นักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 2
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 2
ในทวีปแห่งนี้ มีหกคนที่อาศัยอยู่ในแสงสว่างและอีกห้าคนอาศัยอยู่ในความมืด
พลังทั้งหกที่ผงาดขึ้น ผู้ที่กลายเป็นดั่งดวงอาทิตย์ที่ส่องสว่างของทวีป ถูกเรียกขานว่า ราชาทั้งหก และผู้ที่แฝงตัวอยู่ใต้ดิน ผู้ซึ่งแพร่กระจายความพ่ายแพ้และความกลัว ถูกเรียกว่า ปีศาจทั้งห้า
ผู้นำตระกูลซิกฮาร์ท เป็นหนึ่งในราชาทั้งหก และ เป็นผู้ปกครองทางเหนือ
“อะ อูว”
ราอนสบตาเข้ากับหัวหน้าตระกูลซิกฮาร์ท และอ้าปากกว้าง
'ไม่เลวเลย...'
เทียบกันแล้ว ซิกฮาร์ทก็ไม่แพ้โรเบิร์ทที่เคยเอาเปรียบและฆ่าเขาในชีวิตที่แล้ว
วันแห่งการล้างแค้นของเขาจะดำเนินต่อไปได้แน่ หากเขาได้รับการดูแลโดยตระกูลที่ทรงพลังเช่นนี้
“เขามีผมสีทองและดวงตาสีแดงเหมือนกับเราเลยค่ะ ท่านพ่อ”
ซิลเวียยิ้มอย่างอ่อนโยนและลูบผมของราอน ทว่าตัวฉันกลับรู้สึกอึดอัดมากในสถานการณ์นี้
“……”
เกล็นยังคงแผ่ออร่าความกดดันอันมหาศาลออกมา แม้ว่าเขาจะกำลังอื้มราอนขึ้นมาก็ตาม
'ฮะ?'
ร่างกายของราอนสั่นสะท้าน เป็นเพราะพลังงานอันอบอุ่นและอ่อนโยนผ่านข้อมือของเขาในตอนที่เกล็นอุ้มเขาขึ้น
“โอ้…”
เมื่อรู้สึกถึงออร่า ซึ่งเขาไม่ได้สัมผัสมานาน เขาก็เผลอปล่อยเสียงออกไปอย่างไม่รู้ตัว
'ออร่าแบบนี้มันอะไรกัน...'
ออร่าของเกล็นไม่เพียงแต่อบอุ่นเท่านั้น แต่มันยังมีความบริสุทธิ์ในระดับสูงมาก
'มันทำให้ร่างกายของเราอบอุ่นขึ้น'
หลังจากการกลับชาติมาเกิด ราอนรู้สึกไวต่อความเย็นมาก ตอนแรกเขาคิดว่าเป็นเพียงเพราะสภาพร่างกายของเขาที่ยังคงเป็นเด็กทารก
แต่ทันทีที่เขาได้รับออร่าของเกล็น ร่างกายของเขาก็อุ่นขึ้น ราวกับว่าแสงแดดได้เข้าไปถึงภายในเส้นเลือดของเขา
เกล็นค่อยๆ ใช้ออร่าของเขาตรวจสอบร่างกายของราอนทีละนิด แล้วส่งเขากลับไปหาซิลเวีย
'อะไรน่ะ?'
ราอนหรี่ตาลง ไม่มีทางที่อัศวินอย่างเกล็นจะไม่รู้ว่าร่างกายของเขามีปัญหา แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้แสดงออกมาทางสีหน้า
ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเขาถึงทำสีหน้าแบบนั้น ทั้งๆ ที่รู้ว่าหลานชายของเขามีสภาพร่างกายไม่ปกติ
“ซิลเวีย”
"คะ?"
“ชื่อของเด็กคนนี้คือ ราอน”
“ราอน? ท-ท่านพ่อ ชื่อ ราอน มันมีความหมายว่า…”
ซิลเวียขมวดคิ้วอย่างหนัก
“หมายความตามนั้น เงียบเหมือนเงา มีชีวิตอยู่โดยที่ไม่โดดเด่น”
น้ำเสียงของเกล็นเย็นชาราวกับน้ำแข็ง ไม่เหมือนกับออร่าที่อ่อนโยนของเขาเลย
'ฮะ…'
นี่มันเป็นโชคชะตาบ้าบอหรืออะไรกัน?
