ตอนที่ 462 แผนของชิววี่
ตอนที่ 462 แผนของชิววี่
ไซเรนฮิลล์เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทำให้ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้เข้าไปใกล้ได้แม้ว่ามันจะเป็นการอนุญาตจากเต็นท์ทองคำก็ตาม ด้วยเหตุนี้หลังจากที่เซี่ยเฟยได้เดินทางมาจากประตูแห่งความว่างเปล่า เขาจึงเคลื่อนตัวไปตามหุบเขาได้อย่างรวดเร็ว
ไกลออกไปจากทางเข้าของหุบเขาคือกองทัพชาวเซิร์กที่กำลังรอคอยการกลับมาของอูดี้ แต่น่าเสียดายที่ทหารเหล่านี้ยังไม่รู้ว่าราชาของพวกเขาได้เสียชีวิตแล้ว และอูดี้ก็อาจจะได้ไปอยู่ในวังของราชาแห่งนรก
เซี่ยเฟยเคลื่อนตัวไปตามแนวมืดของหุบเขา เพราะว่าในปัจจุบันยังไม่ถึงเวลาที่อูดี้จะกลับมา ดังนั้นถึงแม้ว่ามันจะมีทหารยามคอยเดินตรวจตราอยู่อย่างมากมาย แต่พวกเขาก็ไม่ได้ตรวจตราอย่างจริงจังมากนัก จากนั้นชายหนุ่มก็มุ่งหน้าตรงไปยังทะเลสาบทองคำซึ่งเป็นสถานที่ตั้งคฤหาสน์ของบิทินี่
ก่อนเข้าไปในไซเรนฮิลล์ชายหนุ่มได้นัดแนะกับชิววี่ว่าพวกเขาจะไปพบกันยังหุบเขาที่ห่างออกไปจากเต็นท์ทองคำประมาณ 2,500 กิโลเมตรทางทิศตะวันออก
อย่างไรก็ตามเซี่ยเฟยก็ไม่ได้เดินทางไปยังสถานที่ที่เขาได้นัดหมาย แต่ชายหนุ่มกลับแอบเข้าไปในที่พักของบิทินี่โดยตรง
คฤหาสน์ของบิทินี่มีขนาดไม่ใหญ่เกินไป ซึ่งชายหนุ่มก็ได้เคลื่อนตัวไปตามความมืดและใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่นาทีในการหาบิทินี่จนเจอ
ชายหนุ่มแอบฟังบิทินี่สนทนากับชิววี่ในห้องสมุดอยู่ครู่หนึ่ง แต่น่าเสียดายที่ห้องสมุดนั้นได้มีการติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันการเล็ดลอดของเสียงมากเป็นพิเศษ มันจึงทำให้แม้แต่ผู้มีปฏิกิริยาอันว่องไวอย่างเซี่ยเฟยก็ไม่ได้ยินว่าทั้งคู่กำลังพูดคุยอะไรกันอยู่ ชายหนุ่มจึงเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนที่จะยื่นมือออกไปเพื่อเคาะหน้าต่าง 2 ครั้ง
เมื่อได้ยินเสียงเคาะหน้าต่างชิววี่ก็เปิดหน้าต่างอย่างสงสัย ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันนั้นชายหนุ่มก็แอบเคลื่อนไหวเข้ามาภายในห้องในชั่วพริบตา
“เซี่ยเฟย!! คุณกลับมาแล้ว!?” บิทินี่อุทานขึ้นมาด้วยความตกใจเมื่อจู่ ๆ เซี่ยเฟยก็ได้ปรากฏตัวขึ้นโดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว
แต่ก่อนที่เธอจะทันได้พูดจบเซี่ยเฟยก็รีบใช้มือมาปิดปากของเธอเสียก่อน ซึ่งทันทีที่ผิวหนังของพวกเขาได้สัมผัสกันมันก็ทำให้ใบหน้าของบิทินี่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง
ชายหนุ่มส่งสัญญาณมือออกไปช้า ๆ เพื่อให้ชิววี่ปิดหน้าต่างลงและให้บิทินี่เงียบเสียงของเธอเอาไว้
“ทำไมจู่ ๆ คุณถึงกลับมาได้แบบนี้? แล้วทำไมคุณถึงไม่ทำตามสิ่งที่พวกเราได้ตกลงกันเอาไว้?” ชิววี่กระซิบถามขึ้นมาเบา ๆ หลังจากที่เขาปิดหน้าต่างลงไปตามเดิม
“ถ้าผมไปตามนัดหมายผมก็คงจะตายไปแล้วใช่ไหมล่ะ?” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม
สีหน้าของสองพ่อลูกเปลี่ยนไปครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะท้ายที่สุดมันก็มีเพียงแค่คนตายเท่านั้นที่จะเก็บงำความลับเอาไว้ได้ ยิ่งไปกว่านั้นแผนการที่พวกเขากำลังดำเนินอยู่เป็นแผนการชิงบัลลังก์ของเผ่าพันธุ์ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่รู้สึกสบายใจถ้าหากผู้ที่ล่วงรู้ความลับของพวกเขาอย่างเซี่ยเฟยยังคงมีชีวิตอยู่
ด้วยเหตุนี้เองสถานที่นัดหมายจึงเป็นจุดที่พวกเขาได้เตรียมการเอาไว้สำหรับการซุ่มโจมตี และสถานที่แห่งนั้นยังได้เต็มไปด้วยนักรบชั้นยอดหลายสิบคนที่มีพลังพิเศษเตรียมเอาไว้จัดการกับความเร็วของเซี่ยเฟยโดยเฉพาะ
แต่ตอนนี้เซี่ยเฟยได้มาปรากฏตัวต่อหน้าของพวกเขาอย่างฉับพลัน และถ้าหากว่าชายหนุ่มคนนี้ต้องการที่จะสังหารพวกเขาสองพ่อลูกลงจริง ๆ พวกเขาก็คงจะเสียชีวิตก่อนที่จะทันได้ร้องขอความช่วยเหลือจากด้านนอกด้วยซ้ำ
ยิ่งไปกว่านั้นเซี่ยเฟยยังปรากฏตัวเร็วกว่ากำหนดการถึง 4 วัน มันจึงทำให้ชิววี่และบิทินี่ไม่ทันได้ตั้งตัว
“เมื่อ 10 วันก่อนจู่ ๆ ยานอวกาศของคุณก็บินหนีออกอย่างกะทันหัน เรื่องนี้ก็อยู่ในแผนการของคุณด้วยงั้นเหรอ?”
เซี่ยเฟยพยักหน้ารับและไม่คิดที่จะปฏิเสธ
“เลิกพูดเรื่องไร้สาระแล้วมาเข้าเรื่องจริงจังกันได้แล้ว”
“ข้อแรกอูดี้คืออี้ดู นักรบอันดับ 2 ในกระดานจัดอันดับ แต่ตอนนี้อูดี้ได้ตายลงไปแล้ววินดี้, บาทอรี่, ทอมมี่, นานี่, พี่น้องตระกูลกุชก็ตายแล้วเหมือนกัน แม้แต่ชานี่และนักรบทั้งหมดในกองทัพต่างก็ตายอยู่ในไซเรนฮิลล์กันหมด”
ช็อก!
โคตรช็อก!
เป็นไปได้ไหมที่เซี่ยเฟยจะจัดการกับนักรบทั้งหมดโดยลำพัง?
