ตอนที่ 457 กวาดล้างอย่างโหดเหี้ยม
ตอนที่ 457 กวาดล้างอย่างโหดเหี้ยม
ดินแดนกฎยังคงเป็นสถานที่อันห่างไกลเกินไปสำหรับเซี่ยเฟยในปัจจุบัน และถึงแม้ว่าเขาจะพอจำสัมผัสในระหว่างที่เขาสั่งหารอูดี้ได้อย่างเลือนลาง แต่เศษเสี้ยวความทรงจำเพียงแค่นั้นยังไม่มากพอที่จะทำให้เขาเรียกใช้กฎแห่งความโกลาหลขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งได้
เซี่ยเฟยพยายามมองหากระดานแลกเปลี่ยนคะแนน เพราะหลังจากที่เขาได้ต่อสู้อย่างยากลำบากมาตลอดทั้งทาง มันก็ถึงเวลาที่เขาจะเก็บเกี่ยวของรางวัลกลับไปเสียที
“ผมได้ยินมาว่าผมสามารถนำคะแนนที่ได้มาระหว่างทางมาแลกเปลี่ยนของรางวัลที่วิหารได้ใช่ไหม?” เซี่ยเฟยยกมือขึ้นถามอย่างไม่แน่ใจ
“ของรางวัลในวิหารเป็นสิ่งที่เทพเจ้าขาวกับเทพเจ้าดำทิ้งเอาไว้ให้กับเผ่าพันธุ์เซิร์ก ดังนั้นถ้าหากว่านายไม่สามารถพิสูจน์ตัวเองว่าเป็นเซิร์กได้ ก็อย่าหวังที่จะเอาคะแนนพวกนั้นมาแลกของรางวัลกลับไป” ไวท์ตี้พูดโพล่งออกมา
เหตุการณ์นี้ทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกลำบากใจมาก เพราะว่าเขาไม่มีทางที่จะพิสูจน์ตัวเองได้ว่าเขาคือเผ่าพันธุ์เซิร์ก และถึงแม้ว่าเขาจะสามารถเปลี่ยนแปลงเผ่าพันธุ์ได้จริง ๆ แต่เขาก็ไม่อยากจะเปลี่ยนร่างกายของตัวเองให้กลายเป็นแมลงอยู่ดี
แบล็คกี้ชะงักค้างอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะกางปีกและลากไวท์ตี้ออกไปจากเซี่ยเฟย
“มนุษย์คนนี้คือผู้ที่เจ้านายยอมรับ เราจะไปปฏิเสธการแลกของรางวัลแบบนั้นได้ยังไง อีกอย่างเจ้านายไม่เคยบอกว่าพวกเขาห้ามไม่ให้เรามอบของรางวัลให้กับเผ่าพันธุ์อื่น ดังนั้นเรื่องนี้เป็นความผิดของเผ่าพันธุ์เซิร์กเองที่ยอมปล่อยให้มนุษย์เข้ามาในดินแดนที่เจ้านายได้ทิ้งเอาไว้ให้กับพวกเขาแบบนี้” แบล็คกี้กล่าว
“แม้ว่าเจ้านายจะไม่เคยบอกว่าไม่ให้พวกเรามอบของรางวัลให้กับเผ่าพันธุ์อื่น แต่เจ้านายก็ไม่ได้บอกอนุญาตให้เรามอบของรางวัลให้กับเผ่าพันธุ์อื่นด้วยเหมือนกัน อีกอย่างพื้นที่มิตินี้ถูกสร้างร่วมกันระหว่างเจ้านายของนายและเจ้านายของฉัน ดังนั้นนายไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจเรื่องนี้เพียงคนเดียว” ไวท์ตี้กล่าวแย้ง
“ไม่ว่าเธอจะพูดยังไงฉันก็จะให้เขาแลกของรางวัลอยู่ดี” แบล็คกี้รู้ว่าเขาไม่มีทางเถียงชนะไวท์ตี้อยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงพูดตัดบทไปดื้อ ๆ
เมื่อสถานการณ์ดำเนินมาจนถึงทางตัน ในที่สุดไวท์ตี้ก็มีความคิดดี ๆ ผุดขึ้นมา
“เอาแบบนี้! ถ้าหากว่าในเวลาที่เหลือเขาสามารถทำคะแนนได้ถึง 1,000 ล้านแต้ม ฉันจะยอมให้เขาแลกของรางวัลกลับไปก็ได้”