ชื่อของเขาเหมือนกับในชาติที่แล้ว และความหมายก็เหมือน ฉันล่ะอยากจะหัวเราะกลบเกลื่อนความไร้เหตุผลของโชคชะตาจริงๆ
เขารู้ว่าเกล็นเป็นคนเย็นชา แต่เขาไม่คิดเลยว่าเกล็นจะไม่สนใจหลานชายที่ป่วยของเขาสักนิดเดียว
"หมดธุระแค่นี้"
เกล็นปัดเสื้อโค้ทสีแดงเข้มออกและหันตัวออกไปราวกับไม่ต้องการอยู่ตรงนี้ต่อ
"เดี๋ยวก่อน! ท่านพ่อ! ขอชื่ออื่นเถอะ อย่างน้อยก็…”
ซิลเวียเดินตามเขาไปในขณะที่อุ้มราอน แต่เกล็นไม่หันกลับมา เขามุ่งหน้าออกจากคฤหาสน์ทันที
หากมองดูจากมุมนี้ ทั้งสองดูเหมือนคนแปลกหน้า ไม่เหมือนพ่อลูกสักนิดเดียว
“อุแว้!”
ริมฝีปากของราอนสั่นไหว เขาอยากจะอยู่เงียบๆ แต่เมื่อลมหนาวพัดเข้ามาจากภายนอก เขาก็ได้แต่ส่งเสียงร้องแผ่วเบาออกไป
“ม-แม่ขอโทษ!”
ซิลเวียกอดราอนแนบแน่นและฝังหน้าของเธอไว้ในตัวของเขา ดูเหมือนว่าเธอแทบจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่แล้ว
'ฉันอยากจะพูดอะไรบางอย่างออกไป... แต่ชักง่วงนอนเกินไปแล้วสิ คิดไม่ออกเลยแฮะ'
ราอนหลับตาลงช้าๆ สัมผัสได้ถึงลมหนาวและความอบอุ่นของซิลเวียที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของเขา
'ร่างกายของเด็กนี่ไม่สะดวกเลยจริงๆ นั่นแหละ...'
* * *
ในยามพระจันทร์ลอยอยู่ท่ามกลางท้องฟ้า
ราอน ซึ่งนอนอยู่บนเปลค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้น
'เธอกำลังหลับ'
เขาหันศีรษะไปด้านข้าง ซิลเวียกำลังนอนหลับอยู่บนเตียงข้างๆ เขา
ก๊อกๆ
ดูเหมือนว่าเธอจะหลับสนิท เพราะเธอไม่ตื่นเลยแม้ว่าเขาเคาะเปลเสียงดัง
'ฮู่ว…'
เขาถอนหายใจเล็กน้อย
ร้อยวันที่ผ่านมา เขาหายใจไม่ค่อยสะดวก
เขาง่วงนอนมาก ง่วงตลอดเวลา และเขาไม่สามารถใช้มานาหรือฝึกฝนใดๆ ได้เลย เพราะเขาอยู่กับซิลเวียแทบจะทุกวินาที
เขาไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะมันอาจมีปัญหาหากถูกรบกวนในระหว่างการฝึก แต่ในที่สุด โอกาสของเขาก็มาถึงแล้ว
ตั้งแต่วันนั้น เขาได้นอนแยกในเปลอุ่นๆ เพราะเฮเลนหัวหน้าแม่บ้านที่คอยดูแลห้องนอนให้คำแนะนำแก่ซิลเวีย
แม้ว่าเธอจะหลับอยู่ข้างๆ แต่ก็ไม่มีวี่แววที่ซิลเวียจะตื่นขึ้น มันจึงเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเริ่มฝึกฝนของเขา
'มาเริ่มกันเลยเถอะ…'
ราอนหายใจออกอย่างช้าๆ
'ด้วยการฝังตัวของ 'วงแหวนแห่งไฟ''
โดยปกตินั้น วิธีการฝึกฝนที่ใช้ในทวีปนี้คือการสะสมออร่าในช่องท้องโดยการรับมานาบริสุทธิ์ผ่านการหายใจ
แต่การฝึกฝนสำหรับ 'วงแหวนแห่งไฟ' ที่เขาได้รับจากโชคดีในชาติที่แล้วนั้นแตกต่างออกไป
มันหมุนวนเป็นวงแหวนรอบๆ หัวใจ ราวกับว่ามีผู้ใช้มนตรา ทั้งทำให้ร่างกายดีขึ้นและความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้น ซึ่งได้เพิ่มความไวของมานาอีกด้วย
แม้ว่ามันจะไม่สามารถสร้างออร่าได้ แต่ 'วงแหวนแห่งไฟ' เป็นเทคนิคการฝังตัวที่สามารถช่วยพัฒนาจิตใจและร่างกาย นับว่าเป็นสุดยอดเงื่อนไขที่สมบูรณ์แบบสำหรับการต่อสู้
'นั่นไม่ใช่ข้อดีเพียงอย่างเดียว'
