ตอนที่แล้วบทที่ 209 : ทรัพย์สินมูลค่าสุทธิกว่าล้านล้านเหรียญ​!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 211 : พรสวรรค์ทางจิตวิญญาณของฉันค่อนข้างแย่

บทที่ 210 : เพื่อนเก่ากลับมารวมตัวกัน!


บทที่ 210 : เพื่อนเก่ากลับมารวมตัวกัน!

วันถัดมา

ณ​ โรงแรมตระกูลตงฟาง

ฟุ่บ!

“กัปตัน​ ฉันคิดถึงคุณมากเลย”

ทันใดนั้นร่างกำยำราวกับเนินเขาก็พุ่งเข้าหาชูโจว

"หยุด…….ซีเหมิงฉันไม่ได้มีงานอดิเรกเเบบนั้น, นายควรหาคนอื่น"

ชูโ​จว​ผู้สงบนิ่งมากในขณะที่​ต้องเผชิญหน้ากับสิบแปดนักรบขั้นราชา​ของโลกตะวันตก

แต่ในขณะนี้การแสดงออกของเขาเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน

ด้วยความเร็วที่แม้แต่นักรบขั้นราชาก็มองเห็นได้ไม่ชัด เขาหลบอ้อมกอดอันอบอุ่นของร่างกำยำนั้นทันที

“กัปตัน​ไม่รักฉันแล้วหรอ”

และเมื่อซีเหมิงเห็นหญิงสาวสามคนที่อยู่ข้างหลังชูโจว…. อย่างลี่เกอ, ตงฟางหมิงจูและหยางเจิ้นเจิน……..เขาก็กระพริบตาและแสดงความไม่พอใจต่อผู้หญิงทั้งสามคนทันที

“กัปตัน, เพราะคุณมีสามสาวงามเเล้ว……… ดังนั้นคุณจะลืมฉันในฐานะลูกน้องสุดที่รัก​โดยธรรมชาติ”

หญิงสาวทั้งสามคนรู้ว่าซีเหมิงกำลังหยอกล้อ​ชูโ​จว……ดังนั้นพวกเธอจึงได้แต่อมยิ้ม

เมื่อได้ยินคำพูด​ของซีเหมิง….. ปากของชูโ​จว​ก็กระตุกเล็กน้อย​

จากนั้นเขาจ้องมองเขม็งไปที่ซีเหมิงที่กำลังหัวเราะอย่างสนุกสนาน

"ดูเหมือนว่าซีเหมิงจะมีความสุขกับชีวิตที่สุขสบายมากในช่วงเวลาที่ฉันไม่ได้อยู่นี้"

“นายอยากให้ฉันโยนนายลงไปในถ้ำมอนสเตอร์เพื่อฝึกฝนสักสองสามเดือนไหม”

เมื่อซีเหมิงเห็นดวงตาที่ 'พร้อมที่จะเคลื่อนไหว' ของชูโ​จว……หนังศีรษะของเขารู้สึกเสียวซ่าไปชั่วขณะ

โยนเขาเข้าไปในถ้ำมอนสเตอร์เพื่อฝึกฝนสักสองสามเดือน?

เเบบนี้เขาจะรอดกลับมา​ใหม?

“ฮ่าฮ่าฮ่า กัปตัน, คุณล้อเล่นเเล้ว

ฉันอยู่แนวหน้า​เพื่อ​ต่อสู้กับมอนสเตอร์ตลอดเวลา…….ฉันไม่ได้ขาดการฝึกฝนเลย ดังนั้นไม่ต้องรบกวนกัปตัน​หรอก” ซีเหมิงรีบโบกมือและยิ้มอย่างซุกซน

"เเต่ฉันคิดว่าคำแนะนำของกัปตันเป็นสิ่งที่ดีนะ" หลี่ชิงฉีเดินออกมาจากด้านหลัง ซีเหมิงเเละพูดติดตลก

"หลี่ชิงฉีของฉัน อย่าสร้างปัญหา…….. ถ้ากัปตัน​โยนฉันเข้าไปในถ้ำของมอนสเตอร์เป็นเวลาสองสามเดือนจริงๆ"