“1,000 ล้านแต้ม! ตั้งแต่ที่มิตินี้ถูกสร้างขึ้นมายังไม่เคยมีเซิร์กรุ่นไหนทำคะแนนได้ถึง 1,000 ล้านแต้มด้วยซ้ำ แล้วนี่เขายังเหลือกำลังอยู่เพียงแค่คนเดียว การตัดสินใจแบบนี้มันเป็นการพยายามรังแกเขาชัด ๆ” แบล็คกี้กล่าวพร้อมกับกรอกตาอย่างไม่พอใจ
“ถ้าตกลงกันไม่ได้ก็ไม่ต้องให้เขาแลกของรางวัล ถึงยังไงเรื่องนี้มันก็ไม่เกี่ยวกับเผ่าพันธุ์เซิร์กอยู่แล้ว ดังนั้นถึงแม้เจ้านายจะรู้แต่ฉันก็ไม่มีทางถูกเจ้านายตำหนิอยู่ดี” ไวท์ตี้พูดตัดบทเช่นเดียวกัน
แม้ว่าหลังจากนั้นแบล็คกี้จะพยายามโน้มน้าวไวท์ตี้เป็นเวลานาน แต่เขาก็ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนใจเธอได้ เขาจึงทำได้เพียงแต่ถอนหายใจและยอมรับออกมาตรง ๆ ว่า
“ถ้าหากว่าเขาทำคะแนนได้ถึง 1,000 ล้านแต้มจริง ๆ และแลกของสิ่งนั้นไป ตอนนั้นอย่ามาหาว่าฉันไม่เตือนก็แล้วกัน”
เทพเจ้าดำคือเจ้านายของแบล็คกี้และเซี่ยเฟยก็คือผู้ที่ถูกเทพเจ้าดำยอมรับให้เรียนรู้กฎแห่งความโกลาหล แบล็คกี้จึงไม่พอใจที่ไวท์ตี้ทำให้ผู้สืบทอดของเจ้านายของมันตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก แต่อีกใจหนึ่งเขาก็อยากทดสอบพลังของผู้ที่ได้เรียนรู้กฎแห่งความโกลาหลด้วยเช่นกัน
“ตกลง แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่างเราสองคน อย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกมนุษย์คนนั้นล่ะ” ไวท์ตี้กล่าวอย่างเจ้าเล่ห์
หลังจากนั้นนกทั้งสองตัวก็บินกลับไปหาเซี่ยเฟยพร้อมกับกล่าวอธิบายขึ้นมาว่า
“บริเวณด้านนอกวิหารจะมีสัตว์ประหลาดหินถูกสร้างขึ้นมาโดยอัตโนมัติเป็นจำนวนมาก เมื่อคุณฆ่าสัตว์ประหลาดพวกนั้นคุณก็จะได้รับคะแนนกลับมาตอบแทน ตอนนี้ยังมีเวลาอีกประมาณ 10 วันครึ่งก่อนที่มิติแห่งนี้จะถูกปิดตัวลงอีกครั้ง ฉันขอแนะนำให้คุณใช้ช่วงเวลานี้สะสมคะแนนเพิ่มดีกว่า แล้วมันก็ยังไม่สายเกินไปหากคุณจะกลับมาแลกของรางวัลหลังจากสะสมคะแนนได้อย่างพอใจแล้ว” แบล็คกี้กล่าว
เซี่ยเฟยก็มีความคิดที่จะเก็บคะแนนเพิ่มเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงตอบตกลงกลับไปอย่างง่ายดาย
“นายจะใจดีเกินไปแล้ว ต่อให้เขาจะเป็นผู้สืบทอดกฎแห่งความโกลาหลแต่เราก็ไม่ควรผ่อนปรนเพียงแค่เพราะว่าเขาคือผู้สืบทอด อย่างที่เราได้ตกลงกันไว้ว่าถ้าหากเขาสะสมคะแนนได้ไม่ถึง 1,000 ล้านแต้ม ก็อย่าหวังว่าเขาจะแลกของรางวัลอะไรกลับไปได้” ไวท์ตี้พูดขึ้นมาอย่างดูถูกเหยียดหยามหลังจากที่เซี่ยเฟยได้เดินออกไปจากวิหารแล้ว
“นายท่านไม่เคยคัดเลือกผู้สืบทอดอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า” แบล็คกี้กล่าวอย่างไม่พอใจ
ไวท์ตี้ไม่ได้ให้ความสนใจความกระวนกระวายของแบล็คกี้เลย เธอจึงหันหลังเดินกลับไปภายในวิหารอย่างเย็นชา
“บททดสอบเพิ่งจะเริ่ม แล้วเธอจะไปไหน?”
