นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 119 - เข้าควบคุม
แวมไพร์! เป็นสิ่งมีชีวิตที่เชื่อกันว่าไม่มีวันตาย มันแทบจะเรียกได้ว่าเป็นอมตะ เดวิดไม่มีทางยอมเสี่ยงที่จะต่อสู้กับมันอีกครั้งแน่ เขารีบจัดการกับหัวใจของมันตามความรู้ที่ตัวเองมีอย่างรวดเร็ว
เขาไม่แน่ใจเสียด้วยซ้ำว่า ชายชราจะฟื้นคืนกลับมาเป็นอะไร เฟสเซอร์ที่อ่อนแอลงอย่างที่ควรจะเป็น หรือว่าผีดิบดูดเลือดที่สูญเสียการควบคุม ถูกชิ้นส่วนจีโนมวิวัฒน์ย้อนกลับไปเรียบร้อยแล้ว และถ้าเดวิดโชคร้ายไปยิ่งกว่านั้น ผู้ที่ฟื้นคืนกลับมา อาจจะปลุกทักษะพิเศษของแวมไพร์ขึ้นมาด้วยก็ได้
และนั่นจะกลายเป็นฝันร้ายของนักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้อย่างแน่นอน อย่าว่าแต่ตัวของเดวิดเองเลย เขาไม่คิดว่าจะมีนักเรียนคนไหนในที่แห่งนี้ จะมีความสามารถพอที่จะจัดการกับผีดิบดูดเลือดได้ มันจะฆ่าล้างนักเรียนไปได้ทั้งหมดแบบง่าย ๆ เลย ยิ่งฆ่าสังหาร หมายถึงการได้ดูดเลือดเพิ่มเข้าไป ความแข็งแกร่งของมันจะทวีคูณขึ้นตามจำนวนของผู้เสียชีวิต บางทีครูฝึกอาจจะไม่สามารถกำจัดมันได้ด้วยซ้ำ ถ้าพวกเขามาถึงที่นี่สายเกินไป
แม้ว่ามันจะเป็นแค่เพียงการคาดการณ์ของเดวิด และบางทีมันอาจจะเป็นการมองสถานการณ์ในแง่ร้ายมากเกินไป แต่เขาก็ยังเลือกที่จะใช้หลาวไม้แทงทะลุหัวใจของชายชรานี้ไปก่อน ตามตำนานที่เดวิดได้รับรู้มา แวมไพร์แพ้โลหะเงินและไม้เป็นอย่างมาก มันเป็นโชคดี ที่นี่มีโต๊ะทำงานทำจากไม้ตั้งอยู่พอดี
จนถึงตอนนี้ เดวิดทรุดตัวลงกับพื้นอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาวางใจได้เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว มันปลอดภัยมากพอที่จะพักผ่อน รอให้ร่างกายที่ยังเต็มไปด้วยความเจ็บปวดนี้ฟื้นตัวกลับคืนมาจนเหมือนเดิม เดวิดถึงกับทิ้งตัวลงนอนราบไปบนพื้นห้องนั่นเลยด้วยซ้ำ เขาดีใจที่ตัวเองนั้นยังรอดชีวิตอยู่ได้ แม้ว่ามันจะเป็นประสบการณ์ที่ตื่นเต้นและล้ำค่า แต่เดวิดไม่คิดอยากที่จะเจอกับเหตุการณ์อย่างนี้อีกเลย เขากลัวว่าตัวเองจะต้องตายลงไปอีกครั้งจริง ๆ
หลังจากที่นอนพักอยู่กับพื้น สมองของเดวิดก็เริ่มคิดเรื่องราวไปทั่ว เขาพยายามคิดหาวิธีที่จะบรรเทาความเจ็บปวดให้ได้รวดเร็วขึ้นกว่าเดิม นั่นเป็นตอนที่บางอย่างสะกิดใจของเขาขึ้นมา ชายชราคนนี้ต้องเตรียมการอะไรบางอย่างเอาไว้ให้กับตัวเองแน่ คงไม่ได้วางแผนที่จะตื่นขึ้นมาใช้ร่างกายที่อ่อนแอออกไปไล่ดูดเลือดแน่นอน มันต้องมีการเตรียมสิ่งที่จำเป็นสำหรับการฟื้นฟูร่างกายเอาไว้เป็นอย่างดี เดวิดแค่ต้องหามันให้เจอเท่านั้น
เขาฝืนยันตัวเองให้ลุกขึ้นอีกครั้ง ความเจ็บปวดนั้นลดลงบ้างแล้ว แต่มันก็ยังแทบจะทำให้เขาทิ้งตัวกลับลงไปนั่งที่พื้นอีกครั้งอยู่เหมือนกัน เดวิดลากสังขารของตัวเองสำรวจไปทุกพื้นที่อย่างละเอียด แต่มันก็เป็นความพยายามที่สูญเปล่า เขาทนเจ็บโดยไม่ได้อะไรตอบแทนกลับมาเลย
คิ้วของเดวิดขมวดแน่นอย่างหงุดหงิด พยายามคิดว่าของพวกนั้นมันควรจะซ่อนอยู่ที่บริเวณไหน ก่อนที่จะนึกอะไรบางอย่างออก ถ้าแคปซูลแช่แข็งของชายชราถูกซ่อนเอาไว้ในผนังของห้องทำงาน มันก็จะมีห้องลับ หรือของอย่างอื่นอยู่หลังผนังพวกนั้นอีกไม่ใช่หรือ?
