นักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 10
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 10
หนึ่งชั่วโมงผ่านไปตั้งแต่เด็กๆ เริ่มวิ่งรอบโรงฝึก
เบอร์เรนและรูนันยังคงวิ่งนำหน้าเด็กๆ สายรอง บุตรขุนนาง และเด็กที่ถูกแนะนำมาตามอยู่ข้างหลังพวกเขา
แน่นอนว่าคนที่ยังคงวิ่งอยู่ไม่ใช่หนึ่งร้อยหกสิบคนเหมือนเดิม
มีคนที่หมดแรงยอมแพ้ไปแล้วกำลังพักผ่อนอยู่ที่มุมหนึ่ง และจำนวนคนที่ยอมแพ้ก็ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แม้กระทั่งตอนนี้
“ฮ่าๆ”
ดวงตาของริมเมอร์ขยับไปทางซ้ายและขวาอย่างรวดเร็ว ทั้งๆที่ยังนอนอยู่บนแท่นและหาวอยู่
'หมายเลขหกสิบเอ็ดยอมแพ้ก่อนที่แรงจะหมด และหมายเลขหกสิบสองยังทนอยู่'
เขากวาดสายตามองเด็กทั้งหมดหนึ่งร้อยหกสิบคนด้วยสายตาที่ง่วงนอน
ความแข็งแรงไม่ใช่สิ่งเดียวที่ริมเมอร์กำลังวิเคราะห์
' ตรวจสอบความแข็งแรงของพวกเขาไปก็ไม่ได้อะไร'
ความแข็งแรงของเด็กขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาเติบโตขึ้นมายังไง พวกเขาทั้งหมดดูคล้ายๆ กันยกเว้นสายตรงสองคนและมีเด็กที่ดูเข้าตาประมาณยี่สิบคน
แม้ว่าความแข็งแรงของพวกเขาจะใกล้เคียงกันยังไง แต่มีเด็กบางคนยอมแพ้ทันทีที่หมดลมหายใจ และบางคนยังคงวิ่งต่อไปจนจบโดยที่ร้องไห้ออกมา
' ความแตกต่างนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่นี่'
เช่นเดียวกับที่มีคนยอมแพ้ง่าย ก็มีคนที่ไม่ยอมแพ้เช่นกัน
ความแตกต่างของพลังที่ดูเล็กน้อยในปัจจุบันจะยิ่งแตกต่างอย่างมหาศาลในอนาคต
ความแข็งแกร่งสามารถเพิ่มขึ้นและความสามารถพิเศษสามารถก็พัฒนาได้
แต่การพัฒนาความอดทนนั้นยากมาก
เด็กที่ไม่เคยยอมแพ้ก็จะไม่ยอมแพ้ในอนาคตเช่นกัน และเด็กที่ยอมแพ้ง่ายๆ ก็จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ทำเช่นเดียวกัน
แน่นอนว่าบางคนก็ตระหนักและเปลี่ยนแนวทางของตน เพียงแต่นั่นเป็นเรื่องยากพอๆ กับการหาเข็มในกองหญ้า
การมองหาเด็กที่มีความมุ่งมั่นและวินัยเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด
'แค่นี้คงจะได้แล้ว'
ริมเมอร์ยิ้ม เด็กกว่าครึ่งยอมแพ้แล้ว และที่เหลือเริ่มช้าลงเนื่องจากพวกเขาเหนื่อยล้า
ขณะที่ริมเมอร์กำลังเตรียมบอกสิ้นสุดการทดสอบ เขาก็เหลือบไปเห็นเด็กผมทองที่กำลังวิ่งอยู่ท้ายแถว
'ราอน ซีกฮาร์ท'
ตาของริมเมอร์เปล่งประกายราวกับดวงดาว เขาเป็นเด็กคนเดียวที่เกินความคาดหมาย
'ฉันไม่เข้าใจเลย'
ราอนหมดเรี่ยวแรงไปนานแล้ว เขาไม่น่าจะยืนได้อยู่ เพราะมีความหนาวเย็นปกคลุมร่างกายของเขาและเขาก็หายใจหอบๆ อย่างไรก็ตามเขายังคงขยับเท้าอย่างไม่ลดละโดยไม่เสียจังหวะ
'นี่เรียกว่าความมุ่งมั่นไม่ได้อีกแล้ว นี่คือความดื้อรั้นชัดๆ'
เขาได้เห็นผูมีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมนับไม่ถ้วนในสนามรบ
ในหมู่พวกเขามีนักดาบที่ขึ้นไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดของทวีปได้ นักเวทย์ที่เปลี่ยนโลกได้ด้วยเวทมนตร์ได้ แต่ไม่มีใครมีความมุ่งมั่นมากเท่าราอน
เขายังคงวิ่งต่อไป แม้ว่าเรี่ยวแรงจะหมดก็ตาม
นั่นเป็นไปไม่ได้เลยหากไม่เคยผ่านการต่อสู้แบบเอาเป็นเอาตายมานับครั้งไม่ถ้วน เขาคิดไม่ออกว่าเด็กคนนี้จะเป็นคนมุ่งมั่นเอาเป็นเอาตายขนาดนั้นได้ยังไง
'หืม…'
เขามองไปทั่วทั้งโรงฝึก
รูนันและเบอร์เรนยังคงวิ่งนำแม้จะช้าลงแล้วแต่ก็ยังน่าทึ่ง แต่นั่นเทียบไม่ได้เลยกับราอนที่ยังคงวิ่งอย่างไร้เรี่ยวแรง
สายรองและลูกๆ ของตระกูลขุนนางที่ล้อเลียนราอนกำลังน้ำลายไหลขณะวิ่งราวกับว่าพวกเขาไม่ต้องการแพ้ราอน
“ฮ่าๆ”
ริมฝีปากของริมเมอร์งอขึ้นเป็นเส้นโค้ง
“คงจะสนุกไม่น้อยที่ได้สอนพวกเขา”
***
“หืม…”
เบอร์เรน ซีกฮาร์ทหันหลังไปมอง เขาไม่สามารถมีสมาธิกับการวิ่งได้ เขาขมวดคิ้วหลังจากหันไปมอง
'ทำไม? ทำไมเจ้าหมอนั่นนั้นยังวิ่งได้อยู่?!'
ราอน ซีกฮาร์ท เขาเป็นเด็กที่อวดดีที่คุยกับหัวหน้าตระกูล เขาเป็นคนที่ไม่มีใครคาดคิดแต่เขายังคงวิ่งด้วยความเร็วคงที่จนจบแม้จะช้ามาก
'ในตอนนี้ เขาไม่ควรอยู่ในสภาพที่จะวิ่งได้สิ...'
เขารู้อาการป่วยของราอนแล้ว เขาเกิดมาพร้อมกับความเย็น ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายแบบปกติได้เท่านั้น แต่ยังทำให้การเติบโตของเขาช้าลงอีกด้วย
และเมื่อเขาเห็นเขาเป็นครั้งแรก เขาก็ดูน่าสงสารยิ่งขึ้นไปอีก เขาตัวเตี้ยและไม่มีวี่แววว่าผ่านการฝึกฝนเลยแม้แต่น้อย
'แล้วยัง...'
เขายังไม่ยอมแพ้
เด็กๆ มากมายซึ่งมีพรสวรรค์ที่ได้ยอมแพ้ไปแล้ว ถึงแบบนั้นเขาก็ยังวิ่งต่อไป ทั้งๆ ที่หอบราวกับว่าเขากำลังจะตาย
'เอาแต่ตามฉัน มันน่ารำคาญชะมัด'
รูนันเป็นคนเดียวที่ยังคอยตามเขา และราอนซึ่งควรจะออกไปแล้ว ต่างก็น่ารำคาญทั้งคู่
'เอาล่ะ ฉันจะแสดงให้พวกมันเห็นถึงความแตกต่างเอง'
เขาตัดสินใจว่าเขาจะทำให้ทั้งรูนันและราอนเสียกำลังใจ เขาเริ่มสับเท้าอย่างดุเดือด
ซู่ว!
เขาใช้ออร่าขยายกล้ามเนื้อต้นขาและน่อง วิ่งด้วยความเร็วที่มองตามแทบไม่ทัน เขาหันกลับไปมอง
'ไอ้พวกนั้น?!'
ทั้งรูนันที่เขาคิดว่าเป็นคู่แข่งและราอน ต่างก็ไม่ได้แสดงปฏิกิริยาใดๆ กลับมา
พวกเขาทั้งสองต่างวิ่งตามจังหวะของตัวเองเหมือนเดิม และมันก็เป็นเด็กคนอื่นๆ ที่พยายามเร่งตามเขา
“ชิ!”
เบอร์เรนเดาะลิ้นและเพิ่มความเร็ว ตอนนี้เขานำหน้ารูนันซึ่งเคยวิ่งอยู่ข้างๆเขาไปไกลแล้ว ส่วนราอนไม่ต้องพูดถึง เขาแซงขึ้นมาหลายรอบแล้ว
ผ่านไปสักพักความเร็วของรูนันและราอนก็ยังไม่เปลี่ยน ราวกับว่าพวกเขาไม่ได้สนใจ
'ฮึ!'
เมื่อตระหนักว่าเขาถูกเมินโดยผู้ที่ด้อยกว่าเขา ความโกรธก็คุกกรุ่นอยู่ในตัวเขา
'คอยดูจนกว่าพวกแกจะเลิกแกล้งทำละกัน'
* * *
* * *
“ฮู่ว!”
ราอนถอนหายใจออกอย่างแรง
'พลังไหลเข้ามาเรื่อยๆ'
เรี่ยวแรงของเขาหมดไปคล้ายกับบ่อน้ำที่เหือดแห้ง
หัวของเขาหมุนอย่างหนักจนรู้สึกเหมือนจะเป็นลม แต่เขายังทนต่อมันได้ ต้องขอบคุณพลังที่ 'วงแหวนแห่งไฟ' สามดาวมอบให้เขา
'เทียบกับเมื่อก่อนที่นี่ก็คือสวรรค์'
ในชีวิตที่แล้วตอนที่เขายังเด็ก เขาถูกหมาป่าไล่ตาม เขาวิ่งลงจากภูเขาพร้อมกับกุมหัวใจที่รู้สึกเหมือนจะระเบิด
หมาป่าจับเขาไว้ได้ในที่สุด เขาสู้เอาตัวรอดจนเกือบจะมีชีวิตกลับมาไม่ได้ เมื่อเทียบกับชีวิตที่เลวร้ายนั้น สิ่งที่เขากำลังทำอยู่ตอนนี้คือการเล่นของเด็กๆ
“แฮ่ก…”
ราอนหอบหนักแต่ยังมองตรงไปข้างหน้า เด็กสายรองและเด็กที่ถูกแนะนำมายังคงวิ่งด้วยความเร็วเต็มที่ พวกเขามีความสามารถพิเศษ แต่อย่างไรก็ตามรูนันและเบอร์เรนนั้นแตกต่างจากพวกเขา สองคนนั้นวิ่งด้วยความเร็วคงที่อย่างต่อเนื่อง
พวกเขาไม่ได้ถูกเรียกว่าอัจฉริยะโดยไม่มีมูล เบอร์เรนเร่งความเร็วขึ้น เขาวิ่งผ่านรูนันและกลายเป็นคนนำ
“เห๊ะ?”
“ทะ...ท่านเบอร์เรน...?”
“วิ่งต่อ! ระวังโดนทิ้งไว้ข้างหลัง!”
เขาพูดกึ่งบังคับให้คนอื่นๆเพิ่มความเร็วตามเขา
“ฮึ่ม!”
