ตอนที่แล้วนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 117 - พิษ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 119 - เข้าควบคุม

นักรบพันธุ์ผสม บทที 118 - วิวัฒน์ย้อนกลับ


เสียงครวญครางแหบแห้งอย่างเจ็บปวดดังลอดออกมาจากปากของผีดูดเลือดเบา ๆ ก่อนที่ร่างที่กระตุกไปมาจะเริ่มสงบลง มันนอนนิ่งอยู่กับพื้นอย่างที่ควรจะเป็นอีกครั้ง

แต่เดวิดยังคงไม่วางใจนัก เขาเตะเข้าไปอย่างแรงอีก 5 ครั้งติด เมื่อแน่ใจแล้วว่ามันไม่มีอาการตอบสนองอะไรออกมาอีก เขาก็ค่อย ๆ ระบายลมหายใจออกมาอย่างยืดยาว ดูเหมือนว่าเขาจะสามารถกำจัดชายชราคนนี้ไปได้จริง ๆ แล้ว ก่อนที่จะสลบลงไป เดวิดคิดเอาไว้แล้ว ว่าเหตุการณ์แบบนี้อาจจะเกิดขึ้นได้ นี่คือสาเหตุที่เขานั้นรีบลงมือทันทีที่ฟื้นคืนสติขึ้นมา ไม่ยอมเสียเวลารอให้ตัวเองฟื้นฟูได้มากกว่าเดิมเลย

สไปรเยอร์ทุกคนนั้นมีชิ้นส่วนจีโนมอยู่ในร่างกาย มันถูกปลูกถ่ายเข้าไปเพื่อให้มนุษย์ธรรมดาสามารถฝึกฝนให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้นได้

เรียกได้ง่าย ๆ ว่าเป็นหัวใจดวงที่ 2 ของสไปรเยอร์ หรือผู้ตามหาความแข็งแกร่งทุกคน

แต่ชิ้นส่วนจีโนมนี้ได้รับมาจากการสังหารสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ประเภทต่าง ๆ โดยได้รับการจัดการให้มันเหมาะสมกับการปลูกถ่ายเข้าไปในร่างกายของมนุษย์ สมาคมพันธุกรรมจะเป็นหน่วยงานที่เตรียม ‘อวัยวะใหม่’ นี้ให้พร้อม พวกเขาจะทำให้มัน ‘บริสุทธิ์’ ด้วยกรรมวิธีและเทคนิคที่แตกต่างกันไปตามแต่ประเภทของสิ่งมีชีวิตที่เก็บชิ้นส่วนจีโนมนี้มา แต่มันก็ยังคงมีโอกาสที่ชิ้นส่วนจีโนมจะปนเปื้อนด้วยรหัสพันธุกรรมที่ไม่เป็นที่ต้องการ ไม่มีทางที่จะทำความสะอาดสิ่งที่ฝังลึกพวกนี้ออกไปได้จนหมดสิ้น

เมื่อปลูกถ่ายไปเป็นเวลานาน ชิ้นส่วนจีโนมนั้นจะมีความแข็งแกร่งมากขึ้น ทำให้ยีนซ่อนอยู่นั้น ค่อย ๆ เพิ่มปริมาณ และถูกกระตุ้นให้แสดงออกมามากขึ้นไปด้วย และเมื่อพวกมันมีโอกาส จะรุกล้ำเข้าไปสอดแทรกอยู่ในสายของรหัสพันธุกรรม หรือดีเอ็นเอของร่างกายผู้ถูกปลูกถ่าย และเพิ่มจำนวนจนสามารถแสดงลักษณะของตัวเองออกมาได้ในที่สุด หรือที่เรียกว่าการวิวัฒน์ย้อนกลับ มันจะทำให้สไปเยอร์เสียการควบคุมไปในที่สุด

โอกาสที่ชิ้นส่วนจีโนมของชายชราจะเกิดการวิวัฒน์ย้อนกลับนั้นสูงมาก เพราะเขาทำให้ตัวเองหลับลึกอยู่ในแคปซูลแช่แข็งมาเป็นระยะเวลานานมาก ปริมาณของยีนแอบแฝงในชิ้นส่วนจีโนมน่าจะมีปริมาณเพิ่มขึ้นมหาศาลแล้ว มันคงจะยังไม่มีปัญหาเลยถ้าชายชรายังคงมีชีวิตอยู่ เขาต้องหาวิธีการควบคุมมันได้ในที่สุด

และมันก็ไม่มีปัญหาเลย ถ้าเขาตัดแต่งพันธุกรรมด้วยลักษณะของสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น เพราะเมื่อเขาเสียชีวิตลงไปแล้ว ชิ้นส่วนจีโนมนั้นก็จะตายไปด้วย