“ฉันจะไปนอน หลังจากที่ฉันตื่นขึ้นมาฉันคงจะได้เห็นสีหน้าสลดใจของเขา แค่ฉันลองคิดเล่น ๆ มันก็รู้สึกตลกมากแล้ว อย่าลืมนะว่าแม้แต่กองทัพเซิร์กก็จัดการกับสัตว์ประหลาดพวกนั้นลงไม่ได้ง่าย ๆ แล้วเขาเพียงคนเดียวจะฆ่าพวกสัตว์ประหลาดได้สักกี่ตัว” ไวท์ตี้กล่าวอย่างเย็นชา
แบล็คกี้พูดไม่ออกไปชั่วขณะและในบางครั้งเขาก็อยากจะฉีกปากของไวท์ตี้ออกจริง ๆ
“ในเมื่อนายกล้าเดิมพันเพื่อมนุษย์คนนั้นก็อย่าหาว่าฉันเป็นพวกใจร้ายก็แล้วกัน” ไวท์ตี้กล่าวเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่มันจะเดินกลับเข้าไปในวิหารเพื่อพักผ่อน
—
พื้นที่บริเวณโดยรอบของวิหารเต็มไปด้วยกรวดหินและเนินดินเล็กน้อย แต่เนินดินพวกนี้ก็ไม่ได้มีความสูงมากคล้ายกับว่ามันเป็นเพียงแค่เนินเขาขนาดย่อม ๆ
“ไหนมาลองดูซิว่ามันมีสัตว์ประหลาดอะไรรอพวกเราอยู่?”
ขนอุยดูกระตือรือร้นกับการต่อสู้ที่กำลังจะเกิดขึ้นหลังจากนี้มาก เพราะถ้าหากเซี่ยเฟยได้รับคะแนนไปแลกเปลี่ยนของรางวัลดี ๆ มันก็หมายความว่าชายหนุ่มคนนี้จะอารมณ์ดีและมันก็จะได้รับหัวใจจักรวาล 2-3 ก้อนเป็นของตอบแทนด้วยเช่นกัน
เมื่อนึกถึงพลังงานสีม่วงอันแสนอร่อย ขนอุยก็ไม่สามารถที่จะระงับหยดน้ำลายที่ไหลออกมาจากปากของมันได้
ฟุบ!
ร่างของเซี่ยเฟยหายไปในชั่วพริบตาก่อนที่เขาจะได้ไปปรากฏตัวบนเนินเขาที่อยู่ใกล้ที่สุด ซึ่งมันก็ทำให้เขามองเห็นวิวทิวทัศน์ในระยะไกล
ภาพที่เขาเห็นคือหินสีขาวขนาดใหญ่ถูกตั้งตระหง่านอยู่บนพื้นราบ โดยหินแต่ละก้อนมีความสูงหลายร้อยเมตรตั้งเรียงกันเป็นวงกลมที่มีรัศมีมากกว่า 5 กิโลเมตร และภายในแนวหินขนาดใหญ่นั้นก็เต็มไปด้วยโกเลมหินเป็นจำนวนมาก
“นั่นมันตัวอะไร?” อันธถามอย่างสงสัย
“ฉันไม่สนหรอกว่าพวกมันคือตัวอะไร ฉันรู้แค่ว่าพวกมันคือคะแนน” เซี่ยเฟยกล่าว
อันธหัวเราะออกมาเสียงดัง เพราะท้ายที่สุดเซี่ยเฟยก็พูดถูกว่ามันไม่สำคัญว่าสัตว์ประหลาดพวกนั้นคือตัวอะไร สิ่งสำคัญคือพวกมันสามารถให้คะแนนมาแลกเปลี่ยนเป็นสมบัติได้ ซึ่งเรื่องนี้มีความสำคัญมากยิ่งกว่า
—
ในบางครั้งมันก็มีโกเลมถูกสร้างขึ้นมาใหม่จากในอากาศ แต่ยิ่งเซี่ยเฟยได้สังหารพวกมันไปมากเท่าไหร่พวกโกเลมก็ยิ่งถือกำเนิดขึ้นมามากขึ้นเท่านั้น และไม่ว่าชายหนุ่มจะพยายามล่าสังหารพวกมันมากแค่ไหน แต่มันก็ไม่มีท่าทีที่จำนวนของโกเลมจะลดลงจากเดิมเลยแม้แต่นิดเดียว
โกเลมหินเป็นสัตว์ประหลาดที่มีร่างกายแข็งแกร่งดุจหินผา และเซี่ยเฟยจำเป็นจะต้องใช้ความพยายามอย่างหนักในการจัดการกับมันสักตัว ขณะเดียวกันแม้ว่าขนอุยจะสามารถสังหารพวกโกเลมด้วยลูกบอลพลังงาน แต่การจู่โจมแต่ละครั้งก็จำเป็นจะต้องใช้พลังงานสะสมในร่างของมันเช่นเดียวกัน
แต่ถึงกระนั้นทั้งเซี่ยเฟยและขนอุยก็ออกล่าโกเลมหินอย่างบ้าคลั่ง และเมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขาเริ่มเหนื่อยพวกเขาก็จะเติมพลังงานด้วยผลน้ำค้างขาวและหัวใจจักรวาลสีม่วง จากนั้นพวกเขาก็จะกลับไปจู่โจมอย่างดุเดือดอีกครั้งโดยไม่สนใจแม้กระทั่งเวลาพักผ่อน
ขณะนี้เป็นเวลา 2 วันเต็ม ๆ แล้วที่เซี่ยเฟยได้จัดการกับโกเลมหินไปเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน เมื่อไหร่ก็ตามที่ขนอุยรู้สึกหิวมันจะทิ้งตัวนอนลงข้าง ๆ และดูดซับพลังงานจากหัวใจจักรวาลสีม่วง แต่เซี่ยเฟยยังคงต่อสู้ต่อไปแม้แต่ในเวลาที่เขากินผลน้ำค้างขาวเข้าไปในปากก็ตาม
แต่ในระหว่างการต่อสู้เขามักจะรู้สึกแน่นหน้าอก แต่เขาก็ยังคงกัดฟันและอดทนรับความเจ็บปวดนั้นเอาไว้