"เเล้วเเบบนั้นฉันจะอยู่อย่างไร" ซีเหมิง มองหลี่ชิงฉีด้วยสายตาวอเเว

อีกด้านหลิงซานก็ออกมาจากด้านหลังเเละทักทาย​ชูโ​จว​เช่นกัน "สวัสดี​กัปตัน"

ชูโ​จว​ยิ้มและพยักหน้า

ในตอนนี้เขาสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของ หลิงซาน, ซีเหมิง และ หลี่ชิงฉี และพบว่าพวกเขาทั้งหมดได้รับการเลื่อนขั้นเป็นนักรบขั้นพิเศษ​ระดับสูงเเล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น, ความผันผวนของพลังของพวกเขานั้นยังแข็งแกร่งกว่านักรบขั้นพิเศษ​ระดับสูงทั่วไปมาก

เเละเห็นได้อย่างชัดเจน​ว่าพวกหลิงซานทั้งสามคนนั้นจะได้รับการเลื่อนขั้นเป็นผู้ควบคุมในเวลาอีกไม่นาน

ในเวลาไม่ถึงหนึ่งปีพวกหลิงซานทั้งสามคนได้รับการเลื่อนขั้นจากระดับปลุกพลัง​ขั้นต้นไปสู่ระดับพิเศษ​ขั้นสูง

และเหลืออีกเพียงก้าวเดียวเท่านั้นที่จะได้รับการเลื่อนขั้นเป็นผู้ควบคุม

ความเร็วในการเลื่อนระดับนี้นั้นยังห่างไกลมากถ้าเทียบเคียงกับชูโจว

แต่ที่จริงการพัฒ​นาของพวกเขา​ก็ถือว่าเร็วมากอยู่แล้ว

ในมุมมองของชูโ​จว​พรสวรรค์​ของพวกหลิงซานทั้งสามนั้นไม่ได้เลวร้ายไปกว่าเซี่ยหลง​หยวน​และอัจฉริยะ​คนอื่นๆเลย

ไม่แน่……. ในอีกปีหรือสองปี

พวกหลิงซานทั้งสามคนอาจจะตามเซี่ยหลงหยวนและอัจฉริยะ​คนอื่นๆทันก็ได้

ชูโ​จว​รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นหลิงซานและคนอื่นๆมีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วเเบบนี้

จากนั้นชูโ​จว​ก็นำพวกหลิงซานทั้งสามไปที่เตาย่างบาร์บีคิวขนาดใหญ่

บนเตาย่าง, มีชิ้นเนื้อมอนสเตอร์ที่ถูกย่างจนเป็นสีน้ำตาลทองเเละส่งกลิ่นหอมฉุนออกมา

เนื้อมอนสเตอร์เหล่านี้ได้รับการจัดเตรียมเป็นพิเศษโดยตงฟาง​หมิง​จู​และพวกมันล้วนเป็นเนื้อของมอนสเตอร์ระดับขอบเขต​

"จุ๊จุ๊ ดูเหมือนว่านี่จะเป็นเนื้อของมอนสเตอร์ระดับขอบเขต"

"ฉันไม่ได้กินอะไรดีๆแบบนี้อีกเลยนับตั้งแต่กัปตัน​ออกจากแนวหน้าไป"

ซีเหมิงจ้องมองไปที่ชิ้นเนื้อมอนสเตอร์ที่มีลวดลายสายฟ้าด้วยความตื่นเต้น​และเผลอกลืนน้ำลายอย่างลืมตัว​

“มันก็เเค่เนื้อของมอนสเตอร์ระดับขอบเขต…….ซีเหมิง,​ นายอย่าทำตัวให้หน่วยใบมีด​ของเราอับอายจะได้ใหม​”

หลี่ชิงฉีพูดด้วยความโกรธเมื่อเห็นท่าทางที่หิวโหยของซีเหมิง

“หลี่ชิงฉี…….ตระกูลหลี่ของเธอเป็นมหาเศรษฐี, ดังนั้นเธอจึงไม่ขาดแคลนเนื้อมอนสเตอร์ระดับขอบเขตโดยธรรมชาติ”

