1044 - ดับสูญจนหมดสิ้น
“อา…”
ลู่หยาตะโกนพร้อมกับถืออาวุธศักดิ์สิทธิ์พุ่งเข้าหาเย่ฟ่านอีกครั้ง
“เจ้าพ่ายแพ้ไปแล้ว ต่อให้ได้รับความช่วยเหลือจากบิดาของเจ้าจนมีพลังฟื้นคืนกลับมาอีกครั้งมันจะมีประโยชน์อะไร!”
เย่ฟ่านเย้ยหยันและก้าวไปข้างหน้าโดยปราศจากความกลัวใดๆ เลย
“เจ้ากำลังกล่าวถึงอะไร!”
ลู่หยาโกรธมาก เขาเป็นองค์ชายที่ได้ชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุดของเผ่าพันธุ์ แต่เย่ฟ่านกลับมองเขาด้วยสายตาเหยียดหยาม เรื่องนี้จะให้เขาอดกลั้นได้อย่างไร
“ข้าจะส่งเจ้าไปตามทาง!”
เย่ฟานไม่ต้องการกล่าวอะไรอีก ในขณะนั้นเขากดเตาหลอมเซียนลงไปด้านล่างเพื่อจบการต่อสู้ครั้งนี้โดยตรง
พลังของเตาหลอมเซียนนั้นสูงกว่าปีกสีทองสีดำ เพราะมันถูกสร้างขึ้นโดยมือของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่นิรันดร์กาล เพียงคลื่นพลังของมันที่ถูกปลดปล่อยออกมาก็แทบจะทำให้โลกทั้งใบสั่นสะเทือนอย่างไม่รู้จบแล้ว!
ใบหน้าของลู่หยาซีดเซียว อย่างไรก็ตามในขณะนั้นสัญชาตญาณของเขาบอกว่าบิดาของเขากำลังมุ่งหน้ามาในทิศทางนี้อย่างรวดเร็ว และสิ่งที่เขาต้องทำตอนนี้ก็แค่ยื้อเวลาให้ได้นานที่สุดเท่านั้น
“อัญเชิญธงบรรชน!”
ในพริบตา ท้องฟ้าถูกปกคลุมธงสีดำผืนใหญ่ ความร้อนที่ไม่สิ้นสุดกวาดไปทั่วท้องฟ้าพร้อมกับเสียงคำรามที่ดังกึกก้องราวกับเสียงกองทัพม้านับหมื่นที่ควบตะบึงอยู่ในสนามรบ
เปลวเพลิงที่ไม่สิ้นสุดโหมกระหน่ำไปทุกทิศทุกทาง นี่คือการอัญเชิญภาพธรรมของบรรพชนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเผ่าอีกาทอง!
ในอดีตบรรพชนอีกาทองเป็นหนึ่งในอสูรผู้ยิ่งใหญ่ที่อยู่ในระดับเดียวกันกับมังกรที่แท้จริงและเฟิ่งหวงศักดิ์สิทธิ์ ขอเพียงทะลวงไปอีกขั้นมันก็จะกลายเป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แล้ว
น่าเสียดายที่แต่ละยุคสมัยนั้นอนุญาตให้มีจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่เพียงคนเดียว ดังนั้นบรรพชนอีกาทองจึงต้องพบกับความผิดหวังและพ่ายแพ้เสียชีวิตในบั้นปลาย
ในขณะเดียวกันยอดฝีมือของเผ่าพันธุ์อีกาทองก็เริ่มปรากฏตัวขึ้นบนท้องฟ้า พวกเขาถูกเรียกระดมมาจากทุกทิศทุกทางเพื่อช่วยชีวิตของลู่หยาอย่างไม่ต้องสงสัย
“สังหารมัน”
ธงทั้งแปดผืนโบกสะบัด วิญญาณอีกาทองที่มีร่างกายสูงใหญ่หลายหมื่นวาปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า เพียงคลื่นความร้อนที่แผ่ออกมาจากร่างของมันก็สามารถเผาไหม้สวรรค์พิภพให้กลายเป็นเถ้าถ่านได้แล้ว นับประสาอะไรกับมนุษย์ธรรมดา
เผ่าอีกาทองใช้ความพยายามอย่างหนักเพื่อฆ่าเย่ฟ่าน นอกจากลู่หยาที่ถืออาวุธศักดิ์สิทธิ์แล้วยังมีปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์อีกหลายสิบคนปรากฏตัวขึ้น
“มันไร้ประโยชน์ แม้ว่าเจ้าจะเรียกระดมกำลังมาทั้งเผ่าพันธุ์ เจ้าก็ไม่สามารถเอาตัวรอดออกจากที่นี่ได้”
เย่ฟ่านเคลื่อนไหวเตาหลอมเซียนของเขาพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
“ข้าไม่เชื่อว่าด้วยพลังของเผ่าอีกาทองจะไม่สามารถต่อต้านอาวุธศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าได้!” ลู่หยาคำราม
ศักยภาพของเขาเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ร่างกายของเขาดูเหมือนสุริยเทพที่เต็มไปด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์อันล้นหลาม
“บูม”
ภายใต้อำนาจของธงสีดำ 8 ผืน ภาพธรรมของบรรพชนอีกาทองที่มีขนาดใหญ่โตกว่าหมื่นวาพุ่งลงมาจากท้องฟ้าโดยมีเป้าหมายอยู่ที่เย่ฟ่าน
“บูม”
โลกทั้งใบสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ศักยภาพของลู่หยากำลังลุกเป็นไฟ เขาใช้ปีกสีดำซึ่งเป็นอาวุธครึ่งก้าวเต๋าสุดขั้วฟาดฟันเตาหลอมเซียนอย่างบ้าคลั่ง
“มันจบลงแล้ว”
เย่ฟ่านตะโกนอย่างเย็นชา ในขณะนี้สีหน้าของเขาเย็นชาอย่างถึงที่สุด ในเวลาเดียวกันกะโหลกศีรษะขนาดเล็กซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นกะโหลกศีรษะของสตรีก็ปรากฏขึ้นในมือของเขา
“กะโหลกของจักรพรรดินี!” ผู้คนจำนวนมากอุทานด้วยความหวาดกลัว
หัวกระโหลกนี้เปล่งประกายสดใสราวกับอัญมณีที่งดงามที่สุด คลื่นความเย็นที่แผ่ออกมาจากกะโหลกศีรษะนั้นกวาดขึ้นไปบนท้องฟ้าและทำให้การโจมตีของบรรพชนอีกาทองไร้ผลลัพธ์ทันที
จากนั้นเตาหลอมเซียนก็ปลดปล่อยคลื่นพลังที่ไม่สิ้นสุดออกมาพร้อมกับแท่นบูชาโบราณที่ปรากฏตัวขึ้นบนท้องฟ้า คลื่นพลังที่แข็งแกร่งนั้นซัดร่างกายของลู่หยาให้ปลิวกระเด็นออกไปไกลกว่าร้อยลี้
แม้จะมีอาวุธขึ้นก้าวเต๋าสุดขั้วอยู่ในมือแต่เขาก็ไม่มีทางต้านทานการโจมตีจากสมบัติแห่งจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ได้
“กรี๊ดดด”
ในขณะนี้คลื่นความเย็นที่แผ่ออกมาจากกะโหลกศีรษะของจักรพรรดินีไท่หยินกำลังคุกคามร่างกายของบรรพชนอีกาทองให้สูญสลายไปในความว่างเปล่า เสียงกรีดร้องที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดดังก้องสวรรค์พิภพ
อย่างไรก็ตามในขณะนั้นดวงตาข้างหนึ่งได้ปรากฏขึ้นเบื้องบนศีรษะของบรรพชนอีกาทอง มันเป็นดวงตาที่มีความเย็นชาอย่างถึงที่สุด และเป้าหมายที่สายตานี้จับจ้องก็คือเย่ฟ่านที่กำลังไล่ล่าหมายเอาชีวิตของลู่หยา
แน่นอนว่าเจ้าของดวงตาคู่นี้คือราชาฎีกาทอง การดำรงอยู่ที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง คนรุ่นราวคราวเดียวกันกับเขาต่างตายไปจนหมดแล้ว และในปัจจุบันมีผู้คนจำนวนมากเชื่อว่าเขาคือสิ่งมีชีวิตอมตะที่แท้จริง!
ทันทีดวงตาของเขาตื่นขึ้นลู่หยาที่กำลังตกอยู่ในความสิ้นหวังก็ดูเหมือนจะฟื้นคืนพลังศักดิ์สิทธิ์ได้อีกครั้ง ร่างของเขาเปล่งประกายด้วยแสงสีทองอย่างไม่สิ้นสุดทันที
“เด็กน้อย นี่หรือคือสิ่งที่เจ้าพึ่งพา”
ราชาอีกาทองปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งในสนามรบมือขนาดใหญ่ของเขาได้ตบไปที่เตาหลอมเซียนซึ่งกำลังไล่ล่าลู่หยาอย่างไม่สิ้นสุด
ปัง!
“เปลี่ยนแปลงภาพธรรมเป็นร่างจริง!” ทุกคนที่เห็นฉากนี้ต่างตกตะลึง
“ท่านพ่อ!”
ลู่หยาตะโกนด้วยความตื่นเต้น เขาไม่ได้พบกับบิดาของตัวเองมาเป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว และดูเหมือนราชาอีกาทองที่ปรากฏตัวในตอนนี้จะแข็งแกร่งกว่าเมื่อหลายปีก่อนด้วยซ้ำ!
ครั้งนี้ ร่างของราชาอีกาทองปรากฏตัวขึ้นมาอย่างแท้จริง นี่คือชายวัยกลางคนที่แข็งแกร่งราวกับเทพอสูร เพียงการปรากฏตัวของเขาก็ทำให้ผู้คนจำนวนมากสูดลมหายใจอย่างหนาวเหน็บ
เย่ฟ่านถูกกระแทกปลิวกระเด็นออกไปไกลพร้อมกับเตาหลอมเซียน ร่างกายของเขาสั่นสะท้านอย่างรุนแรง เพียงการโจมตีครั้งเดียวของฝ่ายตรงข้ามแม้แต่วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็ยังมีรอยแตกปรากฏขึ้น
ในขณะนี้เขายืนอยู่อีกฟากหนึ่งของท้องฟ้าและจ้องมองราชาอีกาทองด้วยความระมัดระวัง
“ช่างเป็นเด็กน้อยที่น่าสนใจเหลือเกิน พรสวรรค์ของเจ้าดูเหมือนจะสูงส่งกว่าหยินเทียนเต๋อด้วยซ้ำ”
น้ำเสียงของราชาอีกาทองทำให้ผู้คนขนลุกหรือความหวาดกลัว
“ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ได้ปรากฏตัวขึ้นที่นี่จริงๆ และต่อให้เจ้ามาที่นี่ได้ลู่หยาก็ไม่มีทางรอดชีวิตอยู่ดี!” เย่ฟ่านตะโกน
“เมื่อข้ามาถึงแล้วเจ้าจะใช้อะไรคุกคามชีวิตของเขา?”
เสียงของราชาอีกาทองดังมาจากระยะไกลและก้องกังวาลไปทั่วสนามรบ
“อย่าว่าแต่เจ้าอยู่ที่นี่ข้าจะฆ่าเขาไม่ได้เลย แม้แต่ตัวเจ้าข้าก็จะฆ่าเช่นกัน!” เย่ฟานกล่าวอย่างหนักแน่น
“อย่างนั้นหรือ...”
ราชาอีกาทองยังคงเฉยเมย ราวกับว่าเขาไม่สนใจทุกสิ่งในโลกนี้
“บูม”
ทันใดนั้นดวงตาคู่ใหญ่ที่ลอยอยู่เหนือท้องฟ้าก็ปลดปล่อยแสงศักดิ์สิทธิ์ยิงเข้าหาเย่ฟานเรากับสายฟ้า!
คลื่นความร้อนที่แผ่ออกมาจากลำแสงสีทองคู่นั้นเผาไหม้ความว่างเปล่าให้สั่นไหวอย่างรุนแรง พื้นที่ในรัศมีนับร้อยลี้ถูกเผาผลาญกลายเป็นทะเลเพลิงที่ไม่สิ้นสุด!
แม้ว่าเย่ฟานจะใช้เตาหลอมเซียนปกป้องตัวเอง แต่ร่างของเขายังคงมีรอยแตกปรากฏขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
“เย่ฟ่านไปกันเถอะ!” หลี่เทียนและเอี๋ยนอี้ซีตะโกนด้วยความกลัว
“นี่เป็นเพียงภาพธรรมที่ปรากฏตัวขึ้นได้ชั่วคราวเท่านั้น ไม่ว่าอย่างไรข้าก็ต้องนำหัวของลู่หยาออกไปจากที่นี่ให้ได้!” เย่ฟ่านกล่าวอย่างเฉียบขาดและกระตุ้นเตาหลอมเซียนให้พุ่งไปข้างหน้าอีกครั้ง
“หากเจ้ามีอาวุธขึ้นก้าวเต๋าสุดขั้วอีกชิ้นอาจยังพอมีโอกาส อะไร!”
ราชาอีกาทองกล่าวด้วยสีหน้าดูถูกเหยียดหยาม แต่ทันใดนั้นใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างรุนแรง
เพราะในขณะนี้กะโหลกจักรพรรดินีของเย่ฟานได้หมดขยี้ธงค่ายกลบรรพชนของเขาจนหมดสิ้น พลังของมันไม่ต้องสงสัยเลยว่าแข็งแกร่งไม่เป็นรองอาวุธครึ่งก้าวเต๋าสุดขั้วทุกชิ้นในโลกนี้!
ปัง!
ในขณะเดียวกันปีกสีดำและเตาหลอมเซียนในมือของเย่ฟานก็ปะทะกันอย่างรุนแรงแล้ว
ในขณะนี้ใบหน้าของราชาอีกาทองเย็นชาอย่างถึงที่สุด เขาต้องการที่จะช่วยเหลือชีวิตของบุตรชาย แต่เมื่อกะโหลกศีรษะของจักรพรรดินีทำลายธงค่ายกลแล้ว มันจึงเปลี่ยนเป้าหมายมาที่เขาทันที
ร่างของลู่หยาถูกทุบเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของเขาพยายามพาอาวุธขึ้นก้าวเต๋าสุดขั้วหลบหนีอย่างสิ้นหวัง
สาเหตุที่เขาทำเช่นนี้ไม่ใช่เพราะตัวเขามีความโลภและต้องการปกป้องปีกสีดำนี้ให้ได้ ในทางตรงกันข้ามปีกสีดำที่เป็นอาวุธครึ่งก้าวเต๋าสุดขั้วต่างหากที่กำลังปกป้องวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของเขาอยู่!
“ปัง!”
ภายใต้เสียงระเบิดที่ดังขึ้นอีกครั้ง ปีกสีดำปลิวกระเด็นออกไปไกลหลายร้อยลี้ วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของลู่หยาถูกเตาหลอมเซียนบดขยี้กลายเป็นฝุ่นผงท่ามกลางสายตาตกตะลึงของทุกคน
“เด็กน้อย เจ้าจะต้องตายอย่างแน่นอน…”
ราชาอีกาทองดูเหมือนจะไม่ได้เศร้าเสียใจกับการตายของบุตรชายคนสุดท้ายแม้แต่น้อย เขายังคงมองเย่ฟานด้วยสายตาเฉยเมยไร้ซึ่งอารมณ์ความรู้สึกเจือปน!