ตอนที่ 454 ความก้าวหน้าของขนอุย
ตอนที่ 454 ความก้าวหน้าของขนอุย
ทั่วทั้งเผ่าพันธุ์เซิร์กมีนักสู้ระดับอิมมอทอลลิตี้อยู่เพียงแค่สองคน ซึ่งเซี่ยเฟยก็ไม่คิดว่าอี้ดูผู้ซึ่งเป็นนักสู้อันดับ 2 ของเผ่าพันธุ์เซิร์กจะเป็นคนคนเดียวกันกับอูดี้ผู้ซึ่งเป็นราชาแห่งเต็นท์ทองคำ
แน่นอนว่าระดับพลังของเลยูตี้น่าจะสูงกว่าอิมมอทอลลิตี้ไปแล้ว แต่บุคคลลึกลับคนนี้ไม่ได้ให้ความสนใจกับเรื่องราวภายในเผ่าพันธุ์อีกต่อไป ส่วนอี้ดูก็แทบที่จะไม่มีบันทึกข้อมูลปรากฏอยู่เลย ชื่อเสียงของนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่าพันธุ์จึงไปตกอยู่ที่อันดับ 3 อย่างชานี่เป็นส่วนใหญ่ เพราะเขาคือนักสู้อันดับสูงที่สุดที่ยังคงอยู่ภายใต้สายตาของผู้คน
แต่ในปัจจุบันชานี่ถูกสังหารลงไปแล้วและเขายังถูกสังหารภายใต้คมมีดสายลมของอูดี้อีกด้วย มันจึงเป็นเครื่องพิสูจน์ได้อย่างดีว่าอูดี้ไม่ได้รับตำแหน่งนักรบอันดับ 2 มาโดยใช้อำนาจในการแทรกแซง
เหตุการณ์นี้ทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกกระวนกระวายใจมาก และมันก็ทำให้มือของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น ๆ แต่ภายนอกเขายังคงรักษาความสงบนิ่งเอาไว้เพื่อไม่ให้ศัตรูได้รู้ว่าเขากำลังรู้สึกตื่นตระหนก
สิ่งมีชีวิตบางชนิดก็มีลักษณะนิสัยแบบนี้ ซึ่งพวกเขามักจะแสดงความกล้าหาญและความดื้อรั้นออกมาในระหว่างที่พวกเขายังคงตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง และถึงแม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าพวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของศัตรู แต่พวกเขาก็ยังคงพยายามอย่างสุดกำลังโดยไม่มีวันยอมรับความพ่ายแพ้เว้นแต่ว่าพวกเขาจะไม่เหลือหนทางแล้วจริง ๆ
อูดี้เหยียดขาสั้น ๆ ทั้งสองข้างของเขาออกและขยับร่างกายเบา ๆ ราวกับว่าเขากำลังเล่นยิมนาสติก
“ดูเหมือนว่าฉันจะไม่ได้ออกแรงนานเกินไปจนทำให้เส้นทั่วทั้งร่างของฉันยึดไปจนหมดแล้ว ปกติฉันไม่ชอบใช้วิธีของคนโง่อย่างการใช้กำลังหรอกนะ ฉันเลยพยายามใช้เพียงแค่สติปัญญาเพื่อจัดการกับเรื่องทุก ๆ อย่าง อาจารย์สอนฉันเสมอว่านักสู้ทุกคนควรเก็บไพ่ตายเอาไว้ในช่วงเวลาที่จำเป็น ดังนั้นฉันเลยพยายามซ่อนพลังของตัวเองไว้และจะไม่ใช้เว้นแต่ว่าฉันจะต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่จำเป็นจริง ๆ”
“ฉันไม่คิดเลยว่ามนุษย์อย่างแกเพียงคนเดียวจะพยายามทำทุกอย่างมาจนถึงตอนนี้ได้ และการที่แกบังคับให้ฉันแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมา มันก็มากพอที่จะทำให้แกรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเองแล้ว” อูดี้กล่าว
“ฉันยอมรับว่าไพ่ตายของแกทำให้ฉันตกใจได้จริง ๆ” เซี่ยเฟยกล่าวขึ้นมาเบา ๆ
“จักรวาลแห่งนี้กว้างใหญ่มากและทุกคนจะต้องระวังตัวอยู่เสมอ ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ฉันจะพยายามพัฒนากำลังเพื่อใช้ปกป้องตัวเองในยามจำเป็น” อูดี้กล่าวพร้อมกับเปลี่ยนท่าทางไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง จากตอนแรกเขาแสดงท่าทางเป็นเหมือนกับราชาที่อ่อนแอ แต่ในตอนนี้เขากำลังตั้งท่าต่อสู้ราวกับปรมาจารย์ที่เจนสนามรบเป็นอย่างดี
“แกเอาของจากฉันไป 2 อย่าง ถ้าแกยอมคืนกรงเล็บภูติโลหิตกับกล่องสีดำกล่องนั้นมา ฉันอาจจะยอมปล่อยให้แกมีชีวิตรอดต่อไปก็ได้” อูดี้กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“กรงเล็บภูติโลหิตไม่ได้อยู่ที่ฉันและ…”
ก่อนที่เซี่ยเฟยจะทันได้พูดจบเขาก็รีบพุ่งตัวออกไปด้วยความรวดเร็ว โดยเป้าหมายของเขาคือแท่นเครื่องย้ายที่อยู่ไม่ไกลเพื่อพยายามเคลื่อนย้ายร่างตัวเองไปยังพื้นที่ชั้นที่ 5
อูดี้หักนิ้วตัวเองอย่างใจเย็นก่อนที่มันจะมีกำแพงใบมีดสายลมพุ่งผ่านหน้าเซี่ยเฟยไปอย่างรวดเร็ว จนทำให้เขาไม่สามารถที่จะเคลื่อนย้ายตรงไปยังแท่นเคลื่อนย้ายได้
พลังพิเศษของอูดี้คือการเปลี่ยนอากาศให้กลายเป็นใบมีดอันคมกริบได้ทุกเมื่อ และใบมีดแต่ละอันที่เขาได้ปลดปล่อยออกมาก็มีความคมไม่ต่างไปจากใบมีดจริง ๆ นอกจากนี้เนื่องจากว่าเขาได้ฝึกฝนพลังมาจนถึงระดับอิมมอทอลลิตี้ มันจึงทำให้ใบมีดที่เขาสร้างมีความคมไม่ต่างไปจากอาวุธระดับอิมมอทอลลิตี้ด้วยเช่นกัน
“อย่าคิดว่าจะหนีไปได้ง่าย ๆ”
แม้ว่าภายนอกจะดูเหมือนเซี่ยเฟยกำลังพยายามวิ่งไปที่แท่นเคลื่อนย้าย แต่เขากลับบิดตัวกลางคันอย่างรุนแรงและอาศัยแรงเหวี่ยงในการดีดร่างของเขาออกไป
ฟุบ!
ร่างของชายหนุ่มเคลื่อนตัวราวกับสายฟ้าและเป้าหมายของเขาในคราวนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกเสียจากราชาแห่งเผ่าพันธุ์เซิร์ก
ในความเป็นจริงเซี่ยเฟยพยายามใช้การวิ่งหนีเพื่อเป็นอุบายหันเหความสนใจของอูดี้ไปยังเรื่องอื่น จากนั้นเขาก็จะพยายามเพิ่มความเร็วให้ได้มากที่สุดเพื่อลงมือสังหารอูดี้ในระหว่างที่เขายังไม่ทันได้ระวังตัว
“บิดตัวกลางอากาศแล้วเร่งความเร็วได้อย่างนั้นเหรอ? มันช่างเป็นการเคลื่อนไหวที่น่าสนใจดีจริง ๆ” อูดี้กล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะออกมาเบา ๆ และทันใดนั้นมันก็มีกำแพงใบมีดปรากฏขึ้นมาต่อหน้าเขาอย่างฉับพลัน
กำแพงใบมีดนี้เกิดขึ้นมาจากการควบคุมใบมีดสายลมก่อตัวเป็นกำแพงอย่างรวดเร็ว และถ้าหากว่าเซี่ยเฟยพยายามทะลุกำแพงเข้ามาร่างของเขาก็จะถูกตัดออกเป็นชิ้น ๆ จากใบมีดสายลมเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน
ฟุบ!
เซี่ยเฟยถีบขาซ้ายลงบนพื้นพร้อมกับบิดร่างของตัวเองอย่างแรงอีกครั้ง เพื่อบังคับให้ร่างของเขารอดพ้นจากใบมีดสายลมที่อูดี้เรียกขึ้นมาขวางทางเอาไว้
ต่อมาชายหนุ่มก็เคลื่อนที่เว้นระยะห่างออกไปพร้อมกับจ้องมองไปยังอูดี้ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเคร่งเครียด
“ร่างกายของแกยืดหยุ่นดีนี่ ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมนานี่ที่เร็วกว่าแกถึงพลาดท่าให้แกได้ สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับพวกใช้พลังสายความเร็วคือการเปลี่ยนแปลงทิศทางในระหว่างการวิ่งหรือความเร็วสูง แล้วมันก็ดูเหมือนกับว่าเรื่องนี้แกจะทำได้ดีกว่านานี่อย่างเห็นได้ชัด” อูดี้กล่าวด้วยดวงตาอันเป็นประกาย
“ปฏิกิริยาตอบสนองของแกก็เร็วมากเหมือนกัน” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับยกแขนเสื้อขึ้นมาเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก
“พลังความเร็วเป็นพลังพิเศษที่ฝึกฝนจนอยู่ในระดับสูงได้ยากมาก แต่ถ้าหากว่าใครสามารถฝึกฝนความเร็วให้อยู่ในระดับสูงได้สำเร็จ คนพวกนั้นก็จะได้รับพลังที่น่าอัศจรรย์กลับมาเป็นของตอบแทน แม้ว่าในปัจจุบันแกจะมีพลังอยู่ในระดับที่ 5 เท่านั้นแต่พลังการต่อสู้ที่แท้จริงของแกกลับเทียบได้กับนักสู้ระดับ 6 เพราะแบบนี้เองสินะนักสู้ศักดิ์สิทธิ์ที่ฉันได้ส่งออกไปในก่อนหน้านี้จึงถูกแกสังหารลงทั้งหมด แต่อย่าลืมว่าพลังของฉันอยู่ในระดับ 7 แล้วมันก็ไม่มีทางที่แกจะเอาชนะฉันได้” อูดี้กล่าวด้วยรอยยิ้ม
จู่ ๆ สีหน้าของราชาก็เปลี่ยนไปเป็นเศร้าหมอง ก่อนที่เขาจะได้กล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอันเย็นชาว่า
“ความอดทนของฉันมีจำกัด เอากล่องสีดำกับกรงเล็บภูติโลหิตมาซะ! ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าแกเดี๋ยวนี้เลย”
ในเวลาเดียวกันเซี่ยเฟยก็ใช้มือขวาหยิบขนอุยออกมาจากไหล่ ก่อนที่เขาจะใช้วิชาเล่ห์มายาถ่ายเทพลังงานเข้าไปในร่างของเจ้าตัวน้อยอย่างรวดเร็ว
ร่างของขนอุยเริ่มขยายขนาดขึ้นจากเดิมอย่างฉับพลัน ซึ่งในเวลาไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นร่างของมันก็ได้เปลี่ยนเป็นเซี่ยเฟยอีกคน!!
ขนอุยในปัจจุบันไม่เพียงแต่จะมีรูปร่างหน้าตาเหมือนเซี่ยเฟยเท่านั้น แต่ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าและท่าทางการเคลื่อนไหวเฉพาะตัวก็ถูกเลียนแบบไปจากเซี่ยเฟยเช่นเดียวกัน จนทำให้ไม่มีใครสามารถที่จะแยกแยะความแตกต่างระหว่างเซี่ยเฟยทั้งสองคนนี้ได้
“วิชาสร้างร่างแยกงั้นเหรอ!? มันเป็นวิชาที่น่าสนใจดีนี่ แต่สำหรับฉันแกจะมีคนเดียวหรือสองคนมันก็มีตอนจบที่เหมือนกัน!” อูดี้คำรามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
ขนอุยดูคล้ายกับจะไม่คุ้นเคยกับร่างกายที่เป็นมนุษย์ ดังนั้นในระหว่างที่มันพยายามเคลื่อนไหวร่างกายมันจึงทำให้การเคลื่อนไหวของมันดูแปลก ๆ
ขวับ! ขวับ!
อูดี้สะบัดมือ 2 ครั้งโดยส่งใบมีดสายลมเล่มหนึ่งไปยังเซี่ยเฟยและอีกเล่มหนึ่งไปที่ขนอุย
ฟุบ!
เซี่ยเฟยอาศัยวิชาเล่ห์กายาหลบคมมีดไปอย่างฉิวเฉียด แต่ขนอุยไม่ได้โชคดีมากนักทำให้ใบมีดเฉียนเข้าที่ขาขวาจนทำให้เลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก
อ๊าก!
ขนอุยร้องคำรามด้วยความโกรธ เพราะการที่มันได้รับบาดเจ็บจากสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำถือว่าเป็นความอัปยศสำหรับสิ่งมีชีวิตระดับสูงอย่างมันมาก
แม้ว่าขนอุยจะยังอายุน้อยและยังเติบโตไม่เต็มที่ แต่สัญชาตญาณสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ภายในร่างของมันยังคงเต็มเปี่ยม
เสียงคำรามในครั้งนี้ทำให้แม้แต่อูดี้ก็ยังก้าวเท้าถอยหลังออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ และแรงกดดันที่เจ้าตัวน้อยนี่ปล่อยออกมามันก็ทำให้ผู้คนรู้สึกว่าท้องฟ้ากำลังจะถล่มลงมาทับร่างของพวกเขา
ทันใดนั้นขนอุยในร่างของเซี่ยเฟยก็เปล่งแสงสว่างตั้งแต่หัวจรดเท้า พร้อมกับมีพลังงานมหาศาลไหลเวียนทั่วทั้งร่างของมันตลอดเวลา
ขวับ! ขวับ! ขวับ!
เมื่อสัมผัสได้ถึงภัยคุกคามอูดี้ก็ทำการปล่อยคมมีดสายลมออกไป 3 เล่มติดต่อกัน ซึ่งการโจมตีในแต่ละครั้งต่างก็ล้วนแล้วแต่เพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นไปมากขึ้นกว่าเดิม
แม้ว่าจะเห็นคมมีดสายลมที่กำลังพุ่งเข้ามา แต่ในคราวนี้เจ้าตัวน้อยกลับยืนตัวตรงอยู่เฉย ๆ เพื่อเผชิญหน้ากับคมมีดพวกนั้นโดยตรง
ปัง ปัง ปัง!
เมื่อคมมีดสายลมพุ่งเข้าปะทะกับโล่พลังงาน คมมีดพวกนั้นก็แตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ทันที
“เซี่ยเฟย! ขนอุยก้าวหน้าไปอีกขั้นหนึ่งแล้ว ฉันสัมผัสได้เลยว่าพลังงานในร่างของมันเพิ่มขึ้นมาจากเดิมประมาณ 2 เท่าเมื่อเทียบกับในก่อนหน้านี้” อันธอุทานอย่างตื่นเต้น
เซี่ยเฟยพยักหน้ารับและมองไปทางขนอุยอย่างมีความสุข เพราะท้ายที่สุดเจ้าตัวน้อยตัวนี้ก็มักจะทำให้เขาประหลาดใจในช่วงเวลาแบบนี้ได้เสมอ
เมื่อได้เห็นขนอุยสามารถกันการโจมตีจากคมมีดสายลมได้ มันก็ทำให้อูดี้รู้สึกตกใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ท่าทางของขนอุยในตอนนี้ไม่ได้ดูไร้เดียงสาเหมือนกับเมื่อก่อนอีกต่อไป แต่มันกำลังแสดงสีหน้าออกมาอย่างเคร่งเครียดและพุ่งตัวออกไปเข้าหาอูดี้ด้วยความเร็วสูง ซึ่งในเวลาเดียวกันนั้นมันก็เริ่มพ่นลูกบอลพลังงานออกมาจากปาก
ปัง ปัง ปัง!
อูดี้สร้างคมมีดสายลมเข้าไปปะทะกับลูกบอลพลังงาน แต่คมมีดสายลมของเขากลับถูกทำลายในทันทีที่มันได้ปะทะกับลูกบอลแสง ดังนั้นเขาจึงจำเป็นจะต้องปลดปล่อยคมมีดสายลมออกไปอย่างต่อเนื่องเพื่อต่อต้านการจู่โจมของขนอุย
การจู่โจมของทั้งสองฝ่ายปะทะกันโดยตรง ขณะที่ระยะห่างระหว่างทั้งสองยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง
“ตอนนี้แหละ!” เซี่ยเฟยตัดสินใจเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว
จู่ ๆ ความโกรธของขนอุยก็ทำให้เจ้าตัวเล็กตัวนี้มีพลังมากพอที่จะเผชิญหน้ากับอูดี้ได้โดยตรง แต่อย่าลืมว่าการต่อสู้ครั้งนี้ไม่ได้มีขนอุยเข้าร่วมเพียงลำพัง เพราะมันยังมีเซี่ยเฟยและอันธอยู่ในสนามรบแห่งนี้ด้วย
เฟียร์ลิส!
ใบมีดทั้ง 18 เล่มของเซเลสเชียลมูนก่อตัวเป็นรูปไม้กางเขนในอากาศ ก่อนที่ไม้กางเขนที่ส่องสว่างจะพุ่งไปทางอูดี้อย่างรวดเร็ว
คลื่น!!
หินงอกหินย้อยบนเพดานถ้ำร่วงหล่นลงมาทีละก้อนพร้อมกับถ้ำทั้งถ้ำที่กำลังสั่นสะเทือนเหมือนเกิดแผ่นดินไหว และมันก็ทำให้เกิดคลื่นสึนามิลาวาให้เห็นจากระยะไกล ซึ่งสาเหตุที่มันได้เกิดคลื่นกระแทกอันรุนแรงแบบนี้ นั่นก็เพราะเซเลสเชียลมูนกับลูกบอลพลังงานของขนอุยกำลังพุ่งเข้าปะทะกำแพงคมมีดสายลมของอูดี้อย่างรุนแรง
“ทำลายมันไปซะ!” เซี่ยเฟยส่งเสียงร้องคำรามขณะที่ขนอุยก็ส่งเสียงร้องออกมาด้วยเช่นกัน
กำแพงคมมีดของอูดี้ถูกผลักโดยพลังอันรุนแรงจนทำให้ร่างของเขาถูกกดลงไปในพื้นดิน
นี่คือการเผชิญหน้ากันระหว่างพลังอย่างแท้จริง ซึ่งพลังของอูดี้เพียงลำพังก็ไม่สามารถที่จะสู้การประสานพลังระหว่างเซี่ยเฟยกับขนอุยได้
คลื่น!
จู่ ๆ อูดี้ก็สัมผัสได้ถึงแรงปะทะจากทางด้านหลัง ซึ่งมันก็หมายความว่าเขาได้ถูกพลังของอีกฝ่ายดันจนไปชิดกับขอบของถ้ำแล้ว
ในอีกด้านหนึ่งเซี่ยเฟยกับขนอุยก็ไม่ได้มีท่าทีที่จะหยุด โดยพวกเขายังคงระเบิดพลังงานออกไปอย่างต่อเนื่องเพื่อพยายามกำจัดศัตรูลงไปให้ได้
การดวลพลังแบบนี้เป็นการต่อสู้ที่แทบจะไม่ได้ใช้เทคนิคใด ๆ ออกมาเลย เพราะทั้งสองฝ่ายต่างก็พยายามผลักพลังงานที่รุนแรงที่สุดของตัวเองออกไป และถ้าหากว่าใครผ่อนแรงแม้แต่นิดเดียวพวกเขาก็จะถูกพลังงานทั้งหมดซัดสาดเข้ามาพร้อม ๆ กัน
อั๊ก!
เซี่ยเฟยกระอักเลือดออกมาจากปากเนื่องมาจากว่าเขาฝืนใช้เฟียร์ลิสมานานเกินไป เพราะท้ายที่สุดการพยายามฝืนใช้วิชานี้ก็สร้างภาระให้กับร่างกายของเขาอย่างหนัก แล้วมันก็ไม่จำเป็นจะต้องพูดถึงการพยายามฝืนใช้วิชานี้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานเลย
ความเป็นจริงการปะทะกันในครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการวัดพลังกันเท่านั้น แต่มันยังเป็นการวัดความมุ่งมั่นของแต่ละฝ่ายด้วยว่าใครจะสามารถทนรับแรงกดดันไปได้จนจบ
แม้ว่าความโกรธของขนอุยจะทำให้พลังของมันขึ้นมาเทียบชั้นกับอูดี้ได้เป็นการชั่วคราว แต่เซี่ยเฟยก็สามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานในร่างของเจ้าตัวเล็กจากพันธสัญญาที่เชื่อมโยงกันว่า พลังงานภายในร่างของขนอุยนั้นกำลังอ่อนแอลงเรื่อย ๆ
แต่ถึงกระนั้นความมุ่งมั่นของขนอุยก็ไม่ได้มีน้อยไปกว่าเซี่ยเฟย คู่หูมนุษย์สัตว์อสูรจึงกลายเป็นกระทิงขี้โมโหที่พยายามกระหน่ำจู่โจมเข้าใส่อูดี้โดยไม่คำนึงถึงผลลัพธ์ที่จะตามมา
ปฎิเสธไม่ได้ว่าอูดี้เป็นนักรบที่แข็งแกร่งกว่าเซี่ยเฟยมาก แต่ตอนนี้ชายหนุ่มก็ไม่ได้ต่อสู้อยู่เพียงลำพัง เพราะเขามีอสูรศักดิ์สิทธ์มารขาวคอยต่อสู้อยู่เคียงข้างกับเขาด้วย
แม้ว่าขนอุยจะยังเด็กมากแต่มันก็ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่านับตั้งแต่วันที่มันเกิดมา สัตว์อสูรศักดิ์สิทธิ์ตัวนี้ก็มีพลังมากพอที่จะข่มขู่สัตว์อสูรทั่วทั้งจักรวาล
ร่างของอูดี้ค่อย ๆ ถูกดันเข้าไปในหินและในฐานะของผู้ที่มักจะใช้ความคิดตลอดเวลา อูดี้จึงพยายามหาวิธีแก้ไขสถานการณ์อย่างบ้าคลั่งว่าเขาควรจะทำยังไงให้เซี่ยเฟยยอมแพ้ไปจากสถานการณ์ที่วิกฤตินี้
แต่ทางฝ่ายของเซี่ยเฟยกับขนอุยก็เป็นเหมือนกับคนบ้าที่สิ้นหวัง 2 คน ภายในหัวของพวกเขาจึงไม่ได้มีความคิดอะไรเลยนอกเสียจากความคิดเพียงอย่างเดียว นั่นก็คือพวกเขาจะไม่มีวันยอมแพ้อย่างเด็ดขาด
การต่อสู้ในครั้งนี้มีผลลัพธ์ออกมาได้เพียงแค่ 2 ทางคืออูดี้ถูกพลังถล่มจนตายหรือไม่ก็เป็นฝ่ายพวกเขาที่ถูกพลังถล่มจนตายแทน
***************
ยังไง? จะตัดสินแล้วใช่ไหม ย๊ากกกกกกกก!