ตอนที่ 71 ยารักษาแหล่งกำเนิดคลื่นพลัง 1(อ่านฟรี)
ตอนที่ 71 ยารักษาแหล่งกำเนิดคลื่นพลัง 1
หลังจากผ่านไปเกือบ 12 ชั่วโมงในที่สุดพวกเขาทั้งสามคนก็กลับออกมาจากป่ากลายพันธุ์เอราบีเต้และถึงเมืองในช่วงมืดค่ำ ตลอดระยะทางที่ผ่านมาลุคพบว่าพื้นที่ในแถบชนบทดูวังเวงและเงียบเหล่า มีบ้านไม่กี่หลังที่ยังมีแสงไฟเปิดไว้ แต่บ้านส่วนใหญ่กลับมืดสนิทไร้ผู้คน
เนื่องจากผู้คนย้ายกลับเข้าไปในเมืองทำให้แถบนอกเมืองไม่มีคนอยู่อีก ยกเว้นแต่คนเฒ่าคนแก่บางคนที่ไม่ยินยอมย้ายเข้าไปในเมือง
สถานการณ์ตอนนี้ทำให้อีลิกที่เป็นคนขับอดสงสัยไม่ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
“พี่ลุคมันเกิดอะไรขึ้น ทำไมมันดูวังเวงแบบนี้”
“นายไม่ได้ดูข่าวเหรอ”
“ข่าวอะไร?” อีลิกหันไปถามอย่างงุนงง
ที่อีลิกไม่รู้ข่าวเรื่องการโจมตีของมอนสเตอร์เพราะตอนที่ไปถึงป่ากลายพันธุ์เอราบีเต้ก็เป็นช่วงก่อนที่มอนสเตอร์จะบุกโจมตีพื้นที่ของรัฐคานัน แถมตลอดเวลาเขาทุ่มเทไปกับการไล่ล่าและต่อสู้กับแมงมุมปรสิตที่ถ้าเสียสมาธิอาจจะโดนมันฆ่าได้ นอกจากนั้นยังมีเรื่องรอยแตกมิติโลกสมบูรณ์อีก อีลิกจึงไม่ได้ติดตามข่าวจากโลกภายนอกเลย
ลุคเล่าแบบสรุปให้อีลิกฟัง
อีลิกจะทำหน้าตาตกใจเปิดแหวนเครือข่ายไกอาเช็คข่าวอย่างรีบร้อนและพบว่าพ่อของเขาพากองกำลังไปจัดการกับมอนสเตอร์พวกนั้นแล้ว
“มีเรื่องเกิดขึ้นมากมายในตอนที่ฉันไม่อยู่ เจ้าพ่อบ้านั้นไม่คิดจะเรียกฉันกลับไป”
อีลิกพูดอย่างหงุดหงิดที่ตัวเองโดนหลังลืมแบบนี้ แต่ลุคและนิโคลกลับหันมามองหน้ากันและคิดต่างจากอีลิก พ่อของเขาก็คือ ผู้อำนวยการอีคอน คงเป็นห่วงอีลิกไม่ใช่น้อยจึงไม่คิดจะส่งข่าวไปให้อีลิกกลับมา ถ้าอีลิกกลับมาจะต้องเข้าร่วมภารกิจด้วย เพราะเขาคือระดับ E
แต่อีคอนที่เป็นระดับ B ก็ไม่อาจจะรับประกันความปลอดภัยให้กับเหนือมนุษย์ระดับ E ได้ ในการต่อสู้ทุกอย่างยากจะควบคุม แถมยิ่งผู้อำนวยการต้องรับมือกับมอนสเตอร์ระดับ B แล้วจะเอาสมาธิที่ไหนไปปกป้องอีลิก
“นายจะกลับไปที่สำนักงานเหนือมนุษย์ก่อนไหม” นิโคลสอบถาม เพราะถ้าอีลิกจะกลับเธอจะไปส่งที่สถานีรถไฟ
“เออ...ช่างเถอะ ผมจะยังไม่กลับไปในตอนนี้” อีลิกกล่าว แต่ที่จริงเขาอยากจะตามลุคไปที่โรงพยาบาลเพื่อเจอกับนางฟ้าในดวงใจของเขาก่อน
พวกเขาตรงไปที่โรงพยาบาล ซึ่งต้องใช้เวลาอีกสักพักหนึ่ง
พอไปถึงโรงพยาบาลลุคก็ขึ้นไปที่ห้องพบว่าบอสตันเป็นคนที่เฝ้าอยู่ ด้านหลังของเขามีหอกหนามสีส้มที่ห่อด้วยผ้า ซึ่งเป็นหอกที่ลุคมอบให้ไว้ใช้
ฮันเตอร์มีสิทธิ์ในการพกพาอาวุธไปในที่สาธารณะ เพราะถ้าเกิดการบุกโจมตีของมอนสเตอร์พวกเขาจะได้ตอบโต้ได้ทันท่วงที แน่นอนว่าเฉพาะเหนือมนุษย์ที่ได้สถานะฮันเตอร์ไม่ใช่เหนือมนุษย์ธรรมดา
แถมในสถานการณ์ที่มีมอนสเตอร์บุกโจมตีเพิ่มหลายสิบเท่าแบบนี้ และดูเหมือนทางโรงพยาบาลยินดีที่จะให้บอสตันเอาอาวุธเข้ามาเองด้วยซ้ำ การมีเหนือมนุษย์อยู่ในพื้นที่ทำให้พวกเขาอุ่นใจมากกว่า
ลุคเดินมาถึงเขาก็ใช้พลังของตัวเองตรวจสอบดูพบว่าคลื่นพลังของบอสตันยังไม่ได้ก้าวข้ามไปที่ระดับ E แต่ว่ามันก็อยู่ในจุดสูงสุดของระดับ F ที่พร้อมจะก้าวข้ามได้ตลอดเวลา
“เป็นยังไงบ้าง แล้วไอกะละ”
“ที่นี่ปกติดี ตอนที่นายไม่อยู่ไม่มีใครบุกโจมตีมา ส่วนไอกะกลับไปเมื่อเช้าว่าจะไปทะลวงระดับF เป็นระดับ E เธอพึ่งส่งข้อความมาบอกว่าทะลวงระดับสำเร็จเป็นเหนือมนุษย์ระดับ E แล้ว ตอนนี้กำลังนั่งรถมาที่นี่พอดี” บอสตันตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
“โทษทีที่ทำให้นายลำบาก” ลุคกล่าวอย่างจริงใจ
“ไม่หรอกเป็นเพราะนายให้โอกาสฉันจะเพิ่มพลังได้เร็วขนาดนี้ อีกอย่างเดี๋ยวไอกะมาฉันก็จะทะลวงระดับพลังของตัวเองเช่นกัน” บอสตันตอบกลับ
ลุคพยักหน้ารับ
อีลิกไม่เข้าใจการสนทนาของทั้งสองว่ากำลังพูดถึงอะไรกัน แต่ว่ามีสิ่งหนึ่งที่เขารู้สึกเหลือเชื่อกับคนพวกนี้ อีลิกจำได้ว่าชายคนนี้ก็เป็นหนึ่งในเหนือมนุษย์ที่มาทดสอบเป็นฮันเตอร์เช่นกัน ตอนนั้นพลังของชายคนนี้เรียกว่าเป็นมือใหม่ในเหนือมนุษย์ด้วยซ้ำ แต่ทำไมตอนนี้คลื่นพลังถึงไปอยู่ในขอบเขตสูงสุดของระดับ F แล้ว
มันเกิดอะไรขึ้นในช่วงที่ฉันไม่อยู่ หรือโลกภายนอกจะผ่านไปหลายปีแล้ว อีลิกคิดอย่างสงสัย แต่พอเห็นลุคเปิดประตูเข้าไปในห้อง ตาของอีลิกก็มองผ่านตัวลุคไปที่ใบหน้าของสาวน้อยที่นอนหลับอยู่บนเตียงโดยมีสายเครื่องมือทางการแพทย์ติดอยู่เต็มไปด้วยหมด
แม้จะเป็นแบบนั้นอีลิกก็จดจำใบหน้านี้ได้อย่างชัดเจนไม่มีทางลืมว่าเธอเป็นผู้หญิงที่เขาประทับใจตั้งแต่แรกพบ
“นางฟ้าผมเจอคุณแล้ว” อีลิกจะเดินเข้าไป แต่ก็โดนนิโคลยกมือดึงห้ามไว้
“นายพึ่งจะหายจากไข้หวัดกลายพันธุ์ลืมไปแล้วหรือยังไง พวกเราเหนือมนุษย์อาจจะต้านเชื้อได้ แต่นายที่เห็นพาหะโดยตรงอย่าเข้าไปจะดีกว่า ร่างกายเด็กคนนั้นพึ่งจะฟื้นตัวอย่างการผ่าตัด ถ้าติดไข้นายจะเป็นอันตรายได้”
“จริงด้วย” อีลิกนึกขึ้นได้และกล่าวโทษถึงความประมาทของตัวเองในใจ ก่อนจะมองดูลุคที่ยืนมองดูเจนอยู่คนเดียว โดยก็ไม่ได้เข้าไปแตะต้องตัวเจนด้วย
ที่จริงนิโคลก็แค่ไม่อยากให้อีลิกเข้าไปรบกวนลุคและเจนในช่วงเวลาแบบนี้ เธอรู้ว่าลุครักน้องสาวมาก มากถึงขนาดที่ใช้ทุกอย่างเพื่อช่วยเหลือน้องสาวไม่ว่าจะเป็นเรื่องยาโอสถผู้หิวโหยที่ถ้าขายภายนอกคงราคาหลายล้านและยายกระดับคลื่นพลังที่เธอเดาว่าเขาคงหามาจากช่องทางพิเศษที่ไม่ควรเปิดเผย
ซึ่งการที่ลุคเอามาให้พวกเธอ บอสตัน ไอกะ ใช้โดยไม่สนใจถึงมูลค่าที่จ่ายและความเสี่ยงที่พวกเขาอาจจะเปิดเผยออกไปก็แสดงให้เห็นแล้วว่า
ลุคยอมทำทุกอย่างแม้จะเสี่ยงก็ตาม ที่สำคัญลุคเชื่อใจพวกเธอ
แน่นอนว่านิโคลไม่คิดจะบอกความลับอะไรออกไปเป็นอันเด็ดขาด เพราะเธอก็เคารพและมองลุคเป็นผู้นำของกิลด์ในอนาคตแล้ว
หลังจากผ่านไปสักพักลุคก็กลับออกมาและพูดคุยกับบอสตันและคนอื่น ๆ รอจนไอกะมา เธอก็ช่วยเฝ้าห้องของเจนต่อ นิโคลขออยู่กับไอกะด้วย
ลุคพยักหน้าตกลง แต่เขาเห็นว่าอีลิกก็ไม่ยอมไปเห็นและเลือกจะช่วยเฝ้าให้อีกแรง การมีเหนือมนุษย์ 3 คนคอยเฝ้าปกป้องถือว่าเป็นอะไรที่ปลอดภัยมากสำหรับเจนแล้ว
ต่อให้เห็นผู้มองอนาคตก็ไม่มีทางเข้าถึงตัวเจนได้ เว้นแต่จะระเบิดมันทั้งโรงพยาบาล ซึ่งลุคเชื่อว่าผู้มองอนาคตที่มีความคิดปกป้องผู้บริสุทธิ์ไม่มีทางทำแบบนั้น แถมวันที่ผ่านมาผู้มองอนาคตไม่ปรากฏตัวเลยแสดงว่าเขาเองก็กำลังโดนไล่ล่าอยู่
ลุคไปส่งบอสตันที่บ้านของเขา
“นายมีหินพลังงานพอแล้วใช่ไหม”
“มีแล้ว” บอสตันเปิดกระเป๋าของตัวเองให้ดู ด้านในมีหินพลังงานเกือบ 30 ก้อน
“ไว้ขากลับเราค่อยไปโรงพยาบาลพร้อมกัน” ลุคกล่าว ก่อนจะทิ้งท้ายอีกหนึ่งประโยคว่า “โชคดี”
“คุณก็เช่นกัน” บอสตันหันกลับเดินเข้าไปในบ้านของลุค
บ้านของลุคปลอดภัยมากพอให้บอสตันทะลวงระดับพลังได้ ส่วนตัวลุคเขาเอาหนอนไหมฟ้าไปที่ตลาดมืด
...
ตลาดมืดร้านชายชราขาพิการ
“นายมาแล้วได้มาไหม” ชายชราขาพิการถาม
“ได้มาแล้ว” ลุคตอบกลับ
“ฮ่า ๆ ดีมาก พาฉันไปเอามันเร็วมันอยู่ที่ไหน” ชายชราหัวเราะร่าด้วยความยินดี ก่อนจะให้ลุคนำทางไปด้วยความยินดี เพราะคิดว่าลุคไม่มีทางแบกดักแด้กำเนิดฟ้าไว้กับตัวได้เนื่องจากขนาดของมันใหญ่มาก จึงคิดจะให้ลุคพาไปเอามันมา
ลุคขมวดคิ้วไปมาอย่างลังเล สุดท้ายก็บอกความจริงออกไป
“ได้มาก็จริง แต่ว่ามันไม่ใช่ดักแด้กำเนิดฟ้าแล้ว”
“หมายความว่ายังไง!” ชายชราดูค่อนข้างจะตกใจมากที่ได้ยินว่ามีความผิดพลาดเกิดขึ้น จึงดีดตัวขึ้นด้วยตัวที่ไม่มีขาและจ้องลุคอย่างบีบคั้นให้รีบตอบ
“ตอนที่เราไปล่าพวกมันมีมอนสเตอร์ที่กำลังกลายเป็นระดับ D เฝ้าดักแด้กำเนิดฟ้าไว้อยู่ ในช่วงสุดท้ายที่กำลังจะฆ่ามอนสเตอร์ตัวนั้น มันพยายามทำลายดักแด้กำเนิดฟ้าไปพร้อมกับตัวมัน แต่ว่าก็ยังหยุดมันได้ ถึงแบบนั้นดักแด้กำเนิดฟ้าก็เกิดความผิดปกติจนสลายตัวเองกลับไปเป็นหนอน”
ลุคเอาขวดออกมาด้านในมีหนอนไหมฟ้าที่ดูแข็งแรงตัวหนึ่ง
ชายชราคว้าเอาขวดในมือลุคมา ก่อนจะยื่นหน้าเบิกตากว้างมองดูหนอนในขวด
“ใช้ได้ไหม” ลุคถามอย่างกดดัน เพราะเขากำลังคาดหวังในเรื่องการสร้างยารักษาคลื่นพลังอยู่ และอารมณ์ของเขาในตอนนี้ก็ไม่พร้อมจะรับคำว่าไม่ได้
เนื่องจากว่าถ้าเป็นแบบนั้นเขาก็ไม่รู้ว่าจะไปหาดักแด้กำเนิดฟ้าจากที่ไหนอีกแล้ว
ชายชราจ้องนิ่งไปที่หนอนไหมฟ้าก่อนจะเงยหน้ามองลุค
“มันก็ได้ แต่ว่าข้าอยากได้ดักแด้กำเนิดฟ้ามากกว่า และเจ้าก็ทำผิดพลาดจนมันย้อนวัยตัวเองกลับไปเป็นหนอนไหมฟ้าแบบนี้” ชายชราตอบและบ่นยืดยาว
ซึ่งจากคำพูดทั้งหมดที่ชายชรากล่าวลุคสนใจเพียงแค่คำเดียวคือคำว่า “ได้”
“ใช้เวลานานแค่ไหนในการปรุงยารักษาแหล่งกำเนิดคลื่นพลัง” ลุคอย่างร้อนใจจนแทบจะยืนมือไปเขย่าตัวของชายชราอยู่แล้ว
ชายชราเปิดประตูลับและเดินลงไปที่ห้องด้านล่างและมีเสียงกล่าวลอยมาหาลุคว่า “ประมาณ 3 ชั่วโมง”
ลุคได้ยินก็ดีใจรีบตามลงไปที่ห้องลับใต้ร้าน
“ไอ้หนูแล้วจะตามเข้ามาในห้องปรุงยาทำไม ออกไปรอข้างนอกนู้น” ชายชราไล่ลุคออกไป ก่อนจะปีนขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้มีล้อเลื่อน เพื่อจะได้ทำงานและเคลื่อนไหวได้สะดวก
ลุคไม่สนใจ เขายืนนิ่งมองดูชายชราปรุงยา
ที่จริงศาสตร์แห่งการปรุงยามันก็เป็นเหมือนการทดลองทางวิทยาศาสตร์ที่เต็มไปด้วยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์มากมาย และยังต้องใช้ความรู้ที่มากกว่านักวิทยาศาสตร์ทั่วไปในเรื่องของวัตถุดิบจากโลกต่างมิติ
ซึ่งทำให้พวกเขาแยกตัวเองออกมาและเรียกตัวเองว่า นักปรุงยา
นักปรุงยามีการแบ่งระดับเหมือนกับพืชสมุนไพรคือมีแค่ระดับต่ำ กลาง สูง ที่ใช้แบบนี้ก็เนื่องมาจากว่าพวกเขาวัดระดับฝีมือตามการปรุงยาจากระดับของสมุนไพร ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะมีนักปรุงยาระดับต่ำมากที่สุด ระดับกลางมีน้อยลงมาและนักปรุงยาระดับสูง ถือเป็นบุคคลสำคัญชั้นยอดของสหพันธรัฐที่เทียบเท่ากับผู้ปกครองรัฐเลยได้และในบางแง่มุมแม้แต่ผู้ปกครองรัฐอาจจะต้องก้มหัวให้ด้วยซ้ำ
ลุคไม่รู้ว่าชาชราตรงหน้าจะเป็นนักปรุงยาระดับไหน ‘บางทีอาจจะระดับกลาง’