'วงแหวนแห่งไฟ' เป็นการฝึกที่เป็นไปตามกระแสของธรรมชาติ แม้แต่อัศวินระดับสูงสุดก็ไม่กล้าพูดว่าตนมีความแข็งแกร่งเท่าผู้มี 'วงแหวนแห่งไฟ'
แม้แต่เดรุส โรเบิร์ต ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นนักดาบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในทวีป ก็ยังไม่รู้ว่าราอนได้ครอบครอง 'วงแหวนแห่งไฟ'
อย่างไรก็ตาม มีปัญหาใหญ่ได้เกิดขึ้นกับร่างกายของราอนเสียแล้ว
'ความเย็น'
ในวงจรมานา ที่ซึ่งมานาไหลผ่านเหมือนเลือดในเส้นเลือดของเขา ถูกปิดกั้นโดยความเย็นจัดในร่างกายของเขา
ไม่นานมานี้ เขาเพิ่งรับรู้ถึงเรื่องนี้
เขาพยายามใช้มานาของเขาในช่วงเวลาสั้น ๆ ในขณะที่แกล้งทำเป็นหลับ แต่ก็เกือบจะกรีดร้องออกมาทันทีเมื่อรู้สึกถึงความเย็นที่ปิดกั้นมานาของเขา
ราอนค่อยๆสูดอากาศเข้าไปจนเจ็บปอด และรู้สึกว่ามานาลอยหายไปในอากาศ
'มันกำลังหายไป'
อาจเป็นเพราะพลังมานาพื้นฐานของเขาไม่ดีนัก แต่เขาแทบไม่รู้สึกถึงมานาเลย ซึ่งแตกต่างจากตัวตนในอดีตของเขา
เขาแทบจะจัดการมานาไม่ได้ และยังต้องใช้เวลาระยะนึงในการเข้าถึงวงจรมานาของเขา
'หืม…'
ราอนหยุดกะทันหัน ก่อนที่เขาจะเริ่มฝึก 'วงแหวนแห่งไฟ' ด้วยการดูดซับมานา
'รู้สึกแล้ว อย่างที่คิดไว้เลย..'
วงจรมานาบนหัวไหล่ของเขาถูกความเย็นปิดกั้นไว้ครึ่งหนึ่ง
'ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเราถึงง่วงตลอดเวลาและรู้สึกหนาวมาก'
เหตุผลที่เขานอนมากกว่ายี่สิบชั่วโมงและรู้สึกหนาวแบบสุดขั้วก็เนื่องมาจากความหนาวเย็นนี้
'นี่มันมีอยู่เก้าจุดหรือเปล่า'
เขาปล่อยมานาบางส่วนเพื่อค้นหาไปทั่วร่างกายของเขา มีเก้าจุดในวงจรมานาที่ถูกปิดกั้นโดยความเย็น
'นี่มันสาหัสมาก...'
วงจรมานาของเด็กนั้นเปิดกว้าง ไม่เหมือนกับของผู้ใหญ่ แต่สภาพตอนนี้มันมีจุดปิดกั้นไปเกิดครึ่งแล้ว เมื่อเขาเติบโตขึ้น วงจรมานาทั้งหมดอาจถูกปิดกั้นถาวรเลยก็ได้
หากช่วงเวลานั้นมาถึง เขาต้องเผชิญกับความหนาวเย็นและความเจ็บปวดที่หาที่เปรียบไม่ได้กับสิ่งที่เขาประสบอยู่ในขณะนี้ หรือที่แย่กว่านั้นก็คือต้องตาย
เขาต้องขจัดความเย็นนี่ออกไปให้ได้ ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ก่อนที่วงจรมานาจะปิดกั้นถาวร
'เราควรลองเจาะผ่านความเย็นในวงจรมานาโดยใช้ 'วงแหวนแห่งไฟ' ดู'
แม้ว่าการฝึก 'วงแหวนแห่งไฟ' ของเขาจะล่าช้าไปมาก แต่สิ่งสำคัญอันดับแรกในตอนนี้คือการเอาชีวิตรอด
ราอนค่อยๆ ดูดซับมานา เขาหายใจเข้าลึกๆ มานาที่ดูดกลืนนั้นค่อยๆ แบ่งออกเป็นชิ้นแหลมคม และเจาะทะลุความเย็นที่ปิดกั้นวงจรมานาของเขา
แคร๊ก!
ราวกับว่ามันเป็นภูเขาน้ำแข็งที่ถูกส้อมเล็กๆ แทง ความเย็นได้หลุดออกไปเพียงนิดเดียว
'เดี๋ยวสิ นี่ไม่ได้ผลเหรอ'
เขาชปล่อยมันออกไปตามเดิม แต่ดูเหมือนว่าจะสูญเปล่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงความบริสุทธิ์ของมัน
ราอนเริ่มใช้มานาบริสุทธิ์นำทางความเย็นไปตามการไหลของ 'วงแหวนแห่งไฟ'
มานาบริสุทธิ์และความเย็นที่คอยปิดกั้นรวมตัวเข้าด้วยกันเป็นหนึ่งเดียวได้ไหลผ่านวงจรมานาไปทั่วร่างกาย
'สำเร็จ!'
ราอนกำมือแน่น มันช้าเอามากๆ เมื่อเทียบกับชีวิตที่แล้วของเขา แต่เขาสามารถใช้มานาผ่านการไหลของ 'วงแหวนแห่งไฟ' ได้โดยไม่มีปัญหาอะไร
เขารู้สึกถึงอากาศเย็นๆ ที่ถูกดึงออกมาโดยมานาที่อยู่ในร่างกายของเขา
'ต้องเป็นเพราะเราอยู่ในร่างเด็กแน่ๆ'
ถือว่าโชคดี เพราะเขาคงไม่สามารถหมุนเวียนมานาที่มีความเย็นนี่ได้เลย ถ้าไม่ใช่เพราะวงจรมานาที่เปิดกว้างของเด็ก
'ต่อไป เราก็ควรจะ... หือ? เอาอีกแล้ว?'
ราวกับว่าร่างกายของเขาบอกว่าเหนื่อยหลังจากใช้สมองและพละกำลังเพียงเล็กน้อย เขาก็เริ่มรู้สึกง่วง เปลือกตาของเขาหลุบลงราวกับผ้าม่าน
'ให้ตายเถอะ...'
ราอน คร่ำครวญด้วยความคับแค้นในใจและหลับตาลง
ขณะที่เขาผล็อยหลับไป พระจันทร์ที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าก็เคลื่อนไหว ร่างๆ หนึ่งได้ปรากฏขึ้นนอกประตู
คนที่เข้ามาโดยไม่เปิดประตูคือผู้นำตระกูลซิกฮาร์ท - เกล็น
“……”
เกล็นจ้องมองไปที่ราอนซึ่งกำลังหลับอยู่และยื่นมือออกมา แสงสีซีดราวกับยามพระอาทิตย์ตกดินส่องออกมาจากมือที่กำแน่นของเขา
หน้าผากของราอน ซึ่งดูเจ็บปวดจากความหนาวเย็นก็ผ่อนคลายลง
* * *
* * *
“อา- บู -บู”
ราอนถอนหายใจเบาๆ
'อย่างที่คาดไว้ มันไม่ง่ายเลย'
เขาไม่มีเวลายุ่งกับ'วงแหวนแห่งไฟ' สักนิดเดียว เพราะเขาตื่นเพียงครู่เดียว แถมตอนนั้นก็มีคนอยู่ด้วย
แม้จะฝึกเพียงสั้นๆ แค่หนึ่งถึงสองชั่วโมงเพื่อจัดการความเย็น แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็ดีเกินกว่าคาดอย่างน่าตกใจ ราวกับว่ามีคนช่วยเขาอยู่
“ราอน วันนี้เรามาขยับตัวกันหน่อยไหมจ๊ะ?”
ซิลเวียก้มลงและเขย่าของเล่นเด็ก ดูเหมือนว่าเธอคิดว่าเขาชอบเสียงของเล่นนั่น เขาจึงได้แต่ต้องเล่นมันต่อไป
'เหนื่อยแล้ว'
พูดกันตามตรง การที่ต้องเล่นกับซิลเวียหรือพวกสาวใช้นั้นเหนื่อยกว่าการต้องทนกับความเย็นซะอีก
ถึงยังไงเขาก็เป็นผู้ใหญ่ที่อยู่ภายในร่างกายของเด็ก แต่จะให้ทำอะไรไปมากกว่านี้คงไม่ได้
“อา-อู”
ขณะที่ราอนผงกหัวและกำลังจะคลานไปหาซิลเวีย...
แกร๊ก
ประตูค่อยๆ เปิดออกและชายชราผมสีเงินที่ไม่คุ้นเคยเข้ามาในห้อง เขาสวมเสื้อผ้าโทรมๆ ที่หลุดลุ่ย แต่ดวงตาของเขาใสสะอาดราวกับแม่น้ำ
"โอ๊ะ ท่านลุง!"
ซิลเวียวิ่งไปที่ประตูด้วยรอยยิ้มสดใสบนใบหน้า เหมือนว่าเธอรู้จักชายผู้นั้น
“นานแล้วนะที่ไม่ได้เจอกัน...”
"ไม่สิ ท่านนักบุญ…"
“อ่า- อุม”
ราอนพึมพำด้วยความประหลาดใจ เขาจำชายชราได้จากที่แม่ของเขาเรียก และเสื้อผ้าที่เหมือนขอทานของอีกฝ่าย
'นักบุญผู้มอมแมม!'
นักบุญผู้มอมแมม แพทริค เป็นหนึ่งในผู้รักษาที่มีชื่อเสียงที่สุดในทวีป
แม้ว่าชื่อเสียงในเรื่องพลังศักดิ์สิทธิ์และประสบการณ์ในการรักษาของเขาจะแผ่ขยายออกไปทั่ว แต่เขาก็ยังเป็นคนเร่ร่อนหาตัวเจอได้ยาก แม้ว่าจะมีคนพยายามตามหาเขาก็ตาม
“ไม่นักบุญสิ เรียกว่า 'ลุง' เหมือนเมื่อก่อนก็ได้”
แพทริคหัวเราะเบาๆ และเดินเข้าไปใกล้เตียงที่ราอนนอนอยู่
“ฉันได้ยินมาว่าเธอมีลูก และฉันก็ผ่านทางมาพอดี ใช่เด็กคนนี้หรือเปล่าล่ะ?”
“อ่า ใช่ค่ะ”
“โอ้! ผมทอง ตาแดง? เขาเหมือนเธอเลยไม่ใช่รึไง?”
"ใช่แล้วค่ะ ไม่ดีเหรอคะ?”
ซิลเวียลูบผมของราอนแล้วยิ้ม
“ฉันไม่ได้จะว่าสักหน่อย จะว่าไปเขาเองก็ยังอายุไม่ถึงหนึ่งขวบ แต่กลับดูดีขนาดนี้ แตกต่างจากคนป่าอย่างเกล็นอย่างสิ้นเชิงเลยนะ”
แพทริคหัวเราะเบา ๆ และกระดิกนิ้วต่อหน้าราอน
"เขาชื่ออะไรเหรอ?"
“ชื่อ.. ราอน …”
“ราอน ?”
ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันทีเมื่อได้ยินชื่อนั้น
“ชื่อของเขาไม่ได้หมายถึง 'เงา' เหรอ?”
“นั่นก็ใช่…”
“เกล็นคิดอะไรอยู่ ถึงตั้งชื่อเด็กคนนี้ว่า 'เงา'”
แพทริคเรียกผู้นำตระกูลซิกฮาร์ทแค่ 'เกล็น'
' แปลว่า ข่าวลือที่ว่าเกล็น ซิกฮาร์ท และ นักบุญผู้มอมแมม เป็นเพื่อนกันก็คงเป็นความจริง'
ราอนเม้มริมฝีปากและมองผมที่เหมือนไม้กวาดของแพทริค
เขาเคยใช้ชีวิตเป็นนักฆ่า เขาจึงมีข้อมูลอะไรหลายอย่างค่อนข้างมาก
ดูเหมือนว่าข้อมูลเรื่องความสนิทสนมของ เกล็น ซิกฮาร์ท และ นักบุญผู้มอมแมม จะเป็นความจริง
“ราอน ให้ตาแก่คนนี้ช่วยหน่อยแล้วกัน”
แพทริคนวด ไหล่ แขน ขา และหน้าอกของราอนอย่างอ่อนโยน
"อืม…"
เขาขบริมฝีปากด้วยสีหน้าเคร่งเครียด และในที่สุดก็มีแสงสีขาวเปล่งออกมา เมื่อโดนแสงนั้น พลังงานอันร้อนแรงแผ่กระจายทั่วร่างกายของเขา อย่างกับแช่ตัวเข้าไปในบ่อน้ำพุร้อน
"ฟุ้ว"
แพทริคหันหลังหลังจากที่ถอนหายใจเบาๆ
“เขาเป็นยังไงบ้างคะ? เขาเป็นเด็กที่ไวต่อความเย็นมากและยังเติบโตช้าเมื่อเทียบกับเด็กคนอื่นๆ…”
ซิลเวียเดินไปหา แพทริค มือของเธอประสานกันด้วยความเป็นกังวล
“คำสาปแห่งน้ำแข็ง”
แพทริคขมวดคิ้ว
“ค-คำสาป? หมายถึงอะไรคะ?!”
“มันไม่ใช่คำสาปจริงๆ มันแค่เป็นโครงสร้างความเย็นที่ปิดกั้นวงจรมานาไว้”
"อา…"
“มันเป็นสิ่งที่พบได้ไม่บ่อยนัก ปกติจะเกิดกับเด็กผู้หญิง นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นเด็กผู้ชายที่เกิดมาพร้อมกับคำสาปแห่งน้ำแข็ง”
เขาสำรวจร่างกายของราอนด้วยสายตาแปลกๆ
“ไม่น่ามีปัญหาอะไรมาก วงจรมานาของเขายังเปิดอยู่ แต่เขาอาจมีอาการหนาวสั่นและเจ็บปวดอย่างรุนแรงเมื่อวงจรมานาเริ่มปิด นั่นจะเกิดขึ้นเมื่อเขาอายุครบสี่ขวบ”
“นะ-นั่น…”
ซิลเวียกัดริมฝีปากของเธออย่างไม่สบายใจ
'ฉันแก้มันเองได้ ไม่ต้องห่วง'
ราอนส่ายหัวเล็กน้อย
แม้จะต้องใช้เวลาสักระยะ แต่เขาก็จะสามารถขจัดความเย็นได้โดยใช้ 'วงแหวนแห่งไฟ' ไม่จำเป็นต้องรับการรักษาอะไรเลย
“มีก้อนความเย็นทั้งหมดเก้าก้อนปิดกั้นวงจรมานา นั่นเป็นจำนวนที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเลย และความเย็นแต่ละก้อนมีพลังมาก คงต้องใช้เวลาหากจะต้องพยายามเจาะทะลุผ่านมันอย่างจริงจัง”
“แล้ววิธีรักษาล่ะคะ?!”
ซิลเวียจับแขนเสื้อของแพทริค ราวกับว่าเธอจะเป็นลมได้ทุกเมื่อ
“ให้เขาดื่มน้ำอมฤตเจือจาง ซึ่งมีคุณสมบัติของไฟวันละครั้ง ปล่อยให้เขาอาบแดด เป็นเวลาสองชั่วโมงในตอนเที่ยง ซึ่งเป็นเวลาที่ดวงอาทิตย์ขึ้นสูงสุด”
“เขาจะหายไหมคะถ้าเราทำอย่างนั้น?”
“อย่างที่ข้าบอก นี่ไม่ใช่ความเจ็บป่วย มันเป็นเรื่องของโครงสร้างร่างกาย อย่างน้อยที่สุด ถ้าเจ้าปฏิบัติตามคำแนะนำของข้า เขาจะไม่กลับสู่อ้อมอกสวรรค์ตั้งแต่อายุยังน้อย อย่างไรก็ตาม …”
เมื่อแพทริคตัดบทพูด เขาก็กลืนน้ำลายลงคอขณะที่เขาจะตอบ
“เพราะความเย็นจะกัดกินร่างกายและพละกำลังของเด็ก แม้ว่าจะได้รับการรักษาแล้วก็ตาม มันก็คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะเป็นนักดาบ”
“นั่นไม่สำคัญเลยค่ะ”
ซิลเวียส่ายหัวอย่างรุนแรงราวกับจะบอกว่าไม่เป็นไร ตราบใดที่ลูกของเธอยังไม่ตายก็พอแล้ว
“ดีที่เธอคิดแบบนั้นได้ ทว่าเด็กคนนี้ควรจะ…”
ก๊อก ก๊อก
ขณะที่แพทริคกำลังจะให้คำแนะนำเพิ่มเติม ประตูก็เปิดออกพร้อมกับเสียงเคาะ
“ขอประทานโทษขอรับ”
ชายวัยกลางคนสวมชุดทางการหรูหราเข้ามาในห้องพร้อมกับก้มศีรษะ
“นายท่านเชิญท่านนักบุญไปพบ”
“บอกเขาว่าฉันจะตามไปทีหลัง”
“ท่านกำชับไว้ว่าให้รีบพาไป”
“ฮะฮ่า เร่งรีบเชียวนะ”
แพทริคแลบลิ้นแล้วหันกลับไปพูดต่อ
“ซิลเวีย แล้วฉันจะกลับมาใหม่”
“ค่ะ”
แพทริคออกจากห้องไปพร้อมกับชายวัยกลางคนหลังจากจ้องมองราอนอยู่ครู่หนึ่ง
'คำสาปแห่งน้ำแข็ง...'
ราอนลูบนิ้วของเขา
'ในที่สุดก็รู้แล้ว'
เขาได้รับรู้ถึงชื่อของความหนาวเย็นที่ทรมานเขาแล้ว
เขาจะรักษาคำสาปแห่งน้ำแข็งและพัฒนาร่างกายให้โดดเด่นอย่างหาที่เปรียบมิได้ จากนั้นก็พัฒนามานาก่อนที่เขาจะโตเป็นผู้ใหญ่ และเขาจะทำเช่นนั้นโดยฝึกฝน 'วงแหวนแห่งไฟ' ต่อไปและกำจัดความเย็นไปพร้อมๆ กัน
“ราอน”
ทันทีที่ประตูปิดลง ซิลเวียก็พุ่งกอดราอนและถูไถไปที่ใบหน้า เธอมักทำแบบนี้เมื่อเธอกำลังกังวล
“แม่สัญญาว่าจะช่วยลูก ไม่ว่าจะต้องใช้อะไรก็ตาม”
ดวงตาของเธอ ซึ่งยิ้มอยู่เสมอกลับเต็มไปด้วยน้ำตา
'นี่มันอะไร...?'
ความรู้สึกของซิลเวียถูกส่งมาถึงเขา หัวใจของเขารู้สึกโดนบีบอัด ราวกับว่ามีเส้นลวดขรุขระข่วนหัวใจของเขา
แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าอารมณ์นั้นคืออะไร แต่เขาก็ไม่ต้องการที่จะรู้สึกถึงความรู้สึกนั้นต่อไป
ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไม—
“อา- บู -บู”
ราอน ใช้มือเล็กๆ ของเขา เช็ดน้ำตาที่เอ่อคลอในดวงตาของซิลเวีย
"อา…"
"นายน้อย!"
“พระเจ้า..”
ซิลเวียหรี่ตาของเธอ และสาวใช้ก็ส่งเสียงร้องออกมา
“ราอน…”
เธอก้มศีรษะลงและสัมผัสมือของราอน ที่เปียกน้ำตาอยู่พักหนึ่ง ทันใดนั้นเธอก็ลุกขึ้นยืน
“ฉันต้องไปหาท่านพ่อ”
ความลังเลบนใบหน้าของซิลเวียหายไป
* * *
เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ราอนเกิด ซิลเวียเดินทางไปยังสถานที่ ซึ่งเจ้าตระกูลซีฮาร์ตอาศัยอยู่
เธอเดินทางผ่านทางเดินที่โล่งที่เมื่อครู่นักบุญเดินผ่านไป
“ท่านหญิงซิลเวีย!”
“ขณะนี้ท่านเจ้าตระกูลอยู่กับ…”
“หลบไป!”
เธอผลักคนเฝ้าหน้าประตูและสาวใช้อย่างแรงที่ขวางทางเธอและเคาะประตูห้องโถง
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
ประตูขนาดใหญ่เปิดออกหลังจากเสียงเคาะห้าครั้ง
"อะไร?"
เกล็นนั่งอยู่ตรงข้ามกับแพทริค เขาจิบชาแล้วขมวดคิ้ว
“ขอร้องเถอะค่ะ”
ซิลเวียกัดฟันแน่นและคุกเข่าลง
“ได้โปรดช่วยราอน!”
แม้ว่าจะมีบริวารอยู่ข้างหลังเธอ แต่เธอก็ก้มหน้าลงกับพื้นราวกับว่าเธอเป็นทาสที่ยอมจำนนต่อนายของเธอ
“……”
เกล็นจ้องซิลเวียก้มหัวให้โดยไม่ละสายตา
“คงได้ยินแล้วใช่ไหมว่าเขาจะใช้ชีวิตในฐานะนักดาบได้ยาก แม้ว่าจะรักษาโครงสร้างเขาไว้ได้ก็ตาม”
เกล็นรู้ถึงอาการของราอนอยู่แล้ว
“ไม่เป็นไรค่ะ ยังไงฉันก็คงไม่เลี้ยงให้เขาเป็นนักดาบ!”
“คนในตระกูลซิกฮาร์ทจะไม่กลายเป็นนักดาบเหรอ? ถ้าอย่างนั้นทำไมฉันถึงต้องช่วยเหลือเด็กที่ไม่มีค่าอะไรเลย”
“เพราะเขาเป็นหลานชายของท่านพ่อ”
“หลานชายคนนั้นคือลูกที่เธอพากลับมาหลังออกจากตระกูลไป หลังจากที่เธอบอกว่าจะตัดสัมพันธ์กับเราไม่ใช่หรือ?”
"นั่น…"
ดวงตาที่สั่นไหวของซิลเวียจับจ้องไปที่พื้น
“สิ่งเดียวที่ฉันทำได้เพื่อเด็กคนนี้คือให้นามสกุลแก่เขาว่าซิกฮาร์ท ครั้งเดียวก็เพียงพอแล้วสำหรับเรื่องโง่เขลาเช่นนี้”
ใบหน้าของเกล็นเย็นชาราวกับถูกปกคลุมด้วยแผ่นน้ำแข็ง
“ซิกฮาร์ทเป็นสถานที่ที่มีเพียงผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดเท่านั้นที่อยู่รอด ไม่มีเด็กที่อ่อนแอเช่นนี้จะดีกว่า”
“แต่ยาอมฤตในคลังของตระกูลเรามีประสิทธิภาพมากกว่าจากที่อื่น…”
“นั่นมันสำหรับคนที่สร้างชื่อเสียงให้ตระกูล ฉันไม่มีอะไรให้เด็กที่ไม่มีประโยชน์คนนี้ ถึงเขาจะเป็นหลานชายก็ตาม เธอต้องออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้”
"ท่านพ่อ! ขอร้องล่ะค่ะ!"
ซิลเวียจิกนิ้วกับฝ่ามือแน่น แล้วเอาหัวโขกพื้นอีกครั้ง
'ฉันจะยอมถอยไม่ได้!'