เขาเริ่มลูบคลำผนังอย่างถ้วนถี่ ราวกับพวกมันทำมาจากทองคำที่ล้ำค่า หรือว่าเป็นเรือนร่างอันเย้ายวนของหญิงสาวก็ไม่ปาน เขาไม่ยอมพลาดแม้แต่จุดเล็กจุดน้อยเลยด้วยซ้ำ เดวิดเริ่มใช้นิ้วมือเคาะลงไปที่ผนังนั่นทุกตารางนิ้ว
จนในที่สุด ผนังที่อยู่ไม่ห่างจากทางเข้าห้องวางแคปซูลแช่เข็งมากนัก ก็สะท้อนเสียงที่แปลกกว่าบริเวณอื่นออกมา เมื่อสังเกตดูดี ๆ ก็พบกับรอยเส้นขนาดเล็กเป็นกรอบสี่เหลี่ยมปรากฏอยู่ มันน่าจะเป็นตู้เซฟ หรือช่องลับอะไรบ้างอย่าง เดวิดพยายามใช้นิ้วและเล็บแคะลงไปตามสัญชาตญาณ ก่อนจะยกมือขึ้นเคาะหัวตัวเองอย่างแรง ยิ้มออกมาน้อย ๆ ให้กับความโง่เขลาของตัวเอง ก่อนที่จะมองหาเศษผนังโลหะที่หลุดออกมาเป็นชิ้น ๆ มาใช้แทนมือเปล่าของตัวเอง
แม้จะมีเครื่องทุ่นแรงแล้ว แต่ด้วยสภาพร่างกายของเดวิดในตอนนี้ ที่สามารถใช้แรงของตัวเองออกมาได้ไม่ถึงครึ่งหนึ่ง และยังเต็มไปด้วยความเจ็บปวด มันทำให้เขาต้องใช้เวลางัดอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว และถ้าสถานที่แห่งนี้ไม่ได้ผ่านกาลเวลามาอย่างเนิ่นนาน โดยไม่ได้มีการซ่อมบำรุงให้แข็งแรงเหมือนปกติแม้แต่นิดเดียว เขาไม่มีทางทำได้สำเร็จอย่างแน่นอน
ปึง!!
ชิ้นส่วนผนังรูปสี่เหลี่ยมนั้นเผยอออกมาในที่สุด หลังจากเดวิดลงแรงของตัวเองไปเกือบหมด เขารีบใช้เศษผนังในมืองัดมันให้หลุดออกมาทั้งหมดจนได้ เป็นไปตามที่คาดเอาไว้ ด้านในเป็นช่องลับที่มีขนาดพอ ๆ กับตู้เซฟเล็ก ๆ ใบหนึ่ง แต่สิ่งที่ปรากฏอยู่ในนั้นมีเพียงหัวของเครื่องสแกนเก่าแก่เครื่องหนึ่ง ที่ยื่นออกมาจากผนังด้านในเท่านั้น
เดวิดขมวดคิ้วครุ่นคิด เขาพอจะรู้อยู่บ้างว่ามันเป็นเครื่องสแกน แต่มันใช้สำหรับอะไรกันแน่?
หลังจากยืนนิ่งอยู่กับที่สักพัก เดวิดก็ตัดสินใจเดินไปลากศพของชายชรามาที่หน้าช่องลับนี้ ก่อนที่จะนำข้อมือของชายผู้ล่วงลับยื่นเข้าไปให้หัวสแกนนั้นอ่านข้อมูล มันไม่มีอะไรเกิดขึ้น!
ใบหน้าของเดวิดกลายเป็นเหยเกทันที แต่หลังจากนั้น เขาก็ตัดสินใจที่จะแก้ปัญหาด้วยองค์ความรู้จากโลกเดิมก่อน หาเศษผ้ามาถูที่ข้อมือของชายชรานั้นจนมันสะอาดเอี่ยม ก่อนจะนำเข้าไปให้เครื่องสแกนอ่านข้อมูลอีกครั้ง
ไม่น่าเชื่อว่ามันจะได้ผล!!!
มีแสงกระพริบออกมา หน้าต่างโฮโลแกรมหยาบ ๆ ปรากฏขึ้น มันไม่ได้เข้ารหัสพันธุกรรมเอาไว้เสียด้วยซ้ำ เดวิดสามารถเห็นรูปร่างของมันได้อย่างชัดเจน ไม่ได้เป็นแค่กลุ่มแสงเหมือนกับเวลาที่เขามองไปยังหน้าต่างโฮโลแกรมของนักเรียนคนอื่นเลย และมันยังมีเสียงของระบบอัตโนมัติดังถามขึ้นมาด้วย
“สวัสดีตอนบ่าย! ท่านต้องการจะออกจากระบบควบคุมหลักใช่หรือไม่?”
นี่ทำให้เดวิดถอนหายใจยาวออกมาอย่างโล่งอก ดูเหมือนว่าที่นี่จะเก่าแก่มากจริง ๆ ระดับของเทคโนโลยีนั้นยังไม่สูงเท่าที่ควร โดยเฉพาะในด้านการรักษาความปลอดภัย มันไม่มีการเข้ารหัสพันธุกรรม ไม่มีแม้แต่การตรวจสอบความมีชีวิตของผู้เชื่อมต่อ นี่มันทำให้ทุกอย่างง่ายอย่างบอกไม่ถูกเลยทีเดียว
อันที่จริงแล้ว เดวิดมีความกังวลอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว เขากลัวว่าจะมีการวางระบบป้องกันข้อมูลที่ซับซ้อนเอาไว้ อย่างเช่นการทำลายตัวเองเมื่อรับรู้ได้ว่าเจ้าของที่แท้จริงเสียชีวิตไปแล้ว แต่ดูเหมือนว่าเขาจะคิดมากเกินไป มันไม่มีอะไรอย่างนั้นอยู่เลย และเครื่องสแกนที่จุดนี้ ก็มีหน้าที่ควบคุมการเชื่อมต่อกับระบบเท่านั้น
และเมื่อเขายื่นมือไปกดปุ่ม ‘ใช่’ ที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า เสียงอัตโนมัตินั่นก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง
“การเชื่อมต่อถูกยกเลิกแล้ว! หากต้องการทำการเชื่อมต่ออีกครั้ง โปรดนำป้ายประจำตัวของท่านมาทำการอ่านข้อมูล” มันเป็นข้อความที่ทำให้เดวิดยิ้มกว้างออกมา เขายังหวังต่อไปอีกว่า ระบบของที่นี่จะเป็นอิสระ ไม่ได้เชื่อมต่อกับฐานข้อมูลใหญ่ของที่อื่น ขอให้มันเป็นระบบส่วนตัวของชายชราคนนี้ เขามีโอกาสที่จะเชื่อมต่อ และควบคุมมันได้อย่างสมบูรณ์แบบ
เดวิดยื่นข้อมือของตัวเองออกไปอย่างไม่รอช้า
“ทำการเชื่อมต่อกับระบบเรียบร้อยแล้ว! พบกับผู้ควบคุมคนใหม่! ยินดีต้อนรับคุณเดวิด ท่านสามารถตรวจสอบระบบควบคุมหลัก ได้จากหน้าต่างของระบบส่วนตัว ได้โปรดเรียกใช้งานผู้ช่วยเหลือของระบบควบคุมหลัก เมื่อพบกับปัญหาที่ต้องการความช่วยเหลือ! ขอให้เป็นวันที่ดี!” ง่าย ๆ อย่างนั้น หลังจากจบข้อความ หน้าต่างโฮโลแกรมเก่าแก่ก็สลายไปในทันที
“มันเป็นวันที่ดีจริง ๆ นั่นแหละ ไม่ต้องเป็นห่วงเลย นายจะได้พักผ่อนอย่างสบายแน่ ๆ ฉันไม่มีทางรบกวน AI ระดับต่ำแบบนี้หรอก ดูท่าแล้วระดับของมันจะต่ำไปกว่าเครื่องจ่ายอาหารเสียด้วยซ้ำ” เดวิดพึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่เหยียดหยามเล็กน้อย แต่ในใจของเขานั้นยินดีเป็นอย่างมาก ที่ระบบของที่นี่นั้นล้าหลังเป็นอย่างมาก
และถึงแม้ว่าเขาต้องการที่จะรู้เรื่องเกี่ยวกับห้องทดลองแห่งนี้ไม่น้อย แต่อาการเจ็บปวดที่มันเตือนอยู่ทั่วร่างกายของเขา ทำให้ต้องออกคำสั่งที่จำเป็นที่สุดตอนนี้ออกไปก่อน
“เฮเซล ช่วยตรวจสอบห้องทดลองนี้ให้ละเอียดที พยายามค้นหาถังพลังงาน หรืออะไรก็ได้ที่มีประสิทธิภาพอย่างเดียวกัน ของเหลวจีโนม เซรั่มฟื้นฟูร่างกาย อะไรก็ตามที่สามารถช่วยรักษาร่างกายของผมได้”
“รับทราบ! เริ่มทำการตรวจสอบ” เสียงอันไร้อารมณ์ของ AI ดังตอบกลับมา
“การตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้ว...พบถังพลังงาน 5 ถังอยู่ในห้องใต้ดิน ชิ้นส่วนจีโนม 12 ชิ้น เซรั่ม 4 ชนิดจำนวน 15 หลอด และบัญชีที่มีทรัพย์สินอยู่จำนวนสองแสนห้าหมื่นสามพันห้าร้อยสี่คะแนนจีโน!”