บทที่ 13 เคล็ดลับการกินยา (2)
เสิ่นเยว่ก้าวไปข้างหน้าแล้วจับมือนางเบาๆ กล่าวอย่างนุ่มนวลด้วยความจริงใจ “ข้าจะไปดูก่อน แค่ปลอบประโลมเสี่ยวชี ส่วนเรื่องดูแลเสี่ยวชี จำเป็นต้องให้ฮุยมาม่าทำด้วยตนเอง...”
ได้ยินนางพูดเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าในสายตาฮุยมาม่าดูผ่อนคลายลง
นางเป็นกังวลเพราะเรื่องคุณชายเจ็ด ทั้งยังเป็นเพราะเคยได้ยินท่านอ๋องพูดถึงแม่นางเสิ่น ดังนั้นจึงเกิดความคิดวุ่นวายใจขึ้นมา กลัวว่าแม่นางเสิ่นมาแล้วหลังจากนี้ก็จะกลายเป็นนางที่รับช่วงดูแลคุณชายเจ็ดต่อ ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วละก็ ฮุยมาม่าจะต้องรับไม่ได้อย่างแน่นอน
เมื่อครู่ที่ฮุยมาม่ามีสีหน้านิ่งไป เพราะกลัวว่าจะเป็นการยกหินทับเท้าตนเอง ตอนนี้ถึงได้รู้สึกโล่งใจแล้ว จึงพยักหน้าให้กับเสิ่นเยว่
ชุนอวี่จึงนำทางผู้ดูแลจวนเถาและเสิ่นเยว่เข้าไปข้างใน
ฮุยมาม่ามองจนแผ่นหลังนั้นไกลออกไป แม้ว่าเสิ่นเยว่จะออกปากแล้ว แต่ภายในใจฮุยมาม่าก็ยังรู้สึกไม่มั่นคง
ช่วงนี้คุณชายเจ็ดมักจะเจ็บไข้ได้ป่วย ท่านอ๋องอาจจะรำคาญนาง ดังนั้นจึงให้แม่นางเสิ่นมาทำแทนนาง?
เพียงแต่นางเป็นแม่นมของฮูหยิน ท่านอ๋องลำบากใจที่จะให้นางไป ดังนั้นจึงให้แม่นางเสิ่นไปพบคุณหนูเก้า คุณชายห้า หลังจากนั้นก็ถือโอกาสให้มาดูคุณชายเจ็ดตามลำดับ?
ทันใดนั้นฮุยมาม่าก็รู้สึกเป็นกังวล
เมื่อครู่แม้แต่ผู้ดูแลจวนเถายังออกตัวช่วยนางพูด หรือว่า...จะให้มาดูแลคุณชายเจ็ดแทนนางจริงๆ ?
และไม่รู้ว่าความคิดต่อสู้กันภายในสมองนานแค่ไหน ในที่สุดฮุยมาม่าก็แสดงสีหน้าร้อนรน แต่ไม่นานก็เก็บสีหน้า...
พื้นที่ของเรือนซือจู๋คล้ายกับเรือนเถาจือมาก
ห้องนอนของเสี่ยวชีอยู่บนชั้นสอง
ฮุยมาม่าเดินไปถึงบันไดได้ครู่หนึ่ง ก็เห็นชุนอวี่ลงมาพอดี
ชุนอวี่มองนางด้วยความประหลาดใจ “ฮุยมาม่า?”
ก่อนหน้านี้ผู้ดูแลจวนเถาให้ฮุยมาม่าไปพักผ่อน
รอบดวงตาฮุยมาม่าแดงก่ำ น้ำตาคลอเบ้า “แม่นางเสิ่นอายุไม่มาก ข้าไม่วางใจจึงมาดูสักหน่อย เหตุใดนางจึงยังไม่ลงมา?”
ชุนอวี่รับคำ “บ่าวลงมาหยิบยาเจ้าค่ะ...”
หยิบยา?
ฮุยมาม่าประหลาดใจ “คุณชายเจ็ดยอมกินยาแล้วหรือ? นี่...”
ฮุยมาม่ามองด้วยความรู้สึกยากที่จะเชื่อ
เสียงของฮุยมาม่าดังขึ้นเล็กน้อย ชุนอวี่กลัวว่าจะเป็นการทำให้ผู้ดูแลจวนเถาและแม่นางเสิ่นที่อยู่ชั้นบนตกใจ จึงจูงมือฮุยมาม่าเดินลงบันไดมาอีกหลายขั้น ขณะที่อยู่ตรงกลางชั้นลอยก็กล่าวด้วยเสียงที่เบา “แม่นางเสิ่นมีวิธีจัดการแล้ว บอกว่าทุกครั้งเป็นหมอหลวงที่มาเยี่ยมคุณชายเจ็ด ถามคุณชายเจ็ดว่าอยากเล่นเกมหรือไม่ ครานี้ให้คุณชายเจ็ดเป็นหมอ แม่นางเสิ่นเป็นคนไข้ ผู้ดูแลจวนเถาเป็นญาติของแม่นางเสิ่น คุณชายเจ็ดรู้สึกว่าน่าสนใจ แล้วทำการเลียนแบบตรวจชีพจรให้แม่นางเสิ่น ทั้งยังบอกผู้ดูแลจวนเถาว่าร่างกายแม่นางเสิ่นอ่อนแอ กินยาตั้งแต่เด็กมากเกินไป ทำร้ายกระเพาะอาหาร เพียงดื่มยาก็รู้สึกไม่สบาย แต่ตอนนี้จะต้องกินยาถึงจะอาการดีขึ้นได้เร็ว แม่นางเสิ่นบอกว่านางจะลองดู คุณชายเจ็ดจึงให้บ่าวไปหยิบยามา บ่าวจึงลงมานี่แหละเจ้าค่ะ”
“นี่...” ฮุยมาม่ารู้สึกงงงันเล็กน้อย “นั่นก็ไม่ใช่ว่าจะยอมกินยา...”
ชุนอวี่กล่าวอีกครั้ง “เมื่อครู่ก่อนบ่าวจะไป แม่นางเสิ่นเดินมาเรียกบ่าวไว้ ให้บ่าวนำยาใส่ลงไปในน้ำผลไม้”
“น้ำผลไม้?” ฮุยมาม่ากลุ้มใจ “ก่อนหน้านี้ใส่ลงไปในนมก็ไม่ยอมดื่ม”
ชุนอวี่ส่ายหน้าเล็กน้อย แสดงออกว่าไม่รู้ไปมากกว่านี้แล้ว
เพียงแต่ผู้ดูแลจวนเถาและเสิ่นเยว่ต่างก็กำลังรออยู่ คงไม่ดีหากชุนอวี่ชักช้า ตอนนี้จึงยอบตัวทำความเคารพฮุยมาม่า แล้วสาวเท้าเดินลงไปอย่างรวดเร็ว
ผ่านไปครู่ใหญ่ ชุนอวี่ก็ยกยากลับมา
ฮุยมาม่ายังเดินไปมาอยู่ที่ปากทางเดินขึ้นบันไดไม่ไปไหน ชุนอวี่เองก็ไม่ได้ถามสิ่งใดมาก
ก่อนหน้านี้ฮุยมาม่าคอยฟังเสิ่นเยว่สนทนากับคุณชายเจ็ดอยู่ตลอด พูดกับคุณชายเจ็ดประมาณว่า ‘มือเล็กของเจ้ามีแรงมาก รอให้เจ้าหายดีแล้วก็จะสามารถเล่นงัดข้อได้’ หรือไม่ก็ ‘ทักษะการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กของเจ้าทำได้ดีมากกว่าเสี่ยวอู่และเถาเถา เจ้ามีความสามารถในการสังเกตและเลียนแบบได้ดี...’
เมื่อฮุยมาม่าได้ฟังก็รู้สับสนมึนงง
แต่คุณชายเจ็ดก็เริ่มรู้สึกกลุ้มใจตั้งแต่แรกเริ่ม บอกว่า ‘ร่างกายข้าอ่อนแอตั้งแต่เด็ก’ แต่ต่อมาก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะเอ่ยปากถาม ‘การทำเช่นนี้มีเพียงข้าที่สามารถทำได้คนเดียวจริงหรือ?’
เมื่อได้รับคำตอบยืนยันจากปากของเสิ่นเยว่ ไม่คาดคิดว่าเขาจะพูดว่า ‘เช่นนั้นข้าจะรีบหายเร็วๆ แล้วแข่งร้อยไข่มุกกับพี่ห้าและเถาเถา...’
ขณะที่ฮุยมาม่านิ่งชะงักไป ชุนอวี่ก็กลับมาพอดี
ชุนอวี่ปฏิบัติตามคำสั่งของเสิ่นเยว่โดยการแบ่งยาออกสองถ้วย เสิ่นเยว่ถือขึ้นมาหนึ่งถ้วย กินไปหนึ่งคำแล้วถอนหายใจกล่าว “อืม ขมเล็กน้อย แต่เพิ่มน้ำผลไม้เข้าไปก็ไม่ขมเท่าก่อนหน้านี้แล้ว”
“จริงหรือ?” เสี่ยวชีเบิกตากว้างมองนาง
เสิ่นเยว่ขยับเข้าใกล้ กล่าวเสียงเบา “ที่จริงแล้วข้ามีเคล็ดลับหนึ่งในการกินยา อยากฟังหรือไม่?”
เสี่ยวชีพยักหน้าอย่างรวดเร็ว
“แต่เจ้าห้ามบอกใครเด็ดขาด? มิเช่นนั้นหากคนอื่นรู้เข้า...” เสิ่นเยว่แสดงออกว่าลำบากใจ
เสี่ยวชีนั่งตัวตรงทันที “เช่นนั้นข้าจะไม่บอกคนอื่น”
เสิ่นเยว่ยกถ้วยยาขึ้นมา บีบจมูกแน่น หันไปพูดกับเขา “เคล็ดลับคือบีบจมูกไว้แล้วดื่มรวดเดียว ระหว่างนั้นก็จะไม่รู้สึกขม หลังจากดื่มรวดเดียวจนหมดก็กินผลไม้เชื่อมหนึ่งคำ เจ้าดูนะ”
เสี่ยวชีมองด้วยสีหน้าประหลาดใจ
เสิ่นเยว่กินจนหมดภายในครั้งเดียวจริงๆ ก่อนจะถอนหายใจกล่าว “หมอหลวงเสี่ยวชี ข้ากินหมดแล้ว เจ้าเองก็ลองสักหน่อยดีหรือไม่?”
พูดจบก็บีบจมูกแล้วค่อยๆ โน้มน้าว “จำเคล็ดลับไว้!”
เสี่ยวชีกลับขยับไปข้างหน้า เอ่ยเสียงเบาด้วยความตื่นเต้น “แต่ท่านปู่เถาคอยแอบฟังอยู่ตลอด เขาจะต้องแอบได้ยินแน่นอน...”