แต่! เขาตัดแต่งพันธุกรรมของตัวเองให้กลายเป็นแวมไพร์ แม้ว่าจะไม่ประสบความสำเร็จ จนต้องกลายเป็นแค่ผีดูดเลือดเท่านั้นก็ตาม แต่การที่มีพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตในตำนานอย่างแวมไพร์อยู่ในร่างกาย เขาไม่มีทางตายด้วยพิษอย่างเด็ดขาด แวมไพร์ไม่มีทางตายด้วยพิษอย่างง่าย ๆ ความสามารถในการฟื้นฟูร่างกายของพวกมันนั้นสูงเกินกว่าที่ใครจะจินตนาการได้ ตราบใดที่พวกมันได้รับเลือดอย่างเพียงพอ มันจะสามารถฟื้นคืนชีพกลับมาได้เสมอ

มีแต่การตัดคอ หรือทำลายหัวใจโดยตรงเท่านั้น ถึงจะสามารถสังหารมันลงไปได้อย่างสมบูรณ์

แม้ว่ารหัสพันธุกรรมที่ชายชราดัดแปลงให้กับตัวเอง จะไม่ใช่รหัสพันธุกรรมที่แท้จริงของแวมไพร์ แต่มันก็สามารถทำให้เขากลายเป็นผีดูดเลือดระดับต่ำไปได้แล้ว โอกาสที่เขาจะฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้นั้นสูงมากจริง ๆ และที่น่ากลัวไปยิ่งกว่านั้นก็คือ ไม่มีใครรู้ว่าเขาจะฟื้นคืนชีพกลับมาเป็นอะไร ชายชราคนเดิม หรือแค่ผีดูดเลือดที่เต็มไปด้วยสัญชาตญาณดิบ ที่ถูกชิ้นส่วนจีโนมทำการวิวัฒน์ย้อนกลับไปแล้ว

การที่เขาเสียชีวิตลงไป ไม่นับว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมากนัก ชายชราคนนี้สามารถยกระดับตัวเองขึ้นมาเป็นเฟสเซอร์ได้แล้ว และกำลังอยู่บนเส้นทาง ที่จะก้าวขึ้นไปเป็นจ้าวแห่งสัตว์ร้าย โดยการเลือกเส้นทางของแวมไพร์ในตำนาน แต่ถ้าเขาไม่เสียชีวิตลงไปในวันนี้ เขาก็ไม่อาจจะมีทางกลายเป็นแวมไพร์ตามที่ตัวเองตั้งใจเอาไว้ได้เลย เพราะเขาจะเป็นได้แค่ผีดูดเลือดระดับต่ำเท่านั้น

การที่สไปรเยอร์คนหนึ่งจะพัฒนายกระดับตัวเองขึ้นไปเป็นเฟสเซอร์ จะต้องได้รับการปลูกถ่าย หรือดัดแปลงพันธุกรรมจากสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นเข้าไปในร่างกาย และใช้มันเป็นต้นกำเนิดของความแข็งแกร่งในการที่จะพัฒนาตัวเองต่อไป

ถ้าจะยกตัวอย่างให้เห็นอย่างง่าย ๆ คือเมื่อตอนที่สไปรเยอร์รู้สึกพอใจกับความแข็งแกร่งของตัวเองแล้ว เขาจะสามารถยกระดับตัวเองไปเป็นเฟสเซอร์ได้ ด้วยการเริ่มเลือกว่าจะดัดแปลงพันธุกรรมของตัวเองให้เป็นแบบใด อยากจะผสมความสามารถแบบไหนให้กับตัวเอง

‘เสือชีต้าเกล็ดแดง’ เป็นสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ที่โดดเด่นทางด้านความเร็ว

สำหรับสไปรเยอร์ที่หลงใหลในความเร็ว มันเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง รหัสพันธุกรรม หรือเซรั่มสำหรับดัดแปลงพันธุกรรมของเสือชีต้าเกล็ดแดงนั้นหาได้ง่าย และมีค่าใช้จ่ายที่ไม่แพงเลยด้วย

ในปัจจุบันนี้ แผนที่ทางพันธุกรรมของเสือชีต้าเกล็ดแดงนั่นได้ถูกถอดออกมาอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว มันประกอบไปด้วยดวงตาที่มองเห็นได้อย่างชัดเจนในระยะไกล ความสามารถในการรับรู้ถึงรังสีที่ปนเปื้อนอยู่ในอากาศได้ รูปร่างที่ปราดเปรียว กล้ามเนื้อที่เพรียวบาง แต่หนาแน่นและแข็งแกร่ง รวมถึงอุ้งเท้าที่หนาและใหญ่โตเป็นพิเศษ ทำให้สิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ตัวนี้ทำความเร็วสูงสุดได้เป็นระยะเวลาที่นาน และระยะทางที่ไกลมาก ไม่ต้องกังวลกับอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อเลย อาวุธที่ร้ายแรงที่สุดของมันคือคมเขี้ยว และกรามที่แข็งแรง มันสามารถฉีกทุกสิ่งทุกอย่างเป็นชิ้น ๆ อย่างง่ายดาย