“อย่างไรก็ตาม, คนจนอย่างฉันไม่​เหมือนกัน……. ฉันไม่สามารถซื้อเนื้อมอนสเตอร์ระดับขอบเขต​ได้เลย”

"แต่ตอนนี้ฉันมีโอกาสที่จะได้กินอาหารดีๆเเบบนี้…… เเล้วฉันจะอดกลั้น​ไว้​ได้​อย่างไร”

ซีเหมิงหัวเราะ, จากนั้นโดยไม่คำนึงถึงสิ่งใด……..เขาก็หยิบบาร์บีคิวชิ้นหนึ่งขึ้นมาและกินมันเต็มปากเต็มคำ

เมื่อชูโจวและคนอื่น ๆ เห็นสิ่งนี้ พวกเขาทั้งหมดก็ได้เเต่ยิ้มแล้วเริ่มทานบาร์บีคิว​กัน

ทุกคนกินเนื้อและดื่มด้วยกันพร้อมพูดคุยเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันของพวกเขา ในบรรยากาศที่เป็นไปอย่างกลมกลืน

"กัปตัน…… คุณยิ่งใหญ่มาก!"

"ในเมืองฐานเย่ไห่, คุณฆ่าราชางูชูฉางชิง, ราชาคู่ของตระกูล​เจียง, ซานหยูขององค์กรจันทร์​เดือน​ดับ​, ออเกอร์​-เอิร์นของตระกูล​เอิร์น"

"หลังจากนั้นคุณก็บุกโจมตีโลกตะวันตกเพียงลำพัง ทำลายล้างตระกูลเอินส์และตระกูลใหญ่​อีกหกตระกูล แถมสังหารนักรบขั้นราชาไปสิบแปดคน!"

“กัปตัน​ไม่รู้หรอกว่านักรบในแนวหน้าเหล่านั้นอิจฉาพวกเรามากแค่ไหนหลังจากที่รู้ว่าคุณเป็นกัปตันของเรา”

“ฮ่าฮ่าฮ่า น่าเสียดายที่พวกเขาไม่มีโชคอย่างพวกเราที่ได้ตั้งทีมกับคุณ”

ซีเหมิงตะโกนอย่างตื่นเต้นขณะกินเนื้ออยู่เต็มปาก

หลี่ชิงฉีหัวเราะและพูดเสริมว่า

“ตอนอยู่ในแนวหน้า นักรบหนุ่มเหล่านั้นเกือบจะเป็นแฟนคลับ​ของกัปตันทั้งหมดแล้ว!”

ด้านชูโจวก็ตกตะลึงเมื่อได้ยินคำพูดนั้น

เขาไปโลกตะวันตกเพื่อแก้แค้นตระกูลเอิร์นและตระกูลเมดิชิ

เเละเขาไม่ได้คาดคิดว่ามันจะทำให้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ในฝั่งตะวันตก………นับประสาอะไรกับแฟนคลับจำนวนมากที่เกิดขึ้น​เพราะเหตุการณ์​นี้

……..

“สถานการณ์ในแนวหน้าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?” ชูโจวถาม

ลี่เกอ, ตงฟางหมิงจู และ หยางเจิ้นเจิน ก็มองไปที่พวกหลิงซานอย่างอยากรู้อยากเห็นเช่นกัน

พวกเธอทั้งหมดอยู่ในเมืองฐานกวางตุ้ง

แม้ว่าพวกเธอจะสามารถได้รับข่าวของแนวหน้าผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้…แต่มัยก็จะไม่ชัดเจนเท่ากับหลิงซานทั้งสามคนที่อยู่ในแนวหน้าเป็นคนบอก

ซีเหมิงและหลี่ชิงฉีซึ่งค่อนข้างมีความสุขในตอนแรก…รู้สึกหดหู่เล็กน้อยหลังจากได้ยินคำถามของชูโ​จว​

"ให้ฉันบอกคุณเอง" หลิงซานกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง

“สถานการณ์ในแนวหน้าเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆเเล้วในตอนนี้”

"ก่อนหน้านี้ ผู้บัญชาการลู่ได้ทำการโจมตีตอบโต้และสังหารมอนสเตอร์ระดับขอบเขต​จำนวนมาก…...เเละการกระทำนั้นมีบทบาทอย่างมากที่ทำให้การโจมตีของฝูงมอนสเตอร์อ่อนแอลง"

"แต่วันดีๆเเบบนั้นกลับอยู่ได้ไม่นานเพราะ​ 'วันแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่' ที่มาถึง"

"นับตั้งแต่ 'วันแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่' มาถึง……. ฝูงมอนสเตอร์ก็เริ่มมีการโจมตี​ที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ"

“ในช่วงเเรก, มอนสเตอร์ในกองทัพ​มอนสเตอร์นั้นเป็นระดับทั่วๆไป”

"แต่ต่อมา, มันค่อยๆมีมอนสเตอร์ระดับพิเศษ​มากขึ้นเรื่อยๆ……เเละแม้แต่มอนสเตอร์ระดับควบคุมและมอนสเตอร์ระดับขอบเขต​ก็ค่อยๆ ปรากฏขึ้น"

"จนถึงตอนนี้ ไม่เพียงแต่จำนวนของมอนสเตอร์ระดับควบคุมและมอนสเตอร์ระดับขอบเขต​เท่านั้นที่เพิ่มมากขึ้น……..แต่จำนวนของราชามอนสเตอร์ที่ควบคุมกองทัพ​มอนสเตอร์ก็เพิ่มขึ้นจำนวน​ขึ้นเช่นกัน"

“แรงกดดันในแนวหน้าสูงมากในตอนนี้………เเละเมื่อเจ็ดวันก่อน เพื่อบรรเทาความกดดันในแนวหน้า…..…ผู้บัญชาการลู่จึงดำเนินการเป็นการส่วนตัวเพื่อสังหารราชามอนสเตอร์[อินทรีสายฟ้าปีกทอง]”

"อย่างไรก็ตาม, ข้าไม่คาดคิดว่าจะถูกอินทรีสายฟ้าปีกทองและราชามอนสเตอร์ อีกสองตัวดักซุ่มอยู่​"

"ยังโชคดีที่ผู้บัญชาการลู่มีพลังมหาศาล…… ดังนั้นเขาจึงรอดพ้นจากการซุ่มโจมตีของราชามอนสเตอร์ทั้งสามและกลับมาที่ฐานได้อย่างปลอดภัย"

"อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการลู่ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสเมื่อเขากลับมา" หลิงซานกล่าว​อย่างกังวล​

ในเวลานี้ซีเหมิงก็วางบาร์บีคิวและไวน์ในมือของเขาลงและสาปแช่ง

"ให้ตายเถอะ, ฉันสงสัยจริงๆว่าราชามอนสเตอร์ และองค์กรทั้งสามอย่างองค์กรจันทร์เดือนดับ, องค์กรโลก และ กลุ่มพันธมิตรเงากำลังสมรู้ร่วมคิดอยู่เบื้องหลัง"

"มิฉะนั้นหลังจาก 'วันแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่' กองทัพ​ของมอนสเตอร์จะเพิ่มความแข็งแกร่งในการโจมตีในทันทีได้อย่างไร"

หลี่ชิงฉียังกล่าวเสริมอีกว่า

"สถานการณ์ตอนนี้เลวร้ายมากจริงๆ หลังจาก 'วันแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่' มาถึงการสนับสนุนเมืองฐานของกวางตุ้งไปยังแนวหน้าก็ลดลงอย่างรวดเร็ว​"

"ไม่ว่าจะเป็นนักรบ ทหาร หรืออาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆหลังจาก 'วันแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่' การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่' โดยพื้นฐานแล้วแนวหน้าไม่ได้รับการเติมเต็มอีกเลย"

