บทที่ 15 นักฝึกสัตว์อสูรประเภทต่างๆ
อีเลฟเว่นรู้สึกว่านักฝึกสัตว์อสูรของมันนั้นมีพรสวรรค์มากเกินไป
คนธรรมดาจะคิดวิธีการฝึกฝนอันน่าาสังเวชเช่นนี้ได้ยังไงกัน?
ตอนนี้ อีเลฟเว่นตั้งหน้าตั้งตารอที่จะใช้วิธีนี้เพื่อฝึกความแข็ง
อย่างไรก็ตาม มันยังคงน่ากังวลเล็กน้อย
วิธีการฝึกฝนนี้ย่อมส่งผลกระทบต่อร่างกาย มันฟังดูเจ็บปวด และคงจะได้รับบาดเจ็บอย่างแน่นอน…
อีเลฟเว่นยอมรับการบาดเจ็บได้
ท้ายที่สุด หากใครไม่ได้รับบาดเจ็บในระหว่างการฝึกฝน คนผู้นั้นก็จะได้รับบาดเจ็บสาหัสในระหว่างการต่อสู้
ทั้งหมดนี่ก็เพื่ออนาคตที่ดียิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม มันนั้นกังวลว่าหากอาการบาดเจ็บไม่ได้ถูกรักษาอย่างทันท่วงที มันอาจกระทบต่อความคืบหน้าในการฝึกฝนของมัน
“อู๋—”
หากมันส่งผลกระทบต่อความคืบหน้าในการฝึกฝน ประสิทธิภาพในการฝึกก็จะลดลงอีกครั้ง
“เจ้าช่างรอบคอบเสียจริง”
เปลือกตาของซืออวี๋กระตุกในขณะที่เขามองไปที่อสูรกินเหล็ก
หากงานแสดงสิบสัตว์อสูรที่ขยันขันแข็งที่สุดของปีนี้ไม่ได้ให้รางวัลแก่เจ้า ข้าจะไปทำลายสถานีออกอากาศของพวกเขา
“แต่ไม่เป็นไร ข้าได้เตรียมทักษะการรักษาไว้เพื่อเจ้าแล้ว อย่ากังวลเรื่องการฝึก!”
อีเลฟเว่นนั้นรอบคอบมาก แต่ซืออวี๋ก็เช่นกัน
[ทักษะ] : การรักษาความเร็วสูง
[ระดับทักษะ] : กลาง
[หมายเหตุ] : ทักษะการรักษาประเภทไม้ มันสามารถเร่งความเร็วในการรักษาของอาการบาดเจ็บทั่วไปได้
[หมายเหตุ] : สามารถสอนได้
ซืออวี๋หยิบแคปซูลสดชื่นออกมาสองเม็ดก่อน จากนั้นเขาก็กดมือขวาของเขาซึ่งถูกอาบด้วยแสงสีขาวลงไปบนหัวของอสูรกินเหล็กตัวน้อยด้วยท่าทางที่กล้าหาญ
เขาเริ่มลูบหัวมันอีกครั้ง
อันที่จริง เวลาคูลดาวน์สำหรับการสอนทักษะของเขาคือศูนย์ตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว ยิ่งกว่านั้น หลังจากที่อีเลฟเว่นมาถึงระดับปลุกตื่นขั้นสี่ ร่างกายและจิตใจของซืออวี๋ก็พัฒนาขึ้น
นี่ทำให้ซืออวี๋ต้องการลองสอนทักษะระดับกลางการรักษา
ไม่ว่ายังไง เขาก็ต้องสอนมันอยู่ดี ยิ่งเขาสอนมันเร็วมากเท่าไหร่ก็ยิ่งง่ายสำหรับเขาเท่านั้น
เนื่องจากสารบัญทักษะแสดงว่ามันสอนได้ ในทางทฤษฏีแล้ว แม้ว่าเขาจะสอนทักษะระดับสูงการปราบปราม เขาก็จะไม่ตาย
อย่างมากที่สุด เขาจะนอนเป็นผักอยู่บนเตียงสักสองสามวัน…
เมื่อแสงจางลง เวลาคูลดาวน์สำหรับสารบัญทักษะก็ปรากฎขึ้นมาอีกครั้ง ในคราวนี้ มันคือ 48 ชั่วโมง
ไม่สำคัญว่าเวลาคูลดาวน์จะนานแค่ไหน ตราบใดที่เขาไม่ตายก็พอแล้ว
อย่างไรก็ตาม อสูรกินเหล็กมีความเข้ากันได้เพียงพอที่จะเรียนรู้ ‘การรักษาความเร็วสูง’ ซึ่งทำให้ซืออวี๋น้ำตาไหล
ดูเหมือนว่าเจ้าจะกินไผ่มากเกินไป เจ้ามีความเข้ากันได้กับธาตุไม้แล้ว
แต่บางทีนี่อาจหมายความว่าอสูรกินเหล็กวิวัฒนาการไปสู่คุณสมบัติไม้เหรอ?
มีแพนด้าดรูอิดอยู่ไหมนะ?
ตามสิ่งที่ซืออวี๋รู้ นอกเหนือจากคุณสมบัติไม้แล้ว ยังมีความเป็นไปได้ที่อสูรกินเหล็กจะสามารถเข้าใจทักษะเพลิงและสายฟ้า มีนักฝึกสัตว์อสูรในเขตผิงเฉิงที่เชี่ยวชาญในการฝึกอสูรกินเหล็กเพื่อบ่มเพาะทักษะบางอย่าง
ในอนาคต เขาอาจสามารถเรียนรู้มากยิ่งขึ้นและเพิ่มทักษะให้แก่อสูรกินเหล็ก
ในขณะนั้นเอง หลังจากการสอนจบลง ซืออวี๋ก็อ่อนแอลงอีกครั้ง นอกจากนี้เขายังอ่อนแอลงจนถึงจุดที่ไม่สามารถบรรเทาได้แม้ว่าจะใช้แคปซูลสดชื่นแล้วก็ตาม
นี่มากเกินไปแล้ว
เขาควรรอสักพักและฝึกฝนอีกหนึ่งเดือนก่อนที่จะสอนทักษะระดับสูงการหลับลึกให้แก่มัน มิฉะนั้น บางสิ่งอาจเกิดขึ้นกับเขาอย่างแท้จริง…
“ไม่ช้าก็เร็ว ข้าจะฝึกร่างกายของข้าให้สามารถต่อสู้กับอสูรกินเหล็กได้ด้วยมือเปล่าอย่างแน่นอน” ซืออวี๋มีความปรารถนาขึ้นมา
ในตอนนี้ เมื่อพลังงานถูกส่งไปยังอสูรกินเหล็กตัวน้อยอย่างต่อเนื่อง วิธีการใช้การรักษาความเร็วสูงก็ชัดเจนมากยิ่งขึ้นในจิตใจของอีเลฟเว่น
อีเลฟเว่นเข้าใจผลอันน่าทึ่งของทักษะการรักษาระดับเริ่มต้นทันที
ในขณะนี้ ภาพเมื่อวันก่อนก็ปรากฎขึ้นมาอีกครั้ง นักฝึกสัตว์อสูรผู้นี้ได้ทำให้มันเรียนรู้ทักษะใหม่ อีเลฟเว่นนั้นตกตะลึงมาก
นี่คือ… ความสามารถในการรักษาอาการบาดเจ็บเหรอ?
อสูรกินเหล็ก : Σ(っ°Д°;)っ
อสูรกินเหล็กตัวน้อยมองไปที่ซืออวี๋ผู้อ่อนแอและรู้สึกมึนงง
สิ่งเดียวที่มันเข้าใจได้ก็คือไม่ว่ายังไงมันก็ต้องกระโดดลงบนแผ่นโลหะผสม
มิฉะนั้น… ทักษะการรักษานี้จะสูญเปล่าซึ่งทำให้มันรู้สึกไม่สบายใจ
…
ปัง! ปัง! ปัง!
ภายในห้อง ซืออวี๋กำลังนอนหลับอย่างสงบ
เสียงของอีเลฟเว่นและแผ่นโลหะผสมปะทะกันดังออกมาจากข้างนอก
พร้อมกับเสียงกรีดร้องของหนอนไหมเขียว
หนอนไหมเขียวในกรงกำลังเฝ้ามองวิธีการฝึกฝนของอีเลฟเว่นและตกตะลึง
คนพวกนี้เป็นบ้าอะไรกัน?
เขาจะทรมาณมันเช่นนี้ด้วยหรือไม่?
อันที่จริง ไม่เพียงแค่หนอนไหมเขียวเท่านั้นที่ตกตะลึง แม้กระทั่งซืออวี๋เองก็ไร้คำกล่าวเช่นกัน
เพราะอีเลฟเว่นยอมรับวิธีการฝึกฝนนี้อย่างน่าประหลาดใจ…
แม้ว่าเขาจะเป็นผู้ที่คิดค้นวิธีการฝึกฝนนี้ก็ตาม แต่ซืออวี๋รู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย
หากเขายังเลี้ยงดูอีเลฟเว่นเช่นนี้ต่อไป ในอีกสิบปีข้างหน้ามันจะกลายเป็นสัตว์อสูรอะไรกัน?
ลืมไปเถอะ คิดมากไปเพื่ออะไรกัน?
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น… การใช้พลังงานจากทักษะการเคลือบแข็งและทักษะการรักษาความเร็วสูงจะยิ่งไร้สาระมากขึ้น
ซืออวี๋วางแผนที่จะไปซื้อของอีกครั้งหลังจากเขาพักผ่อนอย่างเต็มที่แล้ว อาหารที่ฐานเพาะพันธุ์ไผ่เหล็กจัดเตรียมไว้ให้หนึ่งเดือนนั้นไม่เพียงพอสำหรับอีเลฟเว่น
เนื่องจากเขานั้นเหนื่อยเกินไป ซืออวี๋จึงต้องการพักผ่อน อย่างไรก็ตาม นื่องจากความโกลาหลข้างนอก เขาจึงนอนไม่หลับ
ซืออวี๋อดไม่ได้ที่จะปล่อยให้จินตนาการของเขาโลดแล่น
“ข้ารู้สึกราวกับขาดอะไรไป…”
แม้ว่าเขาจะถูกย้ายข้ามโลกมาสามเดือนแล้ว แต่ซืออวี๋ผู้ที่กำลังนอนอยู่บนเตียงนั้นก็ยังคงรู้สึกว่างเปล่า เขารู้สึกว่ามีบางอย่างขาดหายไป
อาชีพนักฝึกสัตว์อสูร… เป็นอาชีพที่น่าทึ่งอย่างแท้จริง มันสามารถทำให้ชีวิตดีขึ้นได้
แม้ว่าอสูรกินเหล็กนั้นจะน่ารัก แต่เขาก็อยากได้โทรศัพท์มือถือ!
มันน่าอึดอัดมากที่ไม่มีโทรศัพท์อยู่ในมือของเขา… เป็นเวลาสามเดือนแล้วนับตั้งแต่ที่เขาเล่นอินเทอร์เน็ตครั้งล่าสุด
เมื่อซืออวี๋นึกถึงเรื่องนี้ เขาก็รู้สึกเศร้าใจเล็กน้อย
หากเขามีโทรศัพท์มือถือ เขาจะซื้ออุปกรณ์การฝึกฝน อาหาร และยาแบบออนไลน์ได้ มันจะช่วยเขาลดปัญหาได้อย่างมาก
ต่างจากในตอนนี้ เขายังต้องออกไปข้างนอก
ไม่ใช่ว่าเทคโนโลยีของโลกใบนี้นั้นล้าหลัง อันที่จริง มีโทรศัพท์มือถือ โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์อยู่ในโลกใบนี้
อย่างไรก็ตาม เวลาส่วนใหญ่ ซืออวี๋ใช้ไปกับการศึกษาหาความรู้และฝึกงาน เขาจึงไม่จำเป็นต้องเสียเงินซื้อพวกมัน
แม้ว่าเขาจะยังคงยากจนอยู่มาก แต่ซืออวี๋ก็ได้ตัดสินใจแล้ว… เมื่อเขามีเงิน เขาจะซื้ออุปกรณ์ที่ดีที่สุดให้กับตัวเองอย่างแน่นอน
เขาต้องการโทรศัพท์ที่สามารถตรวจจับระดับพลังงานของสัตว์อสูรได้
จากมุมมองหนึ่ง แม้ว่าเทคโนโลยีของโลกใบนี้จะไม่เป็นที่นิยมมากนัก แต่มันก็ล้ำหน้าอย่างมาก
ไม่เพียงแค่สัตว์และพืชจะวิวัฒนาการเป็นสัตว์อสูรเท่านั้น แต่เครื่องจักรบางอย่างก็วิวัฒนาการเป็นสัตว์อสูรได้เช่นกันในปัจจุบัน ปัญญาประดิษฐ์ได้รับการพัฒนาอย่างมากในบางประเทศ
ในบางพื้นที่ มีแม้กระทั่งนักฝึกสัตว์อสูรที่ใช้จักรกลเป็นสัตว์อสูรทำสัญญาของพวกเขา
ยิ่งกว่านั้น แทนที่จะเป็นนักฝึกสัตว์อสูร พวกเขากลับชอบเรียกตัวเองว่าช่างกล
อันที่จริง นักฝึกสัตว์อสูรเป็นเพียงคำศัพท์ทั่วไปที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ ในประวัติศาสตร์ นักฝึกสัตว์อสูรหลายคนที่เชี่ยวชาญในการทำสัญญากับสัตว์อสูรบางประเภทจะมีชื่อเฉพาะของพวกเขาเองตามประเภทของสัตว์อสูร
ผู้ที่เชี่ยวชาญในการฝึกฝนและทำสัญญากับมังกรถูกเรียกว่านักฝึกมังกร ผู้ที่เชี่ยวชาญในการสื่อสารและทำสัญญากับอันเดดถูกเรียกว่าผู้สื่อวิญญาณ และผู้ที่เชี่ยวชาญในการปรับแต่งและทำสัญญากับสัตว์อสูรประเภทจักรกลถูกเรียกว่าช่างกล พวกเขาทั้งหมดมีชื่อใหม่ แต่โดยเนื้อแท้แล้ว พวกเขายังคงเป็นนักฝึกสัตว์อสูร
แต่ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นนักฝึกสัตว์อสูรเช่นเดียวกัน แต่การดูแคลนมักจะปรากฎขึ้นมาเพราะความแตกต่างในด้านชื่อของพวกเขา…
ในหมู่พวกเขา… ผู้สื่อวิญญาณที่เชี่ยวชาญในการทำสัญญากับอันเดดนั้นได้รับความนิยมน้ยที่สุด ท้ายที่สุด มีคนไม่มากนักที่เต็มใจทำสัญญากับอันเดด
ผู้ที่เชี่ยวชาญในการสร้างสัตว์อสูรประเภทจักรกลนั้นล้วนแล้วแต่มีพรสวรรค์และสติปัญญาสูง เงื่อนไขอาชีพขงพวกเขานั้นสูงที่สุดเช่นกัน และมีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างพวกเขากับนักฝึกสัตว์อสูรทั่วไป
เนื่องจากพลังของสัตว์อสูรประเภทมังกร นักฝึกมังกรจึงกล่าวกับทุกอาชีพรองของนักฝึกสัตว์อสูรว่าพวกเขาเป็นขยะ
นักฝึกสัตว์อสูรที่ทำสัญญากับสัตว์อสูรประเภทสัตว์นั้นพบเห็นได้มากที่สุด… นี่เป็นเพราะสัตว์อสูรประเถทสัตว์นั้นหาได้ง่ายที่สุด…
ซืออวี๋ไร้คำกล่าวกับพีรามิดแห่งชนชั้นอาชรพที่เขาได้เรียนรู้ เขาคิดว่ามันดูเด็กน้อยมากและไม่สนใจมัน… เพราะในฐานะนักฝึกสัตว์อสูรธรรมดา เขานั้นอยู่ในจุดล่างสุดของพีรามิด
“ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ นักฝึกสัตว์อสูรก็คือนักฝึกสัตว์อสูร… จากความเข้มข้นในการฝึกฝนของอีเลฟเว่น ข้าคิดว่ามันอยู่ไม่ไกลจากการสังหารมังกร”
“หลังจากการฝึกฝนคราวนี้จบลง ลองหาคู่ต่อสู้ที่แท้จริงเพื่อทดสอบ!”
Fanpage : ผีเสื้อกลางคืน