ใบหน้าของชิววี่และบิทินี่ซีดเซียวลงเรื่อย ๆ และพวกเขาก็ไม่อาจจะจินตนาการได้ว่ามันมีอะไรเกิดขึ้นด้านในไซเรนฮิลล์กันแน่ แต่สิ่งที่แน่นอนนั่นก็คือเซี่ยเฟยคือผู้รอดชีวิตกลับมาเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น
“ข้อที่ 2 ไซเรนฮิลล์จะปิดตัวลงในตอนเที่ยงของวันพรุ่งนี้ พวกคุณควรเตรียมตัวให้พร้อมตั้งแต่นั้นเนิ่น ๆ เมื่อถึงเวลาผมหวังว่าพวกคุณจะขึ้นครองบัลลังก์อย่างราบรื่น” เซี่ยเฟยกล่าวอีกครั้ง
เรื่องนี้เกิดขึ้นมาในระหว่างที่เซี่ยเฟยสนทนากับแบล็คกี้และไวท์ตี้ เพราะท้ายที่สุดไซเรนฮิลล์ก็หมดหน้าที่ของมันแล้วสถานที่แห่งนี้จึงสมควรที่จะปิดตัวลงเสียที แต่เซี่ยเฟยต้องการเวลาเตรียมตัวอีกระยะหนึ่ง เขาจึงขอให้แบล็คกี้เลื่อนเวลาในการปิดมิติออกไปอีกครึ่งวัน
“ข้อ 3 ผมมีหลักฐานวิดีโอทั้งหมดเกี่ยวกับแผนการคิดก่อกบฏของคุณ ดังนั้นถ้าหากว่าพวกคุณขึ้นไปเป็นเจ้าของเต็นท์ทองคำแต่ไม่ทำตามข้อตกลงที่เราคุยกันเอาไว้ วิดีโอพวกนี้ก็จะถูกเผยแพร่ออกมาในทันที แล้วพวกคุณก็จะไม่สามารถครอบครองบัลลังก์อย่างสงบสุขได้อีกเลย”
ชิววี่และบิทินี่ถึงกับพูดไม่ออกไปชั่วขณะ เพราะท้ายที่สุดชุดต่อสู้ทุกชุดต่างก็ล้วนแล้วแต่มีระบบบันทึกวิดีโอซ่อนเอาไว้ภายในชุดต่อสู้อยู่แล้ว เพื่อที่นักรบจะได้นำวิดีโอการเคลื่อนไหวของพวกเขาไปปรับปรุงจุดบกพร่องของตัวเองได้ พวกเขาจึงคิดมาตั้งนานแล้วว่าเซี่ยเฟยน่าจะบันทึกหลักฐานการพูดคุยของพวกเขาเอาไว้แน่ ๆ
ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงวางแผนสังหารเซี่ยเฟยเพื่อปิดปาก แต่พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าเซี่ยเฟยจะรู้แผนการของพวกเขาอยู่แล้ว และสิ่งที่พวกเขากำลังเดินอยู่ในตอนนี้มันก็คือเส้นทางที่ชายหนุ่มได้กำหนดเอาไว้
“ในเมื่อพวกคุณวางแผนที่จะกำจัดผมก่อน ผมก็จะถือว่าพวกคุณเป็นศัตรูของผม แน่นอนว่าผมไม่เคยปล่อยให้ศัตรูคนไหนรอดชีวิต แต่วันนี้ผมจะยอมปล่อยพวกคุณไปสักครั้ง แต่ถ้าหากว่าพวกคุณทำให้ผมผิดหวังพวกคุณก็น่าจะรู้นะว่าหลังจากนั้นพวกคุณจะต้องเจอกับอะไร?” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย
“ลาก่อน หวังว่าพวกเราคงไม่ต้องกลับมาพบกันใหม่” ทันทีที่พูดจบร่างของเซี่ยเฟยก็หายไป ทิ้งไว้เพียงแต่หน้าต่างที่ถูกเปิดออกพร้อมกับสายลมที่พัดผ่านช่องหน้าต่างเข้ามา
ชิววี่ตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวและใบหน้าของเขาก็ขาวซีดราวกับซากศพ เขาคิดไม่ออกจริง ๆ ว่าเซี่ยเฟยออกมาจากไซเรนฮิลล์ล่วงหน้าได้อย่างไร และมันก็ทำให้แผนการของเขายุ่งเหยิงกันไปหมด
“ท่านพ่อ พวกเราควรจะทำยังไงดี?” บิทินี่กล่าวถามอย่างตื่นตระหนก
“ตอนนี้สถานการณ์ยุ่งเหยิงไปหมดแล้ว พ่อต้องรีบกลับไปจัดการทุกอย่างเดี๋ยวนี้” ชิววี่กล่าวหลังจากเดินครุ่นคิดภายในห้อง 2-3 รอบ
“แล้วเซี่ยเฟยล่ะ?”