เบอร์เรนมองไปที่รูนันและราอนราวกับบอกให้พวกเขาตามให้ทัน
'เจ้าทำอะไรอยู่? ถูกยั่วยุแต่กลับไม่ทำอะไรเลย? '
ราธกัดฟันแน่นจ้องไปที่เบอร์เรน แต่ราอนไม่ตอบกลับ
'ฉันบอกแกแล้วว่านี่ไม่ใช่การแข่งขัน'
การวิ่งเป็นการทดสอบเพื่อให้เห็นว่าทุกคนมีความแข็งแรงและความมุ่งมั่นมากแค่ไหน นี่ไม่ใช่การแข่งขัน และก็มีอีกหนึ่งคนที่รู้ความจริงนั้น
'รูนัน ซัลเลียน'
เด็กสาวผมสีเงินที่วิ่งมาเป็นอันดับสองยังคงก้าวต่อไปอย่างสม่ำเสมอ เหมือนว่าเธอไม่ได้สนใจในตัวเบอร์เรนเลยสักนิดเดียว
'เธอนำหน้าเขาอยู่หนึ่งก้าวจริงๆ'
เคยคิดว่าพวกเขาคล้ายๆ กัน แต่ดูเหมือนว่ารูนันจะมีจิตใจที่เหนือกว่าเบอร์เรนไม่น้อย
เบอร์เรนแสร้งทำเป็นเป็นผู้ใหญ่ แต่เขาทำตัวตามวัยของเขา ถ้าเขาเข้าสู่สนามรบเขาคงจะตายอย่างรวดเร็ว
'แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ฉันควรสนใจ'
ราอนวิ่งต่อไปในโรงฝึก เขาวิ่งตามหลังของรูนันแทนที่จะวิ่งตามเบอร์เรน
“รา… ราอน?”
“ได้ยังไง…?”
“เขา… เขายังวิ่งอยู่เหรอ?”
สายรองที่หมดแรงจนวิ่งไล่ตามเบอร์เรนไม่ทัน พวกเขาเป็นคนที่เยาะเย้ยเขาก่อนที่การทดสอบจะเริ่มขึ้น
“แฮ่ก แฮ่ก! ขะ… เขาทำยังไง”
“แฮ่กๆ ไม่มีทาง…”
ราอนวิ่งผ่านพวกเขา พวกเขาที่หอบอยู่ก็ชะลอฝีเท้าลงและนั่งลงกับพื้นทันที
ราอนวิ่งต่อไปโดยใช้สายตาพวกนั้นเป็นแรงผลักดัน
'น่าสมเพช'
พวกคนปากมากจะอยู่ที่ไหนก็น่ารำคาญ เขาไม่ได้สนใจพวกมันตั้งแต่แรก เขาลืมพวกมันไปและวิ่งต่อ
“ฮึ่ม…”
ราอนหมุน 'วงแหวนแห่งไฟ' ด้วยการหายใจช้าๆ
'วงแหวนกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว'
แม้ว่าเขาจะไม่ได้วิ่งเป็นเวลานาน แต่การฝึกฝน'วงแหวนแห่งไฟ' ก็ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ท้ายที่สุดแล้ว 'วงแหวนแห่งไฟ' ก็ยังเป็นเทคนิคการปลูกฝังที่มีคุณค่าที่แท้จริง
'มันยังคงเป็นเรื่องยากมากอยู่ดี'
วงแหวนแห่งไฟที่หมุนไม่ได้ทำให้ความเจ็บปวดหายไป เขารู้สึกเหมือนหัวใจและปอดถูกบดขยี้ สีข้างของเขาก็เจ็บราวกับถูกแทง
'ช่างน่าสมเพช'
ราธแลบลิ้นออกมาขณะที่เขาวิ่งเต็มที่
'ข้าไม่สามารถยอมรับความพ่ายแพ้จากเจ้าได้ ร่างกายของเจ้าจะกลายเป็นของข้า มอบร่างกายของเจ้าให้ข้าเดี๋ยวนี้ ข้าจะตามจับและแช่แข็งไอ้เด็กเหลือขอผมสีน้ำเงินนั่นให้สิ้นซากทันที'
'หุบปาก'
มันไม่ใช่การทดสอบเพื่อให้ตามกันให้ทัน มันเป็นการต่อสู้กับตัวเอง
ข้าไม่สามารถยอมรับความพ่ายแพ้ได้ตราบเท่าที่ข้ายังลืมตาอยู่
'งั้นก็หลับตาสิ เป็นปาฏิหาริย์แล้วที่ฉันยังวิ่งได้แบบนี้'
เขาไม่ได้โกหก
แม้ว่าเขาจะมีระบบของราธ แต่เขาก็ไม่สามารถกำจัดความเย็นภายในวงจรมานาของเขาได้ 'วงแหวนแห่งไฟ'เป็นปาฏิหาริย์ที่ทำให้เขาวิ่งต่อไปได้
'เช่นนั้นมอบร่างกายของเจ้าให้ข้า'
ราธได้เปลี่ยนเป็นเปลวไฟสีน้ำเงินที่เขาเคยเห็นเมื่อวันก่อน
'ไม่ใช่ตอนนี้...'
ราอนกัดริมฝีปาก แรงกระตุ้นของราธทำให้รู้สึกเจ็บปวดมากกว่าวันก่อนเป็นสองเท่าเพราะเขาเหนื่อยมาก
'มันไม่ได้ผลหรอกน่า กลับไปนอนได้แล้ว'
เขาใช้'วงแหวนแห่งไฟ' อย่างเต็มกำลัง เขาขยับขาไปเรื่อยๆ โดยแกล้งทำเป็นว่าไม่ได้รับผลกระทบ
'เหอะ ทำไมพลังของราชาจึงใช้กับเจ้าไม่ได้กัน?!'
ราธกปลุกอารมณ์โกรธอย่างไม่หยุดหย่อน
“ฮึก…”
ราอนทนต่อการโจมตีทางจิตของราธด้วยความอดทนที่ใกล้หมด
'ฉันกำลังจะตาย...'
เหงื่อเย็นไหลลงหลังของเขา เขารู้สึกเหมือนจะเป็นลม
ต้องขอบคุณความสมดุลระหว่าง 'วงแหวนแห่งไฟ' และประสบการณ์ในชีวิตที่แล้วของเขา—สถานการณ์ความเป็นความตายนับไม่ถ้วน—เขาจะยืนอยู่ไม่ไหวแล้ว
'ไอ้เด็กโง่!'
'พอได้แล้ว!'
“หา!”
ในขณะที่ราอนกำลังผลักพลังของราธออกไป ริมเมอร์ซึ่งนอนอยู่บนแท่นก็ลุกขึ้นทันที
“ทุกคน หยุด!”
เด็กๆในโรงฝึกที่กำลังวิ่งหยุดลงเมื่อได้ยินประโยคยืนยันของเขา
“แฮ่ก! แฮ่ก!”
“ฮ้า!”
“อ้าก!”
แทบจะลืมตากันไม่ขึ้น เด็กนั่งบนพื้นหรือจับเข่าหอบ
“แฮ่ก…”
ราอนเหมือนจะขาดใจตาย เขาหอบอย่างหนัก
'เป็นสัตว์ประหลาดรึไง'
ราธกัดฟันแน่นและเดินกลับไปหาสร้อยข้อมือ
'บอกแล้ว เจ้าทำไม่ได้หรอก'
เขาปาดเหงื่อเย็นที่หน้าผาก การทดสอบนั้นยาก แต่การต้านทานการโจมตีของราธนั้นยิ่งกว่า หากเขายังคงวิ่งต่อไป เขาอาจตายได้จริงๆ
'ชีวิตนี้ก็ไม่ได้สบายเหมือนกันสินะ...หืม?'
ข้อความใหม่ปรากฏขึ้นในขณะที่เขากำลังดื่มน้ำ
ติ๊ง!
มีการใช้พลังกายเกินกำลังอย่างสุดขีด
ค่าความสามารถเพิ่มขึ้น