“เวลาผ่านไป 2 วันแล้วแต่เขาเพิ่งทำคะแนนได้ 40 กว่าล้านแต้มเท่านั้น ดูเหมือนว่าไวท์ตี้จะเดาถูกอีกครั้ง มันไม่มีทางที่พวกเขาจะทำคะแนนทันเวลาได้เลย แบบนี้ฉันควรจะทำยังไงดีนะ?” แบล็คกี้กล่าวพร้อมกับถอนหายใจขณะที่เขาคอยสังเกตเซี่ยเฟยกับขนอุยจากระยะไกล
แต่ก่อนที่แบล็คกี้จะทันได้พูดจบ จู่ ๆ เซี่ยเฟยก็กระโดดออกมาจากเนินหินและหลับตาลงบนพื้นหญ้าราวกับว่าเขากำลังพยายามพักผ่อน
“ร่างกายของเขาคงมาถึงขีดจำกัดแล้วสินะ หลังจากที่เขาได้ต่อสู้ต่อเนื่องกันเป็นเวลา 2 วัน 2 คืน” แบล็คกี้พึมพำขึ้นมาอย่างผิดหวัง
อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไปมันกลับได้มีกลิ่นอายอันทรงพลังถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างของเซี่ยเฟย และเมื่อชายหนุ่มคนนี้ได้ลืมตาขึ้นอีกครั้งเขากลับดูมีพลังมากกว่าเดิม
“ยินดีด้วยนายฝึกพลังจิตถึงระดับสตาร์ริเวอร์แล้ว หลังจากนี้นายก็จะสามารถใช้วิชาลับเฟียร์ลิสออกมาได้อย่างสมบูรณ์ และสามารถใช้วิชาลับอิลลูชั่นวินด์ขั้นที่ 5 ในระหว่างช่วงเวลาวิกฤติได้เช่นกัน” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างมีความสุข
ที่แท้เซี่ยเฟยก็สัมผัสได้ตั้งแต่แรกว่าอาการแน่นหน้าอกเกิดขึ้นมาจากพลังจิตที่พร้อมจะพัฒนาไปยังขั้นต่อไป แล้วยิ่งเขาได้ใช้พลังจิตจัดการศัตรูมากเท่าไหร่พลังจิตของเขาก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นมากเท่านั้น และการต่อสู้อย่างต่อเนื่องในครั้งนี้มันก็ทำให้พลังจิตของเขาก้าวกระโดดข้ามไปยังอีกระดับโดยตรง
“สัตว์ประหลาดพวกนี้มีร่างกายที่แข็งแกร่งมากเกินไป แม้ว่าฉันจะฆ่าพวกมันลงได้แต่แค่นี้มันยังเร็วไม่พอ หวังว่าถ้าหากฉันใช้วิชาเฟียร์ลิสออกมาติดต่อกันมันก็คงจะทำให้ฉันสังหารพวกมันได้เร็วขึ้นนะ” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับลุกยืนขึ้นเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้
“2 วันนี้นายได้มา 46,000,008 แล้วนะ แค่นี้มันยังไม่พออีกรึไง?” อันธกล่าวพร้อมกับเบะริมฝีปาก
“ฉันอุตส่าห์มีโอกาสเข้ามาในมิติของเทพเจ้าทั้งที อย่างน้อยฉันก็ควรเก็บเกี่ยวของรางวัลกลับไปให้ได้มากที่สุด” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับหัวเราะออกมาเสียงดัง หลังจากนั้นเซเลสเชียลมูนก็เริ่มถูกปลดปล่อยออกไปด้วยพลังของเฟียร์ลิสเพื่อทำลายพวกโกเลมหินลงอย่างรวดเร็ว
แม้ว่าเฟียร์ลิสจะเป็นวิชาที่ไม่เร็วมากนัก แต่พลังทำลายของมันจัดอยู่ในระดับที่สูงมาก
ตูม!