“เราคงต้องปล่อยเขาไปก่อน ตราบใดก็ตามที่เราคืนความสงบให้พันธมิตรมนุษย์ได้ เซี่ยเฟยย่อมไม่เข้ามายุ่งวุ่นวายอะไรกับพวกเรา ถ้าเป็นไปได้ก็ขอให้เราอย่าได้พบเจอกับเขาอีกเลย”
—
เซี่ยเฟยรีบเคลื่อนตัวออกห่างจากคฤหาสน์ของราชินีและเดินทางต่อไปยังป่าทึบทางใต้ห่างออกไปจากทะเลสาบประมาณ 400 กิโลเมตร จากนั้นเขาก็กดสัญญาณที่แขนขวาเบา ๆ พร้อมกับรอคอยอยู่ในบริเวณนั้นอย่างเงียบ ๆ
เมื่อได้รับสัญญาณแวมไพร์ก็ร่อนลงมาจากท้องฟ้าพร้อมกับเปิดประตูให้เซี่ยเฟยกระโดดตัวขึ้นไป จากนั้นระบบล่องหนก็ถูกเปิดออกอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ยานรบลำนี้จะเปิดระบบวาร์ปเพื่อเคลื่อนตัวห่างออกไปจากเมืองหลวง 50,000 ปีแสงในอีก 12 นาทีต่อมา
กระบวนการทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องราวกับว่ามันได้ถูกเตรียมการมาเป็นอย่างดี ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการเหล่านี้ชายหนุ่มก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
“นายท่าน กระป๋องทำตามคำสั่งของนายท่านทุกอย่างเลย กระป๋องทำหน้าที่ได้ดีไหม?” กระป๋องรีบเข้ามารายงานเซี่ยเฟยด้วยรอยยิ้ม หลังจากที่ชายหนุ่มเดินเข้ามาในห้องบัญชาการ
“นายทำได้ดีมาก” เซี่ยเฟยตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
แน่นอนว่าแผนการทั้งหมดนี้ถูกเซี่ยเฟยวางแผนเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว เพราะชีวิตจะปลอดภัยที่สุดก็ต่อเมื่อทุกอย่างถูกควบคุมภายใต้แผนการของเขาเอง และถึงแม้ว่าเขาจะไม่อยู่บนยานแต่เขาก็สามารถสั่งแผนการล่วงหน้าเอาไว้ให้กับกระป๋องได้
เดิมทีชายหนุ่มไม่ได้คิดว่าเขาจะได้รับกฎแห่งความโกลาหลและออกมาจากไซเรนฮิลล์ได้ก่อนเวลา 4 วัน มันจึงทำให้สถานการณ์ดำเนินไปอย่างราบรื่นมากขึ้นกว่าเดิม แล้วไม่จำเป็นจะต้องเสี่ยงชีวิตเหมือนกับที่เขาได้คิดเอาไว้ตั้งแต่แรก
ถ้ามีใครรู้ว่าเซี่ยเฟยได้วางแผนการทำแบบนี้ พวกเขาก็คงจะตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง เพราะท้ายที่สุดทุกคนก็ถือว่าหุ่นยนต์เป็นศัตรู แต่เซี่ยเฟยกลับขอให้หุ่นยนต์เตรียมตัวทำแผนการทุกอย่างเพื่อช่วยชีวิตของตัวเอง
ชายคนนี้กล้าฝากชีวิตเอาไว้กับหุ่นยนต์ที่เคยทรยศมนุษย์งั้นเหรอ?
กระป๋องดีใจมากที่มันได้รับคำชมจากเซี่ยเฟย
“เจ้านายหิวไหม? เดี๋ยวกระป๋องไปทำผัดหมี่ให้เจ้านายกิน”
เซี่ยเฟยพยักหน้ารับกระป๋องจึงรีบวิ่งเข้าไปในครัวด้วยความตื่นเต้น ก่อนที่มันจะมีเสียงทำอาหารดังขึ้นมาในอีกไม่กี่นาที
กระป๋องใส่ใจกับเรื่องทุกเรื่องของเซี่ยเฟยมาก เพราะจากประสบการณ์มนุษย์ถูกหุ่นยนต์ทำลายไปในอดีต มันจึงทำให้กระป๋องกลัวว่าเซี่ยเฟยจะหายไปมากที่สุด ดังนั้นเมื่อเซี่ยเฟยกลับมามันย่อมทำให้หุ่นยนต์ตัวนี้ร่าเริงกว่าปกติ
“คนโบราณกล่าวเอาไว้ว่าหุ่นยนต์เป็นพวกชั่วร้ายและเป็นผู้ทำลายอารยธรรมโบราณ แต่ยิ่งฉันได้สัมผัสกับกระป๋องนานเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งสงสัยกับคำพูดพวกนั้นมากขึ้นเรื่อย ๆ” อันธกล่าว
“ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน บางทีมันอาจจะมีความจริงอะไรบางอย่างที่เรายังไม่รู้” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
“ตอนนี้พวกเรากำลังจะกลับไปที่พันธมิตรงั้นเหรอ?” อันธถาม
“ฉันยังไปไม่ได้ ฉันต้องรอดูก่อนว่าพวกสมาพันธ์นักปราชญ์จะทำยังไงหลังจากข่าวเรื่องอูดี้ถูกเปิดเผยออกมา” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับส่ายหัว
“ถ้าพวกเขาไม่ทำตามข้อตกลงล่ะ?”
“ถ้าแบบนั้นฉันก็จะใช้ดาวพิฆาตลูกสุดท้ายทำลายพวกเขาซะ” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างจริงจัง
เมืองหลวงเซิร์กเป็นศูนย์กลางของเผ่าพันธุ์เซิร์กทั้งหมด และถ้าหากว่าเมืองหลวงโดนทำลายทั่วทั้งเผ่าพันธุ์เซิร์กก็คงจะตกอยู่ในความวุ่นวายไปสักพัก ซึ่งเรื่องนี้ก็คงจะเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดถ้าหากว่าชิววี่ไม่ได้ทำตามสิ่งที่พวกเขาได้ตกลงกันเอาไว้
“แต่นายบอกชิววี่ไปเองว่านายไม่เหลือดาวพิฆาตอีกแล้ว นอกจากนี้มันยังมีนักพรตเลยูตี้เหลืออยู่อีกคนนะ” อันธกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว
“นายรู้ไหมว่าข้อเสียของคนฉลาดคืออะไร?” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ
“อะไร?”
“คนฉลาดมักจะหวาดระแวงอยู่เสมอ ยิ่งฉันบอกเขาว่าฉันไม่มีดาวพิฆาตเขาก็จะยิ่งคิดว่าฉันมีดาวพิฆาตอยู่ในมือ ส่วนเรื่องเลยูตี้เราก็คงจะทำอะไรไม่ได้ เพราะตัวตนของเขาลึกลับมากเกินไปและเราก็ไม่มีทางคาดเดาการเคลื่อนไหวของเขาได้เลย”
“ตอนนี้ยังพอมีเวลาอีกสักพัก ฉันจะลองซ่อมระบบเรดาร์แบล็คแบทจากวัตถุดิบที่แลกเปลี่ยนมาก่อน ฉันอยากจะรู้แล้วว่าตอนนี้สถานการณ์ในพันธมิตรเป็นยังไงบ้าง”
***************