"ตรงกันข้าม​กับการโจมตีของกองทัพมอนสเตอร์ที่รุนแรงขึ้นทุกครั้ง"

“เเล้วฉันยังรู้ด้วยว่าโรงยิมหลักสามแห่งและพันธมิตรมนุษย์นั้นยากที่จะสนับสนุนแนวหน้าต่อไปได้”

"แต่ถ้ายังเป็นเช่นนี้ต่อไป แนวหน้าอาจจะไม่สามารถต้านทาน​กองทัพ​มอนสเตอร์ได้อีกเเล้ว"

"ในเวลานั้น เมื่อกองทัพ​มอนสเตอร์ที่ไม่มีที่สิ้นสุดบุกเมืองมนุษย์ของเรา"

"มันก็จะเป็นหายนะที่น่ากลัวยิ่งกว่า 'วันแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่' เสียอีก"

"เเถมเท่าที่ฉันรู้มาก……..มันไม่ใช่แค่แนวหน้าทางตอนใต้ของภูมิภาคกวางตุ้งของเราเท่านั้น​ที่อยู่ในสถานการณ์เช่นนี้"

"แนวหน้าในทุกเมืองหลักทั่วโลกก็กำลังเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้"

"และปัญหานี้ร้ายแรงมาก หากไม่ได้รับการแก้ไขได้ทันเวลา……. มนุษย์เราอาจตกอยู่ในอันตรายจากการถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ก็เป็นได้"

ชูโ​จว​, ลี่เกอ, ตงฟางหมิงจู, หยางเจิ้นเจินต่างตกตะลึง​เมื่อได้ยินคำพูดของหลี่ชิง​ฉี​

ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าสถานการณ์ในแนวหน้าจะรุนแรงถึงเพียงนี้

………..

"ดูเหมือนว่าหลังจาก 'วันแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่' ได้มาถึง"

"พวกเราหลายคนมุ่งความสนใจไปที่องค์กรใหญ่​สามแห่งอย่าง, องค์กรจันทร์​เดือน​ดับ, องค์กรโลก และกลุ่มพันธมิตรเงา…….จนเราลืมไปเเล้วว่ามอนสเตอร์ก็เป็นศัตรู​ที่ใหญ่ที่สุดของมนุษย​ชาติ​เช่นกัน​” ชูโ​จว​กล่าวพร้อม​กับถอนหายใจ

ลี่เกอที่เห็นชูโจวถอนหายใจ​ ก็อดไม่ได้ที่จะอธิบายเพิ่ม

"คุณไม่ต้องกังวลขนาดนั้น"

"โรงยิมศิลปะการต่อสู้หลักสามแห่งและกลุ่มพันธมิตรมนุษย์นั้นเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะไม่สังเกตเห็นปัญหานี้"

"ดังนั้น, โรงยิมศิลปะการต่อสู้หลักทั้งสามและกลุ่มพันธมิตรมนุษย์จะต้องเตรียมการบางอย่าง​ไว้รับมือกับพวกมันเเล้ว"

“ส่วนที่ยังไม่ได้ใช้​ ก็คงเพราะว่ามันยังไม่ถึงเวลา”

…….

“ฮ่าฮ่าฮ่า ลี่เกอพูดถูกเเล้ว”

"ชูโจว…….. คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเกินไป, โรงยิมศิลปะการต่อสู้หลักทั้งสามและกลุ่มพันธมิตรมนุษย์ของเรานั้นไม่ใช่กองกำลัง​ธรรม​ดา"

"พวกเขาสามารถนำเผ่าพันธุ์​มนุษย์ให้อยู่​รอดได้มาหลายปีแล้ว……เเล้วเราจะพ่ายแพ้อย่างง่ายดายได้อย่างไร”

"เหตุผลที่ไม่มีการโต้กลับครั้งใหญ่ในตอนนี้ก็คือมันยังไม่ถึงเวลา!"

ชูโจวที่ได้ยินเสียงหัวเราะมาจากข้างนอก,​ เขาจึงมองไปที่ประตูทันที

ทันใดนั้นเขาก็ได้เห็น, ถังหยวนชิง, เนี่ยอิง, และ ไป่ชางหมิงเดินเข้าประตู​มา

“ประธานถัง, ผู้อำนวยการ​เนี่ยพวกคุณก็มาที่นี่ด้วย” สีหน้าของชูโ​จว​มีความประหลาดใจปรากฏ​ออกมาเล็กน้อย

“พวกเรา​มาที่นี่โดยไม่ได้รับเชิญ, ฉันหวังว่าคุณจะไม่ตำหนิพวกเราที่มารบกวน” ถังหยวนชิงยิ้ม, เดินไปหาชูโ​จว​ และนั่งลง

"ฉันเเค่มางานเลี้ยง​" เนี่ยอิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ชูโ​จว…..ไม่เจอกันนานเลย” ไป๋ชางหมิงทักทาย

"ยินดีต้อนรับครับ….....งานเลี้ยง​เเบบนี้ยิ่งมีคนเยอะก็ยิ่งดี" ชูโ​จว​กล่าว​ด้วยรอยยิ้ม​

…….

“ยิ่งคนเยอะ ก็ยิ่งคึกคักงั้นหรอ…… งั้นพวกเราก็จะร่วมสนุกด้วย”

หลังจาก​ถังหยวนชิงและคนอื่นๆเพิ่งนั่งลง…….. ก็มีอีกสองกลุ่มเข้ามา

หนึ่งในนั้นคือตู้กู่หลาน, ประธานของโรงยิมศิลปะการต่อสู้เเห่งธรรมชาติ

เเละเธอยังได้พาเย่วยุน, อัจฉริยะแห่ง โรงยิมศิลปะการต่อสู้เเห่งธรรมชาติที่ ชูโ​จว​เคยพบมาที่นี่ด้วย

ส่วนอีกกลุ่ม​หนึ่งคือเซี่ยเหมิง, ประธานของโรงยิมศิลปะการต่อสู้เเห่งจิตวิญญาณซึ่งได้นำผู้หญิงสองคนที่ชูโ​จว​ รู้จักดีมาด้วย

ผู้หญิงสองคนนั้นคือหลัวเย่วและเซียวเตี๋ย ซึ่งชูโ​จว​เคยพบที่ฐานเสบียงนักรบ​

ในหมู่พวกเธอ, เซียวเตี๋ยเคยเข้าร่วม หน่วยใบมีดของชูโ​จว​และเข้าร่วมในการปิดล้อมฐานวิจัยลับของกลุ่มพันธมิตร​เงา

ชูโ​จว​ประทับใจเด็กหญิงตัวเล็กๆคนนี้มาก

เธอที่ดูขี้ขลาดและหวาดกลัว…….แต่เธอก็มักจะสามารถ​ใช้อาวุธเพื่อแทงศัตรูเข้าไปในรังของตนได้อย่างน่ากลัว

“พวกคุณทุกคนยังเด็ก, ดังนั้นควรจะสื่อสารกันให้มากกว่านี้” ตู้กู่หลานนำ เย่วยุนไปที่ชูโ​จว​และพูดด้วยรอยยิ้ม

"เย่วยุนคุณควรเรียนรู้จากชูโ​จว" ​

"ถ้าคุณเก่งได้สักครึ่งของชูโ​จว​ ฉันก็วางใจได้ว่าคุณจะสามารถ​รับตำแหน่งต่อจากฉันได้"

เมื่อ​ได้ยิน​สิ่งนี้, ปากของเย่วยุนก็กระตุกเล็กน้อยและพูดอย่างช่วยไม่ได้

“ประธาน……. คุณไม่ควร​เปรียบเทียบฉันกับสัตว์​ประหลาด​เเบบชูโ​จว​ ฉันเทียบเขาไม่ได้” ในขณะที่เขาพูด, เขาก็มองไปที่ชูโ​จว​ด้วยความชื่นชมอย่างสุดซึ้ง

แม้ว่าเขาจะถูกมองว่าเป็นอัจฉริยะ, แต่เขาจะเปรียบเทียบกับคนอย่างชูโ​จว​ได้อย่างไร?

"น้องชู ฉันขอยกย่องคุณ" เย่วยุนยกเเก้วให้ชูโ​จว​

“ฮ่าๆ……ขอบคุณ​พี่เย่ว” ชูโ​จว​ยิ้มและความคับข้องใจเล็กน้อยที่เขามีกับเย่วยุนในซากอารยธรรม​โบราณก็หายไปในขณะนี้

เมื่อตู้กู่หลานเห็นทัศนคติของชูโ​จว​ที่มีต่อเย่วยุน……..เธอก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

เธอรู้ว่าเย่วยุนและชูโ​จว​มีความขัดแย้งกันเล็กน้อย

ดังนั้นเธอจึงพาเย่วยุนมาที่นี่โดยหวังว่าจะสามารถ​แก้ไขข้อข้องใจระหว่างทั้งสองฝ่าย

เเละเมื่อบรรลุเป้าหมายแล้วเธอก็รู้สึกโล่งใจอย่างมาก

หลังจาก​นั้นเซี่ยเหมิงก็พาหลัวเย่วและ เซียวเตี๋ยมาทักทายชูโ​จว​

“สาวน้อย เธอจำฉันได้ไหม” ชูโ​จว​กล่าวกับเซียวเตี๋ยด้วยรอยยิ้ม

“จำได้สิ……พี่ชาย” เซียวเตี๋ยพูดอย่างขี้อายที่มาพร้อมกับความชื่นชมบนใบหน้าของเธอ

จากนั้นชูโ​จว​ก็ให้เซียวเตี๋ยนั่งลงข้างๆเขา

เเละเมื่อเขา​คิดได้ว่า หลิงซาน, ลี่เกอ, ตงฟางหมิงจู, หยางเจิ้นเจิน และคนอื่นๆ ไม่เคยพบกับถังหยวนชิง, เนี่ยอิง, ตู้กู่หลานเเละเซี่ยเหมิง

ดังนั้นเขาจึงยืนขึ้นอีกครั้งและแนะนำพวกเขาทีละคน

ลี่เกอ, ตงฟางหมิงจู และ หยางเจิ้นเจิน แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ติดต่อกับราชาทั้งสี่อย่างถังหยวนชิง, เนี่ยอิง, ตู้กู่หลาน และเซี่ยเหมิงโดยตรง……..แต่พวกเธอก็รู้จักตัวตนของพวกถังหยวน​ชิง​มาบ้าง

ดังนั้นพวกเธอจึงยังสามารถสงบสติอารมณ์ไว้ได้

แต่ หลิงซาน, ซีเหมิง และ หลี่ชิงฉีนั้นไม่สามารถสงบลงได้เลย……หลังจากที่พวกเขา​ได้รู้ตัวตนของถังหยวนชิงและคนอื่นๆ

เเม้เเต่ซีเหมิงผู้ซึ่งไร้มารยาท​อยู่เสมอก็ยังต้องนั่งนิ่งๆอย่างระมัดระวังตัว

โดยไม่รู้ตัว, กัปตันของพวกเขาไม่เพียงแต่พัฒนาความแข็งแกร่งของตัวเองจนถึงขั้นตัดหัวนักรบขั้นราชาได้เท่านั้น

เเต่รอบๆตัวเขายังมีอัจฉริยะ​ที่มีพรสวรรค์จากตระกูลใหญ่​อย่าง ลี่เกอ, ตงฟางหมิงจู และหยางเจิ้นเจิน

นอกจากนี้ยังมีบุคคลที่ยิ่งใหญ่อย่าง ถังหยวนชิง, เนี่ยอิง, ตู้กู่หลาน, เซี่ยเหมิง ซึ่งเป็นประธานโรงยิม​ศิลปะ​การต่อสู้​หรือผู้ตรวจสอบ

ตอนนี้, ชูโ​จว​ไม่เพียงแต่จะแข็งแกร่งขึ้น เท่านั้น……..แต่คนรอบๆตัวเขาก็แข็งแกร่งมากเช่นกัน

……………………..

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด