ตอนที่ 73 เมืองปลายฝนเผชิญภัยพิบัติมอนสเตอร์(อ่านฟรี)
ตอนที่ 73 เมืองปลายฝนเผชิญภัยพิบัติมอนสเตอร์
ทุกคนดูตื่นตกใจและหวาดระแวงกับสถานการณ์ที่เกิด อยู่ ๆ ก็มีมอนสเตอร์ปรากฏตัวและกำลังบุกโจมตีที่นอกเมืองห่างออกไปเกือบ 10 กิโลเมตร
ทหารของเมืองต่างส่งสัญญาณเตือนหวังจะขอให้เหนือมนุษย์ออกมาช่วย แต่เหนือมนุษย์ในหน่วยงานทั้งสองอย่างสำนักงานเมืองและสำนักงานเหนือมนุษย์กลับกระจายตัวกันออกไปแล้ว
ด้านสำนักงานเหนือมนุษย์ ผู้อำนวยการอีคอนจัดกองกำลังเกือบทั้งหมดออกไปล่าและสังหารฝูงมอนสเตอร์ที่นำโดยมอนสเตอร์ระดับ B จนตอนนี้ก็ยังไม่กลับมา
มีเพียงการติดต่อครั้งล่าสุดว่าปะทะกับมอนสเตอร์และกำลังตามสังหารมอนสเตอร์ระดับ B ที่บาดเจ็บสาหัส
ซึ่งที่เหลืออยู่สำนักงานเหนือมนุษย์มีเพียงเหนือมนุษย์ระดับ C ประมาณ 5 คนที่คอยควบคุมให้สำนักงานเหนือมนุษย์ยังดำเนินงานและภารกิจต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม
รวมทั้งเหล่าฮันเตอร์ที่รับภารกิจกระจายไปทั่วทั้งเมืองปลายฝนด้วย นี้เป็นเหตุผลเดียวกับสำนักงานเมืองที่มีเหนือมนุษย์น้อยกว่าอยู่แล้ว และส่วนใหญ่เป็นทหารมียศนายทหารที่ออกไปประจำตามจุดต่าง ๆ รอบเมือง เพื่อต่อสู้กับมอนสเตอร์และประตูมิติที่เพิ่มมากขึ้นถึง 10 เท่าในช่วงเวลาที่ผ่านมา แต่นี่กลับกลายเป็นความผิดพลาดที่ทำให้กองกำลังทั้งสองหน่วยงานไม่ได้รวมกันตัวกันเป็นกองทัพเพื่อตอบโต้กับสถานการณ์อย่างภัยพิบัติมอนสเตอร์บุกเมือง
และจะต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าจะรวบรวมกำลังคนเพื่อกลับมาปกป้องบริเวณแนวเมืองชั้นนอกของเขต 5 ที่ฝูงมอนสเตอร์กำลังจะบุกมาถึงอยู่ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงได้
สำนักงานเมืองทำได้เพียงสั่งกองทัพและออกกฎอายการศึกให้ผู้คนจากเขต 5 ไปยังพื้นที่หลบภัยที่ไม่ได้ใช้มานานจึงค่อนข้างสร้างความสับสนวุ่นวายเป็นเรื่องปกติ แต่ยังดีที่ว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยเข้ามาควบคุมสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที ก่อนจะมีคำสั่งต่อมาแบบติด ๆ ให้ทหารทุกนายที่กระจายตัวอยู่ไปยังแนวป้องกันของเขตแม่น้ำที่เขต 5 ตรงสะพานทั้ง 3 แห่งที่ใช้ออกนอกเมืองและพื้นที่อีกจุดคือ แนวพื้นที่เกษตรกรรมที่ไม่มีอะไรขวางกัน ตรงนี้เป็นจุดที่คาดการว่ามอนสเตอร์จะบุกเข้ามามากที่สุด