หลังจากที่สไปรเยอร์ดัดแปลงพันธุกรรมของตัวเองให้มีลักษณะเดียวกันกับเสือชีต้าเกล็ดแดงได้สมบูรณ์แบบมากพอแล้ว จะมีโอกาสปลุกทักษะพิเศษที่หลับไหลอยู่ในตัวของสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์นี้ให้ตื่นขึ้นมาได้ด้วย แต่มันก็ขึ้นอยู่กับพรสวรรค์ของสไปรเยอร์ หรือเฟสเซอร์แต่ละคนด้วย ว่าจะสามารถกระตุ้นทักษะพิเศษนี้ขึ้นมาได้หรือไม่ นักเรียนที่มีพรสวรรค์ระดับ 2 ดาว ที่ดัดแปลงพันธุกรรมไป 30 เปอร์เซ็นต์ มีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จในการปลุกทักษะพิเศษนี้ขึ้นมาได้ แม้ว่าบางครั้งมันอาจจะเป็นทักษะพิเศษที่จะดูเหมือนไร้ประโยชน์บ้างก็ตาม

ทักษะพิเศษของเสือชีต้าเกล็ดแดงคือการระเบิดความเร็วสูงเกินขีดจำกัด โดยไม่ก่อนให้เกิดความเสียหายกับกล้ามเนื้อ หรือแม้แต่สร้างภาระให้กับร่างกายเพิ่มเลยแม้แต่นิดเดียว ตามปกติแล้ว ตัวมันเองจะได้รับทักษะพิเศษนี้มาตอนที่ยกระดับตัวเองจากสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์สีดำ ไปเป็นสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์สีน้ำตาล แม้ว่ามันจะเป็นทักษะพิเศษที่ดูเรียบง่าย แต่มันมีประโยชน์ต่อเฟสเซอร์มากเหลือเกิน ผู้ฝึกฝนที่หลงใหลในความเร็ว ต้องการทักษะพิเศษนี้เป็นอย่างมาก และพวกเขาจะต้องมีอัตราการหมุนเวียนของเลือดที่อยู่ในระดับสูง ถึงจะสามารถทำให้กล้ามเนื้อทนทานต่อความเร็วที่เกิดขึ้นได้ ความเร็ว! เป็นความแข็งแกร่งที่ใช้ประโยชน์ในการต่อสู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดอย่างหนึ่งเลยทีเดียว

ความสมบูรณ์ของการดัดแปลงพันธุกรรม หมายถึงจำนวนของยีนที่เฟสเซอร์สามารถเลียนแบบขึ้นมาในร่างกายของตัวเอง ว่ามีจำนวนมากน้อยเท่าไรเมื่อเทียบกับยีนทั้งหมดที่อยู่ในแผนที่ทางพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตที่เป็นเป้าหมาย ยิ่งเลียนแบบได้มาก โอกาสที่จะได้รับทักษะพิเศษก็จะเพิ่มมากขึ้นไปด้วย อย่างน้อย ๆ แล้ว ผู้ที่มีพรสวรรค์ระดับ 3 ดาว จะต้องดัดแปลงพันธุกรรมของตัวเองไม่ต่ำกว่า 25 เปอร์เซ็นต์ จึงจะประสบความสำเร็จ ผู้ที่ดัดแปลงพันธุกรรมได้เพียง 20 เปอร์เซ็นต์ แล้วปลุกทักษะพิเศษให้ตื่นขึ้นได้ เป็นกรณีที่หาได้ยากมากทีเดียว

เดวิดไม่สามารถบอกได้ว่า ชายชราคนนี้ดัดแปลงพันธุกรรมของตัวเองได้สมบูรณ์แบบแค่ไหน แต่โอกาสที่เขาจะปลุกทักษะพิเศษ ‘คืนชีพ’ ‘ฟื้นฟู’ หรือแม้แต่ ‘อมตะ’ ขึ้นมาได้ มันก็ไม่ได้ต่ำมากนักเลย เขาไม่คิดที่จะทดสอบด้วยการปล่อยให้ชายชรามีเวลาฟื้นตัวอย่างแน่นอน เดวิดไม่คิดว่าตัวเองจะสามารถจัดการกับชายคนนี้ลงได้อีกครั้งอย่างง่าย ๆ เลย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด