจและรู้สึกว่ามีบางอย่างขาดหายไปเสมอ แต่ตอนนี้ในที่สุดเขาก็รู้สึกสบายใจ ท้ายที่สุดแล้ว ความสุขของนักข้ามโลกนั้นเรียบง่ายมาก
“ไม่นะ สายแล้ว”
หลังจากจมอยู่ในห้วงแห่งความตกตะลึงกับคู่มือการปลุกความสามารถอยู่สักพักหนึ่ง ทันใดนั้นซืออวี๋ก็ตระหนักว่าเขาสายแล้ว
เขาสวมชุดเตรียมออกไปทำงานตอนเช้า เขาไม่ได้วางแผนที่จะกินข้าวเช้าเลย ในขณะนั้น ซืออวี๋ไม่ได้อยากทำงานเลย แต่เขากลับอยากทดสอบว่าการปลุกความสามาถรของเขานั้นเป็นของจริงหรือไม่
ซืออวี๋ออกจากหอพักอย่างรวดเร็วด้วยความคาดหวัง
…
ฐานเพาะพันธุ์สัตว์อสูรของเมืองทุ่งน้ำแข็งนั้นใหญ่มาก สภาพแวดล้อมมีทั้งทะเลสาบ ทุ่งหญ้า ป่า ภูเขาหิมะ… พวกมันล้วนเป็นสถานที่ซึ่งสัตว์อสูรต่างๆ อาศัยอยู่
เพื่อดูแลสัตว์อสูรจำนวนมาก จึงมีพนักงานจำนวนมากที่ฐานเพาะพันธุ์ มีพื้นที่ขนาดใหญ่สำหรับพนักงานอยู่บริเวณใกล้เคียง และแม้กระทั่งการแปรรูปกับการขนส่งอาหารสัตว์อสูรทุกประเภทก็ยังถูกดำเนินการที่นี่
ในโรงงานอาหารของฐาน นักเพาะพันธุ์จำนวนมากรวมตัวกันอยู่ที่นี่ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากงานที่ต่างกัน พวกเขาส่วนใหญ่จึงไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กันมากนัก
หลังจากที่ซืออวี๋มาถึง เขาก็หาอาหารที่เขาต้องพกติดตัวไปด้วย เป้าหมายของเขานั้นชัดเจนมาก แต่ข้อมูลจำเพาะของอาหารนั้นเหนือจินตนาการของซืออวี๋
ในขณะที่ซืออวี๋เดินออกไปพร้อมกับกล่องบรรจุอาหารสองใบ เขาก็อดคิดไม่ได้ว่า ไม่น่าแปลกใจที่คนธรรมดาจะไม่สามารถเป็นนักฝึกสัตว์อสูรได้ สัตว์อสูรเหล่านี้กินเก่งกว่ามนุษย์มาก
ในกล่องนั้นมีเนื้อสัตว์อสูรสดจำนวนมาก มีเนื้อสัตว์อสูรอย่างน้อยเจ็ดหรือแปดชนิด และดูราวกับว่ามันเหมาะสมสำหรับมื้ออาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ
ยังมีอาหารอีกมหาศาลในห้อง มันคืออาหารเช้าสำหรับหมาป่าหิมะที่เขากำลังจะไปให้อาหาร
“ซืออวี๋เหรอ? เจ้ากำลังจะไปให้อาหารหมาป่าหิมะใช่ไหม?”
เมื่อซืออวี๋กำลังขนย้ายเนื้อไปมา บางคนก็เห็นประเภทของอาหารที่ซืออวี๋กำลังขนย้ายและกลั่นแกล้งเขาในทันที “พวกนั้นไม่ค่อยเป็นมิตร ระวังตัวด้วยนะ”
“แต่เมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้แล้ว โรงพยาบาลของฐานเพาะพันธุ์ของเราก็มีความสามารถอย่างมาก—”
“อย่าฟังเรื่องไร้สาระของเขา เมื่อมีราชาหมาป่าอยู่ใกล้ๆ จะไม่มีอันตราย” บางคนที่อยู่ข้างซืออวี๋กล่าวขัดอย่างมั่นใจ
“ข้าแค่ล้อเล่นเอง เราขนย้ายอาหารจะเสร็จแล้ว เจ้าต้องการให้เราช่วยหรือไม่?” คนแรกเอ่ยถามอีกครั้ง
ซืออวี๋มองไปที่พวกเขาสองคน เขารู้สึกเสียใจมากที่เขาไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับพวกเขาเลย เขาทำได้เพียงแค่ตอบกลับด้วยรอยยิ้มที่ดูเขินอายและสุภาพ “ขอบคุณมาก แต่ไม่จำเป็น ข้าขนย้ายจะเสร็จแล้วเช่นกัน”
หลังจากกล่าวไปเช่นนั้นแล้ว พวกเขาสามคนก็ไม่มากความ ท้ายที่สุดแล้ว พวกเขายังมีงานต้องทำ
หลังจากที่อีกฝ่ายจากไป ซืออวี๋ก็จำได้ว่าตัวเขาคนเดิมนั้นชอบอยู่เพียงลำพังและไม่ชอบที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นมากนักเพราะนิสัยของเขาซึ่งได้รับผลกระทบจากความโชคร้ายของครอบครัวเขา ดังนั้นเขาจึงไม่รู้จักสหายในสภาพแวดล้อมการทำงานใหม่ เขามักจะอยู่เพียงลำพัง ดังนั้นเขาจึงขาดการติดต่อทางสังคม
ไม่น่าแปลกใจเลยในฐานะเด็กฝึกงาน เขาไม่ค่อยมีความประทับใจกับคนอื่นมากนัก เขาจำชื่อของพวกเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ… อย่างไรก็ตาม เขาจำข้อมูลจำนวนมากเกี่ยวกับสัตว์อสูรในฐานเพาะพันธุ์ได้
ซืออวี๋ส่ายหัวของเขา ในปัจจุบัน ไม่มีอะไรแย่เกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาสามารถอยู่เพียงลำพังได้ อย่างไรก็ตาม เขาเก่งในการอยู่เพียงลำพัง แต่เขากลับมีพรสวรรค์กระแสจิต…
ในระยะสั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือการทำความคุ้นเคยกับโลกนี้อย่างช้าๆ เขาสามารถเข้าสังคมได้ในภายหลัง
ในที่สุด หลังจากใช้เวลาในการขนย้ายอาหารมายังรถ ซืออวี๋ก็เริ่มขับรถขนส่งอาหารและมาถึงพื้นที่ภูเขาหิมะ นี่คือที่อยู่ของหมาป่าหิมะ
หลังจากมาถึงที่หมาย เชสก๋หบุดรถ ลงจากรถ และขนย้ายเนื้อ ซืออวี๋ทำงานอย่างเร่งรีบ
ในระหว่างขั้นตอนนี้ ภูเขาสีขาวก็เปล่งแสง และหมาป่ายักษ์หลายสิบตัวก็ปรากฏตัวขึ้นมา
“โบร๋วววว!!!!!”
“โบร๋วววว!!!!!”
เสียงร้องที่ทำให้หัวใจสั่นไหวดังขึ้นมา หมาป่าสีขาวหิมะวิ่งบนภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ ในตอนแรก พวกมันเร็วมาก แต่พวกมันก็เปลี่ยนมาเดินอย่างช้าๆ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าพวกมันจะแค่เดิน แต่เขาก็ยังรู้สึกกดดันอย่างมาก
“โบร๋วววว!!!!!”
หมาป่ายักษ์แต่ละตัวยาวสองเมตรและสูงเกือบหนึ่งเมตร พวกมันได้รับการพัฒนามาอย่างดี และยากที่จะจินตนาการว่าพวกมันเป็นแค่ลูกสัตว์อสูร
พวกมันมีขนสีขาวทั้งตัว และส่วนหลัง หาง และแขนขาของพวกมันก็ถูกปกคลุมไปด้วยขนหนาสีครามน้ำแข็ง
ในขณะที่พวกมันเดินเข้ามา ดวงตาสีน้ำเงินของหมาป่ายักษ์ก็จ้องมาที่ซืออวี๋ พวกมันแยกเขี้ยวออกมาและเปล่งกลิ่นอายอันเย็นยะเยือกออกมา
[เผ่าพันธุ์] : หมาป่าหิมะ
[คุณสมบัติ] : น้ำแข็ง
[ระดับเผ่าพันธุ์] : เหนือธรรมชาติชั้นสูง
[ทักษะ] : เขี้ยวทะลายน้ำแข็ง กรงเล็บทะลวงน้ำแข็ง พรางหิมะ ลมหายใจเหมันต์
มันเป็นสัตว์อสูรที่วิวัฒนาการในพื้นที่ภูเขาหิมะ เขี้ยวและกรงเล็บอันเย็นยะเยือกของมันสามารถฉีกกระชากเหล็กออกจากกันได้อย่างง่ายดาย มันเก่งในด้านการซ่อนตัวและล่าในสภาพอากาศที่มีหิมะตกหนัก
ความรู้ของซืออวี๋นั้นไม่เลวเลย และข้อมูลเฉพาะเกี่ยวกับสัตว์อสูรตัวนี้ก็ปรากฎขึ้นในจิตใจของเขาทันที คุณสมบัติแสดงถึงการจำแนกประเภทของความสามารถ และระดับเผ่าพันธุ์แสดงถึงศักยภาพในการเติบโตของสัตว์อสูร สำหรับทักษะ สิ่งเหล่านั้นเป็นทักษะพิเศษของสัตว์อสูรที่ซืออวี๋ต้องการเรียนรู้อย่างลับๆ ด้วยพรสวรรค์ที่สองซึ่งดูโกงของเขา
“โบร๋วววว!!!!!”