โดยทางสำนักงานเมืองได้เปิดใช้งานปืนใหญ่ระดับ E อีก 7 กระบอกที่เหลือด้วยแบ่งกระจายกันไปทางสะพาน 3 กระบอกและทางพื้นที่เกษตรกรรมอีก 4 กระบอก
แต่ว่าทุกอย่างนี้ต้องใช้เวลา ทหารในเขต 5 ไปถึงเร็วที่สุด แต่ทหารในเขตอื่น ๆ กลับช้ากว่ามาก ซึ่งกว่าจะไปถึงมอนสเตอร์อาจจะบุกมาแล้ว ยังดีที่ว่าสำนักงานเหนือมนุษย์เองก็ไม่นิ่งดูดาย
หนึ่งในเจ้าหน้าที่สำนักงานเหนือมนุษย์ที่รักษาการได้สั่งให้มาตราการณ์รับมือฉุกเฉิน โดยการออกภารกิจบังคับให้กับเหล่าฮันเตอร์และเหนือมนุษย์ทุกคน โดยภารกิจออกมาเป็น 2 ฉบับ
ภารกิจแรกคือภารกิจบังคับฮันเตอร์โดยตรง ตอนที่รับสถานะฮันเตอร์พวกเขาต้องยอมรับภารกิจเรียกตัวบังคับนี้ เพื่อไปช่วยที่แนวป้องกันที่ใกล้ที่สุดจากทั้ง 4 จุดที่ทางสำนักงานเมืองประกาศ ซึ่งโดยสรุปคือพวกเขาจะกลายเป็นกำลังทหารชั่วคราวที่ต้องเข้าต่อสู้กับมอนสเตอร์
ส่วนภารกิจบังคับที่สองออกไปยังเหนือมนุษย์ที่ไม่ใช่ฮันเตอร์ พวกเขาไม่จำเป็นต้องไปที่แนวรบ แต่ต้องไปช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความปลอดภัยและควบคุมสถานการณ์สนับสนุนตำรวจ
เนื่องจากมีอยู่สองสาเหตุ อย่างแรกคือเพื่อสนับสนุนตำรวจและสองคือการคอยเฝ้าระวังไม่ให้อาชญากร โดยเฉพาะพวกอาชญากรเหนือมนุษย์ฉวยโอกาสสร้างความเสียหาย
แต่นี่ยังไม่ใช่สถานการณ์ที่เลยร้ายที่สุด เนื่องจากถ้าแนวป้องกันต้านไม่อยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจและเหนือมนุษย์เหล่านี้จะต้องกลายเป็นกำแพงชั้นต่อไปในการต่อสู้กับมอนสเตอร์
เมืองปลายฝนในตอนนี้ตกอยู่สุ่มเสี่ยงต่อภัยพิบัติฆ่าล้างเมือง เพราะว่าพวกเขาไม่มีทางหนีเลย เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นที่มีฝูงมอนสเตอร์กระจายตัวกันโจมตีรัฐคานันและเมืองต่าง ๆ ในรัฐนี้ เมืองปลายฝนก็อยู่ด้วย ส่งผลให้เส้นทางเข้าออกเมืองถูกตัดขาดจนสิ้น
ซึ่งชาวเมืองทุกคนทราบเรื่องเหล่านี้และพวกเขาก็ได้แต่หวังว่าแนวป้องกันจะหยุดมอนสเตอร์ได้จนกระทั่งกองทัพของเมืองจะไปถึงเพื่อช่วยต้านมอนสเตอร์ฝูงนี้ได้สำเร็จ
สถานการณ์พวกนี้ถูกพูดกันในอินเทอร์เน็ตและแม้แต่ในเครือข่ายไกอาที่ส่งต่อพูดคุยกันไม่จบสิ้น บ้างก็บอกว่าเมืองจากรัฐอื่นจะส่งกำลังทางอากาศไป เมืองหลวงประจำรัฐคานันก็กำลังเตรียมส่งกำลังทหารมา
แต่ทุกคนรู้ดีว่าน้ำจากที่ห่างไกลไม่อาจจะดับไฟที่อยู่ใกล้ได้ หรือก็ไม่ใช่ในเร็ว ๆ นี้แน่นอน
ตอนนี้ทั้งโรงพยาบาลกำลังอยู่ในสถานการณ์วิตกกังวลด้วย เนื่องจากโรงพยาบาลแห่งนี้คือหนึ่งในสุดที่ถูกกำหนดให้เป็นสถานที่หลบภัยฉุกเฉิน เพราะมีพื้นที่ขนาดใหญ่และด้วยเพราะเหตุผลที่เป็นโรงพยาบาลที่มีผู้ป่วยจำนวนมากไม่มีทางย้ายได้ทันแน่นอน จึงย้ายมาที่นี่เลยเพื่อความสะดวกและปลอดภัย
ลุคจ้องไปที่หน้าจออินเทอร์เฟสของแหวนเครือข่ายไกอาเช่นเดียวกับที่คนอื่น ๆ กำลังมองดูภาพที่รายงานโดยโดรนจากมุมสูงให้ปรากฏไปทั่ว รวมทั้งหนึ่งในพื้นที่นี้ด้วยที่มีการรายงานสถานการณ์ที่ชัดเจนกว่าให้กับเหนือมนุษย์ทุกคน
ลุคและพรรคพวกในห้องต่างก็ได้รับการแจ้งเตือนจากภารกิจบังคับที่ให้ไปรวมกันที่สะพานจุดปะทะที่ 1 ซึ่งอยู่ห่างไปราว ๆ 15 กิโลเมตร ซึ่งถ้ามอนสเตอร์บุกผ่านมาได้พวกมันจะต้องเข้ามาที่นี่เป็นอันดับแรกแน่นอน
ตูม! ๆ ๆ
เสียงยิงของปืนใหญ่ดังมาจนถึงสถานที่พวกเขาอยู่ นอกจากนั้นก็ยังมีเสียงระเบิดอีกหลายแห่งมาด้วย มันเกิดจากการที่นอกเมืองก็ยังมีทหารจากพื้นที่เฝ้าระวังที่ยังต้องหนีตายถอยกันเข้ามาหลบในเมือง พวกเขาจึงวางแนวระเบิดหวังหยุดและลดจำนวนพวกมอนสเตอร์ลง
“ผมถูกเรียกตัวกลับไปที่สำนักงานเหนือมนุษย์” อีลิกกล่าว นั้นเพราะเขาเป็นลูกชายของอีคอน ซึ่งนับเป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดหนึ่งในสองคน ซึ่งอีกคนคือเจ้าเมือง
จึงไม่แปลกที่อีลิกจะได้รับการคุ้มกันก่อน
“พวกเขารู้ว่านายอยู่ที่นี่ได้ยังไง” ลุคกล่าวถาม
“แหวนเครือข่ายไกอา ไกอาสามารถตามตำแหน่งจากแหวนได้ สถานการณ์ปกติไกอาจะไม่เข้ามาตรวจสอบตำแหน่ง แต่ถ้าในช่วงสงครามไกอาจะเปิดใช้การเข้าถึงตำแหน่ง ซึ่งต้องทำการยินยอมไว้ล่วงหน้าตั้งแต่เข้ารับสิทธิ์คุ้มกันพิเศษนี้ และพอประเมินจากสถานะความอันตรายและการสุ่มเสี่ยง ก็จะเริ่มภารกิจคุ้มกัน ผมได้สิทธินั้นเพราะพ่อผมเป็นผู้อำนวยการ ที่สำนักงานเหนือมนุษย์มีห้องนิรภัยและทางหลบหนีฉุกเฉินถ้าจำเป็นจริง ๆ สามารถพอออกไปนอกเมืองได้อยู่ พี่ลุคผมว่าเราพาเจนไปหลบที่นั่นก่อน ที่นี่โรงพยาบาลมันต้องไม่ปลอดภัยแน่นอน มอนสเตอร์จะบุกเข้ามาถล่มที่นี่ด้วย”
อีลิกกล่าวอย่างเป็นห่วง มอนสเตอร์สัมผัสได้ถึงมนุษย์ได้ดี ยิ่งมารวมกันมาก ๆ ถ้าบุกเข้ามาไม่ต่างจากการอัดกันเป็นบุบเฟ่อยู่ในอาคารรอมันมากิน
“เรายังมีแนวป้องกันอยู่มอนสเตอร์พวกนั้นไม่น่าจะเข้ามาถึงที่นี่ได้หรอก” บอสตันกล่าวตามจริง แม้การสู้รบกับมอนสเตอร์จะดูรุนแรง แต่ก็น่าจะยังอยู่ในการควบคุม
ตอนนั้นเองก็มีเสียงเฮลิคอปเตอร์หลายลำบินผ่านอาคารของโรงพยาบาลไปยังแนวปะทะจำนวนเกือบ 20 ลำ ผู้คนต่างเหงนหน้าไปมอง ลุคเองก็ด้วยเขานิ่งไปครู่หนึ่งและกล่าวขึ้นมาว่า
“มันอาจจะเป็นอย่างที่อีลิกพูด ไกอาคือสุดยอดปัญญาประดิษฐ์ใช่ไหม”
ทุกคนพยักหน้าตอบว่า “ใช่”
“ถ้าอย่างนั้นการที่มันส่งคำสั่งคุ้มกันมาเพื่อแจ้งกับอีลิกว่าจะพาไปยังสำนักงานเหนือมนุษย์ แสดงว่าไกอาได้ประเมินแล้วว่ามีโอกาสที่แนวป้องกันจะไม่สามารถต้านมอนสเตอร์ได้”
“มันจะเป็นไปได้ยังไง” ไอกะตื่นตกใจไม่น้อย ถ้าเป็นนอกเมืองก็ยังพอว่า แต่นี่คือพื้นที่ในเมือง เธอเชื่อว่าเมืองสามารถปกป้องคนจากมอนสเตอร์ได้
“ที่ลุคพูดมาก็มีเหตุผล แนวป้องกันอาจจะกันจากมอนสเตอร์ธรรมดาได้ แต่มอนสเตอร์ระดับ D หรือ C ขึ้นไป คิดว่าจะหยุดพวกมันได้เหรอ แถมตอนนี้จากที่เห็นในภาพคงมีมอนสเตอร์ไม่น้อยกว่า 2,000 แม้ส่วนใหญ่จะเป็นระดับธรรมดา แต่ถ้ามีระดับ C สัก 5 ตัวหรือระดับ D 20-30 ตัวพวกมันฝ่ามาได้ก็เท่ากับหลุดเข้ามาในฝูงแกะแล้ว ไม่มีทางที่เหนือมนุษย์ระดับ D หรือ C จะรับมือพวกมันได้หมด ถึงตอนนั้นแม้แต่พวกเราที่เป็นระดับ E ก็ไม่สามารถรับมือกับระดับ D ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงระดับ C ที่สูงกว่าเลย”
“ถ้าไม่ใช่เพราะตอนนี้ผู้อำนวยการอีคอนพาคนออกไปไล่ล่ามอนสเตอร์ระดับ B แค่เขาคนเดียวลงมือมอนสเตอร์พวกนี้ก็คงโดนกำจัดจนหมดแล้ว” บอสตันกล่าวอย่างหนักอึ้งในใจ
ขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกันอยู่ลุคก็เริ่มเงียบและใช้ความคิดของตัวเอง
“เหตุการณ์มอนสเตอร์บุกเมือง การคุกคามของผู้มองอนาคต ข่าวเกี่ยวกับมอนสเตอร์โจมตีรัฐคานัน เจนที่กลายเป็นองค์หญิงเทอสูร และการยิงลำแสงขึ้นไปบนฝากฟ้าก่อนจะหายไป”
ภาพในหัวของลุคกำลังย้อนมาทีละฉาก ๆ ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่เจนที่นอนไม่ยอมตื่นอยู่บนเตียง ซึ่งในตอนนี้มีเส้นไบสีขาวห่อเด็กสาวไว้ทั้งตัว
“เธอเป็นอะไรกันแน่ บางสิ่งที่อยู่เบื้องหลังมอนสเตอร์พวกนี้ถึงลงทุนทำมากขนาดนี้เพื่อบุกมาหาเธอ” ลุคจ้องไปที่เตียง ซึ่งเขาไม่ได้หมายถึงเจน แต่หมายถึงสิ่งที่อยู่ในเจน องค์หญิงเทพอสูร
“ลุค...ลุค...นายได้ยินหรือเปล่า”
นิโคลกำลังเรียกลุคอยู่ด้านข้าง ก่อนจะยื่นมือไปแตะไหล่ของเขาดึงให้ลุคได้สติกลับมาจากการใช้ความคิด ลุคหันไปมองหญิงสาวก็พบว่าคนอื่น ๆ เหมือนจะกำลังรอการตัดสินใจของเขา
“นายจะเอายังไง จะไปตามภารกิจบังคับที่สนามรบไหม” นิโคลถาม
ลุคมองทุกคนและมองไปที่เตียง
“ฉันจะไปพาเจนไปกับอีลิก” ลุคกล่าว เพราะมีแต่เขาเท่านั้นที่รู้ว่าเจนกำลังโดนมอนสเตอร์พวกนั้นตามล่า เขาไม่มีทางทิ้งน้องสาวไว้ที่โรงพยาบาลได้ ทางเลือกเดียวคือพาเจนไปยังที่ปลอดภัย คือการไปยังที่หลบภัยที่อีลิกบอก
“นายพาฉันกับเจนไปได้ไหม” ลุคหันไปถามอีลิก
“ได้ ๆ ผมสามารถพาไปกันได้ทุกคนเลย” อีลิกกล่าวด้วยอย่างมั่นใจ
“ดูนั้นสิ” เสียงของไอกะดังขึ้น เธอชี้ไปยังเตียงของนิโคลที่เส้นใยรอบ ๆ เริ่มสลายหายไปอย่างช้า ๆ ก่อนจะกลายเป็นเยื้อบาง ๆ ก่อนที่มันจะลายทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นสายหรือเสื้อผ้าบนตัวของเธอจนหมด แต่โชคดีที่ด้านบนผ้ายังมีผ้าห่มอีกผืนจึงสามารุปกปิดร่างที่เปลือยเปล่าได้
นอกจากร่างกายส่วนอื่นแล้ว สิ่งที่เห็นชัดสุดคือ ศีรษะที่เส้นผมถูกโกนและมีรอยผ่าตัดบนศีรษะอย่างชัดเจน
แต่ในตอนนี้ทุกคนกำลังมองไปด้วยความทึ่งที่เห็นว่ารอยแผลบนหัวกำลังหายและจางลงอย่างรวดเร็วพร้อมกับมีเส้นผมงอกออกมาใหม่อีกครั้ง
“มันได้ผล เจนกำลังรักษาตัวเอง” ลุคกล่าวอย่างดีใจ
“เคยได้ยินมาว่าถ้ากินยารักษาแหล่งกำเนิดคลื่นสมองไปแล้ว ถ้ามันได้ผลร่างกายของเหนือมนุษย์จะเหมือนกับการสร้างแหล่งกำเนิดคลื่นพลังขึ้นมาใหม่ คล้ายตอนกลายเป็นเหนือมนุษย์ ทำให้ร่างกายได้รับความสามารถฟื้นฟูอย่างรวดเร็วในเวลาอันสั้น” อีลิกกล่าวความรู้ที่มีเกี่ยวกับยารักษาแหล่งกำเนิดคลื่นพลังออกมา
กระบวนการดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง แต่ว่าเจนก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมาเลย
“ร่างกายเจนหายแล้ว เหลือแต่รอเธอตื่นขึ้นมา เราควรรีบไปจากที่นี่” ลุคบอกกับทุกคน
“ที่จริงฉันยังมีที่ต้องไป” ไอกะอยู่ ๆ ก็พูดขึ้นมาและกล่าวต่อว่า “ฉันจะต้องไปพาแม่และลูกของฉัน พวกท่านอยู่ในเมืองนี้”
“ผมก็ด้วย มีน้องชายอยู่” บอสตันพูดขึ้น
“พ่อแม่ฉันอยู่ในที่หลบภัยกับทางสำนักงานเมืองแล้ว ปลอดภัยไม่แพ้ที่สำนักงานเหนือมนุษย์” นิโคลกล่าวขณะที่เช็คข้อความที่พ่อและแม่ส่งมาให้
สรุปแล้วคือไอกะกับบอสตันต้องไปรับครอบครัวของพวกเขาก่อน ส่วนนิโคลไปกับลุคได้
“นายช่วยพวกเขาได้ไหม” ลุคถามอีลิก
“ไปรับคงไม่ได้ แต่ว่าถ้าพวกเขามาที่สำนักงานเหนือมนุษย์ผมสามารถพาเข้าไปได้” อีลิกให้คำตอบเท่าที่เขาจะทำได้ เพราะทีมคุ้มกันมารับเขาไม่ใช่มาเพื่อไปรับคนอื่น ๆ
“พวกเราจะพาครอบครัวไปที่สำนักงานเหนือมนุษย์” บอสตันกล่าว ก่อนพาไอกะจะออกไปด้วยกัน
“เดี๋ยว!” ลุคหยุดทั้งสองคน ก่อนจะเอากริชเยือกแข็งแหละระเบิดหินให้พกติดตัวไปด้วย
“พวกฉันจะรอที่สำนักงานเหนือมนุษย์”
“ขอบคุณ”
...
ทั้งบอสตันและไอกะออกไปสักพัก
ลุคก็เตรียมตัวจะอุ้มเจนไปด้วย โดยมีอีลิกและนิโคลนำหน้า แต่แล้วในตอนนั้นหมอก็เปิดประตูเข้ามาด้วยความหวาดกลัว
“คุณลุคช่วยพวกเราด้วย” หมอร้องโวยวายเข้ามาพร้อมกับพยาบาลสาวอีก 3 คนที่หนึ่งในนั้นโดนลากมาพร้อมกับสภาพบาดเจ็บหนักและเลือดไหล
“เกิดอะไรขึ้น” ลุควางเจนลง
“มีประตูมิติปรากฏขึ้นมาจากนั้นมอนสเตอร์ก็ออกมาจำนวนมาก มอนสเตอร์บุกเข้ามาด้านในโรงพยาบาล ตอนนี้ข้างนอกวุ่นวายไปหมดแล้ว” หมอรีบเล่าให้ฟัง
ลุคและพวกรีบหันไปมองที่หน้าต่าง ปรากฏว่ามีประตูมิติจำนวนมากเปิดขึ้นมาพร้อม ๆ กันโดยไม่หยุดและมีมอนสเตอร์ระดับ F ออกมาจากประตู
ที่ด้านหน้าโรงพยาบาลมีประตูมิติ 2 แห่งปรากฏขึ้นมาและมอนสเตอร์
“เป็นไปได้ยังไง”
ทั้งสามไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็น ประตูมิติปรากฏขึ้นมาพร้อม ๆ กันอีกทั้งม่านกั้นที่กันมอนสเตอร์ไม่ให้เขามาก็หายไปด้วย ทันทีที่ประตูเปิดเต็มที่มอนสเตอร์ก็ออกมาได้ในทันทีและไล่ล่ามนุษย์กันอย่างบ้าคลั่ง