ถ้ามีเธอคนเดียวเธอคงกลับไปแล้ว เธอคงจะจากไปโดยไม่หันกลับมา ด้วยศักดิ์ศรีของเธอ
แต่ตอนนี้เธอมีลูกที่ต้องปกป้อง เธอต้องอดทนจนถึงที่สุดเพื่อราอน
“ลากตัวเธอออกไป”
ทหารในชุดดำก้าวออกมาจากหลังเสาตามคำสั่งอันเข้มงวดของเกล็น พวกเขาจับแขนทั้งสองข้างของซิลเวียแล้วลากเธอไปที่ประตู
“ได้โปรด! ราอน !”
ซิลเวียตะโกนชื่อ ราอน จนพ้นไปจากประตู แต่เกล็นกลับเบือนหน้าหนีเหมือนไม่สนใจ
"เฮ้อ…"
แพทริคที่นั่งมองดูทุกอย่างถอนหายใจ
“แสดงได้ดีเชียวนะ เจ้าเป็นคนเรียกข้าไปตรวจดูหลานชายไม่ใช่หรือไง? ยากขนาดนั้นเลยเหรอกับการพูดใจจริงออกไป?”
“อย่าพูดมาก แค่บอกอาการของเขามา”
“อย่างที่บอก ความเย็นกำลังปิดกั้นวงจรมานามีถึงเก้าแห่ง แม้ว่าตอนนี้จะไม่เป็นไร แต่มันจะอันตรายมากขึ้นเมื่อเขาโตขึ้น”
แพทริคจิบชาและพูดต่อ
“แต่ข้าไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ ก็ต้องขอบคุณเจ้าที่ช่วยผลักความเย็นออกไปด้วยออร่า”
เกล็นและแพทริคไม่รู้ว่าราอนกำลังฝึก 'วงแหวนแห่งไฟ' แม้ว่าทั้งสองจะตรวจร่างกายของเขาไปแล้วก็ตาม
'วงแหวนแห่งไฟ' ถูกพบเมื่อพันปีที่แล้ว ซึ่งไม่ว่าจะมีความสามารถสูงสักแค่ไหน มันก็เป็นเรื่องยากมากที่จะมี 'วงแหวนแห่งไฟ'
“เด็กผู้หญิงที่เกิดมาพร้อมคำสาปแห่งน้ำแข็งสามารถใช้ประโยชน์จากความเย็นอันบริสุทธิ์และกลายเป็นพ่อมดหรือนักดาบที่ยอดเยี่ยมได้ แต่นี่มันแตกต่างออกไปสำหรับเด็กหนุ่มที่มีพลังงานอบอุ่น ก็อย่างที่พูด มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่หลานคนสุดท้องของเจ้าจะได้เป็นนักดาบ”
“ตราบใดที่เขายังมีชีวิตอยู่ มันก็ไม่สำคัญหรอกว่าเขาจะไม่ได้เป็นอัศวินหรือนักดาบ”
“ทำกับซิลเวียไว้แบบนั้น และตอนนี้มาบอกว่ามันไม่สำคัญเหรอ? แม้แต่ราชาผู้ทำลายล้างแห่งแดนเหนือก็คงรักหลานชายของเขาสินะเนี่ย”
แพทริคหัวเราะออกมาอย่างเป็นบ้าเป็นบอ
“……”
เกล็นไม่สนใจแพทริค เขาชี้นิ้วของเขาขึ้นไปในอากาศ
ฟู่…
มีช่องว่างเปิดออกเป็นรูปกากบาท มิติสีทองเปิดขึ้น กล่องไม้สามกล่องโผล่ออกมาจากพื้นที่ภายในที่ลุกเป็นไฟ
“คิดว่าเจ้าคงรู้วิธีจัดการใช่ไหม?”
เขาพูดขณะส่งกล่องให้แพทริค
“อา… นี่แหละคือเหตุผลที่ข้าไม่อยากยุ่งเรื่องครอบครัวคนอื่นเลย”
แพทริคถอนหายใจและรับกล่องไม้ไป
“ดูแลเขาด้วย”
เสียงแหลมของเกล็นทุ้มลง
“ได้อยู่แล้ว ว่าแต่ทำไมถึงตั้งชื่อเด็กว่า ราอน ? มีชื่อที่ดีกว่านี้ตั้งมาก แล้วความหมายของมันยังคือ 'เงา'…”
“'เงา' ไม่ใช่ความหมายเดียวของชื่อ ' ราอน '”
เขาส่ายศีรษะและมองดูดวงอาทิตย์สีทองลอยสูงขึ้นไปบนท้องฟ้า
“เมื่อพันปีก่อน มันมีความหมายที่ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง”