ตอนที่ 19
หลินอันหลานกำลังนั่งดูรายการแบ็กแพ็กบอยซีซั่นหนึ่งอยู่ เขาอยากจะศึกษาและเรียนรู้ประสบการณ์จากพิธีกรซีซั่นก่อนๆ เพื่อจะได้วางตัวให้ดีขึ้นหน่อย
ในตอนที่กำลังนั่งดูอยู่ จัวซือย่าก็โทรเข้ามา “ผู้กำกับจางมีภาพยนตร์เรื่องใหม่ ตอนนี้เขากำลังหาคนอยู่ นายจะลองแคสติงดูไหม ฉันส่งบทไปให้นายในเมลแล้ว ชื่อเรื่องอวิ๋นอวิ๋น”
“ไม่ล่ะ” หลินอันหลานปฏิเสธ “ฉันไม่อยากแสดงหนังเกี่ยวกับเรื่องรักร่วมเพศ”
“มันไม่ใช่หนังแบบนั้น” จัวซือย่าพูด “แม้ว่าจิ่งฮ่วนจะชอบกู้ซูอวี่ มันก็เป็นส่วนเล็กๆ ของเรื่องเท่านั้น ภาพยนตร์ก็ไม่ได้พูดเรื่องความรัก ดังนั้นไม่ถือว่าเป็นเรื่องรักร่วมเพศ”
“ไม่เป็นไร ความจริงฉันก็ชอบผู้ชาย แล้วให้ฉันแสดงเรื่องแบบนี้อีก นี่ไม่เท่ากับฉันประกาศออกไปเลยเหรอ”
เรื่องนั้นก็จริง เมื่อจัวซือย่าได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกว่าคำพูดของเขามีเหตุผลมาก แต่ว่า “ฉันได้ยินมาว่าเซี่ยฮุยก็ไปแคสเรื่องนี้”
“เซี่ยฮุย?”
“เพราะนายความจำเสื่อมก็เลยไม่รู้สินะ เซี่ยฮุยเข้าวงการช้ากว่านายปีเดียว แต่เขามักจะออกงานอีเวนต์ด้วยฉายาหลินอันหลานจูเนียร์ ผลงานปีนี้ของเขาก็ไม่เลว ถ้าเกิดเขาแคสติงผ่านขึ้นมาแล้วได้แสดงกับผู้กำกับจาง จากนี้เส้นทางในวงการแสดงของเขาจะต้องราบรื่นแน่นอน และไม่แน่ว่าเขาอาจจะได้รับรางวัลจากภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งมันอาจจะส่งผลกระทบต่อตัวนาย ชื่อเสียงของนายต้องแย่ลงเพราะเขาแน่ๆ”
“นายบอกว่าไม่แน่ มันก็คงไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก” ระหว่างที่คุยหลินอันหลานก็ค้นหาชื่อเซี่ยฮุยไปด้วย พบว่าคนคนนั้นหน้าตาคล้ายเขาถึงสามส่วนเลยทีเดียว “เขาหน้าตาคล้ายฉันอยู่แล้ว หรือว่าแต่งหน้าเอา”
“แต่งหน้าละมั้ง คนที่ฉันรู้จักบอกว่าหน้าเดิมของเขาไม่ได้เหมือนนายขนาดนั้น แต่หลังจากแต่งหน้าแล้วก็หน้าคล้ายนายมากขึ้นสามส่วน”
“อย่างนี้นี่เอง” หลินอันหลานปิดรูปของเซี่ยฮุยลง “งั้นก็แล้วแต่เขาเถอะ”
“นายจะไม่แคสจริงๆ เหรอ”
“อื้อ”
เมื่อเห็นดังนั้นจัวซือย่าก็ไม่ได้โน้มน้าวอะไรอีกฝ่ายอีก
แต่ไม่รู้ทำไม จู่ๆ เขาก็นึกถึงคำพูดของเฉิงอวี้ขึ้นมา “ถ้าฉันไปชอบผู้ชายคนอื่น นายจะรับได้ใช่ไหม”
หลินอันหลานไม่รังเกียจหรอก งานของนักแสดงคือการแสดง การแสดงอารมณ์ก็เป็นส่วนหนึ่ง....
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของนักแสดงคือการอินกับบทมากเกินไป เฉิงอวี้ชอบบทของจิ่งฮ่วนมาก และจิ่งฮ่วนก็รักกู้ซูอวี่สุดหัวใจ ดังนั้นเฉิงอวี้จะหันไปรู้สึกดีกับเซี่ยฮุยที่หน้าตาเหมือนเขาหรือเปล่า
เฉิงอวี้ชอบเขามาก แล้วเซี่ยฮุยหน้าตาคล้ายเขา ถ้าเซี่ยฮุยได้เล่นบทนี้ก็ถือว่าอันตรายมาก
นี่เป็นครั้งแรกที่หลินอันหลานรู้สึกรับไม่ได้ รับไม่ได้อย่างมาก
ความรู้สึกรับไม่ได้นี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะประเด็นร้อนของเฉิงอวี้และเซี่ยฮุย
หลินอันหลานเห็นว่าในประเด็นร้อนนั้นมีรูปที่ทั้งสองอยู่ในลานจอดรถ แม้จะมองได้ไม่ชัด แต่หลินอันหลานเห็นว่าเฉิงอวี้กำลังก้มหน้า เหมือนพวกเขากำลังพูดคุยกันอยู่แม้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะกำลังมองเฉิงอวี้ด้วยความระมัดระวังและไร้เดียงสา
ชาวเน็ตในเว่ยป๋อต่างตกใจกันมาก “เฉิงอวี้กับเซี่ยฮุยจะได้ร่วมงานกันเหรอ”
“ให้ตายเถอะ เคมีของพวกเขาสองคนเข้ากันมากเลย”
“เฉิงอวี้หล่อมากเลย แค่ด้านข้างก็กินขาดแล้ว”
“ก็ต้องได้ร่วมงานกันนั่นแหละ ไม่งั้นพวกเขาสองคนจะเจอกันได้ยังไง”
“พระเจ้า ความชิปเปอร์นี้ เคมีแทบจะล้นจอแล้ว”
หลินอันหลานอ่านคอมเมนต์ไร้สาระของชาวเน็ตแล้วรู้สึกรำคาญใจอย่างมาก
หลังจากนั้นไม่นาน ทิวลิป แฟนคลับของเฉิงอวี้ก็เข้ามาทำความสะอาดไทม์ไลน์จนเรียบ ขนาดแอคข่าวใส่ร้ายก็ถูกจัดการจนหมด
“ตารางผลงานของเฉิงอวี้ตอนนี้มีเรื่องสายลมยามราตรี เรื่องที่มองไม่เห็น และเรื่องใหม่ คืนวันอาทิตย์ที่แปดที่กำลังจะเข้าฉายแล้ว โปรดติดตามชมกันด้วยนะคะ”
ตอนนี้หลินอันหลานก็ไม่ได้รู้สึกรำคาญใจเท่าตอนแรกแล้ว
ซุนเมิ่งส่งเฉิงอวี้จนใกล้จะถึงบ้านแล้ว ถึงได้รับข่าวจากผู้ช่วยมาว่าเฉิงอวี้กำลังขึ้นเทรนด์ร้อนแรง เมื่อเขาเปิดดูก็เห็นเป็นรูปของเฉิงอวี้และเซี่ยฮุย
เมื่อเห็นรูป ซุนเมิ่งก็มั่นใจเก้าในสิบส่วนว่าเซี่ยฮุยเป็นคนซื้อรูปนี้มาลง
มิน่าล่ะตอนนั้นเขาถึงไม่เห็นผู้จัดการของเซี่ยฮุย ฝ่ายนั้นน่าจะแอบถ่ายอยู่บนรถ แล้วใช้ผู้หญิงอีกคนหนึ่งเพื่อดึงดูดความสนใจเขา ทำให้เขาไม่ได้สนใจสิ่งที่อยู่ด้านหลังเลย
เรื่องแบบนี้ซุนเมิ่งก็เข้าใจได้นะ เพราะเฉิงอวี้ดังและแฟนคลับก็เยอะมาก คนในวงการต่างก็อยากเกาะกระแสเขาอยู่แล้ว
แล้วประเด็นร้อนต่างบอกแค่ว่าพวกเขาต้องได้ร่วมงานกันแน่ๆ ก็ถือว่าไม่ได้ส่งผลกระทบกับเฉิงอวี้เท่าไหร่ เขายังตกเป็นประเด็นร้อนพร้อมกันด้วย ก็ถือว่าไม่ได้ขาดทุน
ดังนั้นเขาเลยไม่คิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ และหันไปบอกเฉิงอวี้ว่า “นายขึ้นฮอตเสิร์ช (คำค้นหายอดนิยม) นะ เซี่ยฮุยเป็นคนขายข่าว เขาเขียนว่านายน่าจะได้ร่วมงานกับเขา”
เมื่อเฉิงอวี้ได้ยินดังนั้น เขาก็เบิกตากว้างแล้วถามหาโทรศัพท์
ซุนเมิ่งส่งโทรศัพท์คืนให้เขา เฉิงอวี้เปิดโทรศัพท์ดู แล้วพูดว่า “เอาลง”
“ช่างมันเถอะ” ซุนเมิ่งพูด “มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อนาย ขึ้นก็ขึ้นไปเถอะ”
“เอาลง” เฉิงอวี้ยืนยันคำเดิม “เขาน่ารำคาญมาก”
เมื่อเขาพูดเช่นนั้น ซุนเมิ่งก็ไม่ได้ค้านอะไรอีก จึงต้องติดต่อคนที่เกี่ยวข้องเพื่อลบคำค้นหาเหล่านี้
ชาวเน็ตยังคงพูดคุยกันถึงประเด็นร้อนนี้ แต่จู่ๆ ฮอตเสิร์ชก็หายไป นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ใครลบ? ทีมงานของเฉิงอวี้เหรอ?
“ฉันว่าแล้วว่าฮอตเสิร์ชอันนั้นทีมงานของเซี่ยฮุยก็เป็นคนซื้อ เมื่อเฉิงอวี้เห็นก็เลยสั่งลบ เฉิงอวี้ไม่ค่อยชอบให้ตัวเองขึ้นฮอตเสิร์ชกับคนอื่น เขามักจะขึ้นฮอตเสิร์ชกับผลงานของตัวเองมากกว่า”
“เฉิงอวี้ไม่ต้องการให้แสงอีกฝ่ายแน่นอน”
“ทางเซี่ยฮุยจะอึดอัดไหมเนี่ย”
“ใครจะไปรู้เล่า แต่ถ้าเป็นแบบนี้ก็คงไม่มีการร่วมงานอีกแล้วละมั้ง”
“ความจริงฉันอยากเห็นพวกเขาทั้งสองร่วมงานกันนะ”
“ฉันก็ด้วย”
“ฉันไม่อะ ฉันอยากเห็นเฉิงอวี้ร่วมงานหลินอันหลานมากกว่า”
“คอมเมนต์บนนี่นายกำลังฝันอยู่เหรอ ราชาสองคนนี้จะไม่ยอมเจอหน้ากัน ยังมีคนไม่รู้เรื่องนี้อีกเหรอ”
“เฮ้อ อย่าพูดเรื่องนี้อีกเลย ตั้งแต่พวกเขาทั้งสองคนเข้าวงการมา ฉันก็ฝันมาตลอดว่าพวกเขาจะแสดงฉากเดียวกัน แต่อย่าว่าเรื่องแสดงเรื่องเดียวกันเลย ร่วมรายการเดียวกันก็ยังไม่เคย”
“อวี้หลาน คู่ชิปที่เยือกเย็นที่สุดในวงการ มีใครไม่รู้บ้าง”
“วันนี้ฉันก็ต้องร้องไห้เพราะดอกอวี้หลานไม่บาน”
“ไม่ใช่ว่ามันไม่บาน แต่ขนาดเมล็ดมันยังไม่มีเลย ฮือออออ”
“หยุดพูดได้แล้ว มันโหดร้ายเกินไป ฉันจะร้องไห้”