โกเลมหินตามแนวการโจมตีถูกทำลายลงไปโดยตรง แล้วด้วยการกระแทกอันทรงพลังจากเซเลสเชียลมูนมันจึงก่อให้เกิดสะเก็ดไฟปลิวทั่วไปหมด
สิ่งที่น่ากลัวกว่านั้นคือโกเลมพวกนี้ไม่สามารถหยุดเซเลสเชียลมูนเอาไว้ได้ การโจมตีด้วยเฟียร์ลิสเพียงแค่ครั้งเดียวจึงสามารถสังหารโกเลมหินได้หลายร้อยตัวติดต่อกัน
โกเลมหินแต่ละตัวมีมูลค่า 10,000 คะแนน ดังนั้นการจู่โจมในครั้งนี้จึงทำให้เซี่ยเฟยได้รับคะแนนกลับมานับ 1 ล้านคะแนน ซึ่งมันเป็นการเก็บคะแนนที่รวดเร็วกว่าเดิมหลายสิบเท่า
เมื่อได้เห็นคะแนนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มันก็ทำให้เซี่ยเฟยเผยรอยยิ้มออกมาอย่างเบิกบาน จากนั้นเขาก็เริ่มจู่โจมอย่างบ้าคลั่งอีกครั้งจนทำให้คะแนนบนหน้าจอถูกเพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดนิ่ง
—
ตลอด 4 วันที่ผ่านมาพื้นที่บริเวณนี้มีเพียงแต่โกเลมหินถือกำเนิดขึ้นมาเท่านั้น แต่เมื่อเซี่ยเฟยได้เร่งอัตราการสังหารขึ้นมันก็เริ่มมีโกเลมตัวน้อย ๆ ที่มีความสูงประมาณ 1 เมตรปรากฎตัวออกมาโดยดวงตาของพวกมันกำลังลุกไหม้ด้วยเปลวไฟสีเหลือง
โชคดีที่เซี่ยเฟยมีพลังพิเศษสายความเร็วและมีวิชาเล่ห์กายาเป็นชุดเกราะที่เอาไว้ป้องกันร่างกายของตัวเอง ดังนั้นแม้ว่ามันจะมีสัตว์ประหลาดตัวใหม่ปรากฏขึ้นมาให้เห็น แต่มันก็ไม่สามารถชะลอความเร็วในการสังหารของพวกเขาได้
ทุกครั้งที่เซี่ยเฟยสังหารสัตว์ประหลาดตัวใหม่นี้เขาจะได้รับคะแนนเพิ่มขึ้นถึง 100,000 คะแนน ซึ่งมากกว่าโกเลมหินสีน้ำเงินก่อนหน้านี้ถึง 10 เท่า
เมื่อวันที่ 5 ได้ผ่านพ้นไปในที่สุดคะแนนของเซี่ยเฟยก็ทะลุ 1,000 ล้านแต้ม!
แต่ถึงกระนั้นความเร็วในการเก็บเกี่ยวคะแนนของชายหนุ่มก็ไม่ได้ลดลงจากเดิมเลย เพราะใครจะไปรู้ว่าของรางวัลชิ้นสุดท้ายจำเป็นจะต้องใช้คะแนนมากเท่าไหร่ในการแลก
ในความเป็นจริงไวท์ตี้ก็ไม่ได้ประเมินความแข็งแกร่งของเซี่ยเฟยผิด เพราะย้อนกลับไปเพียงแค่ไม่กี่วันก่อนเขาย่อมไม่สามารถสะสมคะแนนได้ถึง 1,000 ล้านแต้มในเวลา 10 วันได้อย่างแน่นอน แต่ในระหว่างการต่อสู้เขากลับสามารถพัฒนาระดับพลังจิตของตัวเองขึ้นมา แล้วมันก็ทำให้การเก็บเกี่ยวคะแนนกลายเป็นเรื่องที่ง่ายดายมากขึ้นกว่าเดิม
ในวันที่ 6 นอกเหนือจากโกเลมหินสีน้ำเงินและสีเหลืองแล้ว มันก็ยังมีโกเลมหินสีแดงปรากฏตัวขึ้นอีกด้วย โดยสัตว์ประหลาดตัวนี้มีความสูงมากกว่า 30 เมตร แต่น่าเสียดายที่เมื่อมันได้ถูกจู่โจมจากเฟียร์ลิสของเซี่ยเฟยเข้าไปร่างกายของมันก็แตกสลายลงอย่างง่ายดายอยู่ดี
การสังหารโกเลมหินสีแดง 1 ตัวสามารถที่จะทำคะแนนให้เขาได้ถึง 1 ล้านแต้ม แล้วมันก็ทำให้คะแนนของเซี่ยเฟยพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง
ครั้งนี้แบล็คกี้ที่เฝ้ามองดูสถานการณ์จากระยะไกลก็ไม่ได้รู้สึกกังวลเรื่องที่เซี่ยเฟยจะสามารถเก็บสะสมคะแนนได้ครบ 1,000 ล้านแต้มหรือไม่ แต่เขากำลังกลัวว่าเซี่ยเฟยจะทำลายถ่านหินที่นายท่านได้ทิ้งเอาไว้ทั้งหมดแทน
***************