“โบร๋วววว!!!!!”
ในตอนนี้ หมาป่ายักษ์จ้องมองไปที่ซืออวี๋ด้วยดวงตาที่มีความกระหายเลือด
“ตามที่คาดไว้ ข้าเข้าใจแล้ว”
สำหรับซืออวี๋ผู้ที่ถูกจับตามองโดยกลุ่มหมาป่าหิมะ เขาเพียงแค่รู้สึกว่ามันแปลกประหลาดมาก
แม้ว่าจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าหมาป่าเหล่านี้ต้องการที่จะกินและหิวมาก แต่ซืออวี๋ก็ได้ยินเสียงมันเช่นกัน
ความรู้สึกของการรับรู้สิ่งที่อีกฝ่ายพยายามที่จะกล่าวนี้ทำให้เขารู้สึกสบายใจ… แต่ก็ทำให้เขาทุกข์ใจเช่นกัน
เขาโล่งใจเพราะเขารู้สึกว่าพวกมันสื่อสารได้ และเขารู้สึกทุกข์ใจเพราะหมาป่าต้องการลิ้มรสชาติเขา
บัดซ*…
นี่มันงานบ้าอะไรกัน?
เขามาที่นี่ในฐานะนักเพาะพันธุ์หรือวัตถุดิบสำรองกันแน่?
“ราชาหมาป่าอยู่ที่ไหนกัน?”
ซืออวี๋พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะไม่ใส่ใจกับความไร้สาระดังกล่าว เขากวาดสายตาและค้นหาราชาหมาป่าซึ่งคาดว่าหมาป่าเหล่านี้หวาดกลัว
“กรรรร!!!!!!”
หลังจากที่หมาป่าหิมะตัวนี้มาถึง พวกมันก็ยืนเรึยงแถวกันอย่างเชื่อฟังและไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม ไม่ใช่เพราะพวกมันกลัวที่จะทำให้ซืออวี๋กลัวหรือจะทำตัวสุภาพ แต่เป็นเพราะหัวหน้าของพวกมันนั้นมาถึงแล้ว
เสียงคำรามที่น่าหวาดกลัวดังยิ่งขึ้น และเหล่าหมาป่าก็หลีกทางให้กับหมาป่าหิมะตัวใหญ่ มันตัวยาวกว่าสามเมตรและสูงอย่างน้อย 1.6 ถึง 1.7 เมตร
“กรรรร!!!!!!”
ราชาหมาป่าของฝูงหมาป่าหิมะค่อยๆ เดินออกมาและจ้องไปที่ซืออวี๋
หมาป่าหิมะตัวอื่นมองราชาหมาป่าด้วยความหวาดกลัวและความเคารพ
หมาป่าหิมะเป็นเผ่าพันธุ์ระดับเหนือธรรมชาติที่อยู่กันเป็นฝูง และราชาหมาป่าของพวกมันก็มีอำนาจสูงสุด
ราชาหมาป่าบางตัวสามารถปลุกทักษะการปราบปรามที่สามารถสร้างความรู้สึกแห่งการกดขี่และใช้มันเพื่อสั่งการฝูงหมาป่า
นี่ไม่ใช่ทักษะพื้นฐานของเผ่าพันธุ์หมาป่าหิมะ แต่เป็นทักษะระดับสูงที่มีเงื่อนไขอันยากลำบากอย่างยิ่งในการปลุก
ภายใต้ทักษะการปราบปรามของราชาหมาป่า หมาป่าหิมะเชื่อฟังอย่างยิ่งและไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม พวกมันเป็นระเบียบเรียบร้อยอย่างแท้จริง
เห็นได้ชัดว่าเหตุผลที่นักเพาะพันธุ์ฝึกหัดเช่นซืออวี๋สามารถให้อาหารหมาป่าหิมะเหล่านี้ได้อย่างปลอดภัยไม่ใช่เป็นเพราะพรสวรรค์กระแสจิต แต่เป็นเพราะทักษะปราบปรามของราชาหมาป่า
ราชาหมาป่าหิมะตัวนี้เป็นสัตว์อสูรของนักฝึกสัตว์อสูรในฐานเพาะพันธุ์ มันมีหน้าที่ในการช่วยควบคุมฝูงหมาป่า
ตอนนี้ ซืออวี๋สงสัยว่าเจ้าของราชาหมาป่าหิมะแอบเฝ้ามองท่าทีของเขาอยู่และให้คะแนนเขา…
อย่างไรก็ตาม คนคนนี้จะต้องมีสถานะที่สูงมากในฐานเพาะพันธุ์ ราชาหมาป่าตัวนี้เป็นเพียงหนึ่งในสัตว์อสูรที่เขาเลี้ยงไว้ และเขาก็คงไม่ว่างมาให้ความสนใจกับเด็กฝึกงานเช่นเขา
เป็นไปได้ไหมว่าหมาป่าตัวนี้จะเป็นอาจารย์ที่ให้คะแนนเขา? สีหน้าของซืออวี๋นั้นแปลกไป
หลังจากนั้น ราชาหมาป่าหิมะเข้ามาใกล้ซืออวี๋อย่างไม่แยแส
หัวใจของซืออวี๋เต้มไม่เป็นจังหวะในขณะที่เขามองดูหมาป่าที่หล่อเหล่าอย่างแปลกประหลาด
แรงกดดันที่ราชาหมาป่าตัวนี้มอบให้แก่เขานั้นเทียบไม่ได้เลยกับกลุ่มหมาป่าหิมะธรรมดา
เพียงแค่การเหลือมองจากเขานั้นก็เพียงพอที่จะทำให้หัวใจของซืออวี๋เต้นแรง
ในขณะนั้นเอง ราชาหมาป่าก็มองไปที่ซืออวี๋ มันไม่ได้กินเขาในทันที และร่างกายของมันก็รายล้อมไปด้วยอากาศอันเย็นยะเยือกในขณะที่มันยังคงเข้ามาใกล้ซืออวี๋
จากนั้นร่างกายขอมันก็เคลื่อนผ่านซืออวี๋ไป และหัวของมันก็สัมผัสโดนตัวซืออวี๋
ตามธรรมเนียมแล้ว ราชาหมาป่าจะทิ้งกลิ่นไว้บนตัวนักเพาะพันธุ์ฝึกหัด ด้วยวิธีนี้ หมาป่าหิมะจะเชื่อฟังมากยิ่งขึ้นในระหว่างการให้อาหาร
เมื่อซืออวี๋รู้สึกถึงความเย็นที่ด้านข้างตัวเขา เขาก็เข้าใจว่าเขาถูกทำสัญลักษณ์ไว้โดยราชาหมาป่า
ใช้วิธีนี้ในการทิ้งกลิ่นเหรอ?
ในขณะที่ซืออวี๋กำลังคร่ำครวญ สารบัญทักษะของเขาก็มีผลในทันใด
นี่เป็นเพราะราชาหมาป่าปลดปล่อยทักษะปราบปรามออกมาและเข้ามาสัมผัสกับซืออวี๋…
กระบวนการที่ราบรื่นและน่าทึ่งทำให้ซืออวี๋รู้สึกว่างเปล่า
เดิมทีเขาคิดหาโอกาสในการจำลองทักษะของหมาป่าหิมะ แต่กลับกลายเป็นว่ามันง่ายเช่นนี้เลยเหรอ?
ยิ่งกว่านั้น มันเป็นทักษะระดับสูงของราชาหมาป่า
เขาพลิกไปที่หน้าแรกและเห็นภาพของราชาหมาป่าที่อยู่ด้านบนสุด
ด้านล่างนั้นเป็นคำศัพท์มากมาย
[ทักษะ] : การปราบปราม
[ระดับทักษะ] : สูง
[หมายเหตุ] : มันเป็นทักษะจิตวิญญาณ ทักษะนี้สามารถใช้กดขี่ ครอบงำ และสั่งสิ่งมีชีวิตอื่นด้วยกลิ่นอายของมัน มันยังสามารถทำให้สิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอกว่าตัวมันเองหมดสติได้ มันเป็นสัญลักษณ์ของ ‘ศักยภาพแห่งราชา’
[สถานะ] : ไม่มีเป้าหมาย
Fanpage : ผีเสื